หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Great Mage Returns After 4000 Years - บทที่ 5 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (1)

  1. หน้าแรก
  2. The Great Mage Returns After 4000 Years
  3. บทที่ 5 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (1)
Prev
Next

 

การแสดงความโกรธของเขาที่นี่คงไม่มีความหมาย เฟรย์เป็นนักเรียนในขณะที่เขาเป็นศาสตราจารย์ หากเขาจะลดตัวไปเล่นกับเฟรย์อำนาจของเขาจะมีแต่ลดลงเท่านั้น เควินจึงยิ้มและปรบมือแทน

“ดีดี เอาล่ะ มีบางอย่างที่สำคัญกว่าชั้นเรียน ฉันแน่ใจว่านายคงไม่เสียเวลาไปเปล่าๆ แน่นอนว่านายคงมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย”

“ขอบคุณครับ”

“ ถ้างั้นเรามาหยุดพูดคุยเรือยเปือยแล้วเริ่มจริงจังได้แล้ว”

เควินเปิดอ่านหนังสือเรียน ด้วยรอยยิ้มเขากล่าว

“ เฟรย์นี่คือคำถามสำหรับนายโดยเฉพาะ”

นักเรียนกลั้นหายใจ คำถามของเควินเป็นที่โจษจันว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

เขาไม่เคยถามคำถามที่เดาได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นการลงโทษสำหรับการตอบไม่ถูกนั้นรุนแรงมาก

นอกจากการลดเกรดแล้วยังมีบางครั้งที่นักเรียนต้องยืนเรียนจนจบชั้นเรียน เป้าหมายของเควินคือเฟรย์ซึ่งไม่เคยเข้าร่วมห้องเรียนของเขามาก่อนเลย

“ คาซาจินราชานักรบเวทมนตร์ใช้สิ่งประดิษฐ์หรืออาวุธ 3ชิ้น มีอะไรบ้าง?”

เฟรย์ไม่ได้ตอบ

นักเรียนส่วนมากก็คิดว่าคำถามนั้นน่ารังเกียจ ราชานักรบเวทมนตร์คาซาจินเป็นนักรบเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

นักเรียนในสถาบันเวสต์โร้ดที่มุ่งเน้นการใช้เวทมนตร์ซะส่วนใหญ่รู้จักเขาในฐานะหนึ่งในสหายของมหาจอมเวทย์ลูคัส บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคาซาจินเป็นใคร

แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถูกละเว้นจาก “ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์เวทย์มนต์” โดยสิ้นเชิง

แต่การกล่าวถึงของเขามีเพียงสามบรรทัดเท่านั้นในขณะที่เขาเดินตามเส้นทางของนักรบเวทย์

แน่นอนว่าข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ที่เขาใช้ไม่ได้ถูกบันทึกมาก่อน

เควินยิ้ม

“ เป็นอะไรไปเฟรย์? นายใช้เวลาทั้งหมดนั้นไปกับการสะสมความรู้ที่หาไม่ได้ในชั้นเรียนของฉันไม่ใช่หรือ? หรือว่านายคิดว่าความสำเร็จของนักรบเวทมนตร์มันไม่คุ้มค่ากับเวลาของนาย?”

เฟรย์ยังคงเงียบ ขณะที่เขาจะตอบนักเรียนที่นั่งด้านหลังก็พูดแทนเขา

“ หนูขอคัดค้านค่ะ เท่าที่หนูทราบไม่มีบันทึกประวัติของราชานักรบเวทมนต์คาซาจินอย่างชัดเจนในประวัติศาสตร์ของนักเวทย์”

ครู่หนึ่งเควินก็เงียบไป หากไม่ใช่เพราะความผูกพันทางสายเลือดของเธอกับสถาบันแล้วละก็ อิซาเบลทรีซไนน์ เธอคงจะถูกไล่ออกจากห้องเรียนด้วยวิธีที่เลวร้ายยิ่งกว่าเฟรย์

เธอเคยขัดขวางการสอนของเขาในทุกๆด้าน

เควินตอบอย่างนุ่มนวล

“ คาซาจินเป็นคนแรกที่พัฒนาวิธีการที่ใช้มานาเพื่อเพิ่มความสามารถทางกายภาพ แม้ว่าการฝึกเวทย์ของเขาจะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความก้าวหน้าในฐานะนักเวทย์ได้”

“ แต่คาซาจินเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่ใช้มานาเพียงอย่างเดียวเพื่อฝึกฝนร่างกายของเขา บุคคลเช่นนี้ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์จริงๆ”

นั่นเป็นเรื่องจริง ความรู้ของอิซาเบลนั้นล้ำหน้าเพื่อนๆ และไม่น้อยหน้าไปกว่าศาสตราจารย์

แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงอยู่บนใบหน้าของเควิน

“ แล้วคุณเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคนที่เดินตามเส้นทางของนักรบเวทย์มนตร์หรืออิซาเบล?”

“ …นั่นเป็นการตีความที่แปลกใหม่”

“ โอ้นั่นอาจจะใช่ อย่างไรก็ตามนักรบเวทมนตร์ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์หรือไม่ ยังคงเป็นข้อถกเถียงที่สำคัญในแวดวงวิชาการ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่บางครั้งอาจนำไปสู่การแข่งขันด้วยความภาคภูมิใจระหว่างสังคมแห่งการเรียนรู้ แม้ว่าการแสดงความคิดเห็นของคุณเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณต้องใส่ใจกับคำพูดของคุณให้มากขึ้น หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในฐานะนักเวทย์นั่นก็คือ”

“แต่…”

“ คนที่ฉันถามคือเฟรย์ไม่ใช่คุณนะอิซาเบล”

อิซาเบลกัดริมฝีปากล่าง เธอไม่ชอบเควินตั้งแต่แรกและคิดว่าเขาน่ารังเกียจ เขาเป็นคนที่แย่ที่สุดที่ชอบทรมานคนอ่อนแอเพื่อความสะใจของตัวเอง นอกจากนี้เธอยังตระหนักดีถึงการจ้องมองที่น่ากลัวของเขาที่มักจะกวาดสายตาไปตามร่างกายของเธอ

ถึงตอนนี้เควินคิดว่าเขาเป็นคนสุขุมแต่อิซาเบลรู้ว่าไม่จริง เธอรู้สึกสยดสยองขณะที่เขาแอบจ้องมองเธอราวกับว่าแมลงนับพันตัวกำลังดิ้นพล่านไปทั่วร่างของเธอ

ดวงตาของเควินหรี่ลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของอิซาเบล

‘ช่างน่าเสียดาย ถ้าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้อำนวยการของสถาบันการศึกษาแล้วละก็…

เฟรย์ซึ่งนิ่งเงียบมาตลอด ในที่สุดก็ตอบกลับ

“ ถุงมือราชาเสือเข็มขัดยักษ์และสร้อยคอพายุ”

“ …”

ดวงตาของเควินเบิกกว้างในขณะที่อิซาเบลจ้องมองเฟรย์ด้วยความประหลาดใจ

“ ผมผิดเหรอ?”

ความทรงจำของเฟรย์ในอดีตนั้นเริ่มจางลงแต่เฟรย์ก็ตอบออกไป

“ถูกต้อง”

“ค่อยยังชั่ว”

เกิดความโกลาหลในหมู่นักเรียน เฟรย์ตอบคำถามได้อย่างสบายใจแม้ว่าพวกเขาจะคาดเดาแทบไม่ได้ก็ตาม แต่มันจะเป็นอะไรที่แปลกมากถ้าเขาไม่รู้เพราะลูคัสผู้ยิ่งใหญ่และสหายของเขานั้นสนิทสนมกันมาก ทั้งสี่คนเป็นเหมือนครอบครัวซึ่งกันและกัน ตั้งแต่อาหารที่พวกเขาโปรดปรานไปจนถึงนิสัยที่ไม่ได้มีสำคัญ พวกเขาก็รู้มันทั้งหมด

ขณะที่เฟรย์รำพึงสีหน้าของเขาก็หรี่ลงชั่วขณะ เควินกลายเป็นคนเคร่งขรึมในทันที

“ นี่เป็นเพียงการอุ่นเครื่อง ฉันยังมีคำถามเพิ่มเติมสำหรับนายนะเฟรย์”

“ ได้เลย”

เฟรย์ค่อนข้างพอใจกับสถานการณ์เช่นนี้

* * * 

‘เหลือเชื่อ’

เควินอ้าปากค้างใส่เฟรย์อย่างเปิดเผย ความสนใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับหนังสือราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เควินพูดเลยแม้แต่น้อย

‘เขาตอบถูกทุกข้อ?’

ตั้งแต่คำถามเกี่ยวกับคาซาจิน เควินก็ถามคำถามอีกห้าข้อ ทั้งหมดยากพอที่จะทำให้หลายๆคนงงงวยแม้แต่ในหมู่ของนักเรียนหัวกระทิ โดยเฉพาะสองข้อสุดท้าย มันเป็นคำถามที่จะสามารถตอบได้โดยอาจารย์ในสาขาที่เชี่ยวชาญเท่านั้น

เฟรย์ไม่ได้ตอบทันที ก่อนจะตอบเขาจะนิ่งเงียบราวกับว่ากำลังย้อนความทรงจำเก่าๆ ความเงียบของเขาคงจะใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาทีไปจนถึงหนึ่งนาที

แต่สิ่งที่พูดออกมาจากปากของเฟรย์ก็ถูกต้อง เควินเสียศูนย์และพ่ายแพ้

นี่คือเฟรย์เบลคจริงๆหรือ? เราได้ยินมาว่าผลการเรียนของเขาไม่ได้แย่ อย่างไรก็ตามเมื่อใดที่เฟรย์มองมาที่เขาเควินจะกรีดร้องเหมือนหนูที่อยู่ต่อหน้าแมว

ดวงตาของเฟรย์มีความยินดีกับแต่ละคำตอบที่เขาให้ ในขณะที่เสียงของเควินค่อยๆเงียบลง ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถส่งเสียงได้เลยและทำได้เพียงแค่ยืนนิ่ง

‘ทั้งๆที่เขาควรจะเป็นความอัปยศของสถาบันเวสต์โร้ด!’

เฟรย์ในอดีตจะคงอายจนหน้าแดง แต่เฟรย์ในตอนนี้ล่ะ? เขาไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย เขาไม่ได้หน้าแดงหรือพูดติดอ่าง แต่แววตาของเขากลับชัดเจนและน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เควินคุ้นเคยกับคนประเภทนี้เป็นอย่างดี พวกเขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง

เช่นเดียวกับศาสตราจารย์ดิโอและศาสตราจารย์อเดเลีย!

‘เป็นไปไม่ได้!’

เฟรย์จะมาอยู่ในระดับเดียวกันกับคณาจารย์ที่โดดเด่นที่สุดสองคนของ สถาบันเวสต์โร้ดได้อย่างไร? เควินถอนความคิดของเขาทันที

‘นั่นมันดีมากเลยละ’

ในขณะเดียวกันการตั้งคำถามของเควินก็เป็นแรงกระตุ้นที่ดีสำหรับเฟรย์ เพราะความทรงจำที่เขาคิดว่าลืมไปนานแล้วได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งและเริ่มต้นปฏิกิริยาลูกโซ่

เควินคงไม่เคยฝันถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ยิ่งคำถามของเขาหนักขึ้นเท่าไหร่พวกมันก็จะเป็นประโยชน์กับเฟรย์มากขึ้นเท่านั้น

เฟรย์ไม่สนใจว่าเขาผิด แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาหวังไว้ในระดับหนึ่ง เขาต้องการคำยืนยันว่านักเวทย์ไม่ได้ถดถอยในช่วงเวลา 4,000 ปี แต่มันกลับกัน

ไม่มีนักเวทย์สาขาใดที่ก้าวหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว ไร้สาระแค่ไหน เป็นเรื่องน่าขันเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียกยุคที่นักเวทย์ได้ส่องสว่างที่สุดเมื่อ 4,000 ปีก่อนว่า “ยุคแห่งแสง”

“ มีอะไรอีกไหมที่คุณอยากถาม?”

เควินพูดไม่ออกเมือถูกถามจากเฟรย์กลับ เขาทำได้เพียงแค่กัดที่ริมฝีปากของเขาจนกระทั่งดวงตาของเขาลดลงไปที่หนังสือเรียน

“ …หน้า 131”

เควินไม่สามารถซ่อนความอัปยศอดสูของเขาได้ เขาเพิ่งยอมรับความพ่ายแพ้ในระหว่างชั้นเรียนของเขาเอง

อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่ชั้นเรียนจบลง เควินแขวะใส่เฟรย์ก่อนจะเดินจากไป

‘ฉันควรไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารนะ’

ในขณะที่เฟรย์นึกถึงอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษที่เขาทานที่นั่นปากของเขาก็เริ่มปริ่มน้ำลาย นับตั้งแต่เขาหยุดออกมาจากอเวจีการกินเป็นเรืองที่สนุกมาก

เฟรย์ลุกขึ้นจากที่นั่งและตระหนักว่านักเรียนที่อยู่รอบๆตัวเขาเฝ้าดูเขาอยู่สักพักหนึ่ง

หลายคนลังเลที่จะพูด เฟรย์ตกเป็นเป้าหมายของเดวิดแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเพิกเฉยต่อคำเตือนของเดวิดได้

“ นายจะไปโรงอาหารด้วยไหม?”

หนึ่งในนั้นคืออิซาเบล อิทธิพลของเธอในสถาบันนั้นยิ่งใหญ่กว่าของเดวิดมาก เธอมองตรงไปที่เฟรย์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่อาจต้านทานได้ในสายตาที่ดูเงียบสงบของเธอ

‘ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง’

อิซาเบลรู้จักเฟรย์เบลด พวกเขาเป็นตระกูลนักเวทย์ที่ได้รับการยกย่อง เมื่อเธอได้ยินครั้งแรกว่ามีนักเวทย์จากบ้านเบลคมาเรียนที่นี้ เธอคาดหวังว่าเขาจะมีพรสวรรค์มากมาย

แต่แล้วความคาดหวังของอิซาเบลก็พังทลายในไม่ช้า พูดได้ว่าเฟรย์ไม่มีพรสวรรค์เลย ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเบลคแล้ว เขาคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนในสถาบันด้วยซ้ำ

เฟรย์นั้นเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน ความขี้ขลาดที่รบกวนทุกย่างก้าวของเขาหายไป เขาไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของเดวิดและกลุ่มที่แกล้งเขาอีกต่อไป

เขาไม่ได้กลัวคำถามมากมายของเควินเลย แต่กลับตอบอย่างสบายใจ

เฟรย์กวาดตาผ่านเธอและเดินไปเรื่อยๆ ครู่หนึ่งอิซาเบลก็มึนงง

‘ฉันถูกเมินหรือเปล่านี้?’

อย่างน้อยก็เป็นครั้งแรกของเธอที่ถูกเพิกเฉยตั้งแต่เข้ามาเรียนในสถาบัน เธอตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่งแล้วเธอก็รีบวิ่งไล่ตามเฟรย์ คราวนี้เธอยืนอยู่ข้างๆเขาและพูดชัดขึ้น

“ เฟรย์เบลค”

จากนั้นเฟรย์ก็เหลือบมองอิซาเบลด้วยตาที่หมุ่นไปมา

“คุณกำลังพูดกับผมเหรอ?”

“ใช่”

“ ผมไม่รู้ตัวนะพอดีผมกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร”

เฟรย์ไม่ได้ชะลอแม้แต่จะตอบเธอ ดังนั้นอิซาเบลเลยหันมาไล่ตามเขาแทน

“ เกี่ยวกับคำถามสุดท้ายที่ศาสตราจารย์เควินถาม”

คำถามสุดท้าย มันคืออะไรนะ? เฟรย์ครุ่นคิดถึงคำตอบในไม่ช้า

“ วิธีการฝึกสามวิธีของชไวเซอร์? (Editor note : หรือจะเป็นของคาซาจินไม่แน่ใจ)”

“ ใช่อันนั้นแหละ”

ระหว่างที่คุยกันพวกเขาก็มาถึงโรงอาหาร เฟรย์รับประทานอาหารกลางวันหลังจากแลกตั๋วอาหารแล้วก็นั่งลง อิซาเบลวางถาดของเธอไว้ตรงข้ามกับของเขา

คนรอบข้างปั่นป่วนในทันที

อิซาเบลเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มันไม่ได้เกิดเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับสถาบันเท่านั้น ผลการเรียนของเธอโดดเด่นพอที่จะติดอันดับหนึ่งในสามและรูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยงาม แม้แต่เดวิดยังเคยจีบอิสซาเบลหลายต่อหลายครั้ง

แต่ที่นั่นเธอนั่งอยู่ตรงข้ามเฟรย์ นักเรียนที่อ่อนแอที่สุดและกำลังทานอาหารกลางวันด้วยกัน

อิซาเบลนั่งกับเฟรย์เหรอ? ยกเว้นคนที่อยู่ในชั้นเรียนเดียวกับเฟรย์ นักเรียนคนอื่นจ้องมองอย่างดุร้ายไปในทิศทางของเขา

“ ฉันคิดว่าชไวเซอร์ ได้พัฒนาวิธีการฝึกเพียงสองวิธี การดูดซึมและการขยาย แต่นายพูดถึง “การต่อสู้” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยิน “

“ เป็นอย่างนั้นหรือ”

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ก็เป็นวิธีที่อันตรายที่สุดในสามวิธี เฟรย์หั่นไส้กรอกชิ้นใหญ่และยัดมันลงทันที มันอร่อยมาก

“ ตอนแรกฉันคิดว่านายแค่พูดมั่วๆตามใจ แต่จากปฏิกิริยาของศาสตราจารย์คำตอบดูเหมือนจะถูก”

“คุณพยายามจะพูดเรื่องอะไร?”

อิซาเบลลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ

“ การต่อสู้คือวิธีการฝึกแบบใด?”

มันเป็นสิ่งที่อิซาเบลอยากรู้มากที่สุดและเฟรย์ตอบเบา ๆ

“ ตอนนี้คุณอยู่ในขั้นไหนแล้ว”

“ ฉันอยู่ในระดับสามดาวแล้ว”

อิซาเบลพูดพร้อมกับถ่อมตัว แต่เฟรย์ตกใจและตกอยู่ในความคิดลึกๆ จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยการพยักหน้า

“ นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับวัยของคุณ”

ในขณะนั้นอิซาเบลรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังพูดกับนักเวทย์ชราที่ชาญฉลาดแทนที่จะเป็นเฟรย์ แต่แล้วเธอก็จำสถานการณ์ของเขาได้และดูสำนึกผิด

“ ดูเหมือนว่าคุณไม่มีข้อข้องใจเลย”

“ถูกตัอง”

เฟรย์ทานอาหารเสร็จในพริบตาเดียวขณะที่อิซาเบลกินสลัดเพียงสองคำ

“ ฉันขอตัวก่อนนะ”

“ รอสักครู่ วิธีต่อสู้ มันคืออะไร?”

“ ลองหาอ่านในหนังสือสิ – สิ่งที่ฉันรู้อาจไม่ถูก”

ความรู้ของเขาอาจจะล้าสมัยเขาจึงไม่แน่ใจว่าจะมีผลข้างเคียงแปลกๆ เกิดขึ้นหรือไม่ เฟรย์เดินออกจากโรงอาหาร ความมั่นใจจากสายตาที่เขามองเธอนั้นทำให้อิซาเบลถึงกับสับสน

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 5 เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน (1)"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

love code at the end of the world
love code at the end of the world
มีนาคม 12, 2022
The Strongest Hokage
The Strongest Hokage
มีนาคม 12, 2022
การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi )
การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi )
มีนาคม 12, 2022
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
มีนาคม 12, 2022
Bringing Culture to a Different World
Bringing Culture to a Different World
พฤษภาคม 17, 2022
都市:我!反派富二代他爹-193×278
เกิดใหม่เป็นพ่อของตัวร้ายรุ่นที่สอง
พฤษภาคม 3, 2023
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz