หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Divine Nine-Dragon Cauldron - DND.4 - ทลายจักรวาล

  1. หน้าแรก
  2. The Divine Nine-Dragon Cauldron
  3. DND.4 - ทลายจักรวาล
Prev
Next

วิชาบ่มเพาะพลังที่ได้จากในสำนักไม่เพียงพอต่อเขาในการประเมินอีกครึ่งปีแน่ เขาต้องการเรียนรู้วิชาบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้

 

ระดับแรกในห้องตำรามีเพียงวิชาพื้นฐานที่บอกไม่ได้ว่าอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง

 

นอกจากพลังของวิชาบ่มเพาะพลังเองแล้ว ผู้ที่ฝึกวิชาต้องเข้าใจวิชาด้วยว่าเข้ากับตนเองหรือไม่และเมื่อไหร่จะใช้พลังของมันได้อย่างเต็มที่

 

อย่างเช่นหากศิษย์คนไหนใช้วิชาขาเป็นหลัก วิชาขาใหม่ก็จะแข็งแกร่งมากเมื่อฝึกเสร็จแล้ว ต่างกับคนที่ไม่เคยฝึกวิชาขามาก่อน วิชาขาใหม่ของเขาจะไม่รุนแรงมากนัก

 

อย่างซือหยูเองก็ไม่ได้หาวิชาบ่มเพาะพลังใหม่ที่แข็งแกร่ง เขาหาวิชาที่ครบเครื่องและเหมาะกับพลังที่เขามี

 

ซือหยูรู้วิชาขาขั้นพื้นฐานและเชี่ยวชาญวิชาหมัดอยู่บ้าง มันจึงมีวิชาบ่มเพาะพลังหลายแบบที่เขาเลือกได้

 

“เอ๊ะ ทลายจักรวาล?”

 

ซือหนูเจอตำราเกี่ยวกับพื้นฐานวิชาบ่มเพาะพลัง มันเป็นการผสมผสานระหว่างวิชาหมัดและวิชาขา มันแข็งแกร่งและฝึกยากกว่าเมื่อเทียบกับลูกเตะหยก

 

ในบรรดาวิชาบ่มเพาะพลังพื้นฐาน วิชาทลายจักรวาลเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุด หากมันถูกจัดกลุ่มก็จะจัดอยู่ในวิชาบ่มเพาะพลังพื้นฐานอันดับต้นๆ

 

“วสันต์สีเหลืองสื่อถึงพื้นพิภพ พื้นที่สีหยกสื่อถึงสวรรค์ เมื่อรวมกันแล้วจึงครอบคลุมทั้งโลกและสวรรค์”

 

ซือหยูตั้งใจอ่าน

 

“วิชาบ่มเพาะพลังนี้เป็นการผสมผสานระหว่างวิชาหมัดและวิชาขา มันเป็นการโจมตีที่ยากจะหลบหลีก มันแข็งแกร่งจนไม่ว่าจะหนีไปไหนก็ไม่มีทางพ้น”

 

“ก่อนที่จะเรียนวิชานี้ ผู้ฝึกตนจะต้องรู้ทั้งวิชาขาและวิชาหมัดที่ใช้ร่วมกันได้ดี ผู้ฝึกต้องเย็นดุจใบไม้ร่วงโรยและเคลื่อนไหวเร็วดั่งสายฟ้า”

 

“ปัจจัยหลักของวิชานี้คือผู้ฝึกตนจะต้องมีสายตาเฉียบคมที่สัมผัสพลังบนผืนดินและควบคุมทุกการเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นการฝึกวิชานี้จะไม่เป็นผล”

 

“จงเลือกฝึกวิชานี้อย่างฉลาด ในตอนนี้มีคนไม่ถึงหนึ่งในพันที่เชียวชาญวิชานี้”

 

ดวงตาของซือหยูโชติช่วงไปด้วยไฟอันแรงกล้า นี่คือวิชาบ่มเพาะพลังที่เหมาะกับเขา

 

วิชาทลายจักรวาลเป็นวิชาที่แข็งแกร่งมาก หลายคนอยากจะสำเร็จมัน คนพวกนี้กาจจะมีวิชาหมัดและขาที่ดี แต่ปัจจัยหลักด้านสายตาไม่เพียงพอ

 

หากพูดเรื่องสายตาแล้ว ตาของซือหยูสามารถมองได้ไกลถึงหนึ่งร้อยเมตร เขาเห็นขาของมดได้ราวกับมันอยู่ใกล้สายตา

 

“ดีล่ะ! ข้าเลือกวิชานี้!”

 

ซือหยูดีใจ

 

เมื่อชายแก่เห็นตำราทลายจักรวาลเขาก็ส่ายหัวเบาๆ

 

“หนุ่มน้อย…อย่าทะเยอทะยานนักเลย เลือกวิชาที่เหมาะกับตัวเจ้าจะทำให้เจ้าสำเร็จ พลังของวิชานั้นเป็นเรื่องรอง”

 

ซือหยูโค้งคำนับแสดงความขอบคุณ

 

“ขอบคุณที่สอนสั่ง”

 

แม้ว่าชายแก่จะเย็นชา แต่ทุกคำพูดของเขาควรได้รับคำขอบคุณ

 

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ซือหยูก็วางตำราทลายจักรวาลลงชั่วคราว

 

เพราะศิษย์แต่ละคนจะเข้ามายังห้องตำราได้ครั้งเดียวในหกเดือน เขาจึงต้องใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า หลังจากที่ดูตำรามามากกว่าครึ่ง เขาก็ไม่พบวิชาใดที่เหมาะสม ราวกับว่าสิ่งที่เหมาะกับเขาเพียงอย่างเดียวก็คือวิชาทลายจักรวาล

 

ทันใดนั้นเขาก็พบตำราสุดท้ายที่ทำให้สายตาเขาเป็นประกาย

 

“ตำราลับศรทะลวงร้อยศอก”

 

“นี่เป็นอาวุธของผู้ใช้ธนู พลังของวิชานี้ขึ้นอยู่กับพลังแขนขวาและความแม่นยำของผู้ใช้ธนู พลังของอาวุธจะแตกต่างไปตามผู้ฝึกตน”

 

“ความต้องการพื้นฐานคือผู้ฝึกต้องมีสายตาที่มองเห็นแมลงไกลออกไปอย่างน้อยห้าสิบเมตรได้ หากทำไม่ได้แล้วก็ควรจะเลิกคิดฝึกวิชานี้ มิเช่นนั้นจะเสียเวลาเปล่า”

 

ซือหยูเห็นขามดได้ในระยะร้อยเมตร และมันก็เกินกว่าความต้องการพื้นฐานของวิชาศรทะลวงร้อยศอก

 

เขาชั่งใจความต้องการตำราและดูตำราอื่นต่อไป

 

หลังจากเปิดดูตำราอื่นคร่าวๆแล้วก็มีเพียงวิชาทลายจักรวาลและตำราลับศรทะลวงร้อยศอกเท่านั้นที่ดึงดูดเขาได้

 

เขาไม่รีบออกจากห้องตำรา เขาหาตำราอื่นต่อไปและพบว่ามันมีวิชาหลายประเภท

 

มีวิชาพิษอันน่ากลัว วิชาปรุงยา วิชากลยุทธ์ วิชายันต์….

 

ซือหยูที่ใช้วิชาบ่มเพาะพลังไม่สนใจวิชาพวกนี้

 

ตอนนั้นเขาก็ได้พบตำราวิชาตัวเบาเงาเมฆา และมันก็เป็นวิชาป้องกันตัว

 

“วิชาบ่มเพาะพลังนี้เหมาะกับผู้มีพลังปราณแข็งแกร่ง ตำรานี้ยากจะเข้าใจ โปรดเลือกให้ดี”

 

“สำหรับวิชาบ่มเพาะพลังนี้ เมื่อสำเร็จขั้นแรก ผู้ฝึกจะเร็วได้เท่าเสียง เมื่อสำเร็จขั้นสอง ผู้ฝึกว่าเร็วกว่าผู้ที่ระดับขอบเขตพลังสูงกว่า เมื่อสำเร็จขั้นสามที่เป็นจุดสูงสุด ผู้ฝึกจะเร็วกว่าผู้ที่ขอบเขตพลังสูงกว่าไปมาก”

 

“ผู้ที่จะเรียนวิชาบ่มเพาะพลังนี้จะต้องมีพลังปราณที่แข็งแกร่งมาก ตอนนี้มีไม่ถึงหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่สำเร็จวิชานี้ โปรดเลือกให้ดี”

 

ซือหยูตาลุกวาว หากมีคนไม่ถึงหนึ่งในหมื่นสำเร็จวิชานี้ หมายความว่าในสำนักนี้เองก็อาจจะไม่มีใครสำเร็จวิชานี้เลย

 

ซือหยูเพลิดเพลินอยู่กับการอ่านตำรา หากเขาสำเร็จวิชาร่วมกับศรทะลวงร้อยศอก พลังโจมตีระยะไกลของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาก แต่ช่างน่าเสียดายที่เขายืมตำราได้แค่เล่มเดียว

 

ซือหยูไม่อยากจะกลับไปที่ตำราทลายจักรวาล เขาเริ่มเปิดตำราและคิดกับตัวเองว่ามันเป็นไปได้ไหมที่เขาจะจำตำราบ่มเพาะพลังทั้งเล่มและยืมอีกเล่มแทน?

 

ในชีวิตก่อนหน้าเขามีความจำค่อนข้างดี แม้ว่าเขาจะจำภาพไม่ได้ แต่หนึ่งชั่วโมงเขาก็จำได้มากกว่าสามพันคำ เขาค่อยๆ นับคำในตำราทลายจักรวาลและเริ่มไม่มั่นใจ มันมีมากกว่าสามหมื่นคำ หมายความว่าเขาต้องใช้เวลาสิบชั่วโมงในการจดจำมันทั้งหมด

 

เห็นได้ชัดว่าห้องตำราไม่ให้ศิษย์อยู่สิบชั่วโมงแน่

 

เมื่อซือหยูเปิดหนังสือเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในอีกพื้นที่หนึ่ง เขาพบว่าชายแก่ข้างๆ เขาหยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์โดยไม่ขยับแม้แต่น้อย อากาศเองก็ดูนิ่งสงบ

 

และก็บังเอิญว่าศิษย์ที่เข้ามาก็หยุดนิ่งเช่นกัน

 

“นี่มันการคุมเวลา!”

 

เขาตกใจและคิดถึงพลังของเขาทันที

 

ตอนที่เขาอ่านตำรา ดวงตาของเขาปลล่อยพลังออกมาด้วยตัวเองและทำให้เขาเข้าไปในพื้นที่ที่เวลาไหลอย่างรวดเร็ว สำหรับเขา สิบชั่วโมงได้ผ่านไป แต่กับคนอื่นมันผ่านไปเพียงชั่วโมงเดียว

 

นี่ต่างจากตอนที่เขาสู้กับอูซง เมื่อตัวตนข้างในเขาถูกกระตุ้น เวลาก็จะไหลผ่านไปเร็วขึ้นสามในสิบส่วน

 

เมื่อจิตของเขาใจเย็นและสงบนิ่งอย่างเวลาที่เขาอ่านตำรา เวลาก็จะไหลเร็วขึ้นสิบเท่า

 

ซือหยูดีใจมาก เขารีบเพ่งสมาธิอ่านตำราทันที หลังจากสิบชั่วโมงหน้าเขาก็ซีดลง การจดจำสามหมื่นคำทำให้เขาเหนื่อยมาก

 

แต่เขาก็เต็มไปด้วยความสุขเพราะเนื้อหาวิชาทลายจักรวาลอยู่ในสมองของเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในโลกจริงเวลาก็ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมง

 

ชายแก่ประหลาดใจ ซือหยูดูตำราเล่มเดียวตลอดหนึ่งชั่วโมง หรือเขากำลังจะพยายามจดจำทั้งตำรากัน? หากจำภาพไม่ได้มันก็เป็นไปไม่ได้หรอก

 

หลังจากนั้นซือหยูก็ใช้เวลาสิบชั่วโมงทำแบบเดิมกับตำราลับศรทะลวงร้อยศอก

 

สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกยืมตำราเงาเมฆา

 

การจดจำตำราบ่มเพาะพลังสองเล่มทำให้เขาเหนื่อยอ่อนอย่างมาก สำหรับซือหยูแล้วทั้งสามวิชาบ่มเพาะพลังคือขีดจำกัดของเขา

 

ชายแก่ตกตะลึง

 

“เจ้าหนู ข้าบอกเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กินสิ่งที่เจ้าเคี้ยวได้ และเจ้าก็ยังไม่ฟังข้า มีคนมากมายอยากจะสำเร็จเงาเมฆาแต่ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้”

 

“หากเจ้าไม่ได้อะไรเลยในหกเดือนนี้รู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้น!”

 

ชายแก่ไม่พอใจ

 

“จงจำไว้ว่าเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปสอนวิชาบ่มเพาะพลังที่เจ้าได้จากสำนัก! หากมีคนจับได้เจ้าจะถูกขับออกจากสำนัก!”

 

“ข้าเข้าใจดี!”

 

เมื่อเขากลับไปที่หอพัก อูซงก็เอนหลังพิงทางเดินและอดทนต่อความอัปยษที่มีคนจ้องมองเขา เมื่อเห็นซือหยูกลับมา อูซงก็โมโหทันที

 

“ที่นี่เหมาะกับเจ้าดีนี่”

 

ซือหยูยิ้มกับตัวเองและไม่สนใจอูซงอีก

 

อูซงรักษาความเยือกเย็นและหัวเราะให้กับความโชคร้ายที่ซือหยูจะต้องเผชิญ

 

“เจ้าอยู่ได้ไม่นานหรอก ในที่สุดข้าจะได้อยู่ในห้องนั่นแต่เพียงผู้เดียว”

 

ซือหยูคิ้วกระตุก

 

หลังจากที่เข้าห้องพัก ซือหยูพบซองจดหมายสีดำบนโต๊ะ

 

…

 

ศิษย์น้องซือ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสำเร็จระดับสองแล้วและพลังเจ้าก็เพิ่มขึ้นมาก ข้าอยากจะขอประลองเพื่อให้เราได้ชี้แนะซึ่งกันและกันในอีกเจ็ดวันที่สนามประลองระดับเงินของสำนัก ข้าอยากจะประลองกับเจ้า

 

– เฉินเฟิง

 

…

 

เฉินเฟิง? เขาเห็นภาพรอยยิ้มของเฉินเฟิงทันที

 

ซือหยูได้ยินชื่อเสียงของเฉินเฟิงมาบ้าง ไม่เพียงแต่แต่ความป่าเถื่อน วิชาพิษของเธอก็พิศดารเข้าใจยาก มีศิษย์บางคนที่พิการจากการสู้กับเธอมาแล้ว

 

“นี่จะต้องเป็นฝีมือไอ้ฉินเฟิง!”

 

ซือหยูรู้ได้ทันที เฉินเฟิงที่เขาไม่เคยพบจะอยากประลองกับเขาทำไมกัน?

 

ซือหยูหัวใจเต้นแรง หากมันเป็นการประลองธรรมดาเขาคงจะไม่ต้องสนใจมัน

 

อีกเจ็ดวันในลานประลองคืองานที่จะจัดทุกหกเดือนของสำนักเชี่ยเฟิง  หากผู้ท้าประลองอยู่ระดับเดียวกันแล้ว ศิษย์ที่ถูกท้าจะปฏิเสธการประลองไม่ได้

 

ซือหยูสำเร็จระดับสองขั้นต้นและเฉินเฟิงสำเร็จระดับสองขั้นกลาง พลังของพวกเขานับว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ซือหยูไม่สามารถปฏิเสธคำท้าประลองนี้ได้ หากเขาปฏิเสธเขาก็จะถูกลงโทษโดยการลดระดับและไล่ออกจากสำนัก

 

ฉินเฟิงจับตาดูซือหยูอยู่ เขาตั้งใจจะให้ซือหยูปฏิเสธคำท้าประลองและนั่นก็จะเป็นข้ออ้างที่ทำให้เขาถูกขับออกจากสำนักได้

 

“ฮ่าๆๆ เจ้าควรจะยอมแพ้ซะ เฉินเฟิงไม่ใช่คนที่เจ้าจะสู้ด้วยได้ เจ้าที่เพิ่งสำเร็จระดับสองไม่นานน่ะ”

 

อูซงหัวเราะให้กับความโชคร้ายของซือหยู

 

ซือหยูยังคงใจเย็นและเดินทางไปที่ป่าเทือกเขา

 

“ข้าไม่แน่ใจว่าข้าจะสำเร็จไปถึงระดับสองขั้นกลางในอีกเจ็ดวัน หากจะมีอะไรที่เพิ่มพลังข้าได้ นั่นก็จะต้องเป็นวิชาบ่มเพาะพลังทั้งสาม”

 

อย่างแรกคือวิชาทลายจักรวาลที่ผสมผสานระหว่างวิชาหมัดและขา วิชานี้ไม่ได้ต้องการทักษะที่ครอบคลุมมากนัก มันให้ความสำคัญกับพื้นฐานมากกว่า ผู้ฝึกจะต้องใช้วิชาหมัดและขาได้และมีร่างกายที่คล่องแคล่ว สำคัญที่สุดคือสายตาที่เฉียบคม

 

ซือหยูมีครบทุกอย่าง ซือหยูไม่เหมือนคนอื่น เขาฝึกในพื้นที่เปิดในป่าเทือกเขาอันกว้างขวาง

 

สองวันผ่านไป

 

แกร๊ก-

 

หมัดและลูกเตะที่เร็วราวกับเงาพุ่งตรงไปที่จุดเดียวกันของต้นไม้ ซือหยูโจมตีใส่จุดเดียวกันซ้ำๆด้วยความแม่นยำสูงมาก เวลาที่หมัดและลูกเตะปล่อยออกไปต่อเนื่องกันน้อยกว่าครึ่งวินาที

 

ใบหน้าของซือหยูเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

ในชีวิตก่อนของเขา พลังของซือหยูนับได้ว่าเท่าคนทั่วไป แต่เขาก็ไม่หยุดฝึกฝน เขาฝึกฝนทุกวันจนร่างกายของเขาแข็งแรงมาก ประกอบกับดวงตาใหม่ของเขาแล้วก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่เขาจะสำเร็จวิชา ในเวลาอันสั้นซือหยูก็สำเร็จวิชาทลายจักรวาลขั้นแรกแล้ว!

 

ในขั้นแรกหมัดและขาจะโจมตีจุดเดียวพร้อมๆกันด้วยพลังระเบิด รวมกับวิชาบ่มเพาะพลังเองแล้วมันก็สามารถเอาชนะศิษย์ที่สำเร็จระดับสองขั้นต้นส่วนมากได้แล้ว

 

แต่มันยังไม่พอ! ซือหยูต้องเอาชนะคนที่เป็นระดับสองขั้นกลาง และพลังของเธอก็พิศดารอีก ทำให้มันยากที่จะหลบหลีก

 

ซือหยูตั้งใจฝึกต่อไป

 

สามวันผ่านไป เหลืออีกสองวันก่อนที่เขาจะต้องกลับไปประลองในสำนัก

 

หมัดขวาเขาต่อยต้นไม้และตามด้วยลูกเตะที่รวดเร็วปานสายฟ้าในจุดเดียวกัน วิชาของเขาเริ่มแข็งแกร่งและระเบิดพลังได้เต็มที่แล้ว

 

แต่มันยังคงไม่พอ ขาซ้ายของซือหยูเตะออกไปทันทีในจุดเดิมและหมัดซ้ายก็ถูกปล่อยไปอย่างรวดเร็ว

 

เขาโจมตีจุดเดิมอย่างต่อเนื่องด้วยหมัดและขาทั้งสองข้าง ทุกการโจมตีนั้นรุนแรงและมีพลังระเบิดอันน่ากลัว

 

วิชาบ่มเพาะพลังนี้มีการโจมตีสี่ขั้นและทุกขั้นคือการโจมตีแบบอัดอากาศจากทุกทิศทางและไม่มีทางหลบได้

 

นี่คือหลักสำคัญของวิชาทลายจักรวาล

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "DND.4 - ทลายจักรวาล"

4.5 2 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Godly Empress Doctor
Godly Empress Doctor
มีนาคม 12, 2022
Gate of God
Gate of God
พฤษภาคม 17, 2022
The favored son of heaven
The favored son of heaven
มกราคม 31, 2024
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
The Inverted dragons scale
The Inverted dragons scale
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz