หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

The Divine Nine-Dragon Cauldron - DND.2 - หม้อเก้ามังกรศักดิ์สิทธิ์

  1. หน้าแรก
  2. The Divine Nine-Dragon Cauldron
  3. DND.2 - หม้อเก้ามังกรศักดิ์สิทธิ์
Prev
Next

รูปปั้นแก้วนั้นเป็นสิ่งที่ซือหยูทำเองกับมือและมอบให้กับเจียงซื่อฉิงเพื่อแทนเครื่องหมายแห่งความรัก

 

ทุกเดือนสำนักจะมอบเงินหนึ่งตำลึงแก่ศิษย์แต่ละคน ซือหยูใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น เขาไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่หรือกินอาหารที่ดี ขณะที่ศิษย์หนุ่มคนอื่นดื่มเหล้าใต้จันทรา ซือหยูก็เก็บเงินและไม่เอามาใช้สักแดงเดียว

 

เขาใช้เงินทั้งหมดที่สะสมไว้ซื้อแก้วและค่อยๆสลักมันทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้มันกลายเป็นเจียงซื่อฉิงที่งดงาม

 

ในหน้าร้อน ขณะที่คนอื่นเพลิดเพลินกับบรรยากาศเย็นสบาย เขาก็สลักมันต่อไปจนเหงื่อไหลไม่หยุด ครึ่งหนึ่งเขาถึงกับป่วยจากความร้อนและต้องไปพักฟื้นตัวในหอพัก

 

ในหน้าหนาว ขณะที่คนอื่นอบอุ่นท่ามกลางเตาไฟ เขาก็อดทนสลักมันจนความเย็นทำให้ผิวหนังของเขาแตกและเลือดไหลออกมา

 

หลังจากหนึ่งปีเขาก็สลักเจียงซื่อฉิงที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาจะจินตนาการได้สำเร็จ

 

เขายังจำเจียงซื่อฉิงที่มีแววตาสดใสอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นนั้นได้

 

แต่หนึ่งปีหลังจากนั้นเธอก็ได้คืนทุกอย่างกับเขา

 

ซือหยูก้มลงมองรูปปั้นแก้วอันงดงามในมือ มันมีดวงตาคู่สดใสราวกับดวงดารา ไม่ใช่แค่เพราะมันไม่มีค่ากับซือหยูตัวจริง มันยังคงเป็นสิ่งเย้ยหยันเขาอีก

 

กับคนในอดีต สตรีหลายคนก็ร่วมหลับนอนกับบุรุษที่มั่งมี

 

เขาไม่ได้ชอบเจียงซื่อฉิงอีกแล้ว นอกจากรูปร่างที่ดูงดงาม เธอก็ไม่มีอะไรดีเลย

 

“เมื่อความรักได้สิ้นไปแล้ว ข้าจะเก็บมันไว้เพื่อสิ่งใดอีกเล่า? ของสิ่งนี้มันไม่มีความหมายอีกแล้ว”

 

น่าแปลกใจที่ซือหยูไม่ได้แสดงอาการผิดหวัง เสียใจ หรือโกรธแค้น เขาใจเย็นราวกับทะเลสาบในฤดูใบไม้ร่วง

 

เพล้ง-

 

รูปปั้นงดงามแตกกระจายออกทันที สิ่งเชื่อมสัมพันธ์สุดท้ายระหว่างเขากับเจียงซื่อฉิงก็หายไป

 

เขายืดตัวและยิ้มอย่างโล่งใจราวกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอก

 

“ถ้าเป็นอย่างนี้ข้าจะได้ไม่ต้องคิดมาก ข้าห่วงว่าเจ้าจะยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่น่ะ”

 

หากเจียงซื่อฉิงยังคงเหลือความรู้สึกต่อซือหยู บางทีเศษวิญญาณที่ยังเหลืออยู่คงจะกังวลและไม่สบายใจ

 

เธอแน่วแน่มาก ทันทีที่เธอคืนเครื่องหมายแห่งความรัก ความผูกพันทั้งหมดที่ซือหยูรู้สึกก็ได้หายไป

 

“ลาก่อน อดีตฉิงเอ๋อของข้า…อดีตคนรักของข้า”

 

เขาโบกมือและถอนหายใจอย่างอ่อนโยนราวกับว่ามันเป็นข้อความส่งถึงซือหยูคนเก่าที่บอกให้เขาได้จากไปอย่างสงบ หลังจากนั้นเขาจะได้ผ่อนคลายลงและเป็นอิสระโดยไม่หันหลังกลับ

 

มาและไปราวกับฝุ่นผง หายไปตามมิติแห่งกาลเวลา

 

ซือหยูได้จากไปแล้ว เหลือไว้แต่ซือหยูคนใหม่

 

เจียงซื่อฉิงตัวสั่น คำพูดอำลาดูเหมือนจะเจาะทะลุน้ำแข็งที่ปกคลุมหัวใจของเธอ

 

เธอหันกลับไปมองแผ่นหลังของซือหยู แต่เธอก็เห็นเพียงเงาที่จมหายไปตามฝูงชน

 

ทันใดนั้นใจของเธอก็สั่น ราวกับว่าเธอได้สูญเสียสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก…ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอจะหาไม่ได้อีกแล้ว

 

เธอมองรูปปั้นแก้วที่แตกกระจายอย่างเสียขวัญ

 

หลังจากทำใจอยู่นานเธอก็ดีขึ้น ดวงตาของเธอแข็งกร้าวเพราะเธอได้ทำลายด้ายเส้นสุดท้ายในใจไป

 

“ข้า เจียงซื่อฉิงที่งดงาม ข้าถูกลิขิตให้เป็นสตรีที่ยอดเยี่ยม เจ้า…ซือหยู…คู่ควรกับข้างั้นหรือ?”

 

“ไม่ใช่ความผิดข้า! นี่เป็นเพราะเจ้าไร้ความสามารถ! ทางที่ข้าเลือก…เจียงซื่อฉิงจะต้องไม่คิดผิดอย่างแน่นอน!”

 

จากนั้นเจียงซื่อฉิงก็จากไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

 

ฉินเฟิงมองด้วยสายตาแข็งกร้าว เขาพูดอย่างดูถูก

 

“เจ้าหมอนั่นแสร้งทำสบายใจเพื่อเอาชนะฉิงเอ๋อ ฮื่ม…ข้าไม่คิดว่ามันจะยอมหรอก!”

 

ต่างจากฉินเฟิง ดยุคฉินมองแผ่นหลังของซือหยูและคิดว่ามันน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่และส่ายหัว

 

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น! ชายคนนั้นไม่ได้ไร้ค่าอย่างเจ้าพูด เขาใจเย็นและยืดหยุ่นเป็นอิสระ หากฝึกสักหน่อยเขาก็จะเก่งขึ้นมาได้”

 

“งั้นก่อนที่มันจะผงกหัวขึ้นมาก็ฆ่ามันซะสิ!”

 

ฉินเฟิงไม่ชอบใครก็ตามที่มีสัมพันธ์กับผู้หญิงของเขา โดยเฉพาะคนที่เคยรักกันมาก่อน

 

ดยุคฉินส่ายหัว

 

“ไม่! จักรพรรดิใกล้จะจบชีวิตลงแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาแย่งบัลลังก์ ข้านั้นสนับสนุนองค์รัชทายาท เจ้าชายคนอื่นตอนนี้ก็มองข้าเป็นเสี้ยนหนามแล้ว”

 

“พวกเขาจับผิดข้างทุกอย่าง เจ้าที่ขโมยคู่ของคนอื่นมาก็แสดงให้ข้าที่ไม่ได้สอนสั่งเจ้าให้ดี นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาจะใช้ต่อต้านข้าโดยง่าย”

 

เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้เขาก็เริ่มโกรธเล็กน้อย

 

“ตอนที่ข้ายุ่งอยู่กับกิจการเมือง ทำไมข้าต้องลงมาเขตเซียนหยูเพื่อช่วยเจ้าเรื่องนี้กัน?”

 

“ตอนนี้ ถ้าเจ้าฆ่าซือหยูมันก็ไม่ต่างกันเจ้าฆ่าคนเพื่อขโมยภรรยา…ข้าที่เป็นพ่อเจ้าก็ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เหมือนกัน!”

 

ดยุคฉินใจเย็นมาก

 

“ตอนนี้เจ้ารอไปก่อน ไม่สายไปถ้าจะฆ่าเขาหลังจากเรื่องขัดแย้งในบัลลังก์เสร็จแล้ว”

 

ฉินเฟิงเข้าใจแต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

 

“หมายความว่าข้าต้องปล่อยให้เขาลอยหน้าลอยตาผ่านข้าไปงั้นสิ? มันเป็นเสี้ยนหนามของข้า และข้าจะต้องริดมันทิ้งไป”

 

ดยุคฉินโบกมือเบาๆ

 

“ถึงเราจะฆ่ามันไม่ได้ตอนนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราทำอะไรมันไม่ได้เลย เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ข้าที่เป็นพ่อเจ้าจะหาทางเอาซือหยูออกไปจากสำนักเพื่อตัดเส้นทางยุทธของเขา เราจะได้ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมาทำอะไรเราในอนาคต”

 

หลังจากดื่มชาถ้วยน้อย ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อสีฟ้าก็พาดยุคฉินกลับ

 

“ข้าจะให้เจียงซือฉีจัดการเรื่องนี้”

 

ดยุคฉินแอบให้ของขวัญเพื่อเป็นของแทนความสัมพันธ์ระยะยาวกับเขา

 

เจียงซือฉีหัวเราะ

 

“ท่านดยุคไม่ต้องกังวล อีกครึ่งปีจะมีการประเมินของสำนัก ทุกปีมีศิษย์ระดับเงินถูกขับออกไปกว่าครึ่ง ซือหยูที่ความสามารถต่ำ ก็จะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน”

 

“หากเป็นเช่นน้ันก็ดีแล้ว”

 

ดยุคฉินจากไปด้วยความโล่งใจ

 

เมื่อฉินเฟิงเห็นพ่อของเขาออกไปแล้ว เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา

 

“ฮื่ม ถึงข้าจะไม่ต้องลงมือเองเขาก็ต้องถูกไล่ออกไปอยู่ดีสินะ ช่างง่ายดายเสียจริง”

 

เขาพูดอย่างเย็นชา

 

“ฉิงเอ๋อยังคงมีเยื่อใยกับมัน นางจะต้องเห็นซือหยูตกที่นั่งลำบากและรู้เสียทีว่าชีวิตมันช่างยากกับเขา และนางก็จะเลิกคิดกลับไปหามัน!”

 

ซือหยูกลับมาที่ป่าในเทือกเขาและฝึกฝนต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

แต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็มีผลกับเขามากและทำให้เขาเพ่งสมาธิกับการฝึกไม่ได้

 

เมื่อซือหยูมองไปยังท้องนภากว้างใหญ่ เขาก็กำหมัดแน่น

 

“แม้ความอับอายวันนี้จะเป็นของซือหยูคนก่อน ใครจะไปคิดว่าข้าเองก็ต้องทุกข์ทรมานเช่นเดียวกันด้วย?”

 

“ในโลกที่ยอมรับเพียงความแข็งแกร่งนี้ ทำไมพลังของข้าจึงต่ำนัก ถึงข้าจะฝึกมากกว่าคนอื่นหลายเท่า การเติบโตของข้าเหตุใดจึงได้เพียงครึ่งของศิษย์พวกนั้นกัน?”

 

เขามองท้องฟ้าอย่างไม่ยอมรับในโชคชะตา เขาตะโกน

 

“สวรรค์ไม่ยุติธรรม! หากมอบพลังให้ข้ามากกว่านี้ ข้าจะฝึกหนักเป็นสิบเท่าและเป็นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์และปกครองมนุษย์พวกนี้!”

 

เสียงดังก้องกังวาลที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจที่เขาจะปฏิเสธโชคชะตาได้ดังไปไกลถึงสรวงสวรรค์

 

ครืน-

 

ทันใดนั้นซือหยูก็เงยหน้า เขาเห็นวัตถุสีดำตกลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับเสียงดังราวกับฟ้าผ่า และมันกำลังร่วงมาทางเขา

 

“บัดซบ! ข้าแค่ตะโกนใส่ท้องฟ้า ทำไมข้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย?”

 

ตู้ม-

 

อ๊าก-

 

เสียงกรีดร้องดังไปทั่วทำลายความเงียบสงบของป่าเทือกเขา

 

ซือหยูหมดสติอยู่ตรงนั้นและไม่รู้ตัวว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว

 

ตกกลางคืน

 

“อ๊ากก…เจ็บๆๆๆ”

 

เขาสะบัดแขนขาเรียกสติกลับคืนมา เขาเอามือมาปิดหน้าผาก ปากของเขาสั่นระริก

 

“มือข้า!”

 

ซือหยูประหลาดใจ แม้จะเป็นกลางคืนเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนราวกับกลางวัน เขาเห็นมือของเขาอย่างชัดเจน

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมองเห็นคางคกซ่อนอยู่ในร่องเห็นรอคอยเหยื่อที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตร

 

เขามองภาพสะท้อนจากเศษโลหะและต้องแปลกใจที่พบว่าม่านตาของเขาได้กลายเป็นสีขาวราวกับธาตุบริสุทธิ์อันงดงาม

 

เขาลุกขึ้นยืนด้วยความสับสน

 

“ร่างกายข้า!”

 

เขากระโดดขึ้นลงแต่พลังขาของเขาก็สูงกว่าที่คิดทำให้เขาเสียการทรงตัวจนเกือบจะล้มลง

 

หลังจากสำรวจไม่าน เขาก็พบว่ากำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาตัวเบาและคล่องแคล่วราวกับวิหค เหมือนกับว่าเขาได้เอาน้ำหนักยี่สิบกิโลออกไปจากร่างกายของเขา

 

“ข้าก้าวเข้าสู่ระดับสองแล้ว!”

 

ซือหยูประหลาดใจและดีใจอย่างฉุดไม่อยู่

 

เขาอยู่ในระดับหนึ่งขั้นสูงมานานกว่าหกเดือนและไม่สามารถทะลุขอบเขตของระดับสองไปได้

 

เขาไม่คิดว่าเพียงโดนฟาดที่หัวแบบสุ่มๆ จะทำให้เขาก้าวข้ามระดับสองจนได้

 

ซือหยูสงสัยและเริ่มตรวจสอบต่างกาย

 

เขาประหลาดใจที่พบว่าในจิตของเขามีหม้อทรงโบราณสีทองแดงขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือที่มีลายมังกรเก้าตัวสลักเอาไว้ มังกรทั้งเก้าดูมีชีวิต มีของเหลวไหลออกมาจากหม้อนั้นและเปลี่ยนร่างกายของซือหยูอย่างมาก

 

“หรือจะเป็นไอ้นั่น…หม้อที่ตกใส่หัวข้าแล้วก็เข้ามาอยู่ในจิตงั้นเหรอ? เวลาเดียวกันของเหลวสีแดงประหลาดนั่นก็ชำระร่างกายข้าและทำลายสิ่งกีดขวางพลังภายในจนทำให้ข้าก้าวเข้าสู่ระดับสองเช่นนั้นหรือ?”

 

ซือหยูที่สับสนพยายามจะเอาหม้อเล็กออกไปแต่มันก็ไม่เป็นผล

 

หลังจากขบคิดอยู่นาน ซือหยูก็กัดฟัน

 

“ข้าไม่รู้ว่ามันจะโชคดีหรือโชคร้าย แต่ถ้ามีมันเข้ามาทำให้ข้าไปถึงระดับสองและให้ดวงตาแปลกๆกับข้า จากนี้ไปข้าจะอุทิศตัวให้กับการฝึกเท่านั้น ข้าจะต้องผ่านการประเมินในอีกครึ่งปีให้ได้”

 

ซือหยูกำหมัดด้วยความตื่นเต้น

 

เขามองขึ้นไปยังสวรรค์อีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

“กับพวกคนที่เฉยชาต่อข้า ขอบคุณที่เป็นเชื้อเพลิงแก่ข้า ทำให้ข้าไม่ยอมสยบแก่ใคร และให้ชีวิตอันน่าสนุกนี้กับข้า!”

 

เมื่อสายตากระจ่างชัดแล้ว การเดินทางจากเทือกเขากลับไปยังหอก็เป็นเรื่องง่ายดาย

 

ศิษย์ระดับเงินสองคนจะแบ่งหอพักด้วยกัน ด้วยความเล็กและแคบของห้องทำให้มีเตียงเพียงเตียงเดียว

 

ว่ากันว่าศิษย์ระดับทองคำมีสวนส่วนตัวและคนรับใช้อีกด้วย

 

ทั้งสำนักนี้มีศิษย์ระดับเงินหมื่นคนและระดับทองคำอีกร้อยคน มีข่าวลือว่าศิษย์แกนหลักที่ก้าวเข้าสู่ระดับอสูรมีเพียงสิบคนเท่านั้น

 

ใครก็คิดก็ได้ว่ามันยากแค่ไหนกับศิษย์ระดับเงินที่จะจินตนาการออกว่าความสะดวกสบายในพื้นที่ส่วนตัวแบบศิษย์ระดับทองคำเป็นยังไง

 

เพื่อนร่วมหอของซือหยูเป็นเด็กหนุ่มผิวคล้ำดูอารมณ์ไม่ดีชื่ออูซง

 

เขามาถึงระดับสองขั้นต้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน การที่มีเขาอยู่ร่วมหอกันทำให้ซือหยูถูกใช้ให้ทำนู่นทำนี่อย่างง่ายดาย

 

เขาแข็งแกร่งจนซือหยูทำอะไรไม่ได้ ประกอบกับเขาไม่ได้ร้ายนักกับซือหยู เขาจึงทำได้เพียงยอมรับความอัปยศ

 

“ออกไป! คืนนี้เจ้าไปนอนที่ทางเดิน!”

 

เมื่อซือหยูเปิดประตูอูซงก็เตะเขาอย่างรวดเร็วราวกับขาขวาของเขาเป็นเงาแส้ทมิฬ

 

ลูกเตะที่คาดเดาไม่ได้ในยามวิกาลทำให้ยากที่จะป้องกันลูกเตะนั้น

 

แต่ดวงตาของซือหยูได้เปลี่ยนไปแล้ว ความมืดในยามวิกาลไม่มีผลกับเขาอีกต่อไป

 

เขาเขย่งเท้าเล็กน้อยโดยใช้พลังจากนิ้วเท้า ด้วยร่างกายที่เบาราวกับวิหคทำให้เขากระโดดสูงกว่าหนึ่งเมตร

 

ฟิ้ว-

 

อูซงเตะผ่านอากาศไป เขาท่าทีเปลี่ยนแปลงไปเพราะไม่คิดว่าซือหยูจะหลบการเตะของเขาได้

 

“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”

 

ดวงตาของซือหยูเย็นชา

 

ซือหยูคนใหม่ตัวซีดกว่าแต่ก่อน และเขาไม่ใช่กระสอบทรายอีกแล้ว เขาไม่ต้องยอมรับความอัปยศอีกต่อไป

 

“หลังจากเจอเจ้าข้าก็ไม่พอใจเอาซะเลย เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่? ออกไปซะ! นับจากวันนี้ห้องนี้เป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว เจ้าไปนอนที่ทางเดินซะ!”

 

อูซงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

 

ซือหยูฉลาดเท่าใดกัน? เขาจึงคิดได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับอูซงจะไม่ดีนัก แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นนี้

 

เมื่อเขาคิดว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เขาก็เริ่มเดาสถานการณ์

 

อูซงอาจจะถูกฉินเฟิงติดสินบน ลูกเตะเมื่อสักครู่ของเขาไม่ได้ออมแรงเลย เขาอยากจะให้ซือหยูบาดเจ็บจริงๆ

 

มาถึงขั้นนี้แล้ว ทำไมซือหยูยังทนได้กันนะ?

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "DND.2 - หม้อเก้ามังกรศักดิ์สิทธิ์"

4.5 2 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Tales of Herding Gods
Tales of Herding Gods
มีนาคม 12, 2022
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
จอมดาบพิฆาตสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
เกิดใหม่กับระบบไร้พ่าย
มิถุนายน 26, 2022
Eternal martial sorvereign
Eternal martial sorvereign
มีนาคม 12, 2022
กลืนดารา (Renew)
กลืนดารา (Renew)
พฤษภาคม 17, 2022
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz