หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator - ตอนที่ 20 : ผู้เชี่ยวชาญระดับพลังภายใน

  1. หน้าแรก
  2. Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
  3. ตอนที่ 20 : ผู้เชี่ยวชาญระดับพลังภายใน
Prev
Next

เมื่อเฉินฟานมาถึงร้านอาหาร เขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าบอดี้การ์ดของโจวเทียนฮ่าวอย่างอาเปียวได้รับบาดเจ็บที่แขน

 

แขนของอาเปียวถูกมัดด้วยผ้าพันแผล และถูกห่อด้วยสายสะพาย เฉินฟานคาดว่ามีใครบางคนได้หักแขนของเขา

 

‘ใครเป็นคนทำ?’ เฉินฟานคิดด้วยความสงสัย

 

เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของอาเปียวเป็นอย่างดี ความเสียหายอะไรก็ตามที่เขาได้ทำกับอาเปียวจากการเตะในคืนนั้นน่าจะหายดีไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมแขนของเขาถึงหัก?

 

เฉินฟานเดินเข้ามาหาโจวเทียนฮ่าว และภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยคำถามมากมาย

 

“บอสโจว ฉันไม่คิดว่าคุณต้องการให้ฉันมาที่นี่เพื่อฟังคำขอโทษจากคุณ ดังนั้นคุณต้องการอะไร?”

 

“ผมรู้ว่าผมคงไม่สามารถปิดบังคุณได้!” โจวเทียนฮ่าวไม่มีความละอายเลยแม้แต่น้อยที่เขามีข้ออ้างแอบซ่อนในการเกลี้ยกล่อมให้เฉินฟานมาที่นี่ “เอ่อ… ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณช่วยเหลือผมสักเล็กน้อย”

 

“ฉันกำลังฟังอยู่” เฉินฟานพยักหน้าเล็กน้อย

 

โจวเทียนฮ่าวก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วส่งสัญญาณไปให้พี่สาวหรูเพื่อบอกให้คนอื่นออกจากห้อง เมื่อทุกคนออกไปจากห้อง รอยยิ้มอันเจ็บปวดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโจวเทียนฮ่าว และพูด

 

“ตั้งแต่ที่พี่ใหญ่เฉินรู้จักกับคุณเว่ย เช่นนั้นพวกเราก็เป็นฝ่ายเดียวกัน ผมจะบอกรายละเอียดให้คุณฟัง”

 

“หนึ่งในคู่แข่งของผมที่ได้หนีออกไปต่างประเทศในช่วงต้นปีตอนนี้ได้กลับมาเดินเล่นบนสนามหญ้าของผมแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มสร้างปัญหาให้กับธุรกิจของผม ผมจึงเข้าไปพูดคุยกับเขา แต่ระยำเอ๊ย! คุณดูสิ่งที่เขาทำกับอาเปียวสิ!” โจวเทียนฮ่าวสาปแช่งอย่างเสียงดัง

 

“นายต้องการให้ฉันทำอะไร?” ริมฝีปากของเฉินฟานยกขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงระหว่างคนปกติเหล่านี้

 

“ผมรู้ว่าคุณไม่สนใจเกี่ยวกับปัญหาของผม แต่ถ้าผมบอกคุณว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นอย่าง—” โจวเทียนฮ่าวหยุดชั่วครู่แล้วถอนหายใจ “เขากลับมายังประเทศจีน ผมไม่แน่ใจว่าเขาทำได้อย่างไร แต่ทักษะศิลปะการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับครั้งล่าสุดที่ผมเห็นเขา เขาพยายามที่จะสร้างปัญหา แต่ไม่สนใจเรื่องเงิน ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรทำให้เขาขุ่นเคืองเมื่อตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น ผมได้นำบอดี้การ์ดจำนวนสิบคนไปด้วย แต่บอดี้การ์ดของผมทั้งหมดถูกจัดการโดยเขา”

 

“โอ้?” ความสนใจของเฉินฟานถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขามองไปที่อาเปียว และถาม “พลังของเขาเทียบกับฉันแล้วเป็นอย่างไร?”

 

“เขาแข็งแกร่งมากเกินไปสำหรับผมที่จะจัดการกับเขาได้ นั่นคือทั้งหมดที่ผมรู้ ผมไม่สามารถทนได้แม้แต่หมัดเดียวจากเขา ในความคิดของผม เขาแข็งแกร่งกว่าคุณมาก” อาเปียวยิ้มอย่างขมขื่น “ผมฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มานานกว่าสิบปีแล้ว แต่ผมไม่เคยเห็นใครที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้มาก่อนเลย”

 

เฉินฟานพยักหน้า

 

เขาคาดว่านี่คงจะต้องเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หรือผู้ฝึกยุทธ์ระดับพลังภายใน สำหรับความคิดเห็นของอาเปียวที่ดูเหมือนจะลดทอนความแข็งแกร่งของเขา เฉินฟานนั้นไม่สนใจ

 

ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเขาเตะอาเปียว เขาใช้พลังเพียง 30% เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะตายไปแล้ว ด้วยความก้าวหน้าในการบ่มเพาะล่าสุดของเขา เขาคิดว่าการโจมตีของเขาน่าจะมีพลังยิ่งกว่าเมื่อสามเดือนก่อนเป็นอย่างมาก

 

“ไอ้เวรนั่นขอให้ผมไปพบเขาที่เกาะกลางทะเลสาบหยานกุ้ยในคืนนี้ ผมจะขอบคุณพี่ใหญ่เฉินมากถ้าพี่ไปกับผมด้วย” โจวเทียนอ่าวพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน

 

เฉินฟานเลิกคิ้วขึ้น มีบางอย่างบอกเขาว่า ทั้งหมดนี่มีอะไรมากกว่าที่เห็น อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนี้เขาต้องการเงิน เขาจึงยอมรับข้อเสนอเพื่อที่จะได้รับค่าตอบแทน และพบปะกับผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้พลังภายใน

 

แม้ว่าโจวเทียนฮ่าวจะรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณเว่ย แต่เขาก็ยังไม่เชื่อในความสามารถของเฉินฟาน การที่เขาเชิญเฉินฟานมาก็เพื่อทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

“แน่นอน ฉันจะไปกับคุณ”

 

“เยี่ยม!” โจวเทียนฮ่าวมีความสุขมากหลังจากที่ได้ยินการตัดสินใจของเฉินฟาน “ก่อนที่พี่ใหญ่เฉินจะจากไป ผมอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังคนอื่น”

 

เฉินฟานคิดถูก โจวเทียนฮ่าวได้เชิญผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ “คนอื่น” มาด้วยจริงๆ ตัวเขาเองเป็นเพียงมาตรการฉุกเฉินเท่านั้น

 

ในขณะที่พี่สาวหรูได้ดื่มชาแดง ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มทยอยเข้ามาอย่างช้าๆ

 

โจวเทียนฮ่าวลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ และเดินไปหาหัวหน้ากลุ่มด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

 

“อาจารย์กั๋ว! ในที่สุดคุณก็มา! เชิญเข้ามาเลยครับ!”

 

หัวหน้ากลุ่มคือชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีดำ ดวงตาของเขาส่องประกายขณะที่เขาเดินเข้ามาในห้องอย่างมั่นคง และหนักแน่น ตามมาด้วยกลุ่มลูกศิษย์หนุ่มสาวที่อยู่ด้านหลัง

 

โจวเทียนฮ่าวแนะนำกลุ่มผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่เดินเข้ามาให้กับเฉินฟาน “พี่ใหญ่เฉิน นี่คือผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ผมพูดถึง เขาคืออาจารย์กั๋วเว่ยจากสโมสรศิลปะการต่อสู้เว่ยเฉียง!

 

กั๋วเว่ยจ้องมองเฉินฟานอย่างเย็นชา และพูด “เด็ก? นายจะมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้กับเราอย่างนั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า!”

 

ภายในห้องตกสู่ความเงียบงันทันที หลังจากนั้นไม่นานโจวเทียนฮ่าวก็พูดขึ้นมาเพื่อทำลายความอึดอัด “ไม่ ไม่ใช่ นี่คือพี่ใหญ่เฉิน อย่าปล่อยให้อายุของเขาหลอกคุณได้ เขาเป็นนักสู้ ไม่เชื่อคุณลองถามอาเปียวดูสิ”

 

“ดูเหมือนว่าคุณยังไม่รู้จักคู่ต่อสู้ของคุณดีสักเท่าไหร่” กั๋วเว่ยส่ายหัว และพูดอย่างไม่ใส่ใจ “บอดี้การ์ดของคุณเป็นเพียงแค่เค้กชิ้นหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้อย่างมากก็แค่มีระดับการต่อสู้อยู่เหนือบอดี้การ์ดของคุณแค่นิดหน่อยเท่านั้น”

 

“งั้นเหรอ?” โจวเทียนฮ่าวถาม จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับพลังที่แน่นอนของคู่ต่อสู้

 

เฉินฟานยิ้ม และรักษาความเงียบของเขาไว้ จนถึงตอนนี้เขายังคงสนุกกับการแสดงของอาจารย์กั๋วคนนี้อยู่

 

เขาจำที่คุณเว่ยบอกกับเขาได้ นอกจากตระกูลเว่ยแล้ว ยังมีผู้ก่อตั้งสโมสรศิลปะการต่อสู้เว่ยเฉียงที่สามารถใช้พลังภายในได้ คุณเว่ยน่าจะพูดถึงอาจารย์กั๋ว และลูกศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นที่ประจักษ์แก่เฉินฟานแล้วว่าพลังของอาจารย์กั๋วนั้นน่าสมเพชเป็นอย่างมาก และไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณเว่ยดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเขาสักเท่าไหร่

 

อาจารย์กั๋วมองเฉินฟานด้วยท่าทีที่ดูถูก จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา

 

“บอสโจว คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับพลังภายในบ้างหรือไม่?”

 

“พลังภายใน?” โจวเทียนฮ่าวขมวดคิ้ว และพึมพำ “ฟังดูคุ้นๆ”

 

อย่างไรก็ตามบอดี้การ์ดอย่างอาเปียวรู้สึกตื่นเต้นกับคำถามนี้ มือที่หักของเขาสั่นเล็กน้อย และถามออกมา “คุณหมายถึงคนคนนั้นใช้พลังภายในใช่ไหมครับ?”

 

กั๋วเว่ยพยักหน้าแล้วจ้องมองไปที่บอดี้การ์ด “ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ระดับพลังภายใน เขาจะหักแขนของคุณได้อย่างไรด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว? ความแข็งแกร่งของพลังภายในนั้นเกินกว่าขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์จะทนรับได้”

 

“อาเปียว นายรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง?” โจวเทียนฮ่าวถามบอดี้การ์ด

 

อาเปียวยิ้มแล้วพูด “ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อตอนที่ผมเรียนรู้อยู่กับท่านอาจารย์ของผม ท่านอาจารย์บอกผมว่าเมื่อพลังของผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาถึงจุดจุดหนึ่ง เขาก็จะสามารถปลดปล่อยพลังงานภายในออกมาด้านนอก และก่อตัวเป็น “พลังภายใน”

 

“ผมคิดมาเสมอว่าท่านอาจารย์ของผมเพียงแค่หลอกลวงผมเท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่เคยให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ผมยังจำได้ว่าท่านอาจารย์ของผมบอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้ไปถึงระดับพลังภายใน เขายอมรับว่าเขาไม่เคยเห็นใครที่สามารถใช้พลังภายในมาก่อนเลยในชีวิต”

 

“อาจารย์ของคุณพูดถูก ในโลกปัจจุบันมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้พลังภายในได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่มีพลังภายในปลดปล่อยพลังเข้าไปในร่างกายคนอื่น คนผู้นั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ความรวดเร็วที่น่าเหลือเชื่อของพวกเขายังสามารถจัดการผู้ที่ใช้อาวุธที่ทันสมัยเช่นปืนให้กลายเป็นไร้ประโยชน์” กั๋วเว่ยพูด “แน่นอนว่าพลังภายในไม่ใช่จุดสิ้นสุด ยังคงมีระดับพลังที่เหนือกว่าระดับพลังภายในอยู่อีก นั่นก็คือพลังระดับปรมาจารย์ผู้หลุดพ้น เมื่อไปถึงระดับนั้น พลังของผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ก็ราวกับเทพเจ้า”

 

ดวงตาของโจวเทียนฮ่าวเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นั่นเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”

 

“ฮี่ฮี่” กั๋วเว่ยหัวเราะ

 

เขายื่นฝ่ามือออกมาแล้วเหวี่ยงลงบนโต๊ะ เมื่อเขาดึงมือของเขากลับ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

 

ฝ่ามือของอาจารย์กั๋วได้ทิ้งรอยฝ่ามือที่ตื้น แต่เห็นได้ชัดไว้บนโต๊ะ

 

“นะ นี่คือพลังภายในงั้นเหรอ?” ดวงตาของโจวเทียนฮ่าวเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ

 

อาเปียวเหงื่อไหลที่หน้าผากเมื่อเขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฝ่ามือนี้กดลงบนร่างกายของเขา

 

เฉินฟานมองดูอย่างเงียบๆแล้วส่ายหัว

 

สิ่งที่กั๋วเว่ยแสดงออกมาไม่นับว่าเป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำกับลำต้นของต้นวิลโลว์ ไม่เพียงแต่โต๊ะนี้จะมาทำจากพลาสติก แต่พลังภายในของเขายังไม่สามารถปลดปล่อยออกมาจากฝ่ามือได้เลยแม้แต่เซนติเมตรเดียว

 

อย่างไรก็ตามโจวเทียนฮ่าวนั้นประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เขาเห็น “เช่นนั้นอาจารย์กั๋วก็สามารถใช้พลังภายในได้! ฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดเราสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของฉันได้!”

 

ด้วยความมั่นใจใหม่ที่ค้นพบ ในที่สุดโจวเทียนฮ่าวก็ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความบาดหมางกับศัตรูของเขา “ชายคนนี้มีชื่อว่าหลินเป่า เราเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันเมื่อฉันเริ่มก่อตั้งบริษัทของฉันขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากผ่านคู่แข่งไปไม่กี่คน ฉันก็ชั่งน้ำหนักในการจัดการกับเขา ในที่สุดฉันก็ทำให้บริษัทของเขาล้มละลาย และเขาก็หนีไปต่างประเทศ ใครจะไปคิดกันว่าเขาจะกลับมาในฐานะผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้? ฉันต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับความช่วยเหลือของคุณ อาจารย์กั๋ว เพราะเรื่องนี้ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันจึงไม่สามารถนอนหลับได้เลย”

 

หลังจากนั้นโจวเทียนฮ่าวก็หยิบกระเป๋าเอกสารออกมา และดันมันเข้าไปในอ้อมแขนของกั๋วเว่ย

 

“อาจารย์กั๋ว นี่คือเงินครึ่งแรก ในนี้มีเงินทั้งหมดห้าล้านหยวน หลังจากเราจัดการกับเพื่อนเก่าของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันจะโอนเข้าบัญชีให้คุณอีกห้าล้านหยวน และจะแนะนำคุณกับบอสของฉัน ‘เว่ยซานเย่’ ฉันมั่นใจว่าซานเย่จะสามารถใช้พรสวรรค์ของคุณได้เป็นอย่างดีเช่นกัน”

 

(เว่ยเหลา คือเว่ยซานเย่นะครับ)

 

เมื่อได้ยินคำพูดของโจวเทียนห่าว กั๋วเว่ยก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ

 

แม้ว่าเงินที่ได้รับจะดี แต่เขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือกับโจวเทียนฮ่าวเพียงเพื่อเงิน ที่เขาทำทั้งหมดนี่ก็เพื่อคอนเนคชั่นกับบอสที่ทรงพลังของโจวเทียนฮ่าว

 

เฉินฟานเฝ้ามองโดยไม่พูดอะไร

 

เขาคาดว่าโจวเทียนฮ่าว และอาจารย์กั๋วไม่รู้ว่าคุณเว่ยเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลัง ตามความเป็นจริงแล้วหลานสาวของเว่ยซานเย่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญพลังภายในที่ทรงพลังมากกว่ากั๋วเว่ยด้วยเช่นกัน

 

ที่โต๊ะอาหาร กั๋วเว่ยกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว ทุกคนประจบประแจงเขาเพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองตามที่เขาให้สัญญาไว้

 

พวกเขาตกใจอย่างยิ่งกับการแสดงความแข็งแกร่งของกั๋วเว่ย การแสดงออกถึงพลังภายในของเขาเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับคนอื่นๆ

 

เฉินฟานเดินออกจากโต๊ะอาหาร และโทรศัพท์ไปหาพี่สาวหยิง และหัวหน้าครูเพื่อขอลาหยุดในช่วงบ่ายวันนั้น

 

หลังจากทารอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กั๋วเว่ยลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองดูรายชื่อคนที่จะไปกับเขาด้วยซึ่งได้แก่ โจวเทียนฮ่าว อาเปียว มือปืนสองคน และหนึ่งในลูกศิษย์ของเขาที่กำลังใกล้จะก้าวเข้าสู่ระดับพลังภายใน พวกเขาทั้งหกจะไปพบกับหลินเป่าบนเกาะ

 

เมื่อเห็นว่าเฉินฟานไม่ได้รวมอยู่ในรายชื่อ โจวเทียนฮ่าวก็พูดขึ้นมา

 

“อาจารย์กั๋ว ฉันได้เชิญพี่ใหญ่เฉินเข้าร่วมด้วย ทำไมคุณถึงไม่พาเขาไปด้วยล่ะ?”

 

“ฉันบอกคุณแล้วว่าทำไม นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาจะไม่สามารถทนได้แม้แต่หมัดเดียวของหลินเป่า” กั๋วเว่ยอธิบาย

 

โจวเทียนฮ่าวทำหน้าไม่ถูกเมื่อเขามองไปที่เฉินฟาน และหันกลับไปมองที่อาจารย์กั๋ว

 

เฉินฟานพูดอย่างแผ่วเบา “เมื่อคุณเชิญฉันมาแล้ว ฉันจึงต้องไปปกป้องคุณ”

 

“นอกจากนี้ฉันไม่เชื่อเรื่องเล่าอันสูงส่งเกี่ยวกับพลังภายใน และพลังอมตะหรืออะไรก็ตามแต่”

 

“เด็กน้อย คุณยังเด็ก และไร้เดียงสามาเกินไป!” กั๋วเว่ยเยาะเย้ย

 

แม้เขาจะลังเล แต่ในที่สุดโจวเทียนฮ่าวก็ตัดสินใจที่จะให้เฉินฟานไปกับเขาด้วย ทั้งหมดนี่เป็นเพราะชายหนุ่มเป็นเพื่อนกับคุณเว่ย

 

กั๋วเว่ยแค่นเสียง และปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปอย่างไม่เต็มใจ

—————————————————————-

ฝากกดไลค์เพจหน่อยนะค้าบ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 20 : ผู้เชี่ยวชาญระดับพลังภายใน"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
มิถุนายน 5, 2023
ฟาร์มขั้นเทพ
ฟาร์มขั้นเทพ
พฤศจิกายน 3, 2024
The Record of Unusual Creatures  บันทึกลับอพาทเม้นรวมสัตว์มหัศจรรย์
The Record of Unusual Creatures บันทึกลับอพาทเม้นรวมสัตว์มหัศจรรย์
มีนาคม 12, 2022
สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
พฤษภาคม 20, 2022
เกิดใหม่ทั้งทีขอลิขิตรักเอง (นิยายแปล) **จบแล้ว**
เกิดใหม่ทั้งทีขอลิขิตรักเอง (นิยายแปล) **จบแล้ว**
มีนาคม 12, 2022
นายน้อยเจ้าสำราญ (นิยายแปล)
นายน้อยเจ้าสำราญ ***จบแล้ว***
กรกฎาคม 4, 2023
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz