หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator - ตอนที่ 14 : ศิลปะการต่อสู้ลับตระกูลเว่ย

  1. หน้าแรก
  2. Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
  3. ตอนที่ 14 : ศิลปะการต่อสู้ลับตระกูลเว่ย
Prev
Next

ในขณะเดียวกันเฉินฟานกำลังเดินทางไปยังที่พักของเว่ยฝู

 

ครั้งนี้เสี่ยวฉีไม่ได้ขับแลนด์โรเวอร์ แต่เป็น Audi A6 รุ่นเก่าซึ่งมีราคาถูกกว่าแลนด์โรเวอร์

 

อย่างไรก็ตามจากป้ายทะเบียนที่ดูเก่าแต่ถูกปัดฝุ่นมาอย่างดีรวมไปถึงการตกแต่งภายในดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ในสภาพที่สะอาดหมดจด เฉินฟานก็สามารถบอกได้ว่ารถคันนี้มีคุณค่าต่อคุณเว่ยกว่ารถแลนด์โรเวอร์มาก

 

เสี่ยวฉีดึงกระจกมองหลังลงเพื่อมองดูเฉินฟาน และพูด

 

“ผมคิดว่าคุณคงเดาได้แล้วว่าเจ้านายของผมคือใครใช่ไหมครับ?”

 

เฉินฟานพยักหน้า

 

ในที่สุดเขาก็จำได้ว่าชายชราคนนั้นเป็นใคน

 

‘เว่ยฝู!’

 

เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองซูโจวซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วประเทศจีน ไม่แปลกใจเลยที่เฉินฟานรู้สึกว่าชื่อนั้นฟังดูคุ้นหูเมื่อเขาได้ยินในครั้งแรก

 

เมืองซูโจวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูตง และเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ดีที่สุด ในศตวรรษที่ผ่านมาเว่ยฝูเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเพียงคนเดียวที่มาจากเมืองนี้

 

มีข่าวลือว่าเขามาจากตระกูลลึกลับที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน เมื่อตอนที่เขายังเป็นหนุ่ม เขาเป็นคนที่ริเริ่มธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น และกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองในช่วงปลายยุค 70

 

ในปี 1980 เขาก็เริ่มเกษียณตัวเองออกจากแวดวงธุรกิจ แต่เขาก็ได้สะสมความมั่งคั่งไปมากมายจนไม่มีใครรู้ว่าเขาร่ำรวยมากขนาดไหน

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่โจวเทียนฮ่าวจะรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเขาเห็นเสี่ยวฉี ในทางกลับกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ดูเหมือนว่าโจวเทียนฮ่าวจะมีคอนเนคชั่นที่พิเศษบางอย่างกับตระกูลเว่ยด้วยเช่นกัน

 

คุณเว่ยมีชื่อเสียงที่โด่งดัง เขาไม่ใช่ฮีโร่ของเมืองนี้หรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงเข้าไปพัวพันกับพวกอันธพาลอย่างโจวเทียนฮ่าวด้วยล่ะ? เฉินฟานขมวดคิ้ว เสี่ยวฉีสังเกตเห็นถึงความกังวลของเฉินฟาน ดังนั้นเขาจึงอธิบายออกมา

 

“ท่านเว่ยมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 2 คน ลูกชายคนโตประสบความสำเร็จ และลูกชายคนที่สองก็ไม่ได้เลวร้ายเช่นกัน”

 

“แต่ลูกชายคนที่สามนั้นต่างออกไป เขาขี้เกียจ และเสียคน เขาเปิดบริษัทของตัวเองที่ข้องเกี่ยวกับพวกที่น่ารังเกียจในเมืองซูโจว จนถึงตอนนี้เขาทำทุกอย่างออกมาได้ดีมาก แต่ก็ต้องขอบคุณคอนเนคชั่นจากตระกูลของเขาด้วยเชนกัน และโจวเทียนฮ่าวก็เป็นคนที่ทำงานให้กับเขา”

 

แม้แต่คนนอกเช่นเสี่ยวฉีก็ไม่สามารถทนกับลูกชายคนที่สามอย่างเว่ยเหลาได้ เห็นได้ชัดว่าลูกชายคนสุดท้องไม่เหมือนกับพ่อของเขา

 

เฉินฟานพยักหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาเข้าใจแล้ว

 

เมื่อรถผ่านทางหลวงที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ มันก็มุ่งหน้าไปยังภูเขาหมอก หลังจากนั้นไม่นานเสี่ยวฉีก็ขับรถไปหน้าอาคารอิฐขนาดใหญ่ที่มีกระเบื้องหลังคาโลหะสีเขียว

 

“ท่านเว่ยมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย ดังนั้นส่วนใหญ่ท่านเว่ยจะอยู่ในศูนย์บำบัดสุขภาพแห่งนี้” เสี่ยวฉีจอดรถ และนำเฉินฟานเข้าไปในอาคาร

 

เส้นทางที่นำไปสู่ทางเข้าห้องโถงหลักนั้นเงียบสงบ และเฉินฟานก็เห็นชายชรา และหญิงสาวจำนวนมากพร้อมกับพยาบาลในชุดสีขาว ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ที่เขาเห็นนั้นเข้ากันได้ดี และมีอายุเจ็ดสิบถึงแปดสิบปี พวกเขาเลือกสถานที่ที่เงียบสงบแห่งนี้เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของพวกเขา

 

“สภาพแวดล้อมของที่นี่ยอดเยี่ยมมาก! ที่นี่เหมาะสำหรับการฟื้นตัวมากจริงๆ” เฉินฟานพูดขึ้นในขณะที่เขาประหลาดใจกับวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และสไตล์ของนักออกแบบที่ออกแบบสถานที่แห่งนี้

 

ในที่สุดเมื่อเขาเห็นคุณเว่ย เขาก็พบว่าชายชรากำลังฝึกประดิษฐ์ตัวอักษรอยู่ ซีชิงยืนเคียงข้างคุณปู่ของเธอ และกำลังฝนหมึกโดยการบดแท่งหมึกเบาๆลงบนกล่องหมึก

 

เฉินฟานศึกษางานประดิษฐ์ตัวอักษรของคุณเว่ย และรู้สึกทึ่งกับลายเส้นที่ยอดเยี่ยม เห็นได้ชัดว่าคุณเว่ยได้ฝึกฝนศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรมาอย่างน้อยสองถึงสามทศวรรษ

 

“มิสเตอร์เฉินดูเหมือนว่าคุณจะมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรด้วยงั้นหรือ?” คุณเว่ยตั้งพู่กันไว้ด้านข้าง และถามออกมาด้วยรอยยิ้มต้อนรับ

 

(ุคุณเว่ยจะเรียกเฉินฟานว่ามิสเตอร์เฉินนะครับ ลองย้อนไปอ่านตอนที่ 7 เผื่อใครลืม)

 

ชายสูงอายุสวมเสื้อเชิ้ต และกางเกงหลวมๆซึ่งผู้สูงอายุที่ฝึกไทเก็กมักสวมใส่ ชุดที่สบายทำให้คุณเว่ยดูผ่อนคลายมากกว่าตอนที่เขาอยู่ในชุดออกงาน เฉินฟานคาดว่าเขาคงรู้สึกผ่อนคลาย และปราศจากความกังวลเมื่อเขาอยู่ที่นี่

 

“ฉันรู้แค่นิดหน่อยเท่านั้น”

 

เฉินฟานพูดความจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนพู่กัน จิตรกรรมหรือดนตรี เขาก็ไม่มีพรสวรรค์หรือความสนใจใดๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

 

“ฉันคิดว่าคุณจะมารักษาคุณปู่ของฉันในวันนี้ แล้วเครื่องมือของคุณเช่นเข็ม และอะไรทำนองนั้นอยู่ที่ไหนกันล่ะ?” เว่ยซีชิงพูดโผล่งขึ้นมาทันที บางสิ่งเกี่ยวกับเฉินฟานทำให้เธอกระวนกระวายใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

เฉินฟานพบว่าเธอใส่ชุดที่ดูสบายๆ เธอสวมเสื้อยืดสีขาว และกางเกงขาสั้นจนเผยให้เห็นต้นขาที่เรียวยาวคู่หนึ่ง เมื่อเทียบกับชุดออกกำลังกายตอนเช้าของเธอแล้ว สไตล์ที่แตกต่างเช่นนี้ได้เปิดเผยความงดงามของเธอออกมา

 

“วิธีการรักษาของฉันไม่จำเป็นต้องฝังเข็มหรือทำการนวด” เฉินฟานส่ายหัว

 

“ดูนี่สิ” เฉินฟานส่งหนังสือเล่มหนึ่งให้กับคุณเว่ย บนหน้าปกเขียนไว้ว่า “ศิลปะการต่อสู้ลับตระกูลเว่ย”

 

ศิลปการต่อสู้ะลับนี้เป็นเทคนิคโคจรพลังภายในที่เฉินฟานสร้างขึ้นมาโดยปรับปรุงจากเทคนิคเก่าของคุณเว่ย เฉินฟานจึงตั้งชื่อที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดขึ้นมา

 

“นี่คือ?” เว่ยฝูรับหนังสือเล่มนี้มาอย่างสับสน อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาเริ่มอ่านมัน การแสดงออกที่สับสนบนใบหน้าของเขาก็แปนเปลี่ยนเป็นตกตะลึง

 

“มีอะไรผิดปกติเหรอคะคุณปู่?” ซีชิงถามขึ้นมา

 

หลังจากเว่ยฝูอ่านหน้าสุดท้ายเสร็จแล้ว เขาก็ปิดหนังสือ และปิดตาของเขาในขณะที่จมไปในห้วงความคิด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจ และลืมตาขึ้นมา

 

เขาหันไปหาเฉินฟาน และโค้งคำนับให้กับเขา “ขอบคุณมากมิสเตอร์เฉิน ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำเพื่อฉันในครั้งนี้เลย”

 

“ไม่เป็นไร โชคชะตานำคุณ และฉันมาพบกัน ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถทนนั่งดูคุณอยู่เฉยๆได้” เฉินฟานยอมรับการคำนับของชายชรา และตอบกลับ

 

“คุณปู่คะ คุณปู่คำนับเขาทำไมคะ? เขาทำอะไรให้กับคุณปู่กัน?”

 

ซีชิงประคองเว่ยฝูให้ยืนตัวตรงหลังจากที่โค้งคำนับให้กับเฉินฟาน เธอหันไปจ้องเฉินฟานอย่างรวดเร็ว และโทษเขาที่ทำตัวไร้ยางอายโดยปล่อยให้ผู้อาวุโสกว่าโค้งคำนับเขา

 

เฉินฟานยิ้มออกมาในขณะที่เขาคร่ำครวญถึงความหัวแข็งของหญิงสาว เมื่อไม่นานมานี้เธอได้อ้อนวอนเฉินฟานเพื่อขอให้เขาช่วยปู่ของเธอ และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ทันทีที่เธอพบว่าสิ่งต่างๆไม่ได้เป็นเหมือนเช่นที่เธอคาดไว้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางหายไปในพริบตา

 

“มิสเตอร์เฉิน ทำไมคุณถึงไม่อธิบายให้ซีชิงฟังสักหน่อยล่ะ” คุณเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

 

เฉินฟานพูดอย่างช้าๆ “อาการบาดเจ็บของคุณปู่ของเธอส่วนใหญ่เกิดจากเหตุสองปัจจัย ปัจจัยแรกคือการบาดเจ็บที่เขาได้รับเมื่อตอนที่เขายังเป็นหนุ่ม และเนื่องจากเขาปล่อยให้อาการบาดเจ็บเรื้อรัง สภาพปอดของเขาจึงทรุดหนักเกินกว่าจะช่วยได้”

 

“ปัจจัยที่สองคือเทคนิคของเขาใช้ในการโคจรพลังภายใน ทุกครั้งที่เขาโคจรพลังภายใน เขาจะสร้างความเสียหายให้กับปอดของเขาเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปปอดของเขาก็ได้สะสมอาการบาดเจ็บทีละเล็กทีละน้อยมาเนิ่นนานจนทำให้ปอดของเขาอ่อนแอ และเป็นอันตราย”

 

“หากเป็นเช่นนั้น ปอดของฉันก็ได้รับความเสียหายเหมือนกันงั้นเหรอ?” เว่ยซีชิงถาม

 

“ในทางทฤษฎีแล้วใช่ แต่ฉันคิดว่าเธอไม่มีพลังมากพอที่จะทำให้ปอดของเธอเป็นอันตรายได้หรอกนะ” เฉินฟานยักไหล่

 

เว่ยซีชิงกลอกตามองไปที่เฉินฟานเมื่อเธอได้ยินว่าปอดของเธอไม่เป็นอันตรายเพราะเธออ่อนแอมากเกินไป

 

คุณเว่ยพยักหน้า “ก่อนที่จะเริ่มเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ พ่อ และแม่ของฉันก็ได้เตือนฉันถึงอันตรายจากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของตระกูลเมื่อทำการโคจรพลังภายใน แต่ฉันไม่มีทางเลือก ถ้าฉันไม่ฝึกฝน ฉันก็ตาย เป็นเพราะเหตุนี้ฉันจึงไม่เคยสอนลูกๆเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของตระกูล ถ้าซีชิงไม่ยืนหยัดที่จะฝึกฝนให้ได้ ฉันก็พร้อมที่จะนำศิลปะการต่อสู้ของตระกูลฝังกลบไปกับฉันที่หลุมศพ” คุณเว่ยพูดขึ้นมา

 

“หนังสือเล่มนี้คืออะไร?” เว่ยซีชิงถามอย่างสงสัย

 

“หนังสือเล่มนี้คือศิลปะการต่อสู้ของตระกูลฉบับปรับปรุง ตอนนี้ศิลปะการต่อสู้ของตระกูลไม่มีอันตรายอีกต่อไปแล้ว” เฉินฟานพูด

 

“ไม่เพียงแต่จะไม่เป็นอันตราย แต่มันยังทรงพลังมากกว่าศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมของเรามาก ฉันขอนับถือความรอบรู้เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของคุณ มิสเตอร์เฉิน!” เว่ยฝูพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์

 

ตระกูลเว่ยได้ปรับปรุงศิลปะการต่อสู้นี้มานานกว่าหลายร้อยปี แต่พวกเขาก็ล้มเหลวแม้กระทั่งการปรับปรุงเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ฝึกฝนก็ยังไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามชายหนุ่มคนนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน และได้ปรับปรุงศิลปะการต่อสู้นี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ฝึกฝน และแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม

 

“คุณปู่ไปบอกเขาเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของตระกูลเราตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาเปลี่ยนแปลงศิลปะการต่อสู้ของเราโดยไม่ดูตำราของเราเลยงั้นเหรอ?” เว่ยซีชิงถามด้วยความสับสน

 

“นั่นคือความแตกต่างระหว่างเธอกับปรมาจารย์ยังไงล่ะ” เว่ยฝูส่ายหัว และกล่าวออกมาด้วยความชื่นชม “มีเพียงปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใจถึงศิลปะการต่อสู้ได้ด้วยการมองแค่ดูครั้งเดียว พวกเขาเป็นอัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้ที่สามารถสร้างสำนักของตัวเอง และสร้างศิลปะการต่อสู้แบบใหม่ขึ้นมา”

 

เฉินฟานโบกมือ และตอบ “อย่างที่ฉันพูด ฉันเป็นแค่นักบวชไม่ใช่ปรมาจารย์”

 

“ถ้าคุณสามารถทำสิ่งที่ปรมาจารย์สามารถทำได้ แล้วชื่อเรียกขานจะไปมีความสำคัญอันใด?” เว่ยฝูหัวเราะ

 

“ฉันไม่คาดหวังว่าคุณจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้” หลังจากได้รับความเชื่อมั่นจากคุณปู่ของเธอ เว่ยซีชิงที่ไม่เคยชอบเฉินฟานมาก่อนก็เริ่มมีความรู้สึกเคารพต่อชายหนุ่มคนนี้มากยิ่งขึ้น

 

เฉินฟานยิ้ม และพูด “อ่า นี่เป็นเม็ดยาฟื้นฟูความแข็งแกร่งระดับต่ำ 10 เม็ด” เฉินฟานหยิบขวดแก้วออกมาจากกระเป๋า และส่งมันให้กับเว่ยซีชิง “ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปู่ของเธอกินยานี้ทุกสองสามวัน ด้วยความช่วยเหลือของศิลปะการต่อสู้แบบใหม่ ปู่ของเธอก็น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว”

 

“ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ ฉันก็จะสามารถสร้างเม็ดยาฟื้นฟูความแข็งแกร่งที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ได้ เม็ดยาเหล่านี้ทรงพลังมาก มันสามารถนำคนตายกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง และรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆได้”

 

“เรื่องจริงงั้นเหรอ?” เว่ยซีชิงจับขวดแก้วราวกับสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นเธอก็หันไปหยอกเย้าเฉินฟาน “นี่คุณกำลังหลอกขายน้ำมันงูให้กับเราอยู่รึเปล่า?”

 

(น้ำมันงูเป็นยาแผนโบราณที่ชาวจีนรู้จักกันดีมานานนับพันปี มันเป็นน้ำมันสกัดจากงูสายรุ้ง งูที่มีพิษอ่อนมากอาศัยอยู่ในน้ำ มีสรรพคุณในการรักษาอาการเคล็ดยอกกล้ามเนื้อ และปวดเมื่อยตามร่างกาย)

 

“ก็แล้วแต่จะคิด” เฉินฟานยักไหล่ให้เธอในขณะที่เว่ยซีชิงทำหน้ามุ่ย

 

‘หมอนี่กวนโอ้ยมาก’ เว่ยซีชิงสาปแช่งอยู่ในใจ ‘ทำไมเขาถึงต้องถูกอยู่เสมอ? เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการพูดคุยกับผู้หญิงงั้นเหรอ?’

 

“ฉันไม่คิดว่านี่เป็นน้ำมันงู ทำไมคุณถึงไม่บอกเราว่าต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้างในการทำเม็ดยาเหล่านั้น บางทีเราอาจสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้” คุณเว่ยพูดขึ้นมา

 

“แน่นอน ฉันสามารถมอบสูตรให้แก่คุณได้ แต่นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้วิธีทำเม็ดยาเหล่านั้น” เฉินฟานตอบกลับอย่างสบายอารมณ์

 

จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษออกมาหนึ่งชิ้นแล้วจดรายการส่วนผสม

 

การสร้างเม็ดยาจากการสกัดวิญญาณจำเป็นต้องใช้ผู้บ่มเพาะที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษซึ่งสามารถพบเห็นได้จากผู้บ่มเพาะระดับสูงเท่านั้น หากปราศจากผู้บ่มเพาะ ส่วนผสมราคาแพงก็เปล่าประโยชน์

 

คุณเว่ยทำทำการตรวจสอบส่วนผสม และพบว่าเม็ดยานี้ไม่เพียงแต่ต้องการสมุนไพรที่หายากบางตัว แต่สมุนไพรเหล่านี้จำเป็นต้องมีอายุมากกว่าสองถึงสามร้อยปีอีกด้วย แม้แต่ตระกูลเว่ยก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการรวบรวมสมุนไพรเป็นเวลาซักพัก คุณเว่ยพยักหน้าแล้วส่งรายชื่อไปให้เสี่ยวฉี จากนั้นเขาก็สั่งให้เสี่ยวฉีเริ่มออกไปค้นหา และรวบรวมสมุนไพรเหล่านั้น

 

“ฉันได้ทำส่วนของฉันเสร็จแล้ว ตอนนี้ฉันมีคำถามบางอย่างที่จะถามคุณเกี่ยวกับโลกของศิลปะการต่อสู้ และวิธีการทำงาน” เฉินฟานพูด

 

เว่ยฝูพยักหน้า และพูด “ฉันรู้ว่าคุณจะต้องถามเรื่องนี้”

—————————————————————————-

มีอะไรพูดคุยได้ที่ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 14 : ศิลปะการต่อสู้ลับตระกูลเว่ย"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เจ้าแห่งเกาะ
เจ้าแห่งเกาะ
พฤษภาคม 17, 2022
Badge in Azure
Badge in Azure
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
มิถุนายน 5, 2023
Harry Potter and the Secret Treasures
Harry Potter and the Secret Treasures
มีนาคม 11, 2025
หงส์สยายปีก
หงส์สยายปีก
มีนาคม 12, 2022
เทพอสูรปราบเซียน
เทพอสูรปราบเซียน
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz