หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator - ตอนที่ 4 : กลั่นร่างไร้สิ้นสุด

  1. หน้าแรก
  2. Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
  3. ตอนที่ 4 : กลั่นร่างไร้สิ้นสุด
Prev
Next

เฉินฟานร่วมทานอาหารกับครอบครัวเจียงอย่างราบรื่น ครอบครัวเจียงนั้นรักษามารยาทบนโต๊ะอาหารแบบดั้งเดิมอย่างเคร่งครัดซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการพูดคุยกันในระหว่างที่กำลังทานอาหาร

 

อย่างไรก็ตามเฉินฟานไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ จิตใจของเขานึกย้อนกลับไปยังความทรงจำในอดีตของเขา

 

‘เป็นเวลานานแล้วที่ฉันไม่ได้กินอาหารฝีมือของป้าถัง’ เขาคิดอย่างโหยหา

 

การแต่งงานของป้าถังนั้นไม่ได้ราบรื่นสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอต้องแต่งงานกับเจียงไห่ซานที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล เขามักจะติดอยู่กับงานของรัฐบาล และไม่ค่อยกลับบ้าน ดังนั้นทั้งคู่จึงห่างเหินกัน

 

เฉินฟานจดจำได้ว่าเมื่อตอนที่เขายากจน และหมดหนทาง เขามักจะมาขอทานอาหารกับป้าถังอยู่เสมอ สำหรับเขาแล้วอาหารของป้าถังเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เขาเคยกินมา

 

‘ช่างน่าเสียดาย ป้าถังนั้นงดงาม และมีทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่เธอต้องมาแต่งงานกับสามีที่แสวงหาแต่อิทธิพล’ เฉินฟานคร่ำครวญอยู่ภายในใจ

 

ในขณะที่เธอวิ่งเต้นไปมาระหว่างห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ป้าถังก็หยุดพักชั่วครู่แล้วพูดกับเฉินฟาน “เสี่ยวฟาน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาเที่ยวที่เมืองซูโจว ป้าจะให้หลันหลันพาเธอเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อของที่เธอต้องการ และของใช้เบ็ดเตล็ด ป้าคิดว่าเธอน่าจะยังไม่มีของใช้ส่วนตัวที่เธอต้องการภายในที่พักใช่ไหมจ๊ะ”

 

“ขอบคุณครับป้าถัง” เฉินฟานยอมรับข้อเสนอโดยไม่สนใจเจียงซูหลัน

 

เจียงซูหลันพยักหน้าด้วยความรำคาญ เธอแสร้งทำเป็นเห็นด้วย แต่ทันทีที่เธอออกจากบ้าน เธอจะทิ้งชายหนุ่มทันที

 

เมื่อมื้ออาหารค่ำจบลง เฉินฟานก็อำลาป้าถังด้วยรอยยิ้ม

 

ทันทีที่เฉินฟานเดินออกจากบ้านพร้อมกับเจียงซูหลัน รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวก็หายวับไปอย่างฉับพลัน

 

เธอพูดอย่างเย็นชาโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองเฉินฟาน “ฉันยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำอีกมากมาย นายสามารถไปซื้อของคนเดียวได้ใช่ไหม?”

 

เธอหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “นายรู้วิธีเรียกแท๊กซี่รึเปล่า?” เสียงของเธอเจือปนไปด้วยความรำคาญ เธอคิดว่าเฉินฟานจะแกล้งทำเป็นโง่งม และยืนยันให้เธอไปพร้อมกับเขา แต่เธอต้องประหลาดใจเมื่อเห็นชายหนุ่มพยักหน้า และพูด “รู้สิ เธอจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ”

 

เธอยังไม่กลับเข้าบ้านจนกว่าร่างของเฉินฟานจะจางลับหายไป ความรู้สึกผิดได้คืบคลานเข้ามาภายในใจ อย่างไรก็ตามเธอ และเขาแตกต่างกันมาเกินไป เมื่อเธอคิดถึงความแตกต่างในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฐานะ การศึกษาหรืออะไรก็ตาม เธอจึงคิดว่าสิ่งที่เธอทำไปนั้นถูกต้องแล้ว ยิ่งเธอแสดงความชัดเจนต่อเขาเร็วเท่าไร มันก็ยิ่งเป็นผลดีกับเขามากขึ้นเท่านั้น

 

“หืม… เกิดอะไรขึ้น? ลูกไม่ได้ไปกับเขางั้นเหรอ?” ป้าถังถามลูกสาวของเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันทีในขณะที่เจียงซูหลับก้าวเข้ามาในบ้านอีกครั้ง

 

เจียงซูหลันยังคงต่อสู้กับความรู้สึกผิดภายในใจ และพูดออกมาอย่างแผ่วเบา “เขาบอกว่า… เขาสามารถไปเองคนเดียวได้ค่ะ”

 

จากนั้นเธอก็ได้ยินพ่อของเธอแค่นเสียง “ฉันจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวของฉันออกไปเที่ยวกับไอ้คนขี้แพ้แบบนี้หรอกนะ!”

 

ตอนนี้อาชีพของเจียงไห่ซานนั้นแนบชิดติดเพดานแล้ว เพื่อที่จะได้รับการส่งเสริมให้สูงขึ้นไปอีก เขาจะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองที่สำคัญเช่น รองนายกเทศมนตรีหลี่

 

โชคดีของเจียงไห่ซานที่ลูกชายของรองนายกเทศมนตรีไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับลูกสาวของเขาเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเขายังสนใจเจียงซูหลันมากอีกด้วย รองรัฐมนตรีหลี่ได้กล่าวถึงโอกาสในการแต่งงานระหว่างทั้งสองขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่เขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ แต่เจียงไห่ซานก็ไม่สามารถตกลงยอมรับข้อเสนอได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกสาวของเขายังเด็ก

 

เมื่อเจียงไห่ซานได้ยินเรื่องราวความสำเร็จเกี่ยวกับแม่ของเฉินฟาน เขาจึงมีความคาดหวังต่อชายหนุ่มคนนี้สูงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้พบกับเฉินฟานแล้ว เขาก็ต้องยอมรับว่าความจริงนั้นห่างไกลจากสิ่งที่เขาคาดหวังไปไกลโข หลี่อี้เฉินลูกชายของรองนายกเทศมนตรีเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมมากกว่าสำหรับลูกสาวของเขา

 

เขาเดินผ่านห้องครัว และบ่น “ลูกสาวของเรายังเด็กอยู่ ดังนั้นเธออย่าเพิ่งพาใครมาที่บ้านของเราจะดีกว่า ลูกของเราควรมุ่งเน้นไปที่การเรียนก่อนสิถึงจะถูก!”

 

ป้าถังขมวดคิ้ว และรีบเดินออกจากห้องครัว “คุณว่าไงนะ? เธอเป็นลูกสาวของฉัน และนี่ก็คือบ้านของฉัน ฉันสามารถพาใครก็ได้ที่ฉันต้องการมาที่นี่!”

 

เมื่อเห็นพ่อ และแม่ของเธอเริ่มทำการโต้เถียงกันอีกครั้ง เจียงซูหลันก็เดินตรงไปที่ห้องของเธออย่างซึมเศร้า คืนนี้มันควรจำเป็นค่ำคืนที่ดี และเงียบสงบสิ แต่ชายหนุ่มชนบทคนนั้นกลับมาทำลายทุกสิ่งพังทลายไปหมด

 

ในขณะเดียวกันเฉินฟานได้เดินมาถึงทะเลสาบ เขาไม่ได้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อ และลูกสาวที่ไม่ค่อยชอบเขามากเท่าไหร่นัก พวกเขาทั้งสองนั้นไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย และตอนนี้เขายังมีปลาตัวโตกว่าที่จะต้องทอด [1]

 

ขณะที่เขาเดินไปตามเส้นทางเลียบฝั่งทะเลสาบ เขาก็รับรู้ได้ถึงกระแส และการไหลเวียนพลังงานรอบตัวเขา

 

พลังฉีไม่คงที่ มันไหลเหมือนสายน้ำ และมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีพลังฉีเบาบาง นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก พลังฉีเหล่านี้จะไหลไปรวมตัวกัน และสร้างเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะเรียกกันว่า ‘สระวิญญาณ’

 

หลังจากเดินไปตามทางไม่กี่ไมล์ เฉินฟานก็หยุดลง

 

“ที่นี่ก็แล้วกัน ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขายุนวูหากฉันต้องการค้นหาตำแหน่งที่ดีมากกว่านี้” เขามองไปรอบๆ และพบว่าเขาอยู่ในดงต้นวิลโลว์ แม้จะเป็นช่วงค่ำของฤดูร้อน แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงสายลมที่เย็นสบายพัดมากระทบบนผิวหนัง และมันก็ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างสบายมาก

 

เมื่อเฉินฟานพบต้นวิลโลว์ขนาดใหญ่ เขาจึงนั่งลง และไขว่ขา เขาหันหน้าเข้าหาทะเลสาบหยานกุ้ย

 

ทะเลสาบหยานกุ้ยตั้งอยู่ข้างๆย่านเขตเมืองที่พัฒนาแล้ว และเป็นทะเลสาบที่ผู้คนเรียกกันว่า “ทะเลสาบนางแอ่นหวน” ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซูโจว บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงแรมหลายแห่งถูกสร้างขึ้นรอบๆทะเลสาบ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของน้ำที่ทะเลสาบมอบให้ เมืองซูโจวที่ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของมณฑลก็มีเสน่ห์ของทางภาคใต้ผสมอยู่ด้วยเช่นกัน

 

ภายใต้ต้นวิลโลว์ เฉินฟานปล่อยให้สายลมพัดผ่านในขณะที่เขาเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่เย็นสดชื่นจากทะเลสาบ

 

ระดับของการบ่มเพาะแบ่งออกเป็นแปดระดับคือ ปรับแต่งพลังฉี หลอมรวม แก่นทองคำ รวมวิญญาณ กำเนิดวิญญาณ สูญตา หวนคืน และภัยพิบัติ และภายใต้ระดับหลักแต่ละระดับก็ยังแบ่งออกเป็นขั้นย่อย ยกตัวอย่างเช่นระดับแรกประกอบด้วยสามขั้นย่อยคือ สร้างรากฐาน ก่อกำเนิด และทะเลปราณ

 

ขั้นย่อยแรกเกี่ยวกับการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งซึ่งทำให้ช่วยพัฒนาการบ่มเพาะได้เป็นอย่างมาก เมื่อสร้างรากฐานเสร็จสมบูรณ์ ผู้บ่มเพาะจะมีพลัง ความแข็งแกร่ง ความเร็ว การตอบสนองที่เพิ่มมากขึ้น การสร้างรากฐานถือได้ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านร่างกายที่เกินขอบเขตของร่างกายมนุษย์ ผู้บ่มเพาะจะมีความสามารถในการรวบรวมพลังในระดับหนึ่งเพื่อนำมาใช้เวทมนตร์คาถาระดับต่ำได้เล็กน้อย

 

อีกสองขั้นย่อยมักจะถูกนำมารวมเข้าด้วยกัน และเรียกกันว่าขั้นตอนการ ‘กำเนิดอมตะ’ เมื่อผู้บ่มเพาะทำการบ่มเพาะทั้งสองขั้นเสร็จสมบูรณ์ เขาหรือเธอจะสามารถใช้คาถา และศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังได้มากยิ่งขึ้น พวกเขาจะสามารถเรียกใช้องค์ประกอบของธาตุต่างๆตามธรรมชาติได้เช่น เปลี่ยนผืนดินให้เป็นโกเลมที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย ภายใต้สายตาของมนุษย์ธรรมดาแล้ว ผู้บ่มเพาะเหล่านี้ไม่ได้แตกต่างไปจากพระเจ้าเลยแม้แต่น้อย

 

หลังจากผู้บ่มเพาะสำเร็จระดับแรกแล้ว เขาหรือเธอจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่เรียกว่า ‘หลอมรวม’ ในระดับที่สอง เมื่อเข้าสู่ระดับหลอมรวมแล้ว เขาหรือเธอจะสามารถบินไปได้ทั่วทุกที่ที่ต้องการ และมีอายุไขเพิ่มขึ้น 500 ปี อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีพลังเวทมนตร์คาถาเหล่านั้น แต่พวกเขายังคงห่างไกลจากการเป็นอมตะมากอยู่ดี

 

“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ฉันจะไปนึกถึงระดับหลอมรวม ฉันควรเริ่มต้นด้วยการมุ่งเน้นไปที่การสร้างรากฐานก่อนเป็นลำดับแรก”

 

“ฉันควรใช้เทคนิดใดเพื่อสร้างรากฐานครั้งใหม่ของฉันดี?” เฉินฟานถามตัวเอง

 

“เหตุผลที่การบ่มเพาะของฉันล้มเหลวในการก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ปีศาจภายในจิตใจ แต่ยังเป็นเพราะรากฐานที่เปราะบางของฉันด้วยเช่นกัน” เฉินฟานส่ายหน้าในขณะที่เขานึกย้อนไปยังการบ่มเพาะที่ผ่านมาในอดีตของเขา

 

“ตอนนี้ฉันต้องเลิกหาข้ออ้าง และข้อแก้ตัว ความพินาศย่อยยับของฉันคือการที่ฉันไม่สามารถทำทุกขั้นตอนให้สมบูรณ์แบบได้ เวลานี้ฉันต้องเรียนรู้จากบทเรียนเก่า และสร้างแต่ละขั้นตอนให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” เมื่อคิดถึงความล้มเหลวในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการบ่มเพาะ เฉินฟานก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสียใจ

 

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายสิ่งที่เฉินฟานได้แต่รู้สึกขอบคุณ เขาได้รับโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์

 

ขั้นตอนการสร้างรากฐานเป็นขั้นตอนแรกของการบ่มเพาะ และยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากที่สุด เพื่อที่จะไม่ทำซ้ำตามความผิดพลาดเดิมในอดีต เฉินฟานจึงตัดสินใจที่จะใช้โอกาสในครั้งนี้ทำทุกขั้นตอนให้สมบูรณ์แบบ

 

“ฉันได้รวบรวมเทคนิคลับ และเวทมนตร์คาถาทุกชนิดในช่วงเวลา 500 ปีที่ผ่านมา ในคอลเล็กชั่นของฉัน เพียงแค่เทคนิคการสร้างรากฐาน ฉันก็มีถึงหนึ่งหมื่นสามพันสามร้อยหกเทคนิคเข้าไปแล้ว ในช่วงชีวิตสุดท้ายของฉัน ฉันได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างรากฐานจากนิกายสวรรค์ยอดนักสู้ เทคนี้ของนิกายนี้ช่างเรียบง่าย และตรงไปตรงมา แต่อย่างไรก็ตามฉันต้องการบางสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

 

“ฉันจะใช้เทคนิคการสร้างรากฐานของนิกายเต๋า เทคนิคกลั่นร่างไร้สิ้นสุด!”

 

นิกายเต๋าเป็นหนึ่งในนิกายที่โดดเด่นที่สุดในดินแดนแห่งการบ่มเพาะ แม้ว่านิกายเต๋าจะไม่เคยมีบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาก็มีความโดดเด่นในเรื่องของเทคนิคการสร้างรากฐานที่โดดเด่น และศิลปะการต่อสู้เป็นเอกลักษณ์

 

เมื่อเชี่ยวชาญเทคนิคกลั่นร่างไร้สิ้นสุด เทคนี้จะช่วยให้ผู้บ่มเพาะสามารถควบคุม และกลั่นพลังฉีได้หลากหลายมากมายกว่าผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ

 

“การควบคุมไม่เพียงแต่เป็นกุญแจสำคัญของเทคนิคการบ่มเพาะนี้เท่านั้น แต่มันยังเป็นส่วนสำคัญสำหรับการบ่มเพาะบนโลกที่มีพลังฉีจำกัด พลังฉีบนโลกนี้กำลังเหือดแห้ง และฉันต้องการขูดรีดทรัพยากรที่มีประโยชน์เท่าที่ฉันจะสามารถหาได้ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร สมบัติต่างๆ และแม้กระทั่งพลังที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างพลังฉีแห่งความอาฆาต และพลังฉีแห่งความตาย ในสถาการณ์เช่นนี้ไม่มีเทคนิดใดจะเหมาะสมไปกว่าเทคนี้กลั่นร่างไร้สิ้นสุดอีกแล้ว!”

 

สำหรับผู้บ่มเพาะเช่นเขาแล้ว พลังฉีแห่งความอาฆาต พลังหยินหรือพลังฉีแห่งความตายก็ไม่ต่างไปจากเนยหรือขนมปังเลยแม้แต่นิด พลังฉีเหล่านี้มักเรียกกันว่า ‘วิญญาณฉี’ วิญญาณฉีเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนเสริมของเอกภพซึ่งเป็นเพียงแค่หนึ่งในพลังวิญญาณฉีอีกมากมายนับไม่ถ้วน

 

วิญญาณฉีนั้นมีอยู่มากมายบนโลก และมันง่ายที่จะโค้งงอเป็นรูปทรงหรือรูปแบบอะไรก็ตามที่ผู้บ่มเพาะต้องการ การบ่มเพาะพลังฉีรูปแบบอื่นๆเช่นนี้ต้องการเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงในการควบคุม หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเทคนิคพิเศษบางอย่าง ผู้บ่มเพาะธรรมดาจะไม่สามารถควบคุม และกลั่นพลังฉีรูปแบบต่างๆได้จนกว่าพวกเขาจะไปถึงระดับแก่นทองคำ

 

อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถพิเศษของเทคนิคกลั่นร่างไร้สิ้นสุด เฉินฟานจึงสามารถควบคุม และกลั่นพลังฉีได้ทุกชนิดตั้งแต่แรกเริ่ม

 

คำว่า “ไร้สิ้นสุด” เป็นชื่อเรียกของเอกภพอันกว้างใหญ่ไพศาล พื้นที่ไร้ขอบเขตเหล่านั้นอัดแน่นไปด้วยพลังฉีที่มาจากแหล่งที่มาต่างๆ และทั้งหมดนี้ก็สามารถควบคุม และกลั่นได้โดยการใช้เทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นพลังฉีจากภายในแกนกลางของดาวฤกษ์ พลังฉีต้นกำเนิด พลังฉีปีศาจหรือแม้แต่พลังฉีนรกก็ตาม เทคนี้สามารถจัดการได้ทั้งหมด

 

คำขวัญของนิกายเต๋าได้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ครอบคลุมไปทั่วทุกอย่างของพวกเขา “สรรพสิ่งนั้นยิ่งใหญ่ กลั่นมันไปให้หมด!”

 

“แต่น่าเสียดาย แม้จะมีความทะเยอทะยานที่ยอดเยี่ยมของเทคนิคการกลั่นพลังฉีทุกรูปแบบ แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคนิคกลั่นร่างไร้สิ้นสุดนี้ยากเกินไปสำหรับสมาชิกในนิกายที่มีความสามารถเพียงแค่ระดับปานกลาง”

 

เฉินฟานส่ายหัวแล้วถอนหายใจ อย่างไรก็ตามความทะเยอทะยานของนิกายเต๋าคือ การบ่มเพาะระดับสูงจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากกว่าการกระจายความเสี่ยงเช่น นิกายสวรรค์ยอดนักสู้ที่สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของทุกนิกายได้ด้วยการอุทิศตนให้กับศิลปะการต่อสู้เพียงหนึ่งหรือสองชนิดเท่านั้น

 

เฉินฟานรวบรวมสมาธิ และเริ่มต้นเรียนรู้เทคนิคกลั่นร่างไร้สิ้นสุด

 

เทคนิคนี้ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการควบคุมพลังฉีเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการจัดระเบียบร่างกาย เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมในการปรับปรุงร่างกายทั้งภายใน และภายนอก

 

ในขณะที่เขาค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ ร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะกลายเป็นหลุมดำที่กลืนกินเอาพลังฉีทุกชนิดเข้าไป พลังงานต่างๆได้หลั่งไหลเข้าไปภายในตัวเขา ในไม่ช้าอากาศบริเวณรอบตัวของเฉินฟานก็ปราศจากซึ่งชีวิต แม้แต่สายลมก็ยังหยุดนิ่ง

 

เขาหมกมุ่นอยู่กับการบ่มเพาะจนลืมเวลา ดวงจันทร์ขึ้น และลงก่อนที่เขาจะรู้ว่ามันเป็นวันใหม่

 

เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลสาบอันเงียบสงบ ทันใดนั้นเฉินฟานก็แหงนหน้าอ้าปาก และมีลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากปากของเขา ลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นไปในอากาศ และเจาะผ่านเมฆหมอกในตอนเช้าราวกับหอกทะลวงนภา

 

————————————————————————————————–

[1] มีปลาตัวโตที่จะต้องทอด – หมายถึงมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่จะต้องจัดการ

————————————————————————————————–

ชอบหรือไม่ชอบพูดคุยกันได้ที่ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 4 : กลั่นร่างไร้สิ้นสุด"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
มกราคม 12, 2023
Last Wish System
Last Wish System
มีนาคม 12, 2022
เรียกพี่ว่าชาวนาสิ! (异能小神农)
เรียกพี่ว่าชาวนาสิ!
มีนาคม 12, 2022
ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่
ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่
มีนาคม 12, 2022
The Overlord of Blood and Iron
The Overlord of Blood and Iron
มีนาคม 12, 2022
เนตรเนรมิต – Tranxending Vision
เนตรเนรมิต – Tranxending Vision
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz