หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator - ตอนที่ 3 : ระดับการบ่มเพาะ

  1. หน้าแรก
  2. Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
  3. ตอนที่ 3 : ระดับการบ่มเพาะ
Prev
Next

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเฉินฟานในตอนนี้คือการฟื้นฟูการบ่มเพาะ

 

ระดับของการบ่มเพาะแบ่งออกเป็นแปดระดับได้แก่

 

ปรับแต่งพลังฉี หลอมรวม แก่นทองคำ รวมวิญญาณ กำเนิดวิญญาณ สูญตา หวนคืน และภัยพิบัติ

 

แม้แต่อาจารย์ของเขา ชางฉิน ที่เป็นผู้บ่มเพาะอมตะ และมีชีวิตอยู่มาถึงแปดแสนสี่หมื่นปีก็บรรลุถึงระดับที่เจ็ดเท่านั้น เมื่อผู้บ่มเพาะมาถึงระดับที่เจ็ด เขาจะได้รับฉายา “ราชันอมตะ” และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนับแสนปี

 

ในห้วงเอกภพ การบ่มเพาะระดับที่เจ็ด “ราชันอมตะ” จะได้รับการเคารพในฐานะศูนย์รวมของพลัง พวกเขาสามารถบดขยี้ดวงดาว กลืนกินดวงอาทิตย์ และแม้แต่สร้างมิติอื่นขึ้นมาได้

 

ใน 500 ปีที่ผ่านมาเฉินฟานได้มาถึงระดับที่แปด ระดับภัยพิบัติ เขาเหนือกว่าอาจารย์ของเขา และได้รับฉายา “จ้าวสวรรค์”

 

อย่างไรก็ตามระดับภัยพิบัติในตอนนี้อยู่ไกลเกินเกินกว่าที่เฉินฟานจะต้องมานั่งกังวล

 

‘ตอนที่ฉันทำการบ่มเพาะอยู่ในห้วงเอกภพ ฉันเคยย้อนกลับมาที่โลกนี้ครั้งหนึ่ง แต่ในช่วงเวลานั้นพลังฉีของโลกช่างเบาบาง และไม่เหมาะสมสำหรับทำการบ่มเพาะเป็นอย่างมาก’ เมื่อเทียบกับโลกในดินแดน “ชางหมิง” ที่อาจารย์ชางฉินของเขาเป็นคนสร้างขึ้นมาแล้ว สถานแห่งนั้นเหมาะกับการบ่มเพาะพลังมากกว่า เฉินฟานนึกถึงการมาเยือนโลกครั้งล่าสุดของเขาในขณะที่เขาเริ่มรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมของพลังฉีในขณะนี้

 

ครั้งสุดท้ายที่เขากลับมายังโลกใบนี้ มันเป็นเวลามากกว่าร้อยปีมาแล้วถ้าเทียบกับไทม์ไลน์ในปัจจุบัน และตามเวลานั้น เขาได้เป็นผู้บ่มเพาะที่ประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว

 

เขาเดินทางข้ามผ่านดินแดนหลายพันล้านที่แยกเขาออกจากโลกนี้เพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง โลกในตอนนั้นไม่ได้เป็นโลกที่เขาจำได้อีกต่อไป ระบบประเทศแบบเก่าล่มสลาย และมนุษย์ได้ก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา หลังจากที่มนุษย์ยึดครองดาวอังคาร พวกเขาก็ก้าวออกจากระบบสุริยะ และเข้าสู่ยุคของการเดินทางระหว่างดวงดาว

 

เฉินฟานยังคงอยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกยี่สิบปี และเขาก็ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ

 

‘ตอนนี้พลังฉีของโลกมีให้ใช้มากกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอีก 100 ปีข้างหน้า แต่มันก็ไม่ได้อุดมสมบูรณ์มากมายเท่าใดนัก’ เขาส่ายหัวอย่างเงียบๆ ‘ถึงแม้ตอนนี้จะมีผู้บ่มเพาะ แต่อย่างมากที่สุดก็น่าจะเป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับที่สองเท่านั้น’

 

‘ฉันคิดว่า ฉันจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะเพียงคนเดียวบนโลกนี้ไปซะอีก’

 

ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดจริง นั่นหมายความว่าตราบใดที่เขาสามารถฟื้นฟูพลังของเขาได้ เขาจะสามารถปกครองโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดาย เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อบรรลุเป้าหมาย ตอนนี้เขาเพียงต้องการที่จะก้าวไปสู่ระดับที่สองของการบ่มเพาะเท่านั้น

 

หากยังไปไม่ถึงระดับที่สอง เขาจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น “ผู้บ่มเพาะ” ได้

 

ด้วยความรู้มากมายที่เขาสะสมมานานกว่า 500 ปี เฉินฟานจึงกล้าเดิมพันได้เลยว่าเขาจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีจนไปถึงจุดนั้นได้

 

‘พลังฉีแถวนี้ไม่ค่อยสอดคล้องกัน ฉันควรไปหาพื้นที่ที่มีพลังฉีเข้มข้นมากกว่านี้เพื่อทำการบ่มเพาะจะดีกว่า’

 

‘ถ้าฉันสามารถค้นพบขุมทรัพย์พลังฉีขนาดใหญ่ ฉันจะต้องฝ่าด่านที่สองได้ในเวลาไม่ถึงสามปีอย่างแน่นอน’

 

เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับการได้รับทรัพย์สมบัติมากมาย เฉินฟานก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ‘ฉันกำลังคิดบ้าอะไรอยู่? ด้วยปริมาณพลังฉีที่น้อยนิดบนโลกเช่นนี้ มันก็คงไม่ค่อยมีสมุนไพรหรือสมบัติที่ดีอะไรมากมายเท่าไหร่นัก’

 

เฉินฟานคร่ำครวญเกี่ยวสถาการณ์ของเขาภายใจ

 

ที่พักของเฉินฟานตั้งอยู่บริเวณชานเมือง ที่พักของเขาหันหน้าไปทางทะเลสาบหยานกุ้ยที่มีขนาดใหญ่จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางที่มีคุณภาพสูงในเมืองซูโจว แต่ในทางกลับกันครอบครัวถังอาศัยอยู่ในย่านชานเมืองที่เขตหยุนชาน ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียงไม่กี่นาทีจากสถานที่พักของเฉินฟานมายังที่นี่

 

รถวิ่งไปตามทางหลวงที่มีทะเลสาบโอบล้อมทั้งสองฝั่ง และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเชิงเขาของภูเขายุนวู เฉินฟานเห็นป้ายชื่อที่ใหญ่โต

 

อุทยานมังกร

 

เฉินฟานจำได้ว่าอุทยานมังกรเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับสูงในเมืองซูโจว วิลล่าขนาดเล็กในบริเวณนี้มีค่าใช้จ่ายสูงถึงสองล้านหยวนก่อนที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มเติบโต

 

ป้าถังลดกระจกมองหลังลง และเห็นความหลงใหลในสายตาของเฉินฟาน

 

“ภูเขายุนวูเป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองซูโจวนอกเหนือจากทะเลสาบหยานกุ้ย อุทยานมังกรเป็นเพียงการพัฒนาระดับกลางของพื้นที่ที่อยู่รอบบริเวณนี้ บางทีหลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย เราอาจจะลองขึ้นไปดูบนภูเขากัน ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงวิลล่าที่หรูหราบนยอดเขายุนวูเอง คนรวยเหล่านั้นทำให้บ้านของเราดูเหมือนกับโรงเก็บของในสนามหลังบ้านของพวกเขาไปเลย ฮิฮิ… จริงสิ เธอควรมาเยี่ยมเราในตอนเช้าดูนะ ถ้าเธอมาหาเราในตอนเช้า เธอจะเห็นทั่วทั้งภูเขายุนวูถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกเหมือนกับชื่อชองภูเขา ‘หยุนหวู่’ นั่นเอง”

 

มีน้ำเสียงที่เจือปนไปด้วยความอิจฉาเล็กน้อยของป้าถังในขณะที่เธอพูดถึงวิลล่าที่อยู่สูงขึ้นไปบนภูเขา

 

“ราคาวิลล่าบนภูเขาที่ถูกที่สุดก็มีราคาปาไปมากกว่าสิบล้านหยวนแล้ว ที่บนนั้นได้รับการพัฒนาโดยชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองซูโจว และมีเพียงเพื่อน และเหล่าเศรษฐีจากทางใต้เท่านั้นที่สามารถซื้อทรัพย์สินเหล่านั้นได้ ฉันคงสามารถซื้อได้เพียงห้องครัวขนาดเล็กแม้ว่าฉันจะขายบริษัทไปก็ตาม” ป้าถังส่ายหัวแล้วถอนหายใจ

 

‘ชายที่รวยที่สุดในเมืองซูโจว… ตระกูลเฉียน?’ เฉินฟานคิด

 

“ในความคิดของผม บ้านของคุณป้าดูใหญ่มากแล้วครับ ครอบครัวของผมอาศัยอยู่ในบ้านที่มีพื้นที่เพียง 100 ตารางเมตร และบ้านหลังนั้นก็ยังเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลอีกด้วย”

 

เฉินฟานหยุดครู่หนึ่ง และพูด “ถ้าคุณป้าชอบบ้านเหล่านั้นจริงๆ เมื่อผมเริ่มหาเงินได้แล้ว ผมจะซื้อให้คุณป้าซักสองสามหลัง ผมจะทำให้แน่ใจเลยว่าคุณป้าจะสามารถตื่นขึ้นมาดูทะเลหมอกหมอกที่อยู่เบื้องล่างของคุณป้าได้ทุกวัน”

 

วิลล่าสำหรับคนที่สามารถท่องไปได้ทั่วทั้งเอกภพจะมีค่าสักแค่ไหนกัน? เขาจะมีสิ่งที่เขาต้องการเมื่อเขามาก้าวเข้าสู่ระดับที่สอง

 

ป้าถังพึงพอใจกับคำพูดของเฉินฟานมาก เธอพูด “เยี่ยมไปเลย ฮิฮิ จำที่เธอพูดเอาไว้ด้วยล่ะเสี่ยวฟาน! บอกแม่ของเธอให้มาหาฉันบ้างสิ เธอเอาแต่ทำงานราวกับซอมบี้ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเธอ! แม่ และน้องสาวของเธอเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญ และกระตือรือร้นเกี่ยวกับการหาเงินในเมืองที่ไม่ค่อยมีผู้ใดสนใจมากนัก เฮ้อ ถ้าเธอเกษียณตอนนี้ก็ดีสิ เราจะได้ไปช็อปปิ้งหรือไม่ก็ไปสปาด้วยกันอย่างที่เราต้องการ ชีวิตที่แสนสบายเหล่านั้นจะเป็นยังไงบ้างน๊า เอ๊ะ?”

 

เจียงซูหลันรับฟังการสนทา และเธอก็ไม่ประทับใจกับสิ่งที่เธอได้ยิน

 

แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นที่ร่ำรวยที่สุดที่เธอรู้ก็ยังไม่สามารถให้สัญญาว่าจะซื้อวิลล่าบนภูเขาเป็นของขวัญให้กับเธอได้ ทุกคนรู้ดีว่ามีแต่เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้นถึงสามารถอาศัยอยู่บนนั้นได้

 

‘ดูเหมือนว่าเขาจะเหมือนกับคนอื่นๆที่เต็มไปด้วยคำพูดที่ไร้สาระ แต่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้สินะ’

 

เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับเฉินฟาน เธอคิดว่าชายหนุ่มที่มาจากชนบทคนนี้จะแตกต่างไปจากชายหนุ่มในเมือง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิด

 

การตกแต่งภายในบ้านของป้าถังนั้นมีสไตล์ที่หรูหรา สง่างาม และงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เพียงแค่ดูจากภาพเขียนบนผนังจนไปถึงแจกันลายครามสีฟ้าขาวบนโต๊ะก็เห็นได้ชัดว่าตระกูลถังไม่เพียงแต่ร่ำรวยเท่านั้น แต่พวกเขายังมีการศึกษาที่ดี และมีรสนิยมทางศิลปะที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน

 

หลังจากเดินเข้ามาในห้องโถง เฉินฟานก็เห็นชายวัยกลางคนสวมแว่นตาดำนั่งอยู่บนโซฟา และกำลังดูข่าวในทีวี

 

เขาคือพ่อของเจียงซูหลัน เจียงไห่ซาน

 

เขาเป็นรองผู้อำนวยการของเมืองซูโจว แม้ว่าตำแหน่งของเขาจะไม่สูง แต่เขาก็มีความใกล้ชิดกับเหล่าผู้มีอิทธิพลของเมืองซูโจว

 

เฉินฟานโค้งคำนับให้แก่เขา และเจียงไห่ซานก็พยักหน้าตอบกลับอย่างเฉยเมย

 

“นั่งลงก่อนเถอะจ๊ะ หลันหลันทำไมลูกไม่ไปที่ห้องครัว และชงชาให้พ่อ และแขกของเราสักหน่อยล่ะ? อ๊า… ช่วยรออาหารค่ำของฉันแปปนึงนะ ฉันจะไปอุ่นอาหารบางอย่างก่อน” ป้าถังพูดพร้อมกับรีบเดินเข้าไปภายในครัว

 

เจียงซูหลันพยักหน้า และหยิบกล่องชาดินเหนียวสีม่วงที่ผลิตขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงจากเมืองยี่ซิน

 

เฉินฟานรู้สึกประหลาดใจกับเทคนิคการชงชาของเจียงซูหลัน การเคลื่อนไหวของเธอช่างราบรื่น และลื่นไหลราวกับสายน้ำ ในขณะที่เธอชงชา เธอดูพิถีพิถันเป็นอย่างมาก และเห็นได้ชัดว่าเธอคงได้รับการฝึกฝนภายใต้ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นอย่างดี นี่เป็นรายละเอียดที่เฉินฟานไม่ได้สังเกตเห็นในชีวิตก่อนหน้านี้

 

นัยน์ตาของเจียงไห่ซานจดจ่ออยู่กับทีวี และเขาไม่หันหน้าไปหาแขกจนข่าวจบลง

 

“พ่อของนาย เจ้าหน้าที่เฉินเป็นยังไงบ้าง? ครั้งสุดท้ายที่ฉันพบเขาก็เมื่อตอนประชุมรัฐบาลเมื่อหกเดือนที่แล้ว”

 

“ขอบคุณที่ถามครับ ตอนนี้เขากำลังไปได้ด้วยดีครับ” เฉินฟานตอบกลับอย่างสุภาพ

 

พ่อของเฉินฟานเป็นรองเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเมืองซี่ชุ่ย และถึงแม้ว่าตำแหน่งของเขาจะคล้ายคลึงกับของเจียงไห่ซาน แต่ขอบเขตของอำนาจนั้นไม่สามารถเทียบได้กับเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนอย่างซูโจว

 

เจียงไห่ซานพยักหน้า “พ่อของนายอายุน้อย และเต็มไปด้วยศักยภาพ ข้อเสนอของเขาอย่าง “การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนประจำมณฑล และการเลือกเฟ้น และการใช้นโยบายการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม” ได้รับการยกย่องจากท่านนายกเทศมนตรี และท่านนายกเทศมนตรียังกล่าวอีกด้วยว่า พ่อของนายมีมุมมองที่เป็นสากล และเขาก็เห็นด้วยกับพ่อของนายเกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอนาคตนั้นไม่สามารถแยกออกจากการปกป้องสิ่งแวดล้อมได้”

 

เฉินฟานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ว่างเปล่า ทำไมเขาถึงคิดว่าชายหนุ่มมัธยมปลายจะสนใจการเมืองที่น่าเบื่อเช่นนี้? ถ้าเฉินฟานสามารถเข้าใจถึงเนื้อหาครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เจียงไห่ซานพูดได้ ในอดีตที่ผ่านมาบริษัทแม่ของเขาก็คงไม่ล้มละลาย

 

มื่อเห็นว่าเฉินฟานไม่มีความสนใจในสิ่งที่เขาพูด เจียงไห่ซานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนหัวข้อ

 

“ฉันได้ยินจากป้าของเธอมาว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์แม่ของนายในเมืองตงไห่กำลังพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีเหล่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างพากันคาดการณ์ว่า ในปีหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แม่ของนายเลือกลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ”

 

เฉินฟานยิ้ม และพูด “บริษัทแม่ของผมไม่สามารถเทียบได้กับบริษัทของป้าถังเลยครับ”

 

เจียงไห่ซานส่ายหัว “นายดูถูกแม่ของตัวเองเกินไปแล้ว บริษัทป้าของเธอจ้างคนเพียงไม่กี่คน และมีรายได้เพียงแค่หลักแสนต่อปีเท่านั้น แล้วนี่จะไปเปรียบเทียบกับบริษัทแม่ของนายได้อย่างไรกัน?”

 

เฉินฟานรีบตอบกลับอย่างถ่อมตน “ผมไม่ได้ดูถูกเลยครับ แม่ของผมมีคนงานเพียงไม่กี่คนที่ทำงานภายใต้เธอ และนั่นคือทั้งหมดที่เธอมี เธอต้องทำงานระหว่างผู้รับเหมา และนักพัฒนา และจัดการกับงานเอกสารอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ตลอดเวลา มันเป็นงานที่หนักหน่วง และได้รับผลตอบแทนไม่มากนัก”

 

“โอ้?” เจียงไห่ซานขมวดคิ้ว

 

สิ่งที่เฉินฟานบอกเขาแตกต่างจากสิ่งที่เขาได้ยินจากภรรยาเป็นอย่างมาก เมื่อตัดสินจากความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อชายหนุ่ม เจียงไห่ซานก็เชื่อว่าเฉินฟานไม่ได้โกหก ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าข่าวเกี่ยวกับแม่ของเฉินฟานที่เขาได้ยินมาก่อนหน้านี้เป็นข่าวลือที่เกินจริง

 

คำอธิบายเกี่ยวกับบริษัทแม่ของเฉินฟานฟังดูสมจริงมากขึ้นเช่นกัน บริษัทนี้ถูกก่อตั้งโดยผู้หญิง และลูกสาวของเธอในสถานที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก และยังไม่มีคอนเนคชั่นหรือผู้มีอิทธิพลคอยช่วยเหลือ

 

เมื่อเขาคิดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงไห่ซานก็หายไป

 

“ผลการเรียนของนายเป็นอย่างไรบ้าง?” เจียงไห่ซานถาม

 

เฉินฟานยิ้ม และพูด “ผมติดอันดับ 500 คนแรกที่เขตของผม และผมได้ยินมาว่าลูกสาวของคุณติดอันดับหนึ่งในสิบของโรงเรียน ผมคิดว่าผมอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเธอที่โรงเรียนครับ”

 

เมืองซี่ชุ่ยมีระดับการศึกษาที่ต่ำที่สุดของทุกเมืองภายใต้รัฐบาลเมืองชูโจว เขาไม่ติดแม้แต่สิบอันดับแรกของเขตซี่ชุ่ย ดังนั้นเฉินฟานจึงไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าเรียนแม้แต่ในมหาวิทยาลัยเกรดสอง

 

คิ้วของเจียงไห่ซานขมวดลึกยิ่งขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำตอบของเฉินฟาน ร่องรอยรอยยิ้มที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเขาพลันหายไปอย่างสมบูรณ์

 

“แม่ของนายส่งนายมาที่เมืองซูโจวเพื่อศึกษาไม่ใช่เพื่อมาหาความสนุก ครอบครัวของนายเพียงแค่สามารถช่วยนายได้ไปซักพัก แต่ไม่ใช่ตลอดไป ดังนั้นหากนายต้องการที่จะประสบความสำเร็จ นายต้องพึ่งพาตัวเอง การศึกษาถือเป็นก้าวย่างสำคัญไม่ว่านายจะเรียนอยู่ในสาขาใดก็ตาม”

 

เฉินฟานถูกเหน็บแนมโดยการระเบิดอารมณ์อย่างฉับพลันของเจียงไห่ซาน ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาก็หายไป และตอบกลับ “คุณพูดถูกแล้ว ลุงเจียง”

 

แม้ว่าการได้รับตำแหน่งทางวิชาการระดับสูงนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของเฉินฟาน แต่เมื่อการบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าขึ้น การเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำก็เป็นเพียงแค่เค้กชิ้นหนึ่งเท่านั้น

 

หลังจากแลกเปลี่ยนคำพูดอีกสองสามคำกับเฉินฟาน เจียงไห่ซานก็รู้สึกผิดหวังเมื่อชายหนุ่มขาดความรอบรู้ และความทะเยอทะยาน เขาได้แต่ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ภรรยาของเขาบอกเกี่ยวกับชายหนุ่มนั้นไม่เป็นเรื่องจริง

 

เขาได้พบกับลูกชายของรองนายกเทศมนตรี และรู้สึกประทับใจมากกับรูปร่างหน้าตารวมไปถึงความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ และการเมืองของเขา เฉินฟานล้มเหลวต่อความต้องการขั้นพื้นฐานที่สุดของเขาสำหรับการเป็นลูกเขยในอนาคตอย่างสมบูรณ์

 

‘ดูเหมือนว่าฉันคงต้องพูดคุย และหารือกับภรรยาซักหน่อย’ เจียงไห่ซานคร่ำครวญอยู่ภายในใจ

 

เขารู้ว่าภรรยาของเขาต้องการที่จะจับคู่ลูกสาวของเขากับลูกชายของเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เขาไม่ได้คัดค้านแผนการของเธอในตอนแรก แต่หลังจากพบเฉินฟานในครั้งนี้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าภรรยาของเขากำลังทำสิ่งที่ผิดพลาด

 

‘ลูกสาวของฉันต้องไม่ไปตกหลุมรักเขาอย่างเด็ดขาด’ เจียงไห่ซานคิด เขามั่นใจในการตัดสินของลูกสาว

——————————————————————————————————————————————————————————————————

พูดคุยติชม และเปลี่ยนกันได้ที่ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 3 : ระดับการบ่มเพาะ"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来)
อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来)
มีนาคม 12, 2022
เกิดอีกทีจะต้องไม่มีเธอ
เกิดอีกทีจะต้องไม่มีเธอ
มีนาคม 12, 2022
Almighty coach
Almighty coach
มีนาคม 12, 2022
การตอบโต้ของผู้แข็งแกร่ง
การตอบโต้ของผู้แข็งแกร่ง
มีนาคม 12, 2022
เทพอสูรปราบเซียน
เทพอสูรปราบเซียน
มีนาคม 12, 2022
-4
ดวงตาเทพเหนือโลก
มีนาคม 18, 2025
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz