Omni genius - ตอนที่ 80 สกิล <ศิลปะแห่งการหลอกหลวง>
ตอนที่ 80 สกิล <ศิลปะแห่งการหลอกหลวง>
เมื่อฉินฟางกลับมาถึงบรรดาเพื่อนๆพี่ๆของเขาก็ยังคงนอนไม่หลับ อาการตอนนี้มันร้อนจริงๆ … ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มหาอะไรเล่นกัน และไปลงเอยที่ “โป๊กเกอร์”
ภายในหอพักพวกเขาไม่ได้สนใจที่จะเล่นแล๊ปท๊อป และส่วนน้อยเท่านั้นที่จะม่ีแล็ปท๊อป พวกเขาเพียงเลือกเล่นไพ่ โป๊กเกอร์ หมากรุก อะไรทำนองนี้เท่านั้น แต่มองอีกอย่างหนึ่งมันก็เป็นข้อดี เพราะการเล่นเกมอะไรแบบนี้นั้นเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของพวกเขาได้อย่างดีกว่าการที่ต่างคนต่างหันหน้าเข้าจอคอม
และแน่นอนล่ะ ถ้าเล่นการพนันกันพวกเขาคงได้คอขาด พวกเขาทำเพียงบทลงโทษเล็กๆน้อยๆสำหรับผู้แพ้เท่านั้น ตัวอย่างเช่นการถูกแผ่นกระดาษแปะหลังและให้เดินไปรอบๆหอพักด้วยข้อความที่ว่า “เตะกูที กูหิวตีนฟรี” และตะโกนบอกรักสาวๆอีกหอพักหนึ่งโดยไม่สนว่าเป็นใคร
“เฮ้ ฉินฟางกลับมาแล้วสินะ ฉันมีบางอย่างต้องไปทำน่ะ ช่วยฉันเล่นสักแปปดิ !!”
เมื่อฉินฟางกลับมาถึงเซี่ยวหนานที่กำลังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ก็หันมา และเชิญชวนให้ฉินฟางมาเล่นแทนตัวเอง ก่อนจะรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
“สรุปนายเล่นด้วยใช่ไหม ฉินฟาง ?” เสียงของเฉินหยางเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เพราะเขาชนะมาโดยตลอด และมันเพิ่มความมั่นใจให้เขาอย่างมหาศาล
“ฉันพอรู้วิธีการเล่นนิดหน่อย และฉันก็ไม่ได้มีทักษะการเล่นอะไรมากมาย” ฉินฟางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก แน่นอนละเขารู้วิธีการเล่นแต่เขาไม่เคยเล่นมาก่อน และคงจะทำได้ไม่ดี
และเมื่อเซี่ยวหนานออกจากห้องน้ำฉินฟางก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้วหลายตา เขาแทบไม่เคยได้ครอบครองบ้านเลย เขามักจะถูกคนอื่นๆทำลายก่อนเสมอๆ ซึ่งมันตรงกับที่เขาพยายามจะบอกว่าเขาเล่นไม่เก่ง คนอื่นๆล้อเลียนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ …
<ทักษะที่ได้รับ: [ศิลปะแห่งการหลอกหลวง], ความเชี่ยวชาญ: ระดับเริ่มต้น, EXP: 0%>
ฉินฟางแอบตกใจเล็กๆเมื่อมีข้อความแจ้งเตือนดังขึ้นในใจของเขา นี่มันทักษะนักต้มตุ๋นชัดๆเขาได้แต่คิด …
<ทักษะมือไว หลอกลวงสลับเปลี่ยนและจั่วการ์ดได้อย่างรวดเร็วจนคนอื่นมองตามไม่ทัน โปรดใช้อย่างระมัดระวัง>
คนรุ่นๆใหม่นั้นสนใจที่จะได้ดูภาพยนต์เกี่ยวกับการพนัน หรือโครตเซียนพนัน
อย่างมาก ภาพยนต์ที่ดังๆสมัยก่อนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก็อย่างเช่น คนตัดคน (เกาจิ้ง โครตเซียน) พวกเขาจึงรู้จักทักษะมือไวนี้เป็นอย่างดี หากพวกเขาฝึกมันได้ดี และโกงได้โดยที่ไม่ถูกจับได้ พวกเขาสามารถเป็นเซียนพนันและหาเงินจากวงการนี้ได้อย่างง่ายๆ และตัวเราเองก็ไม่สามารถตำหนิคนที่ใช้เทคนิคพวกนี้ได้ เพราะถึงมันจะเป็นการโกง แต่พวกเขาก็โกงด้วยทักษะตัวเอง และช่องโหว่ของเกมล้วนๆ
“จะใช้ไอ้ทักษะนี้ดีไหมเนี่ยยย” ฉินฟางได้ครุ่นคิดไประหว่างเล่น
อย่างไรก็ตามไหนๆก็ไหนครั้งนี้เป็นการเล่นกันแบบไม่เครียด และไม่มีเงินมาเกี่ยวข้องแล้วฉินฟางจึงเลือกที่จะใช้มัน ไม่มีใครสังเกตว่าในทุกรอบๆ ฉินฟางแอบสลับไพ่ และไพ่ในมือของเขานั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เขาสามารถสับเปลี่ยน ขโมยไพ่ ฉินฟางจะสามารถจับตำแหน่งของไพ่ทุกๆใบได้
หลังจากผ่าน 10 รอบไป ฉินฟางก็รู้สามารถจำตำแหน่งของไพ่ทุกใบในสำหรับได้ ณ ตอนนี้เกมทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเขา
“เอาล่ะฉินฟางนี่ก็รอบสุดท้ายแล้ว เตรียมตัวไปรูดเสาไปกรีดร้องไปได้เลย !!”
พวกเขาใช้ระบบการนับชิปการ์ดที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง และฉินฟางก็สูญเสียมันไปเกือบจะหมดในช่วงที่ฝึกหัดใช้สกิลนี้ หากเขาต้องการชนะเขาจำเป็นต้อง
หลอกล่อคนที่เหลือ และเทหมดหน้าตัก เพื่อที่เขาจะได้พลิกกลับมาชนะได้
ฉินฟางนั้นไม่สามารถทนกับการล่อลวงในการฝึกสกิลได้ และประกอบกับการที่เขาแพ้นั้นต้องออกไปรูดเสาข้างนอกพร้อมกับกรีดร้องนี่มันน่าอายเกินไป เขาจึงเลือกที่จะใช้สกิลนี้อย่างไม่ลังเล
ฉินฟางนั้นทั้งวางกับดักและหลอกล่อด้วยเบี้ยทั้งหมดที่เขามี เพื่อให้เฉินหยางที่ตอนนี้มีชิปการ์ดมากที่สุดลงสิ่งที่เขามีทั้งหมดมา และเขาทำเสร็จ!!! เมื่อผลสรุปออกมา เฉินหยางนั้นสูญเสียสิ่งทั้งหมดที่เขาได้มาในรอบก่อนๆ เรียกว่าหมดตัวจนไม่เหลืออะไร มันทำให้เขาแทบอยากจะร้องไห้ ….