Omni genius - ตอนที่ 79 ประเมินของโบราณ
ตอนที่ 79 ประเมินของโบราณ
“ของปลอม?”
ใบหน้าของเฉินเจียงหนานกลับกลายเป็นนิ่งค้างทันที แววตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“เป็นไปไม่ได้!!! พ่อฉันดูแลมันเป็นอย่างดีราวกับมันเป็นลูกของเขา แล้วมันจะกลายเป็นของปลอมได้อย่างไรกัน?”
“แกจะเชื่อหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับแก!!!”
ฉินฟางยักไหล่ตอบอย่างเย็นชา
แน่นอนว่าฉินฟางสามารถบอกได้ว่า “แจกันโบราณ” มันเป็นอย่างไร ฉินฟางผู้ไม่มีอะไรจะทำกลับใช้สกิล [ประเมิน] กับแจกัน และผลที่ได้กลับเป็น….
<[แจกันโบราณเลียนแบบอันยอดเยี่ยม]>
หรือว่าสกิลของฉินฟางจะผิดพลาด?
แน่นอนว่าไม่!!!
อย่างน้อยมันก็ไม่เคยกล่าวอะไรผิดจนถึงตอนนี้
และผลของสกิลการประเมินนี้ แม้แต่ฉินฟางเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าแจกันนี่มันเป็นของปลอมตรงไหนกัน อย่างน้อยก็ลักษณะของมัน ดูราวกับถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต และแผ่กลิ่นอายแห่งความโบราณออกมาด้วย
“นายแน่ใจนะว่าของโบราณนี้เป็นของปลอม?”
หลังจากที่ตกตะลึงกับคำพูดของฉินฟาง และเห็นท่าทางอันมั่นอกมั่นใจของเขาแล้ว เฉินเจียงหนานเริ่มสับสนมึนงงกับความน่าเชื่อถือของแจกัน ลังเลอยู่ชั่วครู่ มันก็อดไม่ได้ที่จะรบเร้าขอความช่วยเหลือ
“เอ่อ… นายเป็นใครนะ? ปล่อยฉันไปได้ไหม แล้วก็ให้ฉันโทรศัพท์หน่อยสิ”
“แกคิดจะทำอะไร?”
ฉินฟางไม่ได้สนใจเฉินเจียงหนาน และต้องการเตือนให้ถังเฟยเฟยโทรหาตำรวจ
“ฉินฟาง จากที่ฉันเห็นเขา… เขาดูเหมือนว่ากำลังพูดความจริงอยู่นะ!!! ทำไมเราไม่ให้เขาโทรศัพท์สักหน่อยล่ะ? ฉันจะโทรจากมือถือของฉันเอง!!!”
ถังเฟยเฟยกลับใจอ่อน มองดูเฉินเจียงหนานที่ดูท่าทางไม่ได้แสร้งตื่นตระหนก เธอจึงเริ่มเกลี้ยกล่อมฉินฟาง
“เอ่อ…ก็ได้….”
ฉินฟางลังเลใจ แต่เมื่อปะทะเข้ากับสายตาราวกับลูกสุนัข เขาก็ไม่อาจต้านทานได้ ทำได้เพียงผงกหัวยอมรับเท่านั้น และโยนโทรศัพท์ของเฉินเจียงหนานที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อให้กับถังเฟยเฟย
“ชื่อของพ่อนายที่บันทึกไว้ใช่ชื่อ “ตาแก่” หรือเปล่า?”
ด้วยการบอกของเฉินเจียงหนาน ทำให้ถังเฟยเฟยค้นชื่อเจอ นั่นคือ
ศาสตราจารย์เฉินฟางไห่ แต่ชื่อเขากลับเป็น “ตาแก่” ดังนั้นถังเฟยเฟยจึงต้องถามเพื่อยืนยันความถูกต้องกับเฉินเจียงหนานอีกครั้ง
“อื้ม ใช่แล้ว!”
เฉินเจียงหนานเป็นกังวล แต่ยังคงผงกหัวยอมรับ
ถังเฟยเฟยรีบกดโทรออก ทันใดนั้นก็มีเสียงอันทรงพลังของชายชราตอบกลับมา
“สวัสดี เป็นไงบ้าง? เฉินฟางไห่กำลังพูด…”
“อื้ม เป็นเขา!”
ได้ยินปลายสายพูดชื่อของเขาออกมา ถังเฟยเฟยก็พยักหน้า แล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเฉินเจียงหนานหลังจากที่ฉินฟางอนุญาตแล้ว ก็ปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อให้เฉินเจียงหนานรับโทรศัพท์เอง เขาไม่อาจขอให้ถังเฟยเฟยถือโทรศัพท์ให้เฉินเจียงหนานตลอดเวลา ถูกต้องไหม?
“พ่อ นี่ผมเอง เจียงหนาน!!!”
เฉินเจียงหนานรับโทรศัพม์มาแล้วพูดชื่อของเขาออกไปเช่นกัน หลังจากนั้นก็วกเข้าสู่เรื่องสำคัญ
“เอ่อ… วันนี้มีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น และมันเกิดกับแจกันดอกไม้อันมีค่าของพ่อ! อื้ม! ใช่ มันเป็นเช่นนั้น… ผมได้พบกับกลุ่มเพื่อนที่ขลุกอยู่กับของโบราณ ขณะที่คุยๆกันอยู่ ก็พูดถึงแจกันของพ่อด้วยเช่นกัน ลองเดาสิว่าพวกเขาพูดอะไร พวกเขาบอกว่าแจกันของพ่อมัน….ของปลอม!!! มันไม่ใช่ของโบราณที่แท้จริง แต่เป็นการเลียนแบบอันยอดเยี่ยม…”
“เป็นไปไม่ได้!!!”
ฉินฟางไม่ได้ยินในส่วนที่เฉินฟางไห่พูดโดยส่วนใหญ่ แต่ได้ยินเฉพาะประโยคที่เสียงดัง ชัดเจน ฉินฟางแทบจะจินตนาการได้ว่า จะต้องเปื้อนน้ำลายเป็นแน่ถ้าถูกตะโกนใส่เช่นนั้น
“พ่อ ที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริง ถ้าพ่อไม่เชื่อ พ่อสามารถขอให้ลุงลู่ช่วยตรวจสอบแจกันนี้ แล้วพ่อจะรู้ว่าที่ผมพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่…”
เฉินเจียงหนานดูเหมือนจะเชื่อในสิ่งที่ฉินฟางพูดอย่างจริงจัง และเขาเองก็พูดอย่างมั่นอกมั่นใจอีกด้วย
“ก็ได้ ก็ได้ พ่อจะถามเขาตอนนี้ล่ะ….”
เฉินฟางไห่เงียบไปชั่วครู่ แล้วดูเหมือนพูดอะไรบางอย่าง ในขณะที่เฉินเจียงหนานก็เอาแต่ผงกศีรษะ
ถึงอย่างไร ฉินฟางก็ไม่ได้สนใจอะไร และประเมินเฉินเจียงหนาน เขากลับได้รับผลการประเมินที่แตกต่างไปจากเดิม
<เฉินเจียงหนานผู้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจร…>
เมื่อเห็นผลเช่นนั้น ฉินฟางจึงรู้แน่ชัดแล้วว่าเขาทำผิดพลาด จึงปล่อยแขนของเฉินเจียงหนานกลับคืนสู่อิสระในทันที
“ขอโทษ พี่ชาย ผมขอโทษจริงๆ! ผมเข้าใจคุณผิดไปเอง!!!”
ทันใดนั้นฉินฟางก็กล่าวขอโทษอย่างรุนแรง ทำให้เฉินเจียงหนานรู้สึกเซ่อซ่าไปบ้าง ถังเฟยเฟยและเซียวมู่เสวี่ยเองก็ตกใจด้วยเช่นกัน พวกเขากระซิบในใจว่า เขาตัดสินว่าเฉินเจียงหนานไม่ใช่โจรหลังจากได้ยินเพียงไม่กี่ประโยคเนี่ยนะ?
แน่นอนว่า ฉินฟางย่อมไม่บอกเหตุผลกับพวกเขาหรอก
“ผลของการประเมินก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้…”
ฉินฟางได้อะไรหลายๆอย่างจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สามารถทำความเข้าใจในสกิล[การประเมิน]ได้มากขึ้น
“ฉินฟาง วันนี้ ฉันต้องขอบใจนายมากนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนายคิดว่าฉันเป็นโจรและจับตัวฉันไว้ละก็ ฉันคงได้เอาของปลอมนี้ไปจ่ายหนี้แทนเสียแล้ว… และคงจบด้วยการถูกหั่นเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน!!! ด้วยความช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่อาจตอบแทนได้ด้วยการขอบคุณเท่านั้น แต่ฉันก็ยังมีเรื่องต้องทำ ไว้ฉันจะตอบแทนนายในวันหน้านะ!!!”
เฉินเจียงหนานดูเหมือนจะเร่งรีบ หลังจากกล่าวขอบคุณฉินฟางซ้ำๆ ก็จากไปอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่า เขาจากไปพร้อมกับแจกันปลอมในมือด้วย
“ฉินฟาง นายรู้วิธีการประเมินของโบราณได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
เฉินเจียงหนานจากไปแล้ว แต่ความอยากรู้อยากเห็นของถังเฟยเฟยกลับประทุขึ้นมา และถามฉินฟางด้วยรอยยิ้มในทันที
เธอเองก็ได้รับแจกันมาดู และมองว่ามันเป็นของโบราณที่สวยงามและประณีตจริงๆ แต่สำหรับฉินฟางแล้ว เขากลับสามารถตัดสินได้ว่ามันเป็นของปลอมเพียงแค่กวาดตามองดูมันครั้งเดียวเท่านั้น มันช่างอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า ไม่ว่ามันเป็นจะเป็นของปลอมหรือของแท้ หรือฉินฟางจะถูกหรือไม่ ยังไม่รู้แน่ชัด แต่ถังเฟยเฟยเลือกที่จะเชื่อฉินฟาง
“นี่… เมื่อตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้านเกิด มีบางคนมาขุดสุสานเก่าๆ ผมไม่มีอะไรจะทำ ก็เลยไปดูไปถามเกี่ยวกับของโบราณ ทำให้ผมรู้เรื่องของโบราณนิดๆหน่อยๆเท่านั้น”
สิ่งที่ฉินฟางพูดนั้นเป็นเรื่องจริง มันมีนักขุดสุสานอยู่จริง อีกทั้งบ้านเกิดของฉินฟางก็มีสุสานโบราณอยู่ คนบางคนก็ไปขุดเอาหยกอันล้ำค่ำจากสุสานเหล่านั้น บรรดาคนที่ชื่นชอบของโบราณก็เริ่มมาขุดสุสานด้วยเช่นกัน พวกเขาคาดหวังว่าจะได้พบสิ่งของมีค่าอื่นๆติดมือกลับไปด้วยและนำไปขายให้ได้ราคา
ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเด็กอย่างฉินฟาง พวกเขาคาดหวังว่าคนทั้งหมู่บ้านจะเป็นดั่งฉินฟางที่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาจะได้ขุดพบของดีและเก็บไว้เป็นของตนเองไงล่ะ!!!
แน่นอนว่า ถังเฟยเฟยก็ไม่พบเรื่องราวผิดแปลกเกี่ยวกับฉินฟางเลย
“ถ้างั้นบอกฉันเรื่อง….”
ถังเฟยเฟยดูเหมือนมีเรื่องจะถามอีกมากมาย แต่กลับโดนฉินฟางห้ามไว้ก่อน เขาเริ่มอธิบายว่าทำไมเขาถึงเรียกให้พวกเธอสองคนออกมา และอธิบายแผนการของเซี่ยวหนานให้ฟัง
“ตัวผมเองเห็นด้วยกับแผนการนี้ แต่ในเมื่อพวกคุณสองคนก็เป็นหุ้นส่วนด้วย ผมจึงต้องถามความคิดเห็นของพวกคุณด้วยเช่นกัน….”
“แผนการที่ดี!!”
ปฏิกิริยาของเซียวมู่เสวี่ยนั้นเรียบง่ายนัก คำตอบของเธอช่างรวบรัดเสียจริง
“เช่นนั้นก็ทำตามแผนการนี้ อันที่จริงแล้ว ฉันต้องการทำอะไรแบบนี้มานานแล้ว แต่ฉันกังวลว่านายจะ… ช่างมันเถอะ… อย่างไรก็ตาม นายก็จะได้มีเวลาว่างบ้าง ไม่จำเป็นต้องมาผูกมัดตัวเองติดอยู่กับร้านบะหมี่เล็กๆนี้อีกต่อไป!!!”
ถังเฟยเฟยนึกถึงความเป็นจริง และมีความสามารถในด้านธุรกิจ อีกทั้งต้องการขยายกิจการมานานแล้ว แต่เธอกลับกลัวว่าจะเป็นการทำลายความภาคภูมิใจของฉินฟาง อีกทั้งยังหวงแหนร้านเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นลูกของฉินฟางกับเธอเอง จนกระทั่งเซียวมู่เสวี่ยปรากฎตัวขึ้นมา ทำให้เธอเริ่มตื่นตระหนก และต้องการดึงฉินฟางให้ออกห่างมาเนิ่นนานแล้ว
“ในเมื่อพวกคุณต่างก็เห็นด้วย อย่างนั้นผมจะกลับไปปรึกษากับพี่รอง!!!”
ถังเฟยเฟยเป็นผู้หญิงที่จิตใจดี และไม่ต้องการแสดงเจตนาอันชั่วร้ายต่อฉินฟาง แม้ว่าฉินฟางจะไม่คิดอะไรกับคำที่เธอพูดก็ตาม หลังจากยิ้มและเอ่ยลา เรื่องราวมันก็เป็นเช่นนี้
ฉินฟางที่ไร้ความโรแมนติกไม่ได้เชิญชวนหญิงสาวทั้งสองไปออกเดตที่โรแมนติก อีกทั้งก็เป็นเรื่องยากที่หนึ่งชายสองหญิงจะออกมาเดินเล่นอย่างโรแมนติกในสถานที่เช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงพูดคุยเล็กน้อยแล้วเดินกลับหอพักหญิงไป หลังจากที่ฉินฟางส่งสองสาวกลับไปแล้ว เขาเองก็กลับไปยังหอพักด้วยเช่นกัน
“เมื่อคิดว่าสกิล[การประเมิน]ก็สามารถประเมินสิ่งของได้เช่นกัน… เป็นอีกหนทางในการหาเงินที่ไม่เลวเลย!!!”
ขณะที่ฉินฟางกำลังเดินไปนั้น ก็อดที่จะคิดเช่นนี้ไม่ได้