Omni genius - ตอนที่ 43 เปี่ยมไปด้วยความอยากและตะกละตะกลาม
ตอนที่ 43 เปี่ยมไปด้วยความอยากและตะกละตะกลาม
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
ทักษะที่สูงขึ้นจำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์ในการยกระดับมากขึ้นนั้น เป็นไปตามที่ฉินฟางได้คาดการณ์ไว้ และทฤษฏีนั้นก็ได้ถูกตรวจสอบในตอนนี้แล้ว เขาไม่กล้าที่จะชะลอมือของตัวเองลง เนื่องจากกฎของการแข่งขัน เหล่าผู้ตัดสินจะต้องลองทานอาหารของทั้งสองฝ่ายก่อนถึงจะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้
“ว้าว ไม่เลวเลย! อาหารของเชฟเป็นไปอย่างที่นึกไว้ ไม่ได้มีแต่ชื่อจริงๆ!”
“มันอร่อยมากจริงๆ! ไม่เหมือนกับของฉัน…”
“สมกับที่แชมป์สามสมัย!”
คนฝั่งของฉินฟางค่อนข้างเงียบเหงา ต่างจากคนฝั่งของเอฟเฟนดี้เป็นอย่างมาก คนที่ใกล้สุดได้หยิบฉวยอาหารก่อนและเริ่มทานพวกมัน เมื่อได้รับรู้รสชาติพวกเขาต่างก็คิดว่าอร่อยกว่าที่เคยทานมา และไม่ตระหนี่คำชื่นชมเลย พวกเขาเชียร์เสียงดัง ราวกับว่ากำลังพยายามกระตุ้นเอฟเฟนดี้ให้มากขึ้น
“เฮ้ พวกที่อยู่ข้างหน้า กินเร็วๆ หน่อย! ยังมีคนที่รอกินอยู่ข้างหลังนะ!”
“ไปได้แล้ว! อย่ายืนแช่”
“ถูกแล้ว หยุดยืนแช่ได้แล้ว!”
ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าจะได้ลิ้มรสอาหารและพูดชมเชยเป็นอย่างมาก เพียงแต่คนที่อยู่ด้านหลังกลับได้แต่มองพวกนั้นกิน และไม่ได้ลองทานอาหารนั่นเลย พวกเขาไม่พอใจและเริ่มส่งเสียงดังไล่พวกที่อยู่ข้างหน้าให้ขยับออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่อาหารของเอฟเฟนดี้ส่งกลิ่นหอมหวน จนกระตุ้นความอยากอาหารของพวกเขาขึ้นมา
ฝั่งของฉินฟางไม่เพียงอาหารชุดแรกจะยังไม่พร้อมเสริฟ์ ลูกค้าไม่กี่คนของฉินฟางตอนนี้ก็รอคอยจนร้อนใจแล้ว และจ้องไปทางฝั่งของเอฟเฟนดี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่เป็นเพราะทางฝั่งเอฟเฟนดี้มีคนอยู่มากเกินไป ลูกค้าของฉินฟางคงไปอยู่ฝั่งนั้นนานแล้ว
“นายน้อยเฟิง ดูเหมือนว่าพวกเราจะเป็นผู้ชนะแล้วนะครับ!”
คนอ้วนหลี่ที่อยู่ข้างหลี่เฟิง และกำลังมองไปยังความนิยมที่แตกต่างของทั้งสองฝั่ง เขาคิดว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว
“เฮอะ! เจ้าฉินฟางนั่นอยากสู้กับฉันงั้นเรอะ? หลังจากที่มันแพ้ ให้แกเหยียบย่ำมันอย่างไร้ความปรานี!”
หลี่เฟิงค่อนข้างพึงพอใจมาก เขาต่อกรกับฉินฟางมาครึ่งวันและก็แพ้ตลอดทั้งครึ่งวัน อีกทั้งไม่มีที่ไหนให้เขาปลดปล่อยความโกรธของตัวเอง จนกระทั่งฉินฟางตกลงกับการท้าทายนั่น ซึ่งมันเหมือนกับการวางตัวเองตรงหน้ากระบอกปืน จึงเป็นธรรมดาที่หลี่เฟิงจะไม่ปล่อยโอกาสที่จะเหยียบย่ำฉินฟางหลุดลอยไป
“มั่นใจได้ครับนายน้อยเฟิง! ทุกอย่างได้เตรียมการไว้แล้ว กระผมได้จ้างคนถ่ายภาพการดวลนี้ และเตรียมที่จะทำป้ายโฆษณาแล้วเอาไปติดไว้ด้านนอกของลานลาร์บีคิว ลูกค้าทุกคนที่มาที่นี่จะเห็นภาพฉินฟางที่กำลังสิ้นหวังหลังจากพ่ายแพ้ นี่จะทำให้ชื่อของฉินฟางแพร่กระจายไปในวงกว้างอย่างแน่นอน ในฐานะผู้แพ้”
เห็นได้ชัดว่าแผนสกปรกของคนอ้วนหลี่นั้นไร้ที่ติ ป้ายโฆษณาความพ่ายแพ้ของฉินฟางเป็นวิธีการเหยียบย่ำที่ชั่วร้ายพอสมควร ถึงแม้ว่าฉินฟางจะไม่มีชื่อเสียง แต่ก็การันตีไม่ได้ว่าคนอื่นจะไม่รู้จักเขาเพราะโฆษณานี่ มันเหมือนกับหมึกดำหนึ่งหยดบนแผ่นกระดาษสีขาวในใบประวัติของฉินฟาง
“อืม ไม่เลวนี่ หัวแกดีเหมือนกันนะเนี่ย อนาคตดูท่าจะสดใส…”
หลังจากได้ฟังความคิดของคนอ้วนหลี่ หลี่เฟิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ถึงแม้จะนับได้ว่าเป็นการทำร้ายฉินฟางแค่เล็กน้อย แต่มันก็เป็นวิธีการที่ชั่วร้ายเกินไปจริงๆ เพราะไม่เพียงทำให้ชื่อเสียงของฉินฟางเสียหาย ที่แย่สุดคือฉินฟางไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย
“ขอบคุณนายน้อยที่ชมเชย!”
คนอ้วนหลี่เห็นได้ชัดว่ามีความสุขเพราะถูกชมเชย เพราะคำพูดของหลี่เฟิงอาจทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งในไม่ช้า นี่เป็นเหตุผลที่เขาทำงานอย่างหนักให้กับหลี่เฟิงตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตามกลุ่มคนฝั่งเอฟเฟนดี้จะอยู่ตรงนั้นนานไม่ได้ ตามกฎแล้วคนที่ทานอาหารของเอฟเฟนดี้ก็ต้องไปทานอาหารของฉินฟางด้วย ตอนนี้คนกลุ่มแรกที่เสร็จจากการชิมอาหารของเอฟเฟนดี้กำลังมุ่งหน้าไปยังฝั่งของฉินฟาง พร้อมกับนึกเสียใจกับความจริงที่ว่าพวกเขายังกินไม่หายอยากเลย
“เชฟคนนี้ช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ รสชาติยอดเยี่ยมมาก!”
“เห็นด้วย! ถ้าเปรียบเทียบกับของที่พวกเราทำ มันกลายเป็นอาหารหมูไปเลย!”
“ฉันจะโหวตให้กับเอฟเฟนดี้แน่นอน”
“ใช่ ใช่ ใช่! แล้วอีกคนเป็นใครล่ะ? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เขาดูเด็กมาก จะสามารถแข่งขันกับเอฟเฟนดี้ที่มีประสบการณ์นับสิบปีได้ยังไงกัน?”
ในขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปที่ฝั่งของฉินฟางก็พูดคุยเกี่ยวกับคนที่จะลงคะแนนโหวตให้ เหล่าคนนั้นจับกันเป็นกลุ่ม และแต่กลุ่มก็ดูเหมือนจะรู้ว่าใครที่พวกเขาจะโหวตให้ บางคนถึงขนาดแอบไปต่อคิวรอบสอง เตรียมที่จะไปกินอาหารของเอฟเฟนดี้อีกรอบ
“หืม? มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่…?”
เพียงแต่เมื่อพวกเขาเกือบจะไปถึงเตาย่างของฉินฟาง ก็พบว่ามีอะไรบางอย่างดูแปลกๆ
เวทีของฉินฟางกับเอฟเฟนดี้ค่อนข้างอยู่ไกลกัน ดังนั้นแต่ละฝั่งสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นของอีกฝ่ายได้อย่างคร่าวๆ รายละเอียดจะดูไม่ชัดเจนเท่าไหร่
ในตอนนี้มีคนอย่างน้อยเกินหนึ่งร้อยคนอยู่ที่ฝั่งของเอฟเฟนดี้ ส่วนฝั่งของฉินฟางนั้นมีเพียงแปดคน เมื่อเทียบจำนวนคนกับฝั่งของเอฟเฟนดี้แล้ว คนกลุ่มนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ของฝั่งฉินฟางนี้ก็ดูต่างไปอย่างมาก เมื่อเทียบกับฝั่งเอฟเฟนดี้ที่คนไม่สามารถกินได้จนอิ่ม ฝั่งของฉินฟางนั้น…
“เสี่ยวฉิน ลุงขอเพิ่มอีกสองสามไม้นะ! มันโคตรอร่อยเลยจริงๆ!”
คุณลุงที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์กินอาหารเกือบจะทุกอย่างตั้งแต่เนื้อแกะไปจนถึงผัก ความอยากของเขาถูกกระตุ้นโดยอาหารของฉินฟาง และปากของเขาก็ยังไม่หยุดเลย เมื่อฉินฟางวางอาหารที่ทำเสร็จแล้วลงบนจาน ก็จะถูกคุณลุงแย่งเข้าไปโดยทันที
“ลุงเกินเยอะเกินไปแล้วนะ! อย่างน้อยก็เหลือไว้ให้บ้าง…”
“ใช่แล้ว! ลุงแก่แล้วนะ อย่ามาแย่งเด็กสาวอย่างพวกหนู…”
คนที่เหลือไม่พอใจ และร่วมมือกันคุณลุงไม่ให้เข้าถึงจานโดยทันที พวกเขาใช้จำนวนคนที่มากกว่าจนสามารถแย่งอาหารมากินได้มากขึ้นจากคุณลุงที่ก่อนหน้านี้ผูกขาดอาหารเหล่านั้นไว้
ถ้าจะบอกว่าใครที่ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะกินไม่พอ คงจะมีแค่ถังเฟยเฟยเท่านั้น หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเกือบทุกรอบ ฉินฟางก็จะส่งมันให้กับถังเฟยเฟยโดยอัตโนมัติ ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องไปแย่งชิงกับคนอื่น
ทุกคน พวกคุณไม่ต้องแย่งกันอีกได้ไหมครับ? คนจากฝั่งโน้นกำลังเดินเข้ามาแล้ว และถ้าพวกคุณยังแย่งกันต่อไป พวกนั้นคงไม่มีโอกาสได้ทาน…”
ฉินฟางยิ้มอย่างจนใจ เนื่องจากค่าประสบการณ์ของทักษะ [ปิ้งย่าง] ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความจริงที่ตัวเขาคุ้นเคยกับการทำบาร์บีคิวมากขึ้นนั้น ท่าทางของฉินฟางก็เลยยิ่งดูลื่นไหล นอกจากนี้เขายังตระหนักถึงพลังของทักษะ [ปิ้งย่าง] ที่อยู่ในระดับกลาง และเข้าใจถึงสัดส่วนในการปรุงรสของวัตถุดิบที่แต่ละชนิดต้องการได้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ารสชาติจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากรสชาติที่ได้จากทักษะของฉินฟาง แต่ความเร็วในการทำอาหารของเขาก็เพิ่มขึ้นมาก
แม้ว่าด้วยความเร็วในการทำอาหารจะเพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอกับความอยากอาหารของคนทั้งแปด โดยไม่มีทางเลือก ฉินฟางจึงทำได้เพียงขอร้องอย่างสุภาพกับผู้สนับสนุนของเขาที่กระตือรือร้นเกินไปให้หยุดทาน
“เอ่อ… นั่นก็ถูกนะ ถ้างั้นลุงก็จะไม่แย่งกินอีกแล้ว… เสี่ยวฉิน! ขอปีกไก่ให้ลุงอีกสองสามไม้ จากนั้นลุงจะไปลองดูสิว่าอาหารที่แชมป์บาร์บีคิวทำจะอร่อยได้ถึงหนึ่งส่วนกับของที่เสี่ยวฉินทำไหม”
คุณลุงคนนี้เป็นคนที่ตรงไปตรงมามาก และไม่คิดจะกินอาหารของฉินฟางโดยไม่ทำอะไรให้ ไม่เพียงเขากับคุยกับฉินฟางในแบบของคนคุ้นเคย กระทั่งดูเหมือนว่าจะกลายเป็นแฟนอาหารพันธุ์แท้ของฉินฟาง และเตรียมที่จะไปถล่มเอฟเฟนดี้แล้วในตอนนี้
“คุณลุงพูดถูกแล้ว ถ้าแชมป์ไร้สาระนั่นสามารถทำได้อร่อยถึงหนึ่งในสิบของอาหารฉินฟางแล้ว เขาคงต้องไปขอบคุณพระเจ้า”
คนที่เหลือล้วนพูดไปในแนวทางเดียวกัน ทุกคนไม่พอใจกับการปฏิบัติที่ฉินฟางได้รับ ทั้งๆ ที่อาหารของฉินฟางนั้นอร่อยมากจนพวกเขาไม่อยากไปไหน แต่ยังค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อเทียบกับคนของฝั่งเอฟเฟนดี้
ในเวลานี้เองคนที่เดินมาจากฝั่งของเอฟเฟนดี้ก็สังเกตเห็นสถานการณ์แปลกๆ นี้ พวกนั้นมองมาด้วยตาที่เปิดกว้างในขณะที่อาหารของฉินฟางที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ถูกแย่งชิงไปโดยคนแปดคน ก่อนที่ฉินฟางจะใส่ลงไปในจานซะด้วยซ้ำ และสวาปามเข้าไปจนหมดสิ้น
“เฮ้ พี่ชาย! มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?”
คนที่เพิ่งมาถึงคือคนที่ตะโกนว่าเขาต้องการโหวตให้เอฟเฟนดี้มากที่สุดเมื่อตะกี้นี้ ทันทีที่เขาเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านั้น เขาก็สะดุ้งตกใจ และดึงหลังแฟนอาหารของฉินฟางคนหนึ่งที่เตรียมจะเข้าแย่งอาหารอีกครั้งมาสอบถาม
“อร่อยแน่นอน อร่อยมาก ฉันหยุดกินไม่ได้เลย เอ๋ หมดแล้ว…?! มันเป็นความผิดของนาย! นี่เป็นอาหารชุดสุดท้ายของพวกฉัน และนายทำให้ฉันไม่ได้กินอีก น่าเสียดาย…”
……………………………..