หลังจากที่เสร็จสิ้นเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ หลิน ฮวงก็สามารถที่จะมุ่งมั่นกับภารกิจที่คุณฟู่มอบให้เขาได้ หนึ่งเดือนได้ผ่านไปและหลิน ฮวงก็เหลือเวลาอีกไม่มากนัก ทุกสิ่งอย่างจะเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้หากเขายังคงเก็บสถิติชนะต่อเนื่องได้ แต่หากเขาแพ้แม้แต่ครั้งเดียวหรือเสมอ เขาจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เขาเหลือวิดิโอการต่อสู้เพียงสองคนที่ไม่ได้ดู นั่นก็คืออันดับที่1 หยู่ โม่หลี่และอันดับที่2 อีโบเนลล่า ขณะที่หลิน ฮวงดูวิดิโอ เขาก็พบว่าอีโบเนลล่าเป็นผู้หญิง แต่เธอไม่ใช่แค่ผู้หญิง เธอเป็นสาวงาม เธอดูเหมือนอายุประมาณ16หรือ17ปี แต่เธอสูงอย่างน้อย1.7เมตร เธอมีอาวุธที่ไม่มีใครเหมือน มันก็คือร่มสีดำ
หลังจากที่เฝ้าดูการต่อสู้ของเธอ หลิน ฮวงก็สังเกตเห็นว่ามันคืออาวุธพิเศษที่สามารถเปลี่ยนเป็ฯสิ่งต่างๆได้รวมถึงของป้องกัน อาวุธยิง หอก ดาบและแม้กระทั่งดาบสั้น มันถือเป็นอาวุธอเนกประสงค์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างหลากหลาย เธอโดดเด่นอย่างมากด้วยความเชี่ยวชาญในอาวุธทั้ง5รูปแบบ การเปลี่ยนจากรูปแบบหนึ่งเป็นอีกรูปแบบช่างไร้ที่ติ
“เธอไม่ธรรมดา!”หลิน ฮวงใช้เวลาหลายวันไปกับการเฝ้าดูวิดิโอทั้งหมดของเธอ เขาไม่อาจพบข้อบกพร่องใดๆในวิดิโอทั้งหมด มันไม่ใช่เพราะมันไร้ที่ติแต่เป็นเพราะเธอสามารถปกปิดข้อบกพร่องของเธอได้ด้วยการสลับปรับเปลี่ยนรูปแบบต่างๆของร่ม เธอสามารถล่อลวงฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยช่องโหว่ของเธอและล่อให้พวกเขาติดกับดัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะด้วยทักษะวิสัยทัศน์ของหลิน ฮวง เขาก็ไม่อาจบอกได้ว่านี่เป็นข้อบกพร่องจริงๆหรือกับดักที่เธอสร้างขึ้นมา
“เธอเป็นแค่อันดับ2 แล้วอันดับ1ละ?”
จากวิดิโอ หลิน ฮวงรู้ดีว่าเขาจะไม่อาจเอาชนะได้หากพบเจอคู่ต่อสู้เช่นหญิงสาวคนนี้ แต่ทว่า หยู่ โม่หลี่คืออันดับ1ที่มีคะแนนสะสมกว่า160000แต้ม ซึ่งมากกว่าอันดับ2ถึง5เท่า นี่ทำให้หลิน ฮวงอยากที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับคนๆนี้เพิ่ม
“ทำไมชื่อของเขาจึงดูเหมือนชื่อจริง?”หลิน ฮวงเข้าไปในลานประลองและมองหาคน จากนั้นเขาก็รู้ว่าชายคนนี้ใช้ชื่อจริงๆในเกมส์
หยู่ โม่หลี่คือคนของตระกูลราชวงศ์หยู่ เขาคือคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์ของตระกูลและครอบครองความสามารถของอัจฉริยะ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงระดับเงินขั้น3 ความสามารถเขาก็ทรงพลังเสียยิ่งกว่าระดับทองขั้น3บางคน เขาไม่ได้สนใจที่จะใช้ชื่อจริงในเกมส์
“เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่น่ากลัว ทุกคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะ เขาต้องทรงพลังจริงๆ”หลิน ฮวงรีบดูวิดิโอแรกของหยู่ โม่หลี่
หลิน ฮวงตกใจเมื่อเห็นการโจมตีแรกของหยู่ โม่หลี่ มีเปลวไฟสีม่วงพุ่งออกจากมือเขาและมันดูราวกับไฟจริงๆ เพื่อที่จะสามารถสร้างเปลวไฟเสมือนจริงได้ด้วยพลังชีวิต นั่นหมายความว่าคนยๆนั้นต้องมีระดับพลังอย่างน้อยอยู่ที่เพลิงสวรรค์ ไม่สำคัญว่าคนนั้นจะมีพลังชีวิตที่ทรงพลังแค่ไหน ผู้คนที่อยู่ในระดับเพลิงสวรรค์บางคนก็ยังไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
“เขาทำมันได้ยังไง?”หลิน ฮวงมองอย่างสนใจ
คู่ต่อสู้เขาถูกฆ่าตายทันทีด้วยเปลวไฟ หลิน ฮวงตกใจกับสิ่งที่เขาเพิ่งจะเห็น
“นั่นเป็นไปได้ยังไง!แม้ว่าพลังชีวิตจะเต็มไปด้วยพลังธาตุ มันก็ยังคงมีข้อจำกัดโดยธรรมชาติของพลังชีวิต หากคนๆนั้นเป็นเพียงระดับเพลิงสวรรค์ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสำแดงพลังธาตุออกมาอย่างเต็มที่ พลังชีวิตธาตุไฟควรจะทำได้เพียงปล่อยความร้อนและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าใครบางคนด้วยเปลวไฟเช่นนั้น!”
มันยังเป็นที่สงสัย หลิน ฮวงเข้าสู่ระบบข้อมูลนักล่าเพื่อมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหยู่ โม่หลี่ มันมีรายละเอียดมากกว่าที่เขาเห็นในลานประลองนักล่า หลังจากที่อ่านทุกสิ่ง ท้ายที่สุดหลิน ฮวงก็เข้าใจว่าหยู่ โม่หลี่สามารถทำเช่นนั้นได้ยังไง เมื่อเขากำลังฆ่ามอนสเตอร์ เขาได้รับเมล็ดพันธ์ชีวิตมอนสเตอร์เพิ่มเติมที่ทำให้เขาได้รับความสามารถเปลวไฟสีม่วงของมอนสเตอร์มา ภายใต้สถานการณ์ปกติ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แทบจะเป็น0 เมื่อมอนสเตอร์ถูกฆ่า เมล็ดพันธ์ชีวิตในตัวมอนสเตอร์จะหายไปพร้อมกับแสงแห่งชีวิตมัน แทนที่จะเข้าไปในร่างมนุษย์
อย่างไรก็ตาม มันมีคนที่มีร่างกายพิเศษซึ่งจะสามารถดูดซับเมล็ดพันธ์ชีวิตเพิ่มได้จากมอนสเตอร์บางตัว หลังจากการฆ่ามอนสเตอร์ เมล็ดพันธ์ชีวิตจะถูกดูดเข้าไปในร่างมนุษย์ เมล็ดพันธ์ชีวิตเช่นนั้นจะไม่เปลี่ยนเป็นพรสวรรค์และคนๆนั้นจะได้รับทักษะมอนสเตอร์แบบสุ่มมาแทน มันคล้ายกับทักษะสกัดของหลิน ฮวงแต่มันหายาก และมีคนเพียง1%ที่มีความสามารถนี้ หยู่ โม่หลี่คือหนึ่งคนโชคดีที่สามารถได้รับทักษะมอนสเตอร์จากเมล็ดพันธ์ชีวิต
หลิน ฮวงไม่รู้ว่าคนอื่นจะสามารถได้รับทักษะมอนสเตอร์เช่นกัน เขามักจะหลีกเลี่ยงการปล่อยให้ผู้คนรู้ถึงทักษะเขาและไม่กล้าที่จะใช้วิญญาณโลหิตเพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้คนคิดว่าเขาคือมอนสเตอร์ หลังจากที่อ่านเกี่ยวกับหยู่ โม่หลี่ หลิน ฮวงก็รู้ว่าเขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป
“ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถใช้ปีกวิญญาณโลหิตได้แล้ว เพราะคนอื่นจะคิดว่ามันคือพลังโลหิต”หลิน ฮวงได้รับปีกวิญญาณโลหิตมาจากไป่ มันเป็นความสามารถที่ทรงพลัง ด้วยการช่วยเหลือของปีก เขาคิดว่าเขาสามารถที่จะท้าทายคนที่อยู่ในระดับทองขั้น3ได้
หลิน ฮวงใช้เวลาทั้งหมดกับการดูวิดิโอต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่ หลังจากการประเมิน หลิน ฮวงก็ตระหนักว่ากลยุทธ์การต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่อ่อนด้อยกว่าคนอื่น เขาเพียงพึ่งเปลวไฟของเขาเพื่อฆ่าคู่ต่อสู้และไม่ได้แสดงความสามารถอื่นๆเลย เปลวไฟสามารถใช้งานได้ด้วยพลังชีวิตเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นปริมาณเดียวกับที่หลิน ฮวงต้องใช้ปีกวิญญาณโลหิต นี่ถือเป็นทักษะมอนสเตอร์ที่มีประโยชน์ มันจะใช้พลังชีวิตจำนวนที่น้อยมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมหยู่ โม่หลี่ จึงสามารถใช้เปลวไฟเขาได้อย่างต่อเนื่อง เขาเข้าถึงแก่นแท้ของความสามารถและสามารถเร่งความร้อนของเปลวไฟได้ นั่นทำให้เขาสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ง่าย
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาจึงเก็บคะแนนได้มากมาย ด้วยความสามารถเช่นนั้น คนธรรมดาจะไม่มีทางล้มเขาได้”ท้ายที่สุดหลิน ฮวงก็รู้ว่าหยู่ โม่หลี่เก็บแต้มขนาดนั้นได้ยังไง – เขาไม่เคยแพ้!
หลิน ฮวงใช้เวลาอีกสองวันเพื่อสรุปและแยกแยะข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้รับ
หลังจากนั้น หลิน ฮวงก็เข้าไปในลานประลองนักล่าอีกครั้ง………….
