Mister lucky star ดวงข้าจะครองโลก - ตอนที่3 การใช้พลังครั้งแรก
ลู่เหมยเดินออกมาจากอาคารพร้อมหยุดระหว่างกลุ่มกู่เฉินกับกลุ่มสายพิเศษ
ลู่เหมยหันไปทางกลุ่มถังเฟยจากนั้นกล่าวออกไป "ก็ดีแต่สู้กับคนที่อ่อนแอกว่า ยังไม่เคยเจอสายพลังพิเศษที่เก่งละสิ"
ทุกคนที่ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะ ยกเว้นพวกกลุ่มสายพิเศษที่รู้สึกอับอายมากกว่าเดิม เพราะไม่มีสายพิเศษคนไหนที่แข็งแกร่งมาก่อน
กู่เฉินที่ได้ยินก็หัวเราะไปพูดไป "ฮาๆ จะบอกว่าตัวเองเป็นสายพิเศษที่แข็งแกร่งที่นะ"
ลู่เหมยตอบสวนทันควัน "เปล่าเลย" จากนั้นก็ได้จูงมือหวังฉายออกจากกลุ่มถังเฟย ที่หวังฉายอยู่ในกลุ่มถังเฟย เพราะกำลังจะไปกินข้าวกลางวันฟรีจากถังเฟยนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ที่ลู่เหมยมองไปยังกลุ่มถังเฟยนั้นไม่ได้มองที่ตัวถังเฟย แต่มองหวังฉายนั่นเอง
กู่เฉินได้มองหน้าหวังฉายด้วยสายตาดูถูกแล้วกล่าวขึ้นว่า "ไอนี้นะ ที่ว่าแน่แค่โดนต่อยทีเดียวก็สลบแล้ว"
หวังฉายคิดในใจ 'กูมาเกี่ยวอะไรวะเนี่ย' แล้วเตรียมที่จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ถูกลู่เหมยพูดขึ้นมาก่อน "ถึงเวลาเดียวก็รู้เอง"
"ไม่ต้องรอหรอก หลังจากนี้ 1 เดือนพลังของทุกคนน่าจะตื่นขึ้นหมดแล้ว แล้วมาประลองกัน" กู่เฉินกล่าว
"ไม่" "ได้" หวังฉายและลู่เหมยกล่าวพร้อมกัน
หวังฉายได้ปฏิเสธการประลองอย่างเต็มที่และกำลังจะกล่าวโทษลู่เหมยที่ทำให้เค้าเจอเรื่องลำบาก
แต่แล้วลู่เหมยก็ได้กระซิบบางอย่างกับหวังฉาย
บรรยากายรอบตัวหวังฉายได้เปลี่ยนไปครู่หนึ่ง
หวังฉายไม่มองหน้าลู่เหมย ก่อนที่จะตอบตกลงการประลองกับกู่เฉินใน1เดือนให้หลังต่อจากนี้
กู่เฉินที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยินดีที่จะประลอง เพื่อที่เค้าจะได้แสดงถึงพลังในตัวเข้าให้คนอื่นเห็น
หลังจากสงครามน้ำลายจบลง ผู้คนเริ่มแยกย้ายจับกลุ่มคุยกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน กู่เฉินชนะแน่นอน
หลังจากที่หวังฉายและถังเฟยลงทะเบียนเรียบร้อย ทั้ง2ก็เดินไปโรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
ระหว่างที่หวังฉายเดินไปซื้อข้าวผู้คนเริ่มหันมามองแล้วซุบซิบอะไรบางอย่าง
หวังฉายไม่ใช่คนโง่ เค้ารู้ว่าที่พูดคนมองเค้านั้นเพราะเค้าหล่อนั้นเอง แต่นั้นเป็นส่วนหนึ่งสาเหตุหลักน่าจะเป็นข่าวก่อนประลองของเค้ากับกู่เฉินมากกว่า
ถังเฟยรู้ว่าที่หวังฉายตอบรับการประลองเพราะลู่เหมย เค้าได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปหลังลู่เหมยได้พูดอะไรสักอย่างกับหวังฉาย แต่เลือกที่จะไม่ถาม
"หลังกินข้าวเสร็จจะไปไหนต่อ" ถังเฟยถาม
หวังฉายนึกคิดก่อนที่จะตอบไป "ว่าจะไปศูนย์ฝึกสะหน่อย" ในใจยังคิดคำพูดของแม่ว่า พลังของใบโควเวอร์จะมีอำนาจมากที่สุดอยู่
"งั้นเดี๋ยวไปด้วย" ถังเฟยไม่มีอะไรทำในช่วงบ่ายอยู่แล้วเลยตามติดไปด้วย ถือว่าเป็นการสำรวจโรงเรียน
หลังจากกินข้าวเสร็จ หวังฉายและถังเฟยได้เดินไปศูนย์ฝึก
"โห่ว คนอย่างเยอะเลย อย่างนี้แหละบางคนที่พลังได้ตื่นขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้ต่อสู้มากนั้นเพราะไม่มีปัญญาเช่าห้องฝึกฝนเอกชน จึงมาที่นี้" ถังเฟยกล่าว
หวังฉายได้มองรอบๆ "ก็จริงส่วนใหญ่ก็เป็นปี1ที่มาด้วย" จากนั้นก็เดินไปต่อคิวเข้าห้องฝึก
ห้องฝึกคือห้องที่มีหัวใจอนุภาคขึ้นที่3 ทั้ง5สายวางอยู่แต่มุมห้องทำให้ภายในนั้นสามารถใช้พลังได้แม้พลังยังไม่ถูกปลุกก็สามารถใช้ได้ โดยคู่ต่อสู่จะเป็นหุ่นไม้ที่ถูกฝังหัวใจอนุภาค
โดยสายพลังควบคุมทำให้มันเคลื่อนที่แล้วใช้พลังได้
ขณะที่รอคิว หวังฉายก็ได้มองไปการต่อสู้แต่ละห้อง
"โอ๊ย!!!" นักศึกษาชายนอนกลองที่พื้น ชุดเกราะพลังเหลือ0 ก่อนที่หุ่นจะหยุดก่อนทำงาน
นักศึกษาส่วนใหญ่จะแพ้แม้จะเลือกให้หุ่นไม้แค่ระดับ1 เพราะไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้และการใช้พลัง
ชายหนุ่มถอดชุดเกราะแล้วเดินออกจากห้องฝึกซ้อม พร้อมมีแผลถลอกเล็กน้อย แต่ก็พอทำให้คนที่ไม่เคยใช้ห้องฝึกได้รู้ว่าการฝึกถ้าระดับสูงอาจมีอันตราย
เวลาไม่นานก็ถึงคิวถังเฟย
ถังเฟยได้เลือกคู่ต่อสู้สายกายาระดับ1 เพื่อจะเป็นตัวอย่างให้หวังฉาย"จับตาดูให้ดีนะ" ถังเฟยกล่าวก่อนจะเดินเข้าสู่ห้องฝึกพร้อมใส่ชุดเกราะ ชุดเกราะตัวเลขขึ้น 100 หมายถึงพลังชีวิตเต็ม
สัญญาณเริ่มต้นได้ต่อสู้ได้เริ่มขึ้น หุ่นไม้เปลี่ยนแขนตัวเองเป็นดาบแล้ววิ่งเข้าหาถังเฟยทันที
ถังเฟยโดนครอบครัวจับเข้าห้องฝึกหลายครั้งแล้วทำให้มีประสบการณ์ทำให้ตอบสนองอย่างทันท่วงทีหลบดาบที่หุ่นไม้ฟันมาไปด้านข้างจากนั้นดีดนิ้ว
มีลูกบอลไฟเหนือศรีษะได้พุ่งไปเข้ากับตัวหุ่นไม้ หุ่นไม้มีอาการเซเล็กน้อย เลขกลางตัวของหุ่นจาก 100 ลดมาเหลือ 70ลูกบอลไฟของถังเฟยไม่ได้รุนแรงมาก แต่เนื่องจากหุ่นไม้แค่ระดับ1 ทำให้พลังลดลงถึง30
หุ่นไม้ทำการบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ถังเฟยหลบได้ตลอดแล้วค่อยๆลดพลังหุ่นไม้ จนหุ่นไม้พลังเหลือ 0 แล้วหยุดทำงาน โดยพลังชีวิตของถังเฟยไม่ลดผู้คนภายนอกเห็นการต่อสู้ถึงกับอิจฉา หญิงสาวบางคนถึงกับ
แอบกริ๊ดเลย เพราะวันนี้ยังไม่มีนักศึกษาปี1 คนไหนชนะหุ่นไม้โดยเลือดเต็มมาก่อน
ถังเฟยออกมาจากห้องฝึก "ข้านี้เท่ไม่เบาเลยใช่มั้ย " ถังเฟยหยอกล้อกับหวังฉาย
"ฝีมือดีแต่หน้าตาดีสู้ข้าไม่ได้" หวังฉายตอบ ก่อนเลือกหุ้นไม้ระดับ1 สายกายาเช่นเดียวกัน
ณ ห้องควบคุ้ม
รุ่นพี่ปี2 กำลังวุ่นกับการควบคุมระบบของหุ่นไม้ เนื่องจากคนมาใช้ห้องฝึกจำนวนมาก
ติ๊ด…. เสียงปลดล๊อตประตูเปิดขึ้น
"สวัสดีครับ รุ่นพี่หวงหวง" รุ่นพี่ปี2รีบกล่าวทักทายหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ เพราะเธอเป็นถึงดาวมหาลัย ด้วยเธอมีความน่ารัก แก้มที่ชมพูเหมือนดอกซากุระทำให้หนุ่มมาจีบเยอะที่สุดของ 3 ชั้นปี เลย และเป็นถึงหัวหน้าชมรมหุ่นเชิด
"สวัสดีค่ะ เหนื่อยหน่อยนะคะ วันแรกก็เป็นแบบนี้"
"ไม่เหนื่อยเลยครับ" รุ่นพี่ปี2ตอบ โดยตอนนี้เริ่มไม่ค่อยให้ความสนใจระบบ มั่วแต่สนใจหวงหวงแทน
หวงหวงยิ้มให้ก่อนถามว่า "ปี1ปีนี้มีใครน่าสนใจไหมคะ"
รุ่นพี่ปี2คนหนึ่งตอบ "มีอยู่2คนครับ" ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ระบบเป็นของหวังฉายพอดี
รุ่นพี่คนนั้นคิดคำตอบซึ่งเป็นเลข2 ทำให้มือของเค้ากรอกระดับหุ่นที่จะไปสู้ผิด จาก 1 เป็น 2
หวังฉายได้ใส่ชุดเกราะ พร้อมหลับตานึกถึงใบโควเวอร์ของเค้า ตาดำของหวังฉายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปร่างค่อนข้างกลมเป็นสีเขียวและมีลักษณะเหมือนใบโควเวอร์"เริ่มสุ่มพลัง" หวังฉายได้ยินเสียงในหัวของเค้า 'หมัดทะลวงขั้น3 จำนวนเวลา 2 นาที'
หวังฉายงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สัญญาณต่อสู้ส่งสัญญาณให้เตรียมตัว หวังฉายมองไปที่หุ่นไม้แต่ต้องประหลาดใจ 'เอ๋ ทำให้พลังชีวิตมีถึง 300 '
ผู้คนข้างนอกก็เริ่มสักเกตเห็น ถังเฟยเป็นหนึ่งในนั้น "ชิบหายแล้วนั้นมันหุ่นระดับ2" ถังเฟยอุทาน
เสียงเริ่มเอะอะโว้ยวาย ทำให้หวงหวงที่อยู่ห้องควบคุมเริ่มมองไปพื้นที่นั้น
"เอ๋ ห้องฝึกที่3 ผู้ชายคนนั้นเลือกหุ่นระดับอะไร" หวงหวง
ชายคนนั้นตอบพร้อมๆหันไปมองจอคอมพิวเตอร์ "ระดับ1สิครับ ไอเxย ซวยแล้ว ทำไงดีครับรุ่นพี่หวงหวง"
หวงหวงรีบกดปุ่มฉุกเฉินไปที่ห้องพยาบาล ปุ่มนี้มีไว้สำหรับเกิดอุบัติเหตุในการฝึกขั้นร้ายแรง ซึ่งหวงหวงคิดไว้แล้วว่า นักศึกษาใหม่แค่สู้ระดับ1ก็ลำบากแล้ว
จากนั้นหวงหวงรีบวิ่งไปที่ห้องฝึกที่3
สัญญาณต่อสู้ได้เริ่มขึ้น อย่างเช่นเคยหุ่นไม้ได้พุ่งมาและมือหุ่นไม้ใหญ่ขึ้นทำการง้างหมัดต่อยหวังฉาย แต่ต่างกันที่คราวนี้เร็วกว่าหุ่นไม้ที่ถังเฟยสู้เท่าหนึ่ง
หวังฉายที่เห็นอย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะเพิ่งจะใช้พลังครั้งแรก "หมัดทะลวง" หวังฉายตะโกนออกไป
หมัดของหวังฉายและหุ่นไม้ได้ปะทะกัน 'ตู้มมมม' ฝุ่นในห้องฝึกปลิวว่อน
ในใจคนที่มองการประลองต่างคิดไปว่า หวังฉายต้องกระดูกหักบ้าง พิการบ้าง บางคนคิดว่าหวังฉายได้ตายไปแล้ว
ฝุ่นเริ่มจางลงเริ่มเห็นเงาคนยืนอยู่หนึ่งคน ส่วนอีกร่างหายไปไหนไม่รู้ เงาที่ยืนเริ่มเผยให้เห็น หวังฉายยืนอยู่กลางห้อง ส่วนร่างของหุ่นนั้นแตกกระจายเป็นเศษไม้ไปทั่วห้อง
ทุกคนถึงกับตาค้างไม่เชื่อกับสิที่เห็น
หวังฉายมองที่กำปั้นตัวเองพร้อมเดินออกจากห้องฝึก พอได้ออกมาก็ได้เห็นภาพที่แปลก ผู้คนยืนนิ่งและจ้องมองมาที่เค้า
หวังฉายจึงสกิดเรียกสติของถังเฟย "เกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงมองมาที่ข้ากันหมด" หวังฉายถาม
ถังเฟยสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะตอบ "ก็นายเล่นโชว์โหดขนาดนั้น และนั้นมันหุ่นระดับ2เลยนะ ทำผลงานก่อนหน้านี้ของเราจืดจางไปเลย"
"ฮะ!!! ระดับ2 เราเลือกระดับ1ไปนะ" หวังฉายบ่นกับตัวเอง
ถังเฟยเอียงศรีษะทำเหมือนคิดอะไรสักอย่างก่อนพูด "เรื่องอื่นช่างมันก่อน ว่าแต่เมื่อกี้นายทำได้อย่างไง"
"พอดีข้าฝึกวิชาหมัดมานิดหน่อยนะ" หวังฉายตอบพร้อมทำท่าชกลม
เสียงเปิดประดูดังขึ้น 'ปึ้ง'
หวงหวงที่วิ่งเหมือนวงไพ่หนีตำรวจ มาหยุดที่หน้าหวังฉาย พร้อมรีบตรวจสอบร่างกายโดยคล่ำไปทั่วร่างของหวังฉายเพื่อที่จะเช็คว่ามีส่วนใดบาดเจ็บหรือไม่ ที่หวงหวงนั้นต้องกังวลเพราะในวันนี้ชมรมหุ่นเชิดเป็นผู้รับผิดชอบห้องฝึกวันนี้ และเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากรุ่นน้องของหวงหวง
หวังฉายที่กำลังโดนลูบไล้ร่างกาย ด้วยความที่หวงหวงเป็นคนที่น่ารักมากอยู่แล้ว เจ้าหวังฉายน้อยจึงถูกปลุกขึ้นจากการหลับไหล หวังฉายจึงจำเป็นต้องโก่งตัวเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
แต่ไม่พ้นสายตาหวงหวง "นี้นายบาดเจ็บช่วงเอวหรอ" หวงหวงถาม
หวังฉายที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพยักหน้าตอบรับไป
หวงหวงไม่รอช้า ได้ปล่อยเส้นใยบางๆแต่แข็งแรงดั่งเหล็กกล้าไปรอบๆตัวหวังฉาย
"เอ๊ะทำไมขยับไม่ได้" หวังฉายเรื่องรู้สึกผิดปกติกับร่างกายตัวเอง
หวังฉายเริ่มเดินท่าทางแปลกๆเพราะเป็นการเดินที่เอวไม่ขยับไปทางประตูอาคารฝึก โดยทีถูกหวงหวงควบคุมอยู่
"ถังเฟยช่วยด้ว…"หวังฉายพูดยังไม่ทันจบปากก็ไม่สามารถเปิดได้แล้ว
หวงหวงหันหลังแล้วก้มลงลาถังเฟยจากนั้นเดินอยู่หลังหวังฉาย โดยมีนิ้วมือที่ขยับอย่างรวดเร็ว
ถังเฟยเห็นเช่นนั้นจึงได้บอกลาหวังฉาย "โชคดีเพื่อน มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ " ถังเฟยพูดทั้งๆที่รู้ว่าหวังฉายพูดไม่ได้อยู่ในขณะนี้
***เกร็ดความรู้ ใบโควเวอร์ แฉกที่1 ความหมายคือ ความหวัง
แฉกที่2 ความหมายคือ เชื่อมั่น/ศรัทธา
แฉกที่3 ความหมายคือ ความรัก
แฉกที่4 ความหมายคือ โชค