Mister lucky star ดวงข้าจะครองโลก - ตอนที่ 1 เปิดเทอมวันแรก
ในโลกที่มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่สนใจ ทำให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ
ซึ่งในปี2040แกนโลกได้มีการเคลื่อนที่เร็วขึ้นจึงทำให้สนามแม่เหล็กโลกเบาบางลง อนุภาคต่างๆจากอวกาศไหลเข้ามาในโลก ทำให้ สิ่งมีชีวิตในโลก ทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือกระทั้งต้นไม้ มีวิวัฒนาการ แต่ยังไม่มีการค้นพบในช่วงนั้น เนื่องจากอนุภาคใช้เวลาในการสะสมในร่างการนานถึง18ปี
เมื่อกาลเวลาผ่านไปจนถึงปี 2058 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งยิ่งใหญ่
ในเวลานั้น เริ่มเกิดเหตุการณ์จลาจลให้เห็นในหลายๆพื้นที่ ตัวมนุษย์เองก็เริ่มมีพลังเหนือธรรมชาติมากมาย เช่น บางคนพ่นไฟได้ บางคนมีปีกที่ช่วยให้บินได้ รวมไปถึงพวกสัตว์ต่างๆเองมีการกลายพันธ์และมีสัตว์ในตำนานโผล่เริ่มปรากฎขึ้นมา สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้รัฐบาลไม่สามารถรับมือได้ทัน.
ทำให้หัวเมืองต่างๆถูกทำลายจนย่อยยับ ส่งผลให้จำนวนประชากรบนโลกลดลงอย่างรวดเร็ว โลกได้มีการแบ่งโซนพื้นที่ของมนุษย์และสัตว์อย่างจัดเจน สัตว์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจาก
สัญชาตญาณของมัน จึงทำให้มีการปรับตัวแล้วใช้พลังได้ดี
ภายใต้แรงกดดันของรัฐบาล แต่ละประเทศได้ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับปัญหาและศึกษาว่าพลังพิเศษเกิดขึ้นได้อย่างไร
จนรู้ว่าพลังของมนุษย์นั้น เกิดขึ้นในช่วงอายุ18ปี และพลังที่ได้รับมาอยู่กับสิ่งที่เราคลุกคลีตั้งแต่เด็ก เช่นคนที่ทำงานโรงงานน้ำแข็งอยู่ในที่หนาวเย็นก็จะมีพลังเกี่ยวกับน้ำแข็ง หรือ คนที่ชอบเล่นฟิตเนสก็จะมีพลังที่แข็งแรงเหนือมนุษย์
เดือน พฤษภาคม ปี 2099
ปิ๊ง ป่อง! ปิ๊ง ป่อง! นักศึกษาใหม่ทุกคนโปรดทราบ เวลา10.00 น. ให้นักศึกษาที่ปลุกพลังได้แล้วเจอกันที่อาคาร1 ห้อง 101 และนักศึกษาที่ยังไม่สามารถใช้พลังได้เจอที่อาคาร6 ห้อง601 เสียงประกาศดังขึ้น
ใช่แล้วครับวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของมหาวิทลัยไป๋หู่(เสือขาว) ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน 4 แห่งของหัวเมืองกั่ว โดยมี
มหาวิทลัยชิงหลง(มังกรเขียว)
มหาวิทลัยไป๋หู่(เสือขาว)
มหาวิทลัยจูเชวี่ย(หงส์แดง)
และมหาวิทลัยเสวียนอู่(เต่าดำ)
ประจำแต่ละทิศของหัวเมืองนี้ การที่จะเข้ามหาวิทยาลัยทั้ง 4 แห่ง นี้ได้ล้วนต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่โดดเด่นหรือมาจากตระกูลดังเท่านั้น
"เลิกคุยแล้วนั่งที่ให้เรียบร้อย อย่าทำให้เวลาอันมีค่าของผมนั้นเปล่าประโยชน์!!!" น้ำเสียงของอาจารย์หน้าห้องดูไม่ค่อยพอใจ เพราะเค้าต้องมาคุ้มห้องนักเรียนที่ยังไม่สามารถปลุกพลังได้
ครืดดดดดด!!! เสียงประตูเลื่อนเปิดออก ชายหนุ่มผมสีดำเข้ม คิ้วเข้ม นัยต์ตาสีน้ำตาลเป็นประกาย จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากสีอมชมพู แก้มแดงระเรื่อผิวขาว สูงประมาณ 190 ซม. น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม นักศึกษาสาวในห้องต่างมองอย่างไม่ละสายตา ไล่จากหัวลงมาหยุดที่ … เท้า
ทุกคนต่างอึ้ง เพราะเขานั้นใส่รองเท้าข้างเดียว
"ขอโทษครับ! พอดีผมถูกกระรอกขโมยร้องเท้าไปครับ" หวังฉายได้ก้มหัวขอโทษที่เขามาสายและรีบมองหาที่นั่ง ยังมีที่นั่งว่างอยู่พอประมาณ
สาวๆบางคนรีบชี้ที่ว่างข้างๆให้หวังฉายมานั่ง แต่หวังฉายกลับเลือกที่นั่งมุมห้องด้านหนึ่ง
"หวัดดี ชั้นถังเฟย โกหกอาจารย์ทั้งทีก็ให้มันเนียนๆ หน่อยสิ!!! เปลี่ยนจากกระรอกเป็นหมาก็ยังดี" ถังเฟยชายหนุ่ม ผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะได้พูดขึ้น
หวังฉายมองหน้าถังเฟยแล้วถอนหายใจ เฮ้อ!!! "ข้าหวังฉาย แต่กระรอกขโมยรองเท้าไปจริงๆ"
จากนั้นหวังฉายได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถังเฟยฟังว่าเขานั้นกำลังกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวในแบบฟอร์มเพื่อให้อาจารย์ใตต้นวอลนัทเพื่อรอเวลาเข้าห้อง จึงถอดร้องเท้าเพื่อให้นั่งสบายๆ จู่ๆมีหญิงสาวหน้าตาดีมาขอนั่งด้วย
ขณะที่สบตากับหญิงสาว ลูกวอลนัทก็ตกใส่ร้องเท้าเขาพอดี ตุบ!!! แล้วกระรอกได้มาคาบรองเท้าเพื่อเอาลูกวอลนัทเขารีบวิ่งตามแต่กระรอกวิ่งขึ้นต้นไม้แล้วกระโดดข้ามอาคารไป เขาจึงหยุดตามและกลับมายังใต้ต้นวอลนัท แบบฟอร์มก็ปลิวหายไปเสียแล้ว
ถังเฟยเมื่อได้ฟังก็ถึงกับอ้าปากค้าง "อะไรจะซวยขนาดนั้น" ถังเฟยพูด พลางทำหน้าสีหน้าเหยเก
ลู่เหมยที่นั่งสูงกว่าหวังฉายอีกขั้นหนึ่งได้ยินว่าแบบฟอร์มของหวังฉายหายไป ซึ่งลู่เหมยนั้นมี 2 ใบพอดี จึงหยิบแบบฟอร์มแล้วสะกิดหลังหวังฉายเพื่อส่งให้
หวังฉายหันหลังมา เนื่องจากที่นั่งมหาลัยเป็นเล่นระดับชั้น คนที่อยู่ด้านหลังจะอยู่สูงกว่า1นั้นบันไดทำให้พอหวังฉายหันหลังมานั้นได้เจอภูเขา2ลูกตั้งอยู่เด่นสง่า จากนั้นลู่เหมยก็ยื่นแบบฟอร์มให้หวังฉาย พรางก้มตัวลงเพราะมีโต๊ะขว้างอยู่ ทำให้หวังฉายได้วิวที่ดีขึ้น สีหน้าหวังฉายเริ่มแดงขึ้น -///-
"หวังฉาย มาหน้าชั้น" เสียงอาจารย์ดังสนั่นทั่วห้อง หวังฉายลุกขึ้นแล้วเดินไปหน้าชั้น
"ไม่ตั้งใจฟังที่ผมพูด แล้วสายตามองอะไรอยู่เมื่อสักครู่" อาจารย์เหาได้พูดขึ้น
หวังฉายตกใจแล้วสบถไปว่า "อาจารย์รู้ได้อย่างไร?"
อาจารย์กล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ "เฮ้อ!!! แต่ก่อนอาจารย์เชี่ยวชาญด้านแอบมอง เอ้ย หมายถึงสืบข้อมูลน่ะ"
"หยุดถามอะไรไร้สาระได้แล้ว ได้ฟังที่ผมพูดไหม?"
หวังฉายเตรียมจะปฏิเสธ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ดีๆก็มีลมพัดกระดาษจดของหญิงสาวที่ตั้งใจเรียนอยู่ข้างหน้าสุดปลิวมาตกที่มือหวังฉายพอดี ทำให้หวังฉายรู้คำตอบจึงตอบไป
"เรื่องเกี่ยววิธีการใช้พลังของแต่ละคนครับ"
อาจารย์เหาได้ฟังแล้วก็เซ็งกับเหตุการณ์การที่เกิดขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงให้หวังฉายกลับไปนั่งที่
หวังฉายเดินกลับไปแล้วคืนกระดาษที่ปลิวมาให้หญิงสาวหน้าห้องพร้อมกล่าว "ขอบคุณนะ"
อาจารย์เหาได้อธิบายว่า "การใช้พลังของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เช่น พวกความสามารถด้านพลังจิตส่วนใหญ่สมาธิต้องแน่วแน่หรือ ความสามารถด้านพละกำลังก็จะเป็นพวกเกร็งกล้ามเนื้อ"
หญิงสาวหน้าห้องได้ยกมือถาม "แล้วทำไมพลังของแต่ละคนถึงแตกต่างกันคะ"
"พลังเริ่มต้นของเราอยู่ที่การใกล้ชิดหรือการรักในสิ่งที่เราทำในวัยเด็ก ครอบครัวชั้นสูงจึงให้ทายาทที่เกิดมาใกล้ชิดกับพลังที่มี
ประสิทธิภาพ เช่น สายธรรมชาติ โดยให้ไปอยู่ในห้องฝึกซ้อม ส่วนการพัฒนาหลังพลังถูกปลุกขึ้นแล้วนั้น ต้องมั่นฝึกฝน
อาจารย์เหาทำหน้าเครียดแล้วกล่าวขึ้นต่อว่า "และการกินหัวใจของอนุภาค ซึ่งอยู่ในสัตว์และมนุษย์ จึงทำให้มีองค์กรใต้ดินที่คอยฆ่ามนุษย์กันเองเพื่อให้ตัวเองแข็งเกร่ง"
พออาจารย์เหากล่าวจบนักศึกษาก็หน้าซีดกัน ขณะเดียวก็มีพลังของจิตสังหารเปร่งออกมาจากที่นั่งริมสุดของแถวรองสุดท้าย ซึ่งก็คือหวังฉายนั่นเอง ทำให้ ถังเฟยและ ลู่เหมยที่นั่งอยู่ใกล้ๆสัมผัสถึงพลังนั้นได้ ถ้าเป็นนักศึกษาอื่นที่นั่งใกล้หวังฉายอาจจะสลบไปแล้วก็ได้แต่ ถังเฟยและลู่เหมยมาจากครอบครัวชั้นสูงจึงทำให้รับมือกับจิตสังหารได้ดี
อาจารย์เหาเห็นบรรยากาศในห้องเรียนไม่ดี จึงเปลี่ยนเรื่องคุย เอาล่ะ "พลังเราแบ่งได้เป็น 5 สายนั่นก็คือ
1. คือสายธรรมชาติ เป็นพวกใช้พลัง ไฟ น้ำ ลม (โจมตี)
2. สายพลังจิต พลังส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างภาพมายา/ควบคุม (หลอกลวง)
3. สายกายา ร่างกายบางส่วนมีการพัฒนาที่แข็งแกร่ง (สายแทงค์/ป้องกัน)
4. สายสนับสนุน จะเป็นพวกรักษาหรือเพิ่มความสามารถ(บัพ)
และ 5. เป็นสายพิเศษ จะเป็นพวกที่ชอบของอะไรแปลกๆ ทำให้ไม่มีประโยชน์ในเชิงการต่อสู้
ตอนที่กล่าวข้อ5นั้น อาจารย์เหาใช้เสียงน้อยเนื้อต่ำใจเพราะเค้าเป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่ในสายนี้
อาจารย์เหานั้น ตอนเด็กๆ เกิดในฐานะปานกลางครอบครัวทำธุรกิจ โรงอาบน้ำ และหวังว่าอาจารย์เหาจะมีพลังเกี่ยวกับน้ำ จึงให้มาอยู่ที่โรงอาบน้ำทุกวัน แต่อาจารย์เหาชอบแอบไปดูฝั่งห้องน้ำหญิง จึงทำให้มีความสามารถในการรับรู้ว่า ใครกำลังมองร่างกายหญิงสาว
พอกล่าวจบ อาจารย์เหาได้หยิบลูกแก้วใสทรงกลมขนาดเท่าลูกบาส ออกมา "นี่คือ!!! ลูกแก้วตรวจจับพลัง จะให้ทุกคนออกมา
สัมผัสแล้วตั้งจิตให้ผ่อยคลายนึกถึงสิ่งที่ชอบในวัยเด็กออกมา แล้วลูกแก้วก็จะเปลี่ยนสีตามสายของพลังบุคคลที่ทำการทดสอบนั้น
โดยที่ สีแดง จะเป็นสายธรรมชาติ สีดำ เป็นสายพลังจิต สีเหลือ เป็นสายกายา สีฟ้า สายสนับสนุน และส่วนสายพิเศษจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง"
พออาจารย์กล่าวจบก็เริ่มให้แถวหน้าสุดได้เริ่มเข้าการทดสอบ