INVINCIBLE โลกอมตะ - บทที่ 91: ทะลวงผ่านสู่ขั้นนักรบระดับเจ็ด

หวงเสี่ยวหลงเห็นปฏิกิริยาของเจียงเต็ง และเขาก็เกาไปที่ศีรษะของเขาด้วยรอยยิ้มที่ไร้ตัวตน เขาน่ากลัวมากไหม? หวงเสี่ยวหลงเกินไปยังที่นั่งของเขา และนั่งลง
แม้ว่าหวงเสี่ยวหลงไม่ค่อยเข้าชั้นเรียนในระยะสุดท้าย แต่ไม่มีใครกล้าที่จะครอบครองที่นั่งของเขา และยังคงถูกสงวนเอาไว้
"เสี่ยวหลง!" หลี่ลู่มีความสุขมากที่ได้เห็นหวงเสี่ยวหลง และลักยิ้มสองข้างที่น่ารักของนางได้ปรากฏบนใบหน้าของนางขณะที่นางเรียกเขา
หวงเสี่ยวหลงพยักหน้าแทนคำทักทาย หลี่ลู่ดูเหมือนจะผอมลงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่รอยยิ้มที่น่ารักบนใบหน้าของนางยังคงเหมือนเดิม
แม้กระทั่งหลังจากที่หวงเสี่ยวหลงนั่งลงเป็นเวลานานแล้ว แต่เจียงเต็งก็ยังกลัวเกินกว่าที่จะกลับไปยังที่นั่งของตัวเองจนกว่าจะถึงเวลาที่เซี่ยงเม่ยฉีเดินเข้ามา
สังเกตเห็นหวงเสี่ยวหลงในห้องเรียน, เซี่ยงเม่ยฉีรู้สึกแปลกใจ และรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ในระหว่างการบรรยายของชั้นเรียน นางขาดความสนใจ และนางหยุดการสอนลงกลางครันบ่อยครั้ง และลืมสิ่งที่นางกำลังพูดอยู่หลายครั้ง
หวงเสี่ยวหลงออกจากห้องเรียนไปหลังจากที่นั่งฟังอยู่ครึ่งชั่วยาม และตรงไปยังห้องสมุด
ตั้งแต่เขาค้นพบที่ตั้งของนิกายประตูเทพอสูรในทวีปเมฆดารา เขาต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่หวงเสี่ยวหลงใช้เวลาอยู่ในห้องสมุด
เมื่อหวงเสี่ยวหลงออกมามันเป็นตอนเที่ยงแล้ว 
เขากลับไปที่คฤหาสน์เทียนซวน เขาคิดว่าน้อง ๆ สองคนนี้กำลังออกไปเล่นอีกครั้งเพราะไม่เห็นแม้แต่เงาของทั้งสองรอบ ๆ บริเวณของคฤหาสน์
แม้แต่เจ้าลิงน้อยก็วิ่งไปที่ป่าจันทราสีเงิน เพื่อฆ่าสัตว์ร้าย และกินสัตว์ร้ายเพื่อการบ่มเพาะ และปรากฏตัวในคฤหาสน์บางเป็นครั้งคราว
ทั้งสามคนไม่ค่อยอยู่ แต่พ่อแม่ของเขามักจะอยู่ในบริวเณที่พักของพวกเขา หวงเสี่ยวหลงได้มอบทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในให้กับพวกเขา และเตือนให้พวกเขาฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
ความสำเร็จในการบ่มเพาะของพ่อแม่ของเขาถูกจำกัดด้วยความสามารถทางจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขา และโอกาสที่พวกเขาจะบุกเข้าสู่ระดับนักรบเหนือธรรมชาติก็มีโอกาสน้อยมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต่างไปด้วยการสนับสนุนการบ่มเพาะกำลังภายในเช่นนี้ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ระดับนักรบเหนือธรรมชาติได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่นหวงเสี่ยวหลง เมื่อเขาฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นไปถึงขั้นที่สิบแล้วเขาอาจได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนักรบเหนือธรรมชาติในเรื่องของพลังภายใน
หวงเสี่ยวหลงประเมินผู้เชี่ยวชาญระดับนักรบเหนือธรรมชาติพลังภายในกับผู้เชี่ยวชาญระดับนักรบเหนือธรรมชาติในโลกนี้น่าจะมีระดับความแข็งแกร่งคล้ายกัน
หวงเผิง และซูเย่วรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินว่าหวงเสี่ยวหลงกล่าวว่าการฝึกฝนทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในที่เขามอบให้จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสก้าวเข้าสู่ระดับนักรบเหนือธรรมชาติได้สูงขึ้น
หลังจากมอบทักษะการบ่มเพาะให้กับพ่อแม่ของเขาแล้ว หวงเสี่ยวหลงได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่ปลูกฝัง และส่วนที่ยากซึ่งยากที่จะเข้าใจ
เมื่อเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม หวงเสี่ยวหลงออกจากบ้านพักของพ่อแม่ของเขา เพื่อกลับไปที่บ้านพักของตัวเองซึ่งเขาต้องการไปฝึกฝนทักษะเทพอสูร และความโกรธเกรี้ยวของเทพอสูร
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็วอีกหนึ่งเดือนได้ผ่านพ้นไป
โดยทั่วไปในเวลาหนึ่งเดือนนี้หวงเสี่ยวหลงไม่ได้ก้าวออกไปนอกบ้านพักของเขาเพราะทุกๆช่วงเวลาเขาใช้เวลาในการบ่มเพาะทักษะเทพอสูร, คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น หรือความโกรธเกรี้ยวของเทพอสูร
ในคืนวันนี้เช่นเหมือนวันปกติ หวงเสี่ยวหลงกำลังนั่งอยู่บนเตียงหยกเย็นกำลังฝึกฝนทักษะเทพอสูร แสงจันทร์สลัวส่องเข้ามาในห้องเหนือศีรษะของเขามีมังกรสีดำ และมังกรสีฟ้าที่ลอยอยู่เบื้องหลังของหวงเสี่ยวหลงกำลังกลืนกินพลังงานทางจิตวิญญาณของโลกเบื้องล่างอย่างตะกละตะกลาม ปราณฉีในร่างของหวงเสี่ยวหลงเริ่มแผดจ้า และแผ่ขยายออกไปตามเส้นลมปราณของเขา
และเจดีย์หลิงหลงลอยขึ้นเหนือศีรษะของหวงเสี่ยวหลง
อีกครั้งและเป็นอีกครั้งที่หวงเสี่ยวหลงยังคงโคจรทักษะเทพอสูร, ปรารฉีได้แผ่ซ่านผ่านเส้นลมปราณเขาเร็วขึ้น และเร็วมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระแทกกับกำแพงที่ปิดขวางเส้นทางสู่นักรบระดับเจ็ด
หวงเสี่ยวหลงไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนเมื่อร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหว รอยแตกเล็ก ๆ ฟังดูว่ามีเพียงหวงเสี่ยวหลงเท่านั้นที่สามารถได้ยินได้ อุปสรรคของนักรบระดับเจ็ดถูกทำลายไปแล้ว! ปราณฉีรีบวิ่งเข้าไปภายในเส้นลมปราณของนักรบระดับเจ็ด และอยู่ในตำแหน่งที่หัวใจ ทะเลฉีของหวงเสี่ยวหลงถูกสร้างขึ้น ปราณฉีของโลกเบื้องล่างรีบวิ่งเข้าไปที่เส้นลมปราณของนักรบระดับเจ็ดและรวมตัวกันในทะเลฉีที่ตั้งขึ้นใหม่ในหัวใจของหวงเสี่ยวหลง
เมื่อผ่านไปถึงนักรบระดับเจ็ด และสร้างทะเลฉีขึ้นก็จะมีปราณฉีเป็นจำนวนมากภายในร่างกาย หากปราณฉีภายในเส้นลมปราณเป็นเหมือนแม่น้ำสายเล็ก ๆ ตอนนี้ปราณฉีในทะเลฉีเป็นเหมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
ขณะที่กำแพงถูกทำลายมังกรสีดำ และมังกรสีฟ้าที่อยู่เบื้องหลังของหวงเสี่ยวหลงได้เริ่มทำการ วิวัฒนาการ ร่างกายของมังกรคู่โตขึ้นเกล็ดสีดำ และสีฟ้ากลายเป็นหนาแน่นขึ้น และสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดคือกรงเล็บต่าง ๆ ก็งอกออกมาจากเท้าทั้งสี่ หัวของมังกรสองตัวกำลังอ้าปากคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้าขณะที่พลังของมังกรที่น่าสะพรึงกลัวปลดปล่อยกลิ่นอายกวาดออกไปทั่วห้อง
ร่างของหวงเสี่ยวหลงถูกปกคลุมไปด้วยแสงประกายระยิบระยับเป็นเวลานานเช่นกำแพงแสงกั้นอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา
หวงเสี่ยวหลงรู้สึกตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็ผ่านมาสู่ขั้นนักรบระดับเจ็ด!
นักรบระดับเจ็ด หลายคนติดอยู่ที่เส้นแบ่งสองเส้น หนึ่งคือระดับสี่ และอีกหนึ่งคือระดับเจ็ด คนส่วนใหญ่ที่ทำการบ่มเพาะมานานหลายทศวรรษก็เพียงเพื่อผ่านไปยังนักรบระดับเจ็ด และบางส่วนยังคงติดอยู่ที่คอขวดไม่อาจฝ่าไปยังนักรบระดับเจ็ดได้
ในเมืองเล็ก ๆ ของอาณาจักรหลัวถง นักรบระดับเจ็ดเช่นหวงเสี่ยวหลงอาจถือได้ว่าเป็น 'กษัตริย์'
แต่ในช่วงเวลานี้หวงเสี่ยวหลงยังอายุไม่ถึงสิบเอ็ดปี
ตามที่เขารู้มาว่าบุคคลที่สร้างจักรวรรดิต้วนเรินซึ่งเป็นจักรพรรดิต้วนเรินได้ก้าวขึ้นสู่นักรบระดับเจ็ด เมื่ออายุสิบสามปี
ไม่อาจหยุดความสุขของเขา เขายังคงใช้ทักษะเทพอสูรในการปรับแต่งพลังงานทางจิตวิญญาณในร่างกายของเขา หลังจากที่มังกรสีดำ และสีฟ้าได้วิวัฒนาการความเร็วของการดูดซับพลังงานจิตวิญญาณของพวกเขาได้กลายเป็นเร็วขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาอยู่ในช่วงจุดสูงสุดของนักรบระดับหกขั้นปลาย!
ตอนแรกเมื่อหวงเสี่ยวหลงก่อตั้งทะเลฉีของเขา มันเป็นมหาสมุทรที่ว่างเปล่าในช่วงฤดูแล้ง ในขณะที่เขาผลักดันการปรับแต่งพลังงานทางจิตวิญญาณของโลกเบื้องล่าง ปราณฉีของเขาในทะเลฉีค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
ในเวลาเดียวกันปราณฉีของโลกเบื้องล่างก็กำลังปรับแต่งกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และผิวหนัง
ก่อนที่จะก้าวมาสู่นักรบระดับเจ็ด ปราณฉีไม่สามารถเสริมสร้างชั้นนอกของร่างกายได้ นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้หลังจากที่มีผ่านไปถึงนักรบระดับเจ็ด
หลังจากนั้นสักพัก หวงเสี่ยวหลงได้สิ้นสุดการบ่มเพาะของเขา และลุกขึ้นจากเตียงหยกเย็น เขาตะโกนดังขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อแสดงความยินดีในหัวใจของเขาสำหรับการก้าวไปสู่นักรบระดับเจ็ด
หลังจากผ่านคืนวันของการฝึกฝน หวงเสี่ยวหลงรู้สึกถึงความแตกต่างของผิวหนังของเขา นี่คือสิ่งใหม่ไม่ใช่แค่ว่ากล้ามเนื้อ และเลือดเนื้อของเขาจะกระชับขึ้น ขณะที่เส้นเอ็นของเขาแข็งแรงมากขึ้น
มีการกล่าวกันว่าชั้นนอกของนักรบระดับสิบแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อของวัว เส้นเอ็นมีพลังการระเบิดที่รุนแรงมาก
"ในที่สุดก็มาถึงนักรบระดับเจ็ดแล้ว ข้าสงสัยว่าข้ามีลักษณะอย่างไรหลังจากการเปลี่ยนวิญญาณ? ' หวงเสี่ยวหลงคิดและเดินออกจากห้องไปที่ลานหน้าที่พัก เรียกมังกรสีดำและสีฟ้าออกมา หวงเสี่ยวหลงได้ริเริ่มการเปลี่ยนวิญญาณทันทีแสงไฟสีดำ และสีฟ้าแตกออก และหายตัวไปภายในเวลาไม่ถึงสองอึดใจทำให้ตัวเองหดตัวลงบนร่างของหวงเสี่ยวหลงเริ่มใช้การเปลี่ยนวิญญาณ
มันเริ่มต้นด้วยแขนของเขา: เกล็ดมังกรครอบคลุมไปตามผิวของเขา หวงเสี่ยวหลงด้านซ้ายมือมีมังกรสีดำ และด้านขวามือของเขามีมังกรสีฟ้ากระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขานอกเหนือจากบริเวณใบหน้า หวงเสี่ยวหลงไม่ได้รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย แม้แต่ตอนที่ร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยกล็ดมังกรราวกับว่าพวกมันเป็นหนึ่งในร่างกายของตัวเอง และเขารู้สึกได้ว่าการป้องกันด้านนอกของเขาถึงระดับใหม่แล้ว
แข็งแกร่งมาก!
นี่เป็นสิ่งแรกที่เขาคิดในระหว่างการเปลี่ยนวิญญาณครั้งแรกของเขาด้วยจิตวิญญาณมังกรคู่ของเขา และหวงเสี่ยวหลงชอบความรู้สึกนี้มาก
หลังจากการเปลี่ยนวิญญาณหัวมังกรสองหัวดูเหมือนจะเป็นรอยสักบนหลังของเขาซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกมา
ในเวลาเดียวกันมีการเปลี่ยนแปลงภายในดวงตาของหวงเสี่ยวหลง ตาซ้ายของเขาเป็นสีดำทั้งหมด และดวงตาขวาของเขาเป็นสีฟ้า
หมัดของหวงเสี่ยวหลงถูกชกออกไป และเกิดแรงลมขึ้นในขณะที่มันตัดผ่านช่องว่างของอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว และผลที่ได้คือภูเขาจำลองที่ห่างออกไปมากกว่าสิบก้าวเหลือทิ้งไว้เพียงกองหินขนาดเล็ก และก้อนกรวดที่แตกหัก