หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Epoch of Twilight จบแล้วอ่านฟรี - ตอนที่ 581: อารยธรรมบาฮา

  1. หน้าแรก
  2. Epoch of Twilight จบแล้วอ่านฟรี
  3. ตอนที่ 581: อารยธรรมบาฮา
Prev
Next

ตอนที่ 581: อารยธรรมบาฮา

แล้วมนุษย์ได้รับประโยชน์อะไรจาก Dicerebral Men บ้างไหม?

จากข้อมูลที่พวกเขารวบรวมได้ มีบางตัวอย่าง

โดยดูแค่การใช้พลังงานในแต่ละปี การใช้พลังงานต่อปีของ Dicerebral Men นั้นอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนล้านเมื่อเทียบกับที่มนุษย์ใช้ ปริมาณพลังงานที่ใช้โดยยานจากกองยานรบขับเคลื่อนแนวโค้งก็เกินจำนวนพลังงานทั้งหมดที่อารยธรรมของพวกเขาใช้ นับประสาอะไรกับความแตกต่างอย่างมหาศาลในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของพวกเขา

หากมนุษย์ต้องการกำจัดอารยธรรม Dicerebral แล้ว มันจะง่ายเหมือนกับการกำจัดมด

 

ความแตกต่างในความแข็งแกร่งระหว่างอารยธรรมทั้งสองนั้นมากมายอย่างคาดไม่ถึง สำหรับอารยธรรม Dicerebral พวกมันอาจจะมีประโยชน์ต่อมนุษย์อยู่บ้างโดยเหตุที่มนุษย์ไม่ได้ทำลายพวกมัน อย่างไรก็ตามอารยธรรมมนุษย์นั้นเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของพวกเขาเท่านั้นและวิธีที่พวกเขาปฏิบัติตนในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ในนวนิยายไซไฟที่โด่งดังมีการกล่าวถึงกฎของป่าที่เร้นลับ มันอธิบายถึงจักรวาลที่เป็นเหมือนป่าอันเร้นลับ ที่ซึ่งอารยธรรมทุกแห่งเป็นเหมือนนักล่าที่ติดอาวุธพร้อมด้วยปืนไรเฟิล ขณะที่พวกเขาเดินย่องในป่าเหมือนปีศาจ เมื่อนักล่าพบสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เขาจะต้องยิงปืนไรเฟิลของเขาก่อนเพื่อกำจัดมัน นี่เป็นเพราะนักล่าจะไม่มีทางระบุความตั้งใจของคู่ต่อสู้ได้ – ไม่ว่าจะมีเจตนาดีหรือร้ายก็ตาม สิ่งเดียวที่ต้องทำคือกำจัดภัยคุกคามเพื่อปกป้องตัวเองไว้ก่อน

อย่างไรก็ตามสำหรับอารยธรรมอย่างเช่นมนุษย์กฎของป่าอันเร้นลับไม่สามารถใช้ได้ จักรวาลไม่เร้นลับอย่างน้อยภายในขอบเขตการตรวจจับของมนุษย์ – ภายในเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,500 ปีแสง อารยธรรมทุกแห่งถูกพบและพวกเขาไม่สามารถหลบซ่อนหรือวิ่งหนีได้ ทุกข้อความที่หลั่งไหลก็จะผ่านมนุษย์

 

หากจักรวาลถูกระบุว่าเป็นแผนที่ที่เต็มไปด้วยหมอกและความมืด ดังนั้นมนุษย์ก็มีความสามารถในการกระจายหมอกออกไปภายในขอบเขตเล็ก ๆ

อย่างไรก็ตามไม่มีแม้กระทั่งคนเสียสติที่บ้าคลั่งที่สุดที่กล้าทึกทักว่ามนุษย์อยู่ในจุดสูงสุดของจักรวาล จักรวาลสามมิติเพียงอย่างเดียวนั้นก็กว้างใหญ่พอที่จนกระทั่งทุกวันนี้มนุษย์ก็ไม่เคยออกจากทางช้างเผือกเลย

ภายในช่วงการค้นพบของอารยธรรมมนุษย์เพียงอย่างเดียวนั้นมีอารยธรรมต่างดาวอยู่ 12 อารยธรรมแล้วที่สามารถออกจากดาวบ้านเกิดของพวกเขาได้ เส้นผ่านศูนย์กลางทั้งสิ้นของทางช้างเผือกนั้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 ปีแสง และนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งทฤษฎีว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีอารยธรรมกว่าพันแห่งที่สามารถออกจากดาวบ้านของพวกเขาภายในทางช้างเผือกได้ และนั่นเป็นเพียงอารยธรรมที่สามารถออกจากดาวบ้านของพวกเขาได้ หากอารยธรรมที่ไม่สามารถออกจากดาวบ้านของพวกเขาได้ถูกนำมานับด้วย จำนวนนั้นก็อาจจะสูงถึงหลักหมื่น

 

นอกจากนี้ทางช้างเผือกยังเป็นแค่ส่วนประกอบธรรมดาของกลุ่มกระจุกกาแล็กซี กลุ่มกาแล็กซีในปัจจุบันก็เป็นส่วนประกอบของกลุ่มกระจุกกาแล็กซีหญิงสาว (Virgo Supercluster) และมันก็เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของจักรวาล

ภายในกาแล็กซี อารยธรรมนั้นก็เหมือนเมฆและหมอกควัน และท่ามกลางอารยธรรมเหล่านั้น อารยธรรมของพวกเขาอ่อนแอกว่ามนุษย์มาก โดยธรรมชาติแล้วก็ยังมีอารยธรรมที่ทรงพลังมากกว่ามนุษย์เช่นกัน

ใครคนหนึ่งอาจยืนอยู่บนยอดสะพานเพื่อมองดูทิวทัศน์ แต่ก็ย่อมมีคนยืนอยู่บนตึกระฟ้าในทิวทัศน์นั้นที่มองกลับมา ในทำนองเดียวกันในขณะที่มนุษย์เฝ้าดูอารยธรรมอื่น ๆ พวกเขาก็ถูกจับตาดูอยู่เช่นกัน

 

ภายในจักรวาลที่ทำตามกฎของป่า ความโหดเหี้ยม ความชั่วร้ายที่รุนแรงซึ่งพยายามทำลายอารยธรรมอื่น ๆ ย่อมดึงดูดอารยธรรมที่มีอานุภาพมากกว่าซึ่งมีเจตนาที่ไม่ดี นี่ไม่ใช่เพราะคุณค่าของความยุติธรรมและความเมตตา แต่เป็นเพราะการมีอยู่ของอารยธรรมเหล่านี้จะนำความวุ่นวายและความหวาดกลัวมาสู่อารยธรรมอื่น ๆ การระมัดระวังและกำจัดอารยธรรมที่น่าหวาดกลัวเหล่านี้ ในขณะเดียวกันอาจจะไม่ดึงดูดการเหยียดหยามจากอารยธรรมอื่น ๆ มากนัก

ด้วยเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว มนุษย์จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกับพฤติกรรมของพวกเขาและจะเคลื่อนไหวภายในระบบดาวของพวกเขาเท่านั้น พวกเขาไม่ได้ทำการสำรวจอย่างที่ Glassians เคยทำในมาอดีต นับประสาอะไรกับการติดต่อสื่อสารในรูปแบบพื้นฐานกับอารยธรรมในบริเวณใกล้เคียง

หากไม่ใช่เพราะ Dicerebral Men อยู่ใกล้ระบบสุริยะของพวกเขามากเกินไปในขณะที่อยู่ในการแข่งขันทางอาวุธกับมนุษย์ อารยธรรมทั้งสองของพวกเขาอาจจะไม่ขัดแย้งกัน หากสถานที่นี้ไม่ได้เหนือกว่าในทางภูมิศาสตร์เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นของพวกเขา มนุษย์อาจจะไม่สนใจพวกเขาด้วยซ้ำ

…

 

หลายเดือนต่อมายานขับเคลื่อนแนวโค้งแบบไร้คนขับขนาดเล็กก็ค่อย ๆ เข้าใกล้อารยธรรมอันทรงพลังซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,200 ปีแสงหลังจากบินมานานกว่า 20 ปี

ฝ่ายตรงข้ามตอบสนองอย่างรวดเร็วก่อนที่ยานแบบไร้คนขับนั้นจะเข้ามาในระยะ 5 ปีแสง ไม่นานยานขับเคลื่อนแนวโค้งแบบไร้คนขับขนาดเล็กนั้นก็ถูกสกัดโดยกองยานขนาดใหญ่

จากนั้นหลังจากยิงปืนแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดยักษ์ ยานแบบไร้คนขับของมนุษย์ก็ได้ทำลายตัวเองทันที

 

 

ปฏิสสารประมาณ 10,000 ตันที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบภายในยานแบบไร้คนขับนั้นระเบิดทันที กองยานขนาดใหญ่ทำการตรวจสอบซากส่วนต่าง ๆ ทั่วทั้งดาวอย่างละเอียดหลังจากการระเบิด แต่นอกเหนือจากเศษโลหะและปืนแม่เหล็กไฟฟ้าก็ไม่มีอะไรเหลือให้พวกเขากู้

ภายในปืนแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นโลหะทรงกลมที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งมีความหนา 0.5 เมตร กระดาษข้อมูลที่เขียนในรูปแบบของภาษาหนึ่งพร้อมกับการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้มีส่วนร่วมในการสื่อสารควอนตัมกับมนุษย์ หนังสือความรู้ประเภทนี้สามารถถอดรหัสได้อย่างง่ายดายเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการถอดรหัสภาษามนุษย์ได้โดยแม้แต่ผู้ที่มีสติปัญญาขั้นพื้นฐาน

หลังจากวัตถุถูกค้นพบมันได้ถูกส่งไปยังดาวที่เป็นผู้ปกครองของอารยธรรมแห่งนี้ ซึ่งพวกเขาก็ได้เริ่มวิเคราะห์มัน หนึ่งวันต่อมาอารยธรรมทั้งสองก็ได้เริ่มทำการติดต่อกันเป็นครั้งแรก

อารยธรรมนี้เรียกว่าอารยธรรมบาฮา นับตั้งแต่การพัฒนาของอารยธรรมนี้ก็ได้ขยายออกไปเกินกว่าดาวบ้านเกิดของพวกเขา หลายหมื่นปีผ่านไปประชากรของพวกเขาก็เกินหนึ่งแสนล้านคน พวกเขาอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ต่าง ๆ  12 ดวง และมีกองกำลังกระจายอยู่ทั่วทั้งห้าระบบสุริยะ ภายในหลายหมื่นปีแสง พวกเขาเป็นเจ้าเหนือหัวในระบบสุริยะของพวกเขามาตลอด เนื่องจากพวกเขาไม่มีอารยธรรมอื่นใดที่สามารถท้าทายพวกเขาได้ แม้แต่ชาว Glassians ก็เป็นเหมือนมดตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขา

นั่นจนกระทั่งมนุษย์ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว !

 

ในตอนแรกอารยธรรมบาฮาไม่ได้สนใจ Glassian หรือมนุษย์แต่อย่างใด อันที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของอารยธรรมมนุษย์และ Glassian นั้นไม่เพียงพอที่จะจุดประกายความสนใจของพวกเขา แม้ว่าอารยธรรมทั้งสองจะต่อสู้กันเอง มันก็เหมือนการชนไก่สำหรับอารยธรรมบาฮา มันไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาเลย ต่อให้การต่อสู้นั้นจะจบลงด้วยการทำลายอารยธรรมทั้งสอง มันก็ไม่ต่างอะไรกับการตายของมด

จนกระทั่งอารยธรรมทั้งสองได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแนวโค้ง และหลังจากที่อารยธรรมหนึ่งได้ประสบความสำเร็จในการทำลายอีกอารยธรรม พวกเขาก็ค่อย ๆ กลายเป็นที่สนใจ

กับความจริงที่ว่าพวกเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนแนวโค้ง นั่นหมายความว่าพวกเขาได้วิวัฒนาการจากมดตัวเล็กไปเป็นมดตัวใหญ่ แม้ว่าเทคโนโลยีนั้นจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ตาม แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ได้มาถึงขีดจำกัดของการขยายตัวของพวกเขาและจะไม่สามารถคุกคามอารยธรรมบาฮาได้ภายในเวลาหลายพันปีตามกฎว่าด้วยการพัฒนาอารยธรรม ไม่กี่พันปีต่อจากนั้นอารยธรรมบาฮาก็จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่อารยธรรมบาฮาไม่เคยคาดคิดก็คืออัตราการขยายตัวของอารยธรรมมนุษย์รวดเร็วเกินไป มันเร็วอย่างไม่น่าเชื่อและนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความกลัวภายในตัวพวกเขา หากมาตรฐานอัตราการเติบโตของอารยธรรมนั้นจะเรียกว่าเป็นความก้าวหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมั่นคง ดังนั้นมนุษย์ก็จะเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

เมื่ออารยธรรมบาฮาหันมาให้ความสนใจต่ออารยธรรมมนุษย์อีกครั้ง ทันใดนั้นพวกเขาก็อาจจะเป็นภัยคุกคามต่ออารยธรรมบาฮา

ไม่มีเจ้าเหนือหัวใดที่จะสามารถทนต่อกองกำลังอื่นที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจท้าทายตำแหน่งของพวกเขาในฐานะเจ้าเหนือหัวได้ หลังจากที่พวกเขาได้รับการยืนยันถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นโดยมนุษย์ อารยธรรมบาฮาก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม ในด้านหนึ่งพวกเขาได้เริ่มสร้างกองยานรบขนาดใหญ่ขึ้น ในอีกด้านหนึ่งพวกเขาก็เริ่มเพิ่มการสำรองปฏิสสาร

 

ระยะห่างระหว่างอารยธรรมทั้งสองอยู่ที่ประมาณ 1,200 ปีแสง และนี่เป็นระยะทางที่ไกลมากสำหรับอารยธรรมบาฮา พลังงานที่ต้องใช้ในการเดินทางของกองยานรบหลายพันลำก็คงเป็นจำนวนมหาศาล แม้กระทั่งสำหรับอารยธรรมบาฮาที่เป็นเจ้าของทรงกลมไดสันที่แตกต่างกัน 3 แห่ง

โชคไม่ดีที่หลังจากการเตรียมการมาสองสามปี อารยธรรมบาฮาก็พบว่ามนุษย์ก็เริ่มเตรียมการทำสงครามเช่นกัน

 

หลังจากการค้นพบนี้ความโกลาหลครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในระดับสูงของอารยธรรมบาฮา มนุษย์อยู่ในระยะการตรวจจับของพวกเขา ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถตรวจจับมนุษย์ได้ เมื่อหลายร้อยปีก่อนอารยธรรมบาฮาได้ริเริ่มโครงการสร้าง "ตา" ในระบบสุริยะบริเวณใกล้เคียง ผ่านเครื่องตรวจจับความยาวคลื่นอวกาศหลายร้อยเครื่องที่สร้างไว้ทั่วทุกมุมของระบบสุริยะ พวกเขาสามารถขยายการมองเห็นของพวกเขาไปได้เกือบ 2,000 ปีแสง – ระยะการตรวจจับสูงสุดของเครื่องตรวจจับความยาวคลื่นอวกาศ 1 ชุดได้แค่ 700-800 ปีแสงเท่านั้น

กับการค้นพบนี้สำหรับอารยธรรมบาฮาแล้วมันทำให้เกิดรอยฝังใจลึก ๆ เกี่ยวกับความสามารถทางเทคโนโลยีของอารยธรรมมนุษย์ เป็นอีกครั้งที่พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามที่รุนแรงมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นทหารของพวกเขา เหตุการณ์สำคัญในอารยธรรมของพวกเขา สถานการณ์ชีวิตและความตายหรือวิธีการหรือความอยู่รอดของพวกเขาไม่มีใครสามารถละเลยได้

 

สงครามไม่ใช่การเล่นของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสงครามระหว่างดวงดาวที่สามารถนำมาซึ่งชะตากรรมต่ออารยธรรมทั้งสอง เมื่อพ่ายแพ้ในสงคราม อารยธรรมที่พ่ายแพ้ก็จะอยู่ในนรกตลอดไป นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมอารยธรรมที่เจริญเต็มที่ที่เข้าสู่สงครามกับอารยธรรมที่คุกคามมักจะระมัดระวังเป็นพิเศษ

กับการลังเลที่อยู่เหนือความคิดของพวกเขานี้ แผนเดิมของอารยธรรมบาฮาเพื่อทำสงครามจึงล่าช้าออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ตามมาด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของกองทัพมนุษย์ สิ่งนี้ค่อย ๆ กลายเป็นการแข่งขันทางอาวุธอย่างใหญ่โตระหว่างอารยธรรมขั้นสูง 2 แห่ง

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 581: อารยธรรมบาฮา"

4 4 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

My Mcv and Doomsday
My Mcv and Doomsday
มีนาคม 12, 2022
สุดยอดผู้ควบคุมเมือง Super Urban Maste
สุดยอดผู้ควบคุมเมือง Super Urban Maste
มีนาคม 12, 2022
ปล้นสวรรค์
ปล้นสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
Seized by the System
Seized by the System
มีนาคม 12, 2022
มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
มีนาคม 12, 2022
Black Tech Internet Cafe System
Black Tech Internet Cafe System
มีนาคม 12, 2022
Tags:
sci-fi
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz