Dragon Kings Son-In-Law - DK 12 : ร่วมโต๊ะอาหาร
DK 12 : ร่วมโต๊ะอาหาร
ฮ่าวเหรินจ้องมองไปยังชายผู้สูงอายุด้วยความงุนงง ฉ่าวเจียยี่และรูมเมทคนอื่นก็พลันปล่อยแขนเขาและถอยเว้นระยะห่างจากฮ่าวเหรินทันที
นักศึกษากลุ่มใหญ่ที่เดินผ่านไปมาทางประตูเข้าหอ ซึ่งบางคนก็เพิ่งกลับมาจากคลาสเรียน และบางคนก็กำลังแบกเป้เตรียมกลับบ้าน ต่างส่งสายตาสงสัยไปยังฮ่าวเหรินจากแต่ละมุมที่พวกเขายืนอยู่
แน่นอนว่าฮ่าวเหรินอายแทบบ้า แต่ก็ยังคงเงียบอยู่
"กรุณาขึ้นรถด้วยครับ" ผู้อาวุโสซุนพูดกับฮ่าวเหรินด้วยความเคารพ
"ไม่!" ความดื้อหัวชนฝาของฮ่าวเหรินระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงตะโกน
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่เห็นมีใครบอกอะไรผมก่อนเลยนะ" ฮ่าวเหรินรู้สึกไม่พอใจมากๆ
"คุณหนูฮ่าว คุณหมั้นกับคุณจื่อแล้วนะครับ มันคงเป็นการดีที่สุดที่ผมจะไม่ต้องทำอะไรเกินความจำเป็นกับคุณนะครับ" ผู้อาวุโสซุนกล่าว
แม้ว่าบทสนทนานั้นจะดูเหมือนคนที่อยู่ไกลออกไปหน่อยจะไม่ได้ยิน แต่ฉ่าวเจียยี่และ รูมเมทคนอื่นๆต่างก็ได้ยินชัดทุกคำ "หมั้น?" ทุกคนพูดซ้ำตามกันโดยอัตโนมัติ
"ใครคือจื่อ?" ซู่ลี่เหรินถามฉ่าวเจียยี่และช่าวหลงฮวางอย่างสับสน
แต่ทั้งสองก็ส่ายหน้าตอบด้วยความว่างเปล่าในหัวเช่นกัน
"คุณอยากให้พวกเรารอคุณอยู่ตรงนี้ต่อไปมั้ยครับ?" คนแก่กว่าถามอย่างใจดี
"โอเค คุณชนะ!" เมื่อเห็นคนที่มาล้อมรอบพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ฮ่าวเหรินก็ยอมขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
รถลินคอล์นลีมูซีนคันยาวเริ่มเคลื่อนตัวออกไปท่ามกลางสายตาของทุกคน มันช่างยากจริงๆที่จะทำอะไรธรรมดาๆอย่างที่ฮ่าวเหรินอยากให้ทำได้
"เกิดอะไรขึ้นกับฮ่าวเหรินกันแน่เนี่ย!" ซู่ลี่เหรินพูดขึ้นทันทีที่รถลินคอล์นสีดำขับออกไปไกลแล้ว
รถยนต์ขับผ่านตัวเมืองไปอย่างนุ่มนวล ผ่านไปสักพักก็มาถึงบ้านสองชั้นหลังหนึ่ง
ถ้ามองภาพลักษณ์อันแสนธรรมดาของบ้านแล้ว คงไม่มีใครนึกถึงแน่ๆว่าที่นี่เป็นบ้านของคนรวย
เมื่อรถจอดสนิท ผู้อาวุโสซุนและฮ่าวเหรินก็ลงมาจากรถ เขากดกริ่งเรียกเจ้าของบ้าน
"เข้ามาสิ" ผู้หญิงหน้าตาสะสวยในชุดผ้ากันเปื้อนเปิดประตูรับและกล่าวอย่างนุ่มนวล
"ผมพาเขามาที่นี่แล้วครับคุณผู้หญิง ผมจะกลับแล้ว ถ้าต้องการอะไรก็กรุณาเรียกผมได้เลยครับ" ผู้อาวุโสซุนพูดกับเธอคนนั้นด้วยความสุภาพ
"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะผู้อาวุโสซุน แต่ฉันคงไม่กักตัวคุณไว้จากงานหรอกค่ะ เพราะดูเหมือนว่าคุณกำลังจะเลื่อนขั้นคัมภีร์หยกม่วงระดับ 9 แล้วนี่คะ ฉันไม่รบกวนเวลางานของคุณดีกว่า" เธอตอบ
"ขอบคุณครับคุณผู้หญิง" ผู้อาวุโสซุนโค้งพร้อมกับงอแขนข้างหนึ่งไว้ด้านหน้า ก่อนจะเดินกลับไปที่รถแล้วจากไป
ผู้หญิงคนสวยคนนั้นหันมายิ้มให้ฮ่าวเหรินที่ยืนอยู่ตรงประตู "มานั่งข้างในก่อนสิ"
รอยยิ้มของเธอดูงดงามราวกับเป็นรอยยิ้มของนางฟ้านางสวรรค์ ผมสวยถูกมัดรวบขึ้นเหมือนคนที่ต้องเดินออกมารับแขกระหว่างการวาดรูป และเพียงได้เห็นเธอฮ่าวเหรินก็ลืมเรื่องไม่น่าพอใจทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
"โอ้…" ฮ่าวเหรินตอบรับไม่เป็นศัพท์ แล้วเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไป
ภายในห้องถูกรีโนเวทใหม่อย่างประณีตและทำความสะอาดอย่างละเอียดหมดจด
"ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั้ยล่ะ?" เธอถามขึ้นระหว่างเดินนำทางเขา
"ยังครับ…" ฮ่าวเหรินตอบโดยไม่ได้คิด
เขาคงโกรธผู้หญิงตรงหน้าที่ทั้งสวยและสง่าคนนี้ไม่ลงแน่ๆ
"ฉันฉ่าวหงหยู่เป็นแม่ของจื่อ ตอนนี้พ่อจื่อไปรับเธอที่โรงเรียนอยู่น่ะ เดี๋ยวก็คงมากันแล้วล่ะ นั่งตามสบายเลยนะ ฉันจะไปทำอาหารก่อน" เธอนำฮ่าวเหรินไปที่โซฟาแล้วยิ้มให้ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในครัว
"นี่คงจะเป็นลักษณะของภรรยาที่แสนดีกับแม่ที่เป็นที่รักของแท้เลยสินะเนี่ย" ฮ่าวเหรินคิดในใจพลางจ้องมองแผ่นหลังของฉ่าวหงหยู่ไปด้วย
เขานั่งลงและมองสำรวจไปรอบบ้าน ถึงแม้ว่าด้านนอกตัวบ้านจะดูเรียบๆ แต่การออกแบบและการตกแต่งภายในถือว่าสวยงามและหรูหรามากเลยทีเดียว
มีบันไดสีขาวทางซ้ายเชื่อมตรงไปยังห้องนอนบนชั้นสอง และห้องทำงานอ่านหนังสืออยู่ขวามือ ซึ่งภายในห้องนั้นมีชั้นวางหนังสือสีดำขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกชัดเจนเลยว่าพวกเขาคือครอบครัวนักวิชาการจริงๆ
พรมนุ่มฟูในห้องนั่งเล่นเองก็สวยงามมาก รวมถึงโคมระย้าสไตล์ยุคกลางก็แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของครอบครัวได้ดี
แกร๊ก! ประตูถูกเปิดออก เป็นฉ่าวกวงเดินเข้ามาพร้อมกับฉ่าวเหยียนจื่อ
ฉ่าวเหยียนจื่อยังคงอยู่ในชุดนักเรียนสีฟ้าอ่อนสดใส เธอกัดฟันด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเห็นฮ่าวเหรินภายในบ้านแต่ไม่แสดงท่าทีตกใจใดๆออกมา "พ่อเธอคงบอกเรื่องพวกนี้ตอนไปรับเธอแล้วแน่ๆ" ฮ่าวเหรินคิดในใจ
"นายมาแล้ว" ฉ่าวกวงเริ่มทักทายก่อน
"คุณลุง" ฮ่าวเหรินยืนขึ้นแล้วทักทายตอบ แม้เขาจะไม่ได้มองว่าฉ่าวกวงเป็นพ่อตาของตัวเอง แต่เขาก็จำเป็นต้องทำตัวสุภาพเอาไว้ในฐานะแขกของบ้านนี้อยู่ดี
ฮ่าวเหรินเหลือบมองฉ่าวเหยียนจื่อที่กำลังหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ เขาตัวสั่นนิดๆเมื่อคิดว่าต้องหมั้นหมายและตกหลุมรักกับเด็กมัธยมแบบนี้ ยิ่งเรื่องความซับซ้อนของตัวตนเธอนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
"ไม่เป็นไร นั่งลงเถอะ" ฉ่าวกวงพูดนิ่งๆ ก่อนจะหันไปหาฉ่าวเหยียนจื่อ "นั่งคุยกันไปก่อนนะ พ่อยังมีงานต้องทำอีกหน่อย"
เมื่อพูดจบ ฉ่าวกวงก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทางขวาแล้วเริ่มจัดการกับเอกสารของเขา
ฉ่าวเหยียนจื่อยืนนิ่งบนพรม จ้องมองฮ่าวเหรินราวกับแทบจะกินหัวเขาอยู่แล้ว
"ฉันขอเตือนนายนะ ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานกับนาย เพราะฉะนั้น ถ้านายเอามือมาเกาะแกะฉันล่ะก็ ฉันเชือดมันทิ้งแน่!" เธอพูดอย่างเกรี้ยวกราด
"ประเด็นคือผมก็ไม่เคยอยากแต่งงานกับเธอเหมือนกัน โอเค้? ผมจะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อพวกเขาลักพาตัวผมมาที่นี่น่ะ?" ฮ่าวเหรินก็ตอบกลับด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรใส่ฉ่าวเหยียนจื่อเช่นกัน
ฮ่าวเหรินคิดในใจ "นี่เราจำเป็นต้องโกรธเด็กมัธยมด้วยเหรอ?" ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเด็กมัธยมที่ว่าคนนั้นดันเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขาตอนนี้เหมือนกัน
"ฉันจะขึ้นไปเล่นคอมข้างบน นายนั่งไปคนเดียวเถอะ!" ฉ่าวเหยียนจื่อเหลือบมองฮ่าวเหรินพลางเดินขึ้นบันไดไป
"จื่อ!" แต่เสียงเข้มของฉ่าวกวงดังขัดมาจากห้องทำงานเสียก่อน
ฉ่าวเหยียนจื่อถึงกับต้องเคี้ยวฟันตัวเองและหยุดเดินเพราะคำพูดของพ่อทันที
ฉ่าวเหยียนจื่อบุ้ยปากหลังจากยืนคิดจริงจังอยู่พักหนึ่ง เธอกลอกตาใส่ฮ่าวเหริน จากนั้นจึงเดินกลับมาหาเขาอย่างเชื่องช้าราวกับมีหินเป็นพันๆก้อนถ่วงเธอเอาไว้
ปึง! ฉ่าวเหยียนจื่อทิ้งตัวลงนั่งข้างๆฮ่าวเหรินด้วยความไม่เต็มใจสุดๆ
"ดูทีวีสิ ถ้าไม่อยากคุยนักน่ะ" ฮ่าวเหรินเองก็เหลือบมองเธออย่างไม่พอใจเช่นกัน ก่อนจะหันไปเปิดทีวีด้วยรีโมท
ส่วนฉ่าวเหยียนจื่อก็เอาแต่จ้องเขาด้วยความโกรธเคืองอยู่อย่างนั้น
แต่ฮ่าวเหรินก็เปิดดูช่องต่างๆในทีวีไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
"แกะน้อยสุดกวนกับหมาป่าจอมป่วนล่ะเป็นไง?" ฮ่าวเหรินหันกลับไปถาม "ดูเหมาะกับเธอดีนะ" (เรื่อง แกะน้อยสุดกวนกับหมาป่าจอมป่วน เป็นทีวีอนิเมชั่นซีรีส์สำหรับเด็กอนุบาลและประถมของจีน)
"ไปตายซะ!" ฉ่าวเหยียนจื่อหยิบอะไรสักสิ่งหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเตรียมตีฮ่าวเหรินด้วยความรวดเร็ว
"จื่อ!" ฉ่าวกวงเรียกชื่อเธอซ้ำอีกครั้งจากห้องทำงาน เขารู้ดีว่าฉ่าวเหยียนจื่อกำลังทำอะไร ราวกับว่าเขาซ่อนตาคู่หนึ่งไว้ในห้องนั่งเล่นเพื่อคอยมองดูเธอด้วย
ฉ่าวเหยียนจื่อจำต้องวางของในมือลงด้วยความจำยอม สายตายังคงจ้องเขม็งที่ฮ่าวเหรินไม่ลดละ "ฉันเตือนนายอีกครั้งนะ อย่าทำให้ฉันโมโห!"
ฮ่าวเหรินยิ้มน้อยๆ "เกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ฉ่าวเหยียนจื่อหน้ามุ่ย "ใช่ ฉันไม่ชอบนายเลยสักนิด"
"ผมก็เหมือนกัน เธอก็อารมณ์บูดตลอดแถมยังไม่ได้น่ารักอะไรมากมายด้วย ใครต้องแต่งงานด้วยคงน่าสงสารแย่" ฮ่าวเหรินพูดเบาๆ
"นาย!" ฉ่าวเหยียนจื่อเบิกตากว้าง
"เลิกทะเลาะกันได้แล้วน่าทั้งสองคนเลย ยังไงก็จะต้องเป็นสามีภรรยากันในอนาคตอยู่แล้วนี่" ฉ่าวหงหยู่เดินออกมาจากครัวพร้อมจานในมือทั้งสอง
"แม่… เขาแกล้งหนูก่อนนะ" ฉ่าวเหยียนจื่อฟ้องคนเป็นแม่ด้วยท่าทางขี้แยแต่ดูน่ารัก
"แม่เห็นหมดแล้ว ลูกก็แกล้งเขาเหมือนกันแหละ" ฉ่าวหงหยู่ยกยิ้มบางแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งเพื่อเตรียมอาหารจานต่อไป
"ก็ได้ นี่เป็นโชคดีของนายนะลุงตัวเหม็น แม้แต่พ่อแม่ฉันก็เข้าข้างนายกันหมด" ฉ่าวเหยียนจื่อระเบิดคำพูดออกมาทันทีที่แม่ของเธอเดินออกไป ทั้งยังทำหน้าทำตาใส่ฮ่าวเหรินซ้ำอีก
"ทำไมเธอถึงได้ดื้อแบบนี้เนี่ย? มีแฟนที่โรงเรียนรึยังน่ะ?" ฮ่าวเหรินถามออกไปพลางนึกถึงเหล่าคู่รักเด็กมัธยมที่เดินกันตามท้องถนน
โปรดติดตามตอนต่อไป………..