หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Dragon Kings Son-In-Law - DK 10 : เสียงเรียกที่แสนไพเราะ

  1. หน้าแรก
  2. Dragon Kings Son-In-Law
  3. DK 10 : เสียงเรียกที่แสนไพเราะ
Prev
Next

DK 10 : เสียงเรียกที่แสนไพเราะ

 

         “ระ… ราชามังกร” ฮ่าวเหรินตกใจและมองอย่างสงสัย

 

         “เจ้ามีคาบเรียนต่อช่วงบ่ายใช่ไหม? รีบกลับไปเข้าชั้นเรียนสิ”  ท่านอาวุโสลู่ยืนขึ้นและโบกมือให้ฮ่าวเหริน ฮ่าวเหรินคิดเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะยืนและเดินออกจากห้องสุดหรูไปตามลำพัง

 

         ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์และเฝ้ามองตัวเลขของลิฟต์ที่ลดลง ฮ่าวเหรินรู้สึกราวกับตัวเองฝันไป

 

          เมื่อเขาเดินออกจากลิฟต์ก็เจอกับพนักงานต้อนรับแสนสวยที่ยิ้มให้กับฮ่าวเหริน พนักงานสาวคิดว่า “เขาต้องเป็นแขกที่สำคัญมากแน่ๆ เพราะเขาสามารถมายังออฟฟิศของ CEO ได้”

 

         เขานั่งรถแท็กซี่ไปโรงเรียน มองเห็นสถานที่เดิมๆที่คุ้นเคย เขาเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังกลับสู่ความเป็นจริง

 

         เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาฉ่าวเจียยี่ “นายอยู่ที่ไหนหน่ะ?” เขาได้ถามขึ้น

 

         “พวกเรากำลังชมงานศิลปะในตึก A นายไม่สบายรึปล่าว พวกเราไม่กล้าโทรหานาย” ฉ่าวเจียยี่ถามฮ่าวเหริน

 

         “ฉันสบายดี ฉันกำลังจะไปที่นั่น” ฮาวเหรินวางสายไป สิ่งแรกที่เขาอยากทำที่สุดในตอนนี้คือไปหาเพื่อนๆและคนอื่นๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์แปลกๆ เขาเริ่มรู้สึกว่าทุกๆคนอาจจะไม่ใช่คนจริงๆ

 

         ฮ่าวเหรินวิ่งไปที่ตึก A และแอบเข้าไปในห้องจากประตูหลัง

 

         “นายเป็นยังไงบ้าง? เกิดอะไรขึ้นหรอ?” ฮ่าวเจี่ยยี่และเพื่อนๆถามฮ่าวเหรินด้วยความเป็นห่วง

 

         ฮ่าวเหรินถอนหายใจ เหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้และโบกมือให้พวกเขานั่งลง

 

         เซี่ยหยู่เจีย หัวหน้าห้องซึ่งมักนั่งอยู่หน้าชั้นเสมอรู้สึกว่าฮ่าวเหรินกลับมา เธอจึงหันกลับมามองที่หลังห้อง

 

         “เหมือนกับว่า เซี่ยอยู่เจียสนใจนายนะ” ช่างหลงฮวาง พูดกับฮ่าวเหรินเมื่อเห็นเซี่ยอยู่เจียหันกลับมามอง

 

         ฮ่าวเหรินไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากคุยเรื่องนี้ เขาถามว่า “เฮ้ยย! อธิการบดีของเราชื่ออะไรนะ?”

 

         “หวูเซินหยี่ นายไม่รู้หรอกหรอ?” ซู่ลี่เหริน เอ่ยปากถาม

 

         “แล้วรองอธิการบดีล่ะ?” ฮ่าวเหรินถามในทันที

 

         “รองประธานคือลู่ชิงไม่รู้รายละเอียดอื่นเลยรู้แค่ชื่อเท่านั้น” ซู่ลี่เหริน ยังกล่าวต่ออีกว่า  “การบริหารของรองอธิการบดีถือว่าสุดยอดมาก เขาจึงเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในมหาลัย เขาจึงได้ฉายาว่า รองหัวหน้าที่ 1”

 

         ฮ่าวเหรินคิดถึงบทสนทนาและไม่ได้พูดอะไรอีก

 

         “ทำไมนายถึงสนใจเรื่องนี้ล่ะ? มีอะไรกับพวกผู้บริหารเหรอ?” ซู่ลี่เหริน ถามฮ่าวเหริน

 

         “ไม่มีอะไรหรอก…” ฮ่าวเหรินถือนามบัตรไว้ในมือและบีบมันแน่น

 

         “ฮ่าวเหรินยืนขึ้นและตอบคำถาม!” อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนเห็น ฮ่าวเหรินคุยกับคนอื่นๆ เขายังจำได้ว่าฮ่าวเหรินแอบเข้าห้องมาก่อนหน้านี้จึงถามคำถามฮ่าวเหริน และฮ่าวเหรินจึงยืนขึ้นเพื่อตอบคำถาม

 

         เจ้าบ้าฮ่าวเหริน เขาได้มาฟังการบรรยายแค่ครึ่งเดียว เขาจะตอบคำถามได้อย่างไร? เขาต้องโดนอาจารย์ตำหนิแน่นอน

 

         หัวหน้าห้อง เฉี่ยอยู่เจีย เธอหันไปมองที่ฮ่าวเหรินอย่างสงสาร

 

         หลังจากการบรรยายเสร็จสิ้นแล้ว ฮ่าวเหริน ฉ่าวเจี่ยยี่ และคนอื่นๆก็กลับไปที่หอพักของตัวเอง กู่เจี๋ยดง และคนอื่นๆก็พูดขึ้นมาเกี่ยวกับเหตุการณ์เกี่ยวกับรถ Mercedes-Benz

 

ฮ่าวเหริน ตอบเพียงว่าญาติจากต่างประเทศของเขากลับมา เขาได้ปกปิดไว้และไม่อยากพูดถึงมัน

 

 

         เมื่อฮ่าวเหรินกำลังลอกการบ้านในตอนกลางคืน เขาได้รับข้อความจากเซี่ยอยู่เจีย

 

         “ไม่ใช่ … ฉันยุ่งมากๆ” ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดว่าเธอจะส่งข้อความให้เขา และเขาตอบเธอไป

 

         “ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด … ” โทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะของฮ่าวเหรินกำลังดังขึ้น

 

         สายที่โทรเข้าเป็นสายของ เซี่ยอยู่เจีย เขาจึงหยิบขึ้นมา

 

         “เมื่อเช้า มีอะไรรึปล่าว?” เซี่ยอยู่เจีย ถามผ่านทางโทรศัพท์

 

         “อ๋อ ญาติของฉันกลับมาจากต่างประเทศและนัดฉันไปเลี้ยงอาหาร พวกเขาเซอร์ไพรส์ฉันโดยที่ฉันไม่รู้มาก่อนเลย”

 

         “นายอยู่ไหนหน่ะ?” เซี่ยอยู่เจียถาม

 

         “ฉันอยู่ในหอพัก” ฮ่าวเหรินตอบ

 

         ทางฝั่งของเซี่ยอยู่เจียเงียบไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยปากถาม “อยากออกไปเดินเล่นด้วยกันไหม? ตอนนี้พระจันทร์สวยมากเลย”

 

         ฮ่าวเหรินรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อมากมายบินอยู่ในท้องของเขาเพราะเขาไม่คาดคิดว่า เซี่ยอยู่เจี่ยจะชวนเขาออกไปเดินเล่นในเวลาแบบนี้

 

         ในความคิดของเขา หัวหน้าห้องนั้นเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายมากๆ ไม่เพียงแค่ผู้ชายในชั้นเรียนเท่านั้น ยังมีพวกรุ่นพี่ที่คอยเดินตามอยู่ตลอด

 

         “ถ้า ฉ่าวเจี่ยยี่และคนอื่นๆไม่ได้แอบไปสารภาพต่อเซี่ยอยู่เจียในนามของเขา” ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่าวเหรินกับเซี่ยอยู่เจี่ยคงจะไม่อึดอัดแบบนี้

 

         “ไม่เป็นไร ฉันสบายดีจริงๆ ฉันต้องทำการบ้านอีกนิดนึง รอบหน้าได้ไหม?”  ฮ่าวเหริน ตอบกลับไปในโทรศัพท์”

 

         “อื้ม… ถ้านายมีอะไรสงสัยนายถามฉันได้นะ” เซี่ยอยู่เจีย พูดหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นหัวหน้าห้องของนาย ฉันจำเป็นต้องดูแลนายจริงมั้ย?”

 

         “ฮ่าๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ” ฮ่าวเหริน ไม่รู้จะพูดอะไร

 

         “ไม่ต้องคิดมาก” เซี่ยอยู่เจียพูดก่อนจะตัดสายโทรศัพท์ไป

 

         ฮ่าวเหรินวางโทรศัพท์ลงและรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

 

         “ใครโทรมาหรอ?” ฉ่าวเจี่ยยี่และเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนเดินผ่านประตูพร้อมกับอาหารว่างตอนเที่ยงคืนที่อยู่ในมือของพวกเขาเอ่ยถามขึ้น

 

         “ไม่มีอะไรหรอก” ฮ่าวเหรินยิ้ม

 

         “นายเป็นคนลึกลับตั้งแต่เมื่อไหร่ ชักไม่แน่ใจแล้วว่านายปิดบังอะไรเอาไว้” ฉ่าวเจี่ยยี่ เดินเข้ามาในห้องและกดหัวฮ่าวเหรินเบาๆและพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

 

         ฮ่าวเหรินตีฉ่าวเจี่ยยี่และคิดว่า “ถ้าพวกนี้เห็นเราเดินกับหัวหน้าห้อง ไม่แน่ใจเลยว่าพวกเขาจะคิดยังไง”เขา ไม่ควรให้เฉี่ยอยู่เจียมากังวลกับเรื่องแบบนี้

 

         ในกลางดึก ฮ่าวเหรินลงมาจากที่นอนของเขาในขณะที่เพื่อนๆกำลังหลับอยู่ จากนั้นเขาได้เปิดประตูและเดินออกไปที่ระเบียง

 

         แสงจันทร์ช่างสว่างไสว

 

         ฮ่าวเหรินหยิบนามบัตรของอาวุโสลู่ขึ้นมามอง ก่อนจะใส่มันกลับลงไปในกระเป๋าเสื้อ

 

         “ลองดูดีกว่า…”

 

         หลังจากที่ฮ่าวเหรินตั้งสมาธิแล้ว เขาต้องเผชิญกับความเงียบสงัดและคิดถึงเทคนิคการปลูกถ่ายในใจของเขา

 

         เกิดภาพสีทองในจิตใจของเขา ฮ่าวเหรินพยายามเข้าใจความหมายของคำในเทคนิคและจดจ่อกับการทำสมาธิของเขาตามคำแนะนำ

 

         เขาทำเสร็จสิ้นในครั้งเดียวแล้วกลับเข้าไปในห้องและเขาก็ได้รู้ว่าเวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว

 

         จริงๆแล้วเขายืนอยู่ข้างนอกเป็นเวลาสองชั่วโมงเลยเหรอ ฮ่าวเหรินประหลาดใจกับตัวเอง

 

         เขาไม่มั่นใจว่ามันเกิดจากผลทางจิตใจหรือไม่ หลังจากฝึกเสร็จเขากลับรู้สึกว่าแขนของเขาที่บวมกลับมาปกติ

 

         “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเข้านอนแล้ว” ฮ่าวเหรินหยุดคิดเรื่องราวต่างๆและหลับไปอย่างรวดเร็ว

 

         ไม่กี่วันผ่านมา ชีวิตของเขากลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ ความสนใจของเพื่อนคนอื่นต่อฮ่าวเหรินเริ่มลดลงแต่เซี่ยอยู่เจียยังคงหันหลังกลับไปมองที่ฮ่าวเหรินบ่อยๆ

 

         ฮ่าวเหรินเดินไปที่ระเบียงเพื่อ “ฝึก” คนเดียวทุกๆคืนแต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พละกำลังที่แขนของเขาก็กำลังกลับสู่ปกติ

 

         นามบัตรของรองผู้อำนวยการถูกซ่อนไว้ มันทำให้เขารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่รูปจากบัตรของรองอธิการบดีใหญ่จ้องตาเขา

 

         แค่พริบตาเดียวก็ถึงวันพฤหัสบดี เป็นวันที่ตื่นเต้นสำหรับผู้ที่เรียนวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์

 

         เป็นเพราะหลักสูตรภาคบังคับในปีที่สองที่มีการเรียนวิชา Optical Signal Processing.

 

         “เร็วๆเข้า! เร็วๆเข้า! ขึ้นไปนั่งแถวหน้าห้อง”  เมื่อออกจากชั้นเรียนคำนวณ ซู่ลี่เหริน ก็ลากฮ่าวเหรินวิ่งไปอย่างบ้าคลั่งตรงไปในทิศของห้องเรียนขนาดใหญ่อีกห้องเพื่อเรียนอีกวิชา

 

         “ซู่ลี่เหริน จองที่นั่งไว้สองที่เผื่อพวกเราด้วย!” ฉ่าวเจี่ยยี่และช่าวหลงฮวางตะโกนจากหลังห้อง

 

         ซู่ลี่เหริน เข้ามาในห้องเกือบจะเร็วที่สุดด้วยความเร็วแสง แต่เขาก็ต้องผิดหวังเพราะ 15 แถวแรกโดนจับจองโดยคนอื่นไปแล้ว

 

         “พวกเรายังช้าอีกหรอเนี่ย!” ซู่ลี่เหรินพูดด้วยความไม่พอใจ เขาได้เลือกที่นั่งกลางห้องและได้จองที่นั่งไว้ให้เพื่อนอีกสองคน

 

         “บ้าจริง! มันไกลเกินไป!” ฉ่าวเจี่ยยี่และช่าวหลงฮวางวิ่งมาพร้อมกับอาการหอบและไม่พอใจเมื่อเห็นที่นั่งของพวกเขา

 

         “คนพวกนั้นโดดคาบเรียนเพื่อที่จะมาจองที่นั่ง ฉันจะทำยังไงได้ล่ะ?” ซู่ลี่เหรินถามอย่างไร้เดียงสา

 

         “นายแอบอ้างว่านายจะแต่งงานกับเธอหรอ? อย่าแม้แต่จะคิด จะต้องผ่านฉันไปก่อน” ช่าวหลงฮวางล้อเลียน

 

         “ก็ใช่นะสิ นายตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อวานแล้วหนิ เมื่อรู้ว่าจะได้มาฟังบรรยายของเธอในวันนี้” ฉ่าวเจี่ยยี่พูด

 

         “พวกนายไม่ได้เหมือนพวกเรารึไง? พวกนายก็รีบวิ่งมาเหมือนกัน!”  ซู่ลี่เหรินแย้งขึ้นมา

 

         ตึง ตึง ตึง….

 

         ในขณะนั้น นักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้องเรียนเพื่อจะนั่งตำแหน่งดีๆ แต่พวกเขาก็วิ่งเข้ามาช้ากว่ากลุ่มของฮ่าวเหรินจึงต้องเดินไปนั่งด้านหลังแทน

 

         หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มของสาวๆในคลาสเดียวกันที่มาสายและเห็นว่าที่นั่งนั้นเต็ม จึงต้องไปนั่งอยู่ข้างหลังซึ่งไกลมากๆ

 

         เซี่ยอยู่เจีย เป็นหนึ่งในสาวๆพวกนั้นและได้สบตากับฮ่าวเหรินแต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ

 

         “นายได้รับการติดต่อจากเซี่ยอยู่เจียเมื่อไม่นานมานี้หนิ พวกนายแอบไปเดทกันมารึยัง?”

ช่าวหลงฮวางสัมผัสบางอย่างได้และถามฮ่าวเหริน

 

         “ฉันอยู่กับนายตลอดทั้งวัน” ฮ่าวเหรินกรอกตาขึ้นเพื่อหลบสายตา

 

         ห้องเรียนเต็มไปด้วยเสียง นอกเหนือจากชั้นเรียนของฮ่าวเหรินทุกคนในอีกสี่ชั้นเรียนก็กำลังตะโกนอยู่เช่นกัน

 

         กริ๊ง กริ๊ง กริ๊งงงงงงง ระฆังดังขึ้น

 

         มีขาคู่สง่างามสวมใส่กางเกงขาสั้นเอวสูง

 

         พวกผู้ชายทุกคนอ้าปากค้าง

 

         กางเกงขาสั้นยีนส์เอวสูงสีฟ้าและมีการตกแต่งลวดลายสไตล์ทหาร ด้านบนเป็นเสื้อเชิ้ตคอวีและตัดเย็บด้วยหนังแท้ที่สวยสุดๆ มีเอกสารประกอบคำบรรยายอยู่ในแขนของเธอที่กำลังเดินเข้าห้องมา

 

         “น่ารักและเป็นผู้ใหญ่ในเวลาเดียวกัน” ซู่ลี่เหรินแสดงความคิดเห็น

 

         ขณะที่พวกผู้ชายกำลังกระวนกระวายใจฮ่าวเหรินไม่สามารถผงกหัวขึ้นมามองได้ แท้จริงแล้ว ซูฮาน ยังคงเป็นสาวสวยที่เพียบพร้อม ละเอียดอ่อน และดูดี แม้ว่าเธอจะไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อหนัง แต่เธอก็สามารถทำให้ผู้ชายหลายคนเลือดสูบฉีดได้

 

         ซูฮานสวมรองเท้าส้นสูง เดินเข้ามาหน้าห้องอย่างช้าๆ

 

         ทุกสายตาของผู้ชายถูกตราตรึงโดยเธอ แม้แต่ฮ่าวเหรินก็จ้องมองเธอ แม้เขาจะได้ฝึกเทคนิคการปลูกฝังมาอย่างยาวนาน

 

         “วันนี้เราจะมาพูดถึงโมดูลที่สาม เปิดหนังสือของคุณที่หน้า 73” เสียงราวกับเทพธิดาออกมาจากลำโพงและส่งไปทั่วทุกมุมห้อง

 

         “ฉันอยู่ในสวรรค์ …” ซู่ลี่เหรินกำลังเคลิบเคลิ้มในเสียงของเธอ “มันจะดีมากถ้าหากเราได้มาฟังบรรยายแบบนี้ทุกวัน”

 

         “เธอสวยมาก…” ฮ่าวเหรินมองเธอและคิด

 

         “รูปลักษณ์ภายนอกของเธอ ทั้งรูปร่างหน้าตาและการแต่งหน้าเป็นสิ่งที่ไร้ที่ติจริงๆ อยากรู้จริงๆว่าผู้หญิงแบบนี้เขาจะหาผู้ชายแบบไหนเป็นแฟนกันนะ?” ฮ่าวเหรินคิดกับตัวเอง

 

         แม้ว่าเธอจะเพิ่งเข้ามาบรรยายได้ไม่กี่คาบตั้งแต่ต้นภาคการศึกษาแต่หัวใจของผู้ชายทุกคนในชั้นเรียนก็โดนเธอพิชิตไปหมดแล้ว

 

         นอกจากนี้การบรรยายของ ซูฮานยังมีความชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย แม้แต่สาวๆในชั้นเรียนก็ยอมรับและชื่นชมเธอด้วย

 

         การบรรยายจบภายใน 90 นาที ทุกคนยังคงตราตรึงในความงามของ ซูฮาน และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

 

         อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างรู้ว่าความงามดั่งภูเขาน้ำแข็งนี้ ไม่เคยพูดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของหลักสูตรและจะไม่ตอบคำถามใดๆจากนักเรียน และเมื่อบรรยายเสร็จเธอก็จะออกไปทันที ครั้งที่สองของระฆังดังขึ้นเธอจะจบประโยคสุดท้ายเก็บสมุดบันทึกและเดินออกจากห้องในเวลาเดียวกัน

 

         “ถ้าฉันได้พูดสักหนึ่งประโยคต่อความงามนี้ ถึงตายฉันก็จะไม่เสียดายชีวิต” เมื่อเห็น ซูฮานกำลังจะออกไปซู่ลี่เหรินก็ดึงแขนฮ่าวเหรินพร้อมถอนหายใจ

 

         “นักเรียนคนนั้นมาที่ออฟฟิศของฉัน” ซูฮานไม่ได้ก้าวออกจากห้องเรียนเมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เธอได้ยกมือที่บอบบางของเธอขึ้นและชี้ไปทีซู่ลี่เหริน

 

         “ผมหรือครับ?” ซู่รี่เหรินยืนขึ้น เขารู้สึกประหลาดใจและเกือบจะเป็นลมเพราะความสุขที่เอ่อล้น

 

         “ไม่ใช่ ผู้ชายข้างๆคุณ” ซูฮานเลื่อนนิ้วที่ชี้อยู่ไปทางขวาเล็กน้อยไปที่ฮ่าวเหริน

 

โปรดติดตามตอนต่อไป…………

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "DK 10 : เสียงเรียกที่แสนไพเราะ"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ (Cultivation Online)
เมษายน 24, 2023
Crazy  Leveling  System
Crazy Leveling System
พฤษภาคม 17, 2022
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
ฮูหยินข้าดีเลิศประเสริฐสุด
มีนาคม 12, 2022
INVINCIBLE โลกอมตะ
INVINCIBLE โลกอมตะ
มีนาคม 12, 2022
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today
มีนาคม 12, 2022
ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ราชันสามภพ
กรกฎาคม 6, 2023
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz