Dragon Kings Son-In-Law - DK 2: ตามติด
DK 2: ตามติด
เพียงแค่ฉ่าวเจียยี่กับคนอื่นๆในหอพักคาดเดาว่าในอีกสามปีข้างหน้า สาวๆจะมองฮ่าวเหรินได้ยังไง ฮ่าวเหรินก็รีบออกจากมหาลัยไปอย่างลนลานและเรียกแท็กซี่มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล ที่มีสถาบันโรคผิวหนังที่ดีที่สุดในสถาบันหัวชี่
ที่นั่น ฮ่าวเหรินต้องผ่านลำดับการบริการที่วุ่นวายและกระบวนการตรวจที่น่าเบื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้บอกฮ่าวเหรินอย่างมั่นใจว่ารอยบนแขนของเขาเป็นเพียงรอยจากการเปื้อนสีเท่านั้น ดูเหมือนกับว่าเป็นสีที่ตกมาจากผ้าปูเตียงราคาถูก
อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญบอก มันไม่ได้เป็นการกลายพันธุ์ของเซลล์ในร่างกาย ผลการรายงานจากการทดสอบทั้งหมดชี้ให้เห็นตรงกันว่ามันไม่ได้มีความผิดปกติใดๆทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้น สีเขียวก็ไม่ใช่ผลจากการเปลี่ยนสีของเซลล์ผิว ขนาดลวดลายของมันนั้นก็เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ สีที่เกิดขึ้นและที่กระจายตัวออกไปมีรูปแบบลวดลายเป็นแบบเดียวกัน ที่สำคัญที่สุดมันไม่ใช่โรคติดต่ออย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะดูเหลือเชื่อ คำอธิบายพวกนี้มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ฮ่าวเหรินแน่ใจและใจเย็นลงได้
หลังจากที่รับผลรายงาน ฮ่าวเหรินก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปที่มหาวิทยาลัย เขาเริ่มขัดแขนตัวเองด้วยสบู่อย่างจริงจังและรู้สึกได้ว่าสีพวกนั้นดูสว่างขึ้นนิดหน่อย หลังจากความตื่นตระหนกจากนั้นก็เหนื่อยล้ามาเป็นวันเพื่ออะไรไร้สาระแบบนี้ เขาก็จัดการเปลี่ยนผ้าปูเตียงผืนใหม่ที่สะอาดสะอ้านแล้วก็ผล็อยหลับไป
บ่ายวันเสาร์ ดวงอาทิตย์แผดแสงแดดส่องลอดผ่านผ้าม่านทอดตกลงบนก้นของฮ่าวเหริน
“เหริน!เหริน!”
ในตอนนั้นประตูหอก็ถูกกระแทกเปิดออกเสียงดัง
“เฮ้ย!ใครวะ!?” ฉ่าวเจียยี่ผู้ครอบครองพื้นที่เตียงด้านล่างฉกหมอนขึ้นมาเขวี้ยงใส่ประตู
“เหริน มีสาวน้อยน่ารักมานายอยู่แน่ะ!” อีกฝั่งของประตูมีเสียงของกู่เจี๋ยดง เจ้าของห้อง 301 ตรงข้ามกับห้องของพวกเข้าดังขึ้นมา
“สาวสวยเหรอ? สาวสวยเนี่ยนะ!?” เขาทั้งสับสนและงุนงง ในขณะที่ ซู่ลี่เหรินสะดุ้งตื่นขึ้นมายืนตัวตรง ตั้งแต่ซู่ลี่เหรินถูกผู้หญิงที่ฮอตที่สุดในมหาวิทยาลัยปฏิเสธไป เขาก็เสียความมั่นใจที่จะหาแฟนไปเลย อย่างไรก็ตามเขาตั้งใจว่าจะยังเก็บความชอบผู้หญิงสวยๆแบบผู้ชายทั่วๆไปที่เขาทำกันเอาไว้อยู่
“เหรินตื่นแล้ว! ช่าวหลงฮวางบอกให้ผมมาตามคุณ สาวน้อยน่ารักคนนั้นรอคุณอยู่ มีหลายคนเริ่มจับตารอดูที่ทางเข้าของโรงอาหารกรีนฮิลล์แล้วนะ! นายก็มีสักขีพยานกับเขาด้วย!”
“นายพูดบ้าอะไรเนี่ย?” ฮ่าวเหรินนึกอะไรบางอย่างยกมือจับท้องที่ปวดบริเวณกระเพาะเบาๆ พอเขายกแขนขึ้น รอยขดสีเขียวก็ปรากฏสู่สายตามันไม่ได้หายไปไหนแต่ก็ไม่ได้ขยายขนาดขึ้นเช่นกันทำให้เขารู้สึกโล่งใจเล็กๆ
ก๊อก ก๊อก ก็อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“มาแล้ว! มาแล้ว!” ฮ่าวเหรินโดดลงจากเตียงและไปที่ประตู
“ตอนที่ช่าวหลงฮวางกับผมกำลังไปซื้อข้าวกันมีคนอยู่เยอะเลยที่ประตูทางเข้าโรงอาหารกรีนฮิลล์ พอมองเข้าไปก็เห็นว่ามันมีสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งกำลังรอใครบางคนอยู่” เมื่อเห็นฮ่าวเหรินเปิดประตูกู่เจี๋ยดงก็อธิบายอย่างเอาเป็นเอาตาย
“บ้าเอ๋ย! นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอรอผมอยู่รึเปล่าววะ? ไอ้เรื่องตลกแบบนี้น่าจะเข้ากับซู่ลี่เหรินมากกว่านะ ผมไม่ตลกด้วยหรอก” ฮ่าวเหรินจ้องไปที่กู่เจี๋ยดงอย่างรำคาญเมื่อวานเขาปวดท้องแล้วก็นอนไม่หลับถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็โดนปลุกด้วยเรื่องก่อกวนไร้สาระทำให้เขาเซ็งเข้าไปอีก
“มาทำให้เรื่องจบเหอะ!” กู่เจี๋ยดงคว้าฮ่าวเหรินไว้ “สาวสวยคนนั้นอ่ะนะ มีรูปของคุณอยู่ในมือด้วยและมันก็เป็นคุณแน่ๆ! เธอบอกว่าใครก็ตามที่พาตัวคุณมาให้เธอได้จะได้เงินรางวัลห้าร้อยหยวนด้วยนะ!”
“ผมเนี่ยนะ?” ฮ่าวเหรินดูเสียศูนย์ เขาจ้องเขม็งไปที่กู่เจี๋ยดง “คุณก็มาที่นี่เพื่อห้าร้อยหยวนนั่นไม่ใช่รึไง”
“ฮี่ฮี่……”รอยยิ้มของกู่เจี๋ยดงดูสว่างไสวขึ้นเล็กน้อย
ในตอนนั้นเสียงเอะอะอึกทึกก็ดังขึ้นที่ด้านนอกหอพัก ฮ่าวเหรินเดินไปที่ระเบียงก็เห็นนักศึกชายชายที่เขารู้จักกลุ่มใหญ่ วิ่งอย่างบ้าคลั่งตรงมายังห้องของเขา เขาบอกได้เลยว่าพวกนี้มาหาเขาเพื่อเอาเงินรางวัลแน่นอน เพราะงั้นเขาเลยคว้าเสื้อผ้าสองสามชิ้นและรองเท้าลงบันไดไปตามกู่เจี๋ยดง
อย่างที่ฉ่าวเจียยี่ หัวหน้าหอกังวลถึงเรื่องเคราะห์ร้ายที่มาอย่างคาดไม่ถึง เขาจำต้องจากลาความสุขสบายจากการนอนอยู่บนเตียง ลุกขึ้นแต่งตัว และไปเป็นเพื่อนฮ่าวเหรินไม่ว่าพวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ไหนก็ตาม ฉ่าวเจียยี่เป็นคนที่สนิทกับฮ่าวเหรินมากที่สุด แม้ว่าเขาจะปากร้ายและชอบกวนฮ่าวเหรินเอามากๆ แต่เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นห่วงฮ่าวเหรินมากที่สุดด้วยเช่นกัน
สำหรับซู่ลี่เหริน เขาไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้พบสาวสวยเลย
ที่ตึกหอฝั่งตะวันออกที่ตั้งอยู่ด้านนอกของมหาวิทยาลัย เขาทั้งสี่คนเดินไปตามเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัย จากนั้นก็พบกับบอร์ดประกาศระหว่างทาง ทั้งเล็กทั้งใหญ่ พวกมันเต็มไปด้วยโปสเตอร์ประกาศหา ซึ่งเป็นภาพสเก็ตซ์ด้วยดินสอรูปหน้าของฮ่าวเหริน ที่ด้านล่างรูปเขียนด้วยตัวอักษรอย่างเด่นชัด มันเขียนว่า “มีรางวัล 500 หยวนสำหรับผู้ที่พาตัวคนในภาพข้างบนมาหาฉัน มารับรางวัลได้ที่ทางเข้าโรงอาหาร!”
นับคร่าวๆจำนวนบอร์ดประกาศที่มีอยู่ในโรงเรียน โปสเตอร์พวกนี้ก็มีจำนวนอย่างน้อยๆสองสามร้อยแผ่น นี่ไม่น้อยกว่าประกาศจับระดับประเทศเลย!
“นายไปทำอะไรให้เธอ เธอถึงมาถึงที่มหาวิทยาลัยเพื่อตามล่าหาตัวนายได้เนี่ย!?” ซู่ลี่เหรินถามฮ่าวเหรินอย่างขำๆขณะที่เขาตั้งตารออย่างกระตือรือร้น
“ผมจะไปรู้ได้ไง? ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร!” ฮ่าวเหรินตอบด้วยความกระวนกระวายใจ
สถานการณ์ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากขนาดนี้ ฮ่าวเหรินไม่อยากที่จะเดินไปที่ด้านหน้าโรงอาหารเลยจริงๆ ในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่มีทางที่จะขอเวลาพักเตรียมใจเลย
“เขามาแล้ว เขามาแล้ว!” เมื่อเห็นคนที่ถูกประกาศหาปรากฏตัวขึ้น นักศึกษาบางคนเริ่มเรียกออกมาด้วยเสียงอื้ออึง
ผลที่ตามมาก็คือฝูงชนที่แออัดอยู่ก่อนหน้าแหวกทางออกให้ฮ่าวเหรินโดยอัตโนมัติ
ภายใต้สายตานับร้อยที่จ้องมองมาฮ่าวเหรินเดินเก้ๆกังๆไปยังประตูของโรงอาหาร และ…พบกับสาวน้อยน่ารักคนเดียวกับเมื่อวันก่อน
เธอสวมเสื้อยืดสีขาวเข้ากันดีกับกางเกงยีนส์ฟอกสี มันเป็นเสื้อผ้าที่เข้ากันได้ดีมาก และยังดูโดดเด่นเมื่อสวมอยู่บนตัวเธอ เส้นผมของเธอปลิวไปตามลมยังไงก็ตามภายใต้เส้นผมที่ปลิวไสวไปตามลมนั้น มันคือใบหน้าที่กรุ่นโกรธ
“โอ้ววว…โอ้ววว….”
ใครบางคนเริ่มส่งเสียง
“เป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ” ฉ่าวเจียยี่คนที่อ้างว่ามีแฟนสาวเยอะจนนับไม่ได้แล้วกระซิบข้างหูฮ่าวเหริน
“ไปเจอสาวสวยขนาดนี้เมื่อไหร่เนี่ย? แนะนำเธอให้พวกเราบ้างดิ!” ในขณะที่พูดจ่าวลี่เหรินมองไปรอบๆแล้วขยิบตาให้ฮ่าวเหริน ขณะที่ฮ่าวเหรินเริ่มมีอาการคันที่รอยขึ้นมาอีกครั้งหลังได้พบกับสาวน้อยคนนี้
เมื่อเห็นว่าในที่สุดฮ่าวเหรินก็ปรากฏตัวออกมา เธอก็เม้มปาก
เมื่อข่มความอึดอัดใจที่รู้สึกได้แล้วภายใต้สายตาทิ่มแทงหลายคู่ที่จ้องมา เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและถามขึ้น “ได้ยินว่าเธอตามหาฉันอยู่”
“เมื่อวานคุณได้เอาอะไรไปจากฉันรึเปล่า?” สาวสวยถามอย่างหนักแน่นพร้อมจ้องตรงเข้าไปในตาของฮ่าวเหริน
“อะไรนะ? ของอะไร?” ฮ่าวเหรินไม่คาดคิดว่าเธอจะถามออกมาเช่นนี้ ในตอนนี้เขารู้สึกประหลาดใจและสับสนในเวลาเดียวกัน
ตอนที่พวกเขาเริ่มคุยกัน กู่เจี๋ยดงก็ก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็วและขัดจังหวะทั้งสองคน คว้าแขนของเขาไว้แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น…”
เธอเหลือบมองเขาและชักกระเป๋าเงินออกมาหยิบเงินออกมา 500 หยวนแล้วส่งให้กับกู่เจี๋ยดง
นักศึกษาในฝูงชนเหวอไปเลย พวกเขาไม่คิดว่าสาวน้อยคนนี้จะให้เงินรางวัลขนาดนี้จริงๆ นอกจากจะช็อคแล้ว พวกเขาก็ยังเสียดายที่ตนเองพลาดโอกาสนี้ไปได้
กู่เจี๋ยดงกำเงินในมือไว้อย่างแน่นหนาและค่อยๆเบียดตัวออกจากฝูงชน เขาไม่ได้มีความตั้งใจจะเป็น ตัวประกอบในความความวุ่นวายนี้อีกต่อไป ด้วยเพราะกลัวว่าสาวน้อยคนนี้จะเสียดายและกลับใจไม่ให้เงินเขาแล้ว
“ช่างเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยแล้วก็ใจกว้างอะไรแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เธอหยิ่งยโสแบบนี้…” ฮ่าวเหรินบอกกับตัวเองลับๆ
“คุณ ! คุณได้เอาอะไรไปจากฉันรึเปล่า?” เธอถามฮ่าวเหรินต่อ
“ของอะไร?” ฮ่าวเหรินจ้องเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเขาเข้าใจแล้วว่าความวุ่นวายที่เธอก่อขึ้นทำให้เขาได้กลายเป็น “คนดัง” ในโรงเรียนไปแล้ว
“มันคือลูกแก้ว ลูกแก้วสีฟ้า” เธอตอบ
“ผมไม่เคยเห็นมัน เธอต้องทำมันหล่นที่ไหนซักที่แน่” ฮ่าวเหรินตอบโดยไม่คิดซ้ำซักนิด
ผู้ชมรู้สึกผิดหวังกับบทสนทนากับพวกเขานิดหน่อย พวกเขาคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงถูกข่มเหงอะไรมาซักอย่าง เธอก็เลยกลับมาแก้แค้นแต่ความเป็นจริงก็คือเธอแค่มาตามหาของที่หายไป ซึ่งมันแทบจะไม่ทำให้พวกเขารู้สึกสนุกขึ้นมาเลย
“ลูกแก้วนั่นมันอ่อนนุ่มแล้วก็เด้งได้” เธอพูดเสริมว่า “ฉันให้เวลาคุณคิดสองนาที คิดให้ดีๆ”
“เราไปคุยกันที่อื่นได้ไหม?” เมื่อมองไปรอบๆสายตาที่จับจ้องพวกเขาอยู่ ฮ่าวเหรินก็ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“แค่เอาของอะไรก็ตามที่นายเอามาจากเธอคืนไปซะ! นายกล้าดียังไงขโมยของจากสาวน้อยคนนี้น่ะ!” นักศึกษาชายสองสามคนเริ่มตะโกนใส่ฮ่าวเหรินซึ่งกำลังสับสนกับปัญหาที่เกิดขึ้น
“หุบปาก! คุณไม่มีสิทธิ์จะพูด!” เธอโกรธเคืองขึ้นมาทันทีจากคำพูดของพวกนั้น
นักเรียนชายเหล่านั้นถึงกับอึ้งไป พวกเขากำลังคิดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะมีเรื่องกับสาวน้อยคนนี้
“การแสดงจบแล้วพวก! ไปได้แล้ว…ไป!” ฉ่าวเจียยี่ ประเมินสถานการณ์และเข้าใจว่ามันเป็นแค่การโต้เถียงเล็กๆ ด้วยการช่วยเหลือของจ่าวลี่เหรินและเพื่อนอีกสองสามคน พวกเขาก็เริ่มไล่ฝูงชนออกไป
“สิ่งนั้นสำคัญมากสำหรับฉัน ฉันหวังว่าคุณจะคืนมันให้กับฉันได้” แต่หญิงสาวสนใจเพียงแค่ฮ่าวเหรินเท่านั้น ไม่ได้สนใจถึงปฏิกิริยาของคนอื่นๆ
“แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่…” ก่อนเขาจะพูดจบ เธอก็ยกมือมาขึ้นปิดปากเขาไว้
“ฉันรู้สึกได้ มันอยู่ตรงนี้ตรงที่คุณยืนอยู่” เมื่อเธอพูดจบเธอก็ย่นคิ้วและดูเหมือนว่ากำลังฟังเสียงอะไรบางอย่างอย่างตั้งอกตั้งใจ
ทันใดนั้น มือของเธอก็สัมผัสลงบนท้องของฮ่าวเหริน
ฮ่าวเหรินพยายามจะขยับท้องตัวเองหนีจากเงื้อมมือของเธอ ทันใดนั้นหญิงสาวก็เปลี่ยนไปคว้าข้อมือของเขาในทันทีและม้วนแขนเสื้อเขาขึ้น รอยสักสีเขียวมังกรก็ปรากฎขึ้น!
โปรดติดตามตอนต่อไป