Dragon Kings Son-In-Law - DK 1: ของหวานที่ไหลผ่านลำคอ
DK 1: ของหวานที่ไหลผ่านลำคอ
เมฆครึ้มดำเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมท้องฟ้าก่อนจะกดตัวลงต่ำใกล้พื้นดินเรื่อยๆ เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปพร้อมๆกับฟ้าแลบส่องแสงวูบวาบ
ราวกับว่าสายฟ้านั้นพร้อมจะฟาดผ่านกลุ่มเมฆลงมาและฉีกท้องฟ้าให้เป็นชิ้นๆได้เลย
"บ้าเอ๊ย!" ฮ่าวเหรินมองสภาพอากาศอันเลวร้ายพลางถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าพายุกำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาแล้ว ฮ่าวเหรินสูดอากาศชื้นๆนั่นเข้าไปพร้อมกับออกตัววิ่ง มุ่งหน้าไปยังร้านตรงหัวมุมที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร
ถ้าร้านขายของใกล้หอพักไม่ได้อยู่ในช่วงปรับปรุงและถ้าเขาไม่ได้ออกกรรไกร 3 ครั้งติดตอนเป่ายิ้งฉุบล่ะก็ ฮ่าวเหรินคงไม่ต้องออกมาข้างนอกในสภาพชุดนอนกับสลิปเปอร์หรอกนะ ป่านนี้เขาอาจจะนอนอ่านหนังสืออยู่บนที่นอน แต่รูมเมทของเขาดันอยากเล่นไพ่แทน
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ฮ่าวเหรินเริ่มวิ่งพลางพยายามหลบพายุไปด้วย
"อ๊าา…" ในระหว่างที่เขากำลังเพิ่มความเร็วการวิ่ง เสียงผู้หญิงร้องก็ดังขึ้นเหนือหัวเขา
ฮ่าวเหรินเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงงก่อนจะต้องช็อคตะลึง! เพราะผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้า!
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังจะดิ่งลงมาจอดบนหัวเขาอีกด้วย!
"ให้ตายสิ…" ฮ่าวเหรินถอยหลังเล็กน้อยแล้วย่อตัวลง ก่อนจะยื่นมือออกไปเป็นท่าตั้งรับ
ตุ้บ!
หญิงสาวกระแทกเข้ากับหน้าอก ฮ่าวเหรินเต็มๆ แรงกระแทกนั้นกดตัวเขาลงอีกกว่า 10 เซนติเมตร แรงนั่นหนักหน่วงจนเขาแทบจะล้ม….
ในขณะเดียวกัน ศีรษะเธอคนนั้นก็กระแทกเข้ากับริมฝีปากฮ่าวเหริน ด้วยแรงสะเทือนนี่ก็เกือบจะทำเขาฟันร่วงสัก 2-3 ซี่ได้เลย
"อึก…" อะไรบางอย่างหล่นออกมาจากปากของหญิงสาวคนนั้นแถมมันยังไหลลงคอ ฮ่าวเหรินที่อ้าปากค้างด้วยความช็อคไปอย่างนุ่มนวลอีกด้วย
หอมหวาน ละมุน และชิ้นเล็กจิ๋ว… ยังไม่ทันให้ฮ่าวเหรินได้แสดงปฏิกิริยาอะไร วัตถุคล้ายลูกอมนั่นก็ลงไปนอนในท้องเขาเสียแล้ว
อย่างไรก็ตามฮ่าวเหรินก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นนักเพราะตอนนี้เขากำลังแบกร่างหญิงสาวด้วยสองแขนที่เริ่มชาแล้ว ฮ่าวเหรินก้มลงมองใบหน้าเธอในอ้อมแขน
ขนตายาวดำขลับ ผมสั้นรวบเป็นหางม้า รูปร่างเยาว์วัย พร้อมด้วยชุดนักเรียนที่มีตราสัญลักษณ์ของ "โรงเรียนมัธยมหลิงฉ่าว" … ถ้าว่ากันตามตรงเธอคนนี้สวยจริงๆ…
"อ๋า…" ใช้เวลาเพียง 2 วินาทีก็ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอคนนั้นร้องออกมาพร้อมกับดวงตาสีดำที่เบิกโพลงเธอมองฮ่าวเหริน แล้วดีดตัวยืนเองทันที
หลังจากรับน้ำหนักร่างสาวน้อยมาสักพัก ฮ่าวเหรินก็รู้สึกว่าขาของเขาชาไปแล้วทั้งสองข้างโดยที่ ไม่รู้ว่าเธอร่วงลงมาจากที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีตึกสูงๆอยู่แถวนี้เลยด้วย
เมื่อสาวปริศนายืนขึ้นแล้ว เธอก็จับสำรวจร่างกายตัวเองก่อนจะลูบริมฝีปากที่บวมเจ่อขึ้นมาเล็กน้อยกระทั่งเห็นรอยสีแดงบนริมฝีปากของฮ่าวเหริน เธอก็หน้าขึ้นสีแล้วตบเข้าที่คอเขา
"เฮ้… ผมช่วยคุณไว้นะ…" แต่ก่อนจะพูดจบประโยค เธอคนนั้นก็วิ่งหนีไปเสียแล้ว
"ผู้หญิงสมัยนี้เข้าใจยากเป็นบ้า… แต่เธอก็ดูสบายดีนะ ทั้งที่ตกลงมาสูงขนาดนั้น" ฮ่าวเหรินลูบคอตัวเองพลางมองสาวปริศนาวิ่งหนีไป "มันก็ไม่ได้เลวร้ายนะ เธอไม่ได้ตีเราแรงมาก อีกอย่างคือไม่ได้ตบหน้าเราด้วย"
ฮ่าวเหรินเปลี่ยนมาลูบริมฝีปากตัวเองบ้าง เขาจำความรู้สึกอบอุ่นของการจูบที่เคยได้ยินมาไม่ได้เลย
เขาเป็นนักศึกษาปี 2 ของมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน "เรานี่มันไอ้ขี้แพ้จริงๆ…" ฮ่าวเหรินคิดพลางตบต้นขาตัวเองเบาๆแล้วยืนขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและพบว่าเมฆครึ้มทั้งหลายหายไป แถมพระอาทิตย์ก็กลับมาส่องแสงปกติแล้วด้วย
"ให้ตายสิ นึกว่าจะมีพายุแล้วนะเนี่ย" ฮ่าวเหริน บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ด้วยไม่อยากโฟกัสกับอะไรที่เกิดขึ้นมากเกินไปนัก ฮ่าวเหรินก็รีบตรงไปยังร้านที่หัวมุมต่อแล้วซื้อไพ่มาสองตลับก่อนจะรีบกลับหอพักที่อยู่สุดทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัยทันที
"ทำไมไปนานจังหา? เร็วเข้า พวกเรารออยู่นะ!" หลังจากเห็นฮ่าวเหรินกลับมาแล้วรูมเมททั้งสามคนก็พูดเสียงดัง
ฮ่าวเหรินโยนไพ่ทั้งสองตลับลงบนโต๊ะแล้วพูดต่อ "พวกแกเล่นกันไปเถอะ ผมไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ"
"ทำไมล่ะ? ไม่พอใจเหรอ?" ฉ่าวเจียยี่ในชุดเสื้อยืดสีขาวถามขึ้น "เราตกลงกันแล้วนี่นาว่าใครแพ้จะต้องออกไปซื้อไพ่น่ะ?" เขาผู้ให้ชื่อตัวเองว่าหัวหน้าหอพักกล่าว
"ผมแค่มึนๆหัวน่ะ…" ฮ่าวเหรินตอบพลางปีนขึ้นเตียงชั้นบนซึ่งเป็นของเขาเอง
"เฮ้! เราตกลงกันแล้วนะว่าจะเล่นไพ่กันวันนี้!" ฉ่าวเจียยี่เริ่มไม่พอใจแล้วเช่นกัน
"นายโอเคมั้ย?" ซู่ลี่เหรินรูมเมทอีกคนถามฮ่าวเหรินด้วยความเป็นห่วง
"ไม่แน่ใจ แค่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ" ฮ่าวเหรินลูบหน้าอกตัวเองพลางตอบไปด้วย "อวัยวะภายในเราบาดเจ็บเพราะแรงกระแทกตอนเราช่วยผู้หญิงคนนั้นรึเปล่านะ?"
"เราควร… พานายไปโรงพยาบาลมั้ย?" ฉ่าวเจียยี่เองก็เริ่มเป็นห่วงเพราะสีหน้าของ ฮ่าวเหรินแล้วเช่นกัน
"ไม่เป็นไร ผมแค่ล้มเองตอนไปที่ร้านตรงหัวมุมน่ะ" ฮ่าวเหรินชี้ไปที่คางบวมเล็กน้อยของเขา ซึ่งเป็นคางที่กระแทกกับศีรษะของสาวปริศนาคนนั้น
"งั้นพักเถอะ แต่ฝนน่าจะไม่ตกแล้ว เราจะออกไปเน็ตคาเฟ่กัน" ช่าวหลงฮวางรูมเมทคนที่สามพูดขึ้น
"อื้ม พวกนายไปกันเถอะ" ฮ่าวเหรินโบกมือให้เพื่อนทั้งสามเพราะตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จริงๆ
แต่ฉ่าวเจียยี่ยังคงเป็นกังวลอยู่ "งั้นโทรหาเรานะถ้าต้องการอะไร"
"โอเค" ฮ่าวเหรินถอดสลิปเปอร์ออกแล้วจัดท่าทางนอนบนเตียงอุ่นสบายเล็กๆของตัวเอง
ทั้ง 4 คนล้วนยังโสดทั้งสิ้นในหัวไม่มีความชอบอื่นใดนอกจากเรื่องเกมส์กับเล่นไพ่เลย ฮ่าวเหรินถอนหายใจก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อฮ่าวเหรินตื่นขึ้นมามันก็เป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้วบนโต๊ะมีกล่องอาหารแบบซื้อกลับบ้านวางอยู่นั่นคืออาหารเย็นที่รูมเมททั้งสามคนซื้อมาให้เขา
ด้านนอกประตู ฮ่าวเหรินได้ยินเสียงคนกำลังเล่นไพ่กันในห้องถัดจากเขา พวกรูมเมทคงกลัวเสียงดังเกินไปจึงพากันไปเล่นในห้องอื่นแทน
"เพื่อนแท้จริงๆ…" ฮ่าวเหรินเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะปีนลงจากเตียงเพื่อมากินมื้อเย็นบนโต๊ะ
แต่เพียงยื่นมือออกไปก็เป็นต้องตะลึง! ฮ่าวเหรินยืนนิ่งตัวแข็งทื่อในห้องมืดๆ เขาเห็นผิวสีเขียวเป็นดวงบนข้อมือขวาของเขาเอง!
ฮ่าวเหรินรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจเขาหยุดเต้นไป 5 วินาที ฮ่าวเหรินรีบตรงไปเปิดม่าน เพิ่มแสงให้แขนตัวเองทันที
มีรูปปลาตัวเขียวที่เหมือนกับรอยสักพาดยาวตั้งแต่ข้อมือเขาไปจนถึงไหล่!
ฮ่าวเหรินคิดว่ามันคงเป็นภาพหลอน เขาขยี้ตาตัวเองก็แล้วแต่มันก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนจากนั้นฮ่าวเหรินจึงพยายามถูสีเขียวๆนั่นเผื่อว่ามันจะจางหายไปแต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเดิม
ขนลุก… ฮ่าวเหริน รู้สึกได้ว่าเขากำลังขนลุกวาบตามแนวกระดูกสันหลัง เขารีบถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วก้าวไปยืนหน้ากะจกขนาดเต็มตัวทันที ฮ่าวเหริน อยากรู้ว่าจะมีอะไรแบบนี้ปรากฏขึ้นบนส่วนอื่นของร่างกายรึเปล่า
แกร๊ก… ประตูถูกเปิดออกพอดีและรูมเมททั้งสามก็เดินเข้ามา
"ไอ้เวร! แกโรคจิตรึไง?" ฉ่าวเจียยี่ร้องออกมาเมื่อเห็นฮ่าวเหรินยืนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจก
"ไม่…ไม่…" ฮ่าวเหรินรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาปกปิดร่างกาย "ผมแค่รู้สึกเจ็บๆตามตัว เลยมาเช็กว่าส่วนอื่นบาดเจ็บรึเปล่าไง" เขารีบอธิบาย
"ถ้ารู้สึกไม่ดี เราพานายไปโรงพยาบาลได้นะ" ฉ่าวเจียยี่ขมวดคิ้วพลางถามอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
"ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก" ฮ่าวเหรินไม่อยากเล่าเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นกับผิวเขาให้ใครฟังอีกอย่างคือเขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่และจะต้องรับมือมันยังไง
"ผมว่านายคงอยากแก้ผ้าเฉยๆมากกว่า ว่าแต่คืนนี้เราไปโรงอาบน้ำกันมั้ย?" ซู่ลี่เหริน เปิดประเด็น
"ผมว่านายนั่นแหละที่อยากแก้ผ้าน่ะ!" ฮ่าวเหรินตอกกลับซู่ลี่เหรินพลางแต่งตัวและปิดแขนตัวเองด้วยแขนเสื้อ
"ผมจะออกไปข้างนอกหน่อย พวกนายนั่งเล่นในนี้ได้เลยนะ"
"ไม่กินอะไรหน่อยเหรอ?" ฉ่าวเจียยี่ชี้ไปที่กล่องอาหาร "ผมซื้อมาให้เลยนะ!"
"ยังไม่หิวเลย!" ฮ่าวเหรินตอบแล้ววิ่งออกไป
"ให้ตายสิ เด็กนี่มีแฟนรึไงนะ?" ช่าวหลงฮวางพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีผิดปกติของฮ่าวเหริน
"เขา? เขาไม่หล่อเท่าผมหรอกนะ หุ่นไม่แน่นเท่าซู่ลี่เหรินแล้วก็ไม่เท่เท่านายด้วย นายคิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ? ถ้าเขาหาแฟนได้ใน 3 ปี ผมให้นายเลย 1,000 หยวน!" ฉ่าวเจียยี่ พูดอย่างหนักแน่น
โปรดติดตามตอนต่อไป