Crazy Leveling System - ตอนที่ 269 ความจริง
ความคิดของฉี ซู่หยุน ยี่ เทียนหยุนจะไม่รู้ได้อย่างไร การที่เธอหมายมั่นปั้นมือที่จะฝึกฝนนิกายหยกสวรรค์ ก็เพื่อจะเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในการสนับสนุนเขา คอยพิทักษ์รักษาปกป้องเขา ถึงแม้ว่าบางที พลังระดับนี้แน่นอนว่าอาจจะยังไม่พอ ที่จะขับเคี่ยวต่อกรกับขุมกำลังอื่นได้ แต่อย่างน้อย… นี่ก็เป็นความคิดของฉี ซู่หยุน
เธอมิได้ตามคาดคั้นเพื่อที่จะเอาคำตอบจากยี่ เทียนหยุน เพราะอาการเงียบของเขามันก็เป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่อย่างน้อย นี่ก็เป็นความคิดของฉี ซู่หยุน ที่เธอทุ่มเทลงทุนลงแรงไปกับนิกาย… ทั้งหมดนี้ก็เพื่อยี่ เทียนหยุน
หลังจากนั้น พวกเขาต่างก็ยิ้มให้กันอย่างอ่อนโยน พวกเขามิได้คิดว่าการกระทำของตัวเองมันจะดูน่าอึดอัดใจอะไร ต่างคนก็ต่างที่จะคิดถึงกันและกัน นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชะโลมจิตใจอันนำไปสู่ความรู้สึกที่อบอุ่น
" ป้า คืองี้ ข้ามีเรื่องสำคัญที่ลืมบอกท่านไป ข้าจึงอยากที่จะไต่ถามขอความเห็นชอบยินยอมอนุมัติจากตัวท่านก่อน !! " สีหน้าของยี่ เทียนหยุนครานี้กลายเป็นดูจริงจัง
" เจ้ามีอะไรก็พูดมาสิ " ฉี ซู่หยุนยังคงไม่ไหวติง เธอยังคงทำตัวประดุจลูกแมวที่ดูเกียจคร้าน นอนซบอยู่กับอกของยี่ เทียนหยุนอยู่ นี่ถ้าหากว่าบุคคลอื่นเดินมาเห็นภาพนี้เข้าละก็ มีหวังคงจะได้ตกตะลึงพึงเพริด อยู่กับที่อย่างเป็นแน่
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่มีสายเลือดที่เกี่ยวข้องกัน อายุก็แตกต่างกันไม่มากเท่าใดนัก แต่ถ้าหากใครมาเห็นภาพๆนี้เข้าแล้วละก็ มันก็ชวนให้หวาดเสียวไปไกลได้
ยี่ เทียนก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา เขาพูดถึงสถานการณ์ของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ ยกตัวอย่าง เรื่องราวของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ ปัญหาของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายหยกสวรรค์
หลังจากที่เขาได้เล่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกมา ฉี ซู่หยุนก็กลายเป็นผุด ลุกขึ้นมานั่ง คิ้วทั้ง 2 ข้างของเธอต่างก็ขมวดเข้าหากัน " เรื่องนี้หากจะพูดไป จริงๆแล้วข้าก็ยังไม่แน่ใจนัก คงจะต้องสอบถามเรื่องราวเหล่านี้กับท่านบรรพบุรุษถึงจะดี "
และแล้วฉี ซู่หยุนก็นำยี่ เทียนหยุนไปพบกับบรรพบุรุษ เรื่องราวเหล่านี้เธอเองก็มิได้แน่ชัดนัก ซึ่งเหล่าบรรดาบรรพบุรุษผู้อาวุโสนั้น โดยปกติแล้ว ก็ไม่ค่อยที่จะได้มาเกี่ยวข้องกับฉี ซู่หยุนมากนัก จะมีก็แต่เพียงปัญหาสำคัญที่จำเป็นเพียงเท่านั้น ที่บรรพบุรุษจะออกโรงมาสะสางปัญหาด้วยตนเอง
และแล้วพวกเขาก็มาพบกับบรรพบุรุษผู้อาวุโสอย่างรวดเร็ว หลังจากที่บรรดาบรรพบุรุษหญิงชราภาพเหล่านี้ ได้รับทรัพยากรเป็นจำนวนมาก พวกเธอต่างก็หมั่นฝึกฝนบ่มเพาะฐานพลังกันอย่างแข็งขัน ฐานพลังของพวกเธอดูจะแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น แต่ทว่า… อย่างไรก็ตามที ถึงแม้ว่าพวกเธอจะพยายามมากซักเพียงใด มันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ดี เมื่อคนเราแก่ตัวขึ้น พลังสายเลือดก็จะยิ่งถดถอยลง นี่ก็เป็นสาเหตุเดียวกับยี่ เทียนหยุนในตอนต้น ก็ในเมื่อพลังสายเลือดเลวจนเกินจะบรรยายแล้ว การบ่มเพาะพลังก็กลายเป็นไม่มีความหมาย ความคิดที่จะฝ่าระดับก็เป็นเพียงสิ่งที่เลือนลอย
" ท่านบรรพบุรุษ เรื่องราวในสมัยก่อนของพวกเรานิกายหยกสวรรค์ นามที่แท้จริงของท่านบรรพชนผู้ก่อตั้งนั้น ท่านมีนามว่ากระไรเช่นนั้นหรือ ?? ฉี ซู่หยุนสอบถามอย่างตรงไปตรงมา
แต่เมื่อบรรดาบรรพบุรุษหญิงชราเหล่านี้เห็นยี่ เทียนหยุนเข้า พวกเธอต่างก็เร่งรีบที่จะลุกขึ้น พวกเธอนั้นต่างก็หวาดกลัวครั่นคร้ามต่อบุลิกลักษณะของยี่ เทียนหยุน จึงไม่กล้าที่จะแสดงลักษณะกริยาอันดูเป็นการประมาท ไม่เหมาะสมต่อหน้าของยี่ เทียนหยุนแม้แต่นิดเดียว และก็ ถ้าหากว่าไม่มียี่ เทียนหยุนซะแล้ว พวกเธอก็คงจะจากไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งนานแล้ว แล้วทีนี้ใครกันละ ที่จะกล้าทำตัวเหินห่างไม่ใส่ใจต่อยี่ เทียนหยุนได้กันละ
แต่ถ้าจะให้ย้อนอดีตกลับไป… สีหน้าของพวกเธอในตอนนั้น ก็ทำทีราวกับว่าเหินห่าง ไม่ดูดำดูดี แต่ตรงจุดนี้ยี่ เทียนหยุนเองก็มิได้เก็บเอามาคิดเอามาใส่ใจให้มากความนัก หาไม่แล้ว เขาก็คงจะไล่กระทืบพวกเธอไปตั้งนานแล้ว ที่คิดจะขับไล่ไสสงตัวเขาในตอนนั้น ให้ออกจากตำหนัก ไปต่อสู้ดิ้นรนตามยถากรรม ณ โลกภายนอก แต่ก็ยังนับเป็นโชคดีของพวกเธอเหล่านี้ ที่ยังมีไหวพริบปฏิภาณอันชาญฉลาดหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่ได้ดันทุรังกระทำการอันเกินกว่าเหตุจนเกินไป และแน่นอนว่า ก็ยังมีผู้อาวุโสบางคนในตอนนั้น ที่ยุแย้งให้ความคิดเห็นที่ว่า หากว่าเลี้ยงดูหรือว่าให้การฝึกฝนกับยี่ เทียนหยุนแล้ว เขาจะเติบโตขึ้นมาได้อย่างงั้นเรอะ
อันที่จริง ณ ตอนนั้น ถ้าหากว่าพวกเธอเชื่อตามคำยุยงส่งเสริมนั้น แน่นอนว่า ณ ตอนนี้ พวกเธอคงจะต้องถูกยี่ เทียนหยุนตบหน้าไปแล้วหลายฉาดอย่างแน่นอน พวกเธอคงจะไม่อยู่ขวางหูขวางตาเกะกะลูกกะตาเขาแล้วในตอนนี้ ตัวเขานั้นถูกเอาใจดูแลเติบโตขึ้นมาได้ก็เพราะฉี ซู่หยุน หาได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากบรรดาหญิงชราเหล่านี้ไม่
" นามที่แท้จริงของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนั้น….. " บรรพบุรุษหญิงชราก็ขมวดคิ้ว พลางก็ส่ายหัวพูดขึ้นมาว่า " เรื่องนี้จริงๆพวกเราก็ไม่ชัดเจนนัก บันทึกทุกอย่างถูกทำลายสิ้น เราจึงมิอาจที่จะสืบค้นถึงประวัติข้อมูลของท่านบรรพชนได้เลย ที่รู้มาก็เพียงว่า ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้งนั้นเป็นผู้ชาย ซึ่งอันที่จริงเรื่องนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดอีกเช่นเดียวกัน "
" ไม่มีข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเลยอย่างงั้นเรอะ ?? " ยี่ เทียนหยุนค่อนข้างที่จะรู้สึกผิดหวัง เขาต้องการที่จะหาข้อพิสูจน์ แต่ไม่คิดเลยว่า ข้อมูลที่มีจะค่อนข้างจำกัด
" แต่มันก็ยังพอมีข้อมูลอยู่บ้าง… เหล่าบรรพบุรุษหญิงชราต่างก็มองหน้ากันอย่างรู้สึกช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี " นัยน์ตาของพวกเธอเปิดเผยให้เห็นถึงความอึดอัดใจอยู่หลายส่วน แต่ในที่สุดพวกเธอก็พูดขึ้นมาว่า " ที่ข้ารู้มา ก็แต่เพียงว่า ท่านเจ้าตำหนักที่เป็นผู้หญิงนั้น….. แท้จริงแล้วก็คือศิษย์หญิงที่มีเรื่องกับท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง เมื่อท่านบรรพชนจากไป ตัวเธอก็ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตำหนัก ในที่สุดก็ขับไล่บรรดาศิษย์ผู้ชายออกจากที่นี่ทั้งหมด เหลือทิ้งไว้ก็แต่เพียงศิษย์ผู้หญิงเพียงเท่านั้น "
นี่ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางด้านมืดของนิกายหยกสวรรค์ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่เต็มใจที่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ซักเท่าใดนัก ก็เพราะว่าความจริงนั้น มันอยู่สูงเป็นอย่างยิ่ง คงไว้ก็แต่เพียงพื้นฐาน ที่นิกายหยกสวรรค์นั้น รับเฉพาะศิษย์ผู้หญิง นี่ก็เพียงพอแล้ว ตัดเรื่องราวส่วนของบรรพชนผู้ชายผู้ซึ่งไร้หัวใจอันเป็นผู้ให้กำเนิดนิกายหยกสวรรค์ทิ้งไป จะเหลือไว้ก็แต่เพียงเรื่องราวของนิกายที่รับเฉพาะศิษย์ผู้หญิง ไม่มีศิษย์ผู้ชายอีกต่อไปนับแต่นั้นเป็นต้นมา
นี่เป็นฉากหลังที่ถูกเปิดเผยออกมา ศิษย์ผู้ชายนั้นให้ดำรงอยู่ในสถานะของศิษย์นอก นี่เป็นการสานความสัมพันธ์แลกเปลี่ยนระหว่างนิกาย
ข้อมูลเรื่องราวเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ยี่ เทียนหยุนเองก็เคยได้ยินได้ฟังมา จริงๆมันก็มิได้ถือว่าเป็นความลับอะไร แต่เป็นเรื่องที่พูดไปก็จะชวนให้อึดอัดใจกันซะเปล่าๆ
" หากว่าไม่รู้ชื่อ ขอให้รู้เพียงนามสกุลก็ยังดี !! " ยี่ เทียนหยุนยังไม่ยอมแพ้
" นามสกุล… นี่ข้าเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน แต่ที่รู้จริงๆก็คือ… " บรรพบุรุษหญิงพลันครุ่นคิด
" ชื่ออะไรอย่างงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" หยกสวรรค์ นี่เป็นชื่อแรกของท่านเจ้าตำหนัก ส่วนนามสกุลนั้นข้าก็ไม่รู้แน่ชัดนัก " บรรพบุรุษหญิงถึงกับส่ายหัว
" ดี !! " ยี่ เทียนหยุนถึงกับแย้มยิ้มในครานี้ " นี่ก็เพียงพอแล้ว นี่ช่างเป็นชื่อที่เหมือนกันกับเมื่อก่อนไม่มีผิด ชื่อของเจ้านิกายหยกสวรรค์ของพวกเราคนแรก ก็คือ เจ้านายของซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ !! หลังจากที่เขาออกจากนิกายหยกสวรรค์แล้ว ก็มิได้เดินทาง จากไปไหนไกล กลับตรงกันข้าม เขาได้สถาปนาก่อตั้งซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ขึ้นมา นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจซะจริงๆ "
" เรื่องนี้ !? " พวกเขาต่างก็พากันสะดุ้ง พวกเธออาศัยอยู่ที่นี่มาก็เป็นระยะเวลานานมากแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่า ใคร… ที่เป็นนายเหนือหัวของที่แห่งนี้ รู้ที่สุดก็เพียงว่า ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ แต่ก็ไม่รู้ว่าชื่อที่แท้จริงของเขามีนามว่ากระไร
ยี่ เทียนหยุนแย้มยิ้ม เขาเร่งรีบ " ผู้เฒ่าซวน ผู้เฒ่าซวน !! "
ผู้เฒ่าซวนก็ออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นยี่ เทียนหยุนเขาก็แสดงความเคารพในทันที " นายท่าน มีอะไรอย่างงั้นหรือ ?? "
" ชี่อจริงของนายท่านคนก่อนมีชื่อเรียกว่าอะไร ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ชี่อของนายท่านคนก่อนก็คือ เหอ ซวนเทียน " ผู้เฒ่าซวนกล่าวความจริงออกมา
" แล้วพรรคอะไรที่ผู้อาวุโสได้เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาอย่างงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" เรื่องนี้จริงๆแล้วข้าเองก็มิได้ที่จะรู้แน่ชัดนัก รู้แต่เพียงว่านายท่านคนก่อน ท่านเอาแต่เฝ้าดูรูปภาพ แล้วก็มักที่จะพูดรำพึงรำพันอะไรบางอย่างอยู่บ่อยๆ " ผู้เฒ่าซวนกล่าว
" ภาพวาด ?? " ยี่ เทียนหยุนพูดไปก็ยิ้มไป " แล้วภาพวาดนั้นในตอนนี้มันไปอยู่ซะที่ไหนกัน ?? "
" อยู่ใน… นายท่านคนก่อนก็มิได้บอกข้าอะไรข้า หลังจากที่เขาตายจากพิษไข้อันเกิดจากการตรอมใจ ที่เขามักจะรำพึงรำพันกับตัวเขาเอง ข้าก็เลยเผามันไปพร้อมกัน กับนายท่าน " ผู้เฒ่าซวนพูด แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้พูดเสริมขึ้นมาว่า " แต่ว่าข้าก็สามารถที่จะเนรมิตมันขึ้นมาใหม่ได้ เพื่อทำให้นายท่านดูได้ "
" งั้นก็รีบเถอะ " ยี่ เทียนหยุนบอกใบ้เขา
ทันใดนั้นผู้เฒ่าซวนก็ผายมือของเขาเบาๆ ณ ปัจจุบันก็ปรากฏรูปภาพที่ดูมีหมอกหนาปรากฏขึ้นมา แต่ทันใดนั้นเอง ภาพก็ถูกวาดขึ้นมา ผู้เฒ่าซวนนั้นสามารถที่จะเนรมิตภาพลวงตาขึ้นมาได้ กะอีแค่รูปภาพ นี่จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาแต่อย่างใด
พวกเขาต่างก็เขยิบเข้ามาใกล้ ก็เพื่ออยาก ที่จะเห็นรูปลักษณะ ของภาพๆนี้ได้อย่างชัดๆ และแล้วก็เป็น บรรพบุรุษหญิงที่อุทานเสียงดังออกมาว่า " น… นี่ นี่มิใช่ว่าเป็นรูปของท่านบรรพชนอย่างงั้นหรือ !? "
บรรพบุรุษหญิงคนอื่นๆต่างก็อุทานออกมาเสียงดังเช่นเดียวกัน นี่เป็นภาพวาดของท่านบรรพชนที่เหลือทิ้งเอาไว้ พูดได้เลยว่า เจ้าตำหนักรุ่นก่อนๆทั้งหมดก็จะต้องมีภาพๆนี้ นี่ก็เป็นบทบาทอื่นของเขานอกเหนือไปจากซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขึ้นกษัตริย์
" นี่ดูเหมือนว่าซวน เทียนจะเอาใจใส่ให้ความสำคัญกับภาพๆนี้เป็นอย่างมาก….. " ยี่ เทียนหยุนพูดแล้วก็ส่ายหัว " มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ?? ผู้เฒ่าซวน ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม ?? "
" ข้าเองก็ไม่รู้อะไรที่แน่ชัดนัก แต่เท่าที่ฟังจากปากของนายท่านคนก่อนแล้ว ท่านก็มักจะพูดแต่คำว่า เสียใจอยู่เสมอๆ อย่างไม่ยอมหยุดหย่อน ที่ทำให้เธอต้องผิดหวังอะไรซักอย่าง อย่างอื่นข้าเองก็ไม่ค่อยที่จะแน่ใจมากนัก " ผู้เฒ่าซวนพูดพลางส่ายหัว
ยี่ เทียนหยุนก็พยักหน้า เขาจะไม่ลงลึกพูดถึงรายละเอียดของเนื้อหาที่ดูจริงจังนี้ เรื่องของเมื่อก่อนก็ให้มันตายไปพร้อมกันกับเขา ตราบใดที่รู้ความจริงนั่นก็เพียงพอแล้ว นิกายหยกสวรรค์แท้จริงแล้วก็คือ ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขึ้นกษัตริย์ที่เป็นผู้สร้างนิกายนี้ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นคนๆเดียว… กับผู้ที่ก่อตั้งคฤหาสน์ยอดสวรรค์ !!