ในขณะที่ยี่ เทียนหยุนกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่นั้น สถานการณ์ของเมืองชุมนุมมังกรก็ถูกรายงานไปที่จักรวรรดิใต้พิภพอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของชายผู้หนึ่งสีหน้าของเขากำลังมืดดำคร่ำเครียด เขาลุกขึ้นแล้วก็ก้าวเดินลงมา ภายในห้องโถงใหญ่ โดยมีเหล่าบรรดาผู้คนเป็นจำนวนมาก ต่างก็กำลังก้มหัวให้กับชายผู้นี้อยู่ พวกเขาไม่กล้าที่แม้แต่สบตาชายผู้นี้ เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นกลางบริเวณหน้าผากของพวกเขา
" สองรัฐมนตรีต้องตาย กล้าที่จะเผาทำลายแม้กระทั่งพระราชวังแห่งเมืองชุมนุมมังกร….. เงื่อนปมสำคัญอะไรก็ไม่มี ?? " ผู้ชายคนนี้หยุดเดิน เขาหันศีรษะเพ่งมองไปที่ตาของบุคคลที่รายล้อม
" รายงานลอร์ดเย่ เอ่อ….. นี่ นี่จริงๆแล้วเรายังไม่พบหลักฐานอะไรเลย พระราชวังถูกเผาทั้งหมด ไฟที่เผาไหม้นั้น มิใช่เปลวเพลิงธรรมดา ทำให้ไม่ว่าอะไรก็โดนเผาไปหมด แล้วพวกเราจะเข้าตรวจสอบได้อย่างไร " รัฐมนตรีลอบปาดเหงื่อ " พวกเราจะพยายามเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ "
" เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างงั้นเรอะ !! " สายตาอันเย็นชาของลอร์ดเย่จ้องมองพวกเขา " ที่ข้าต้องการไม่ใช่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ว่าต้องเป็นพรุ่งนี้ พวกเจ้าจะต้องเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ให้กับข้าโดยเร็วที่สุด !! "
และแล้วออร่าอันน่าสะพรึงกลัวของชายผู้นี้ก็ถูกปลดปล่อยออกมา บรรยากาศของที่นี่กลายเป็นหนักอึ้งเพราะถูกกดทับ นี่เป็นออร่าอันเปี่ยมไปด้วยพลังของผู้ที่อยู่ในขั้นวิญญาณ (Void Spirit Stage) ขาของพวกเขาจึงกลายเป็นอ่อนแรง ต้องคุกเข่าลงกับพื้นในทันที
" ร….. เรา พวกเราต่างก็คาดเดากันว่า เรื่องที่ดูลึกลับเช่นนี้ มันอาจจะเป็นฝีมือของจักรพรรดิมังกรสวรรค์เป็นคนทำ….. มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะกระทำการอุกอาจเยี่ยงนี้ได้ แถมฝั่งนั้นก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย " รัฐมนตรีผู้นี้ก็รีบที่จะเอ่ยอ้างถึงจักรวรรดิมังกรสวรรค์ ศัตรูคู่แค้นออกมาในทันที แล้วก็ยังพูดต่ออีกว่า " หรือว่าจะเป็นเผ่าวิญญาณ ที่เมื่อเร็วๆนี้ ถูกพวกเราบุกโจมตีทำลายอย่างสาหัส เมื่อเห็นว่าพวกเรากำลังเสนออภัยโทษให้กับกลุ่มอิทธิพลเป็นจำนวนมากอยู่ ก็เลยอาศัยจังหวะนี้ ฉวยโอกาสลงมือ จนทำลายสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง "
เขาคิดไปถึงศัตรูคู่อาฆาตรายอื่นๆ โดยยกชื่อเขาเหล่านั้นขึ้นมาเอ่ยอ้างอย่างรวดเร็ว แต่รัฐมนตรีผู้นี้กลับไม่ได้ที่จะตะบี้ตะบันขบคิดถึง ฝั่งของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ ฝั่งนี้เลย
ระหว่างการหลบหนี ยี่ เทียนหยุนก็ได้ฆ่าบรรดาการ์ดทั้งหมดระหว่างทาง และหนทางหลบหนีในครั้งนี้ ก็ค่อนข้างที่จะดูเร้นลับ ลับตาคนเป็นอย่างมากอีกด้วย ดังนั้นแล้ว ย่อมไม่มีใครที่จะสังเกตเห็นกลุ่ม ของพวกเขาได้ บรรดารัฐมนตรีเหล่านั้นไม่มีทางที่จะสาวถึงตัวเขาได้เลย ก็มัวแต่จะมุ่งปมร้อนนี้ ไปที่จักรวรรดิมังกรสวรรค์เพียงอย่างเดียวซะมากกว่า หรือไม่ก็เป็นฝีมือของเผ่าวิญญาณ
" อืม หากว่าดูจากความแข็งแกร่งก็น่าที่จะเป็นพวกเขา แต่ข้ารู้สึกว่านี่ น่าจะเป็นฝีมือของเผ่าวิญญาณซะมากกว่า !! " นัยน์ตาของลอร์ดเย่ ยามนี้ เต็มไปด้วยจิตสังหาร " จงไปสอบสวนเรื่องนี้มา ข้าไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับเรื่องนี้มากนัก นับประสาอะไรกะอีแค่เผ่าวิญญาณ จักรวรรดิมังกรสวรรค์ใยยามนี้ ก็กำลังตกต่ำ ยังไงๆพวกมันก็จะต้องโดนจักรวรรดิใต้พิภพของพวกเราบดขยี้ลงอย่างแน่นอน !! "
ออร่าอันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาโดยรอบ มันกวาดผ่าน ข้ามดินแดนแห่งนี้ สิ่งของจำนวนมากต่างก็พากันกระจัดกระจายถูกพัดปลิว ด้วยออร่าอันทรงพลังนี้ ลำพังเพียงแค่ออร่า ก็ยังน่าสะพรึงกลัวถึงขนาดนี้แล้ว ช่างสมแล้วที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นวิญญาณ
……
ยี่ เทียนหยุนนำพวกเขากลับมาที่คฤหาสน์ยอดสวรรค์อย่างรวดเร็ว และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การบินถลาผกผินในการหลบหนีอันเงียบเชียบ ณ ตอนนี้เหล่าบรรดาศิษย์หลักของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ต่างก็ยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริงในตอนนี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็คง จะต้องเก็บเอาไว้ เป็นความลับ เป็นการชั่วคราวก่อน นี่คงจะต้องรอให้ยี่ เทียนหยุนแข็งแกร่ง มากขึ้นกว่านี้ซะก่อน หากตราบใดที่ฐานบ่มเพาะพลังของเขายังคงโปรโมทเช่นนี้ อย่างต่อเนื่อง ถึงจะเป็นจักรวรรดิ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นกังวลไป !!
" หากว่าพวกเขาส่งนักสู้ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งออกมา เกรงว่าคงจะไม่สามารถที่จะต่อกรได้ง่ายนัก " ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้ว พละกำลังของหลิน เฮ่านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเตรียมพร้อมที่จะเสียสละซึ่งทุกสิ่ง แทบจะเข้าใกล้พลังที่แท้จริงของยี่ เทียนหยุนเลยทีเดียว หากว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่านี้ซัก 1-2 ระดับแล้วละก็ ก็แทบไม่ต้องจำเป็น ที่จะพูดกันให้มากความเลย
ยิ่งถ้าหากเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นวิญญาณมาเองด้วยแล้วละก็ ยี่ เทียนหยุนไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยว่า พละกำลังประสิทธิภาพการต่อสู้ มันจะน่ากลัวซักแค่ไหน หากว่าถึงตอนนั้น มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า คงจะไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้ มันก็คงจะมากกว่า 5,000,000 – 6,000,000 อย่างแน่นอน นี่ช่างน่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้
หลังจากที่พวกเขากลับมาแล้ว สภาวะภายในของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้เป็นการ์ดเงาที่ลงมือ แต่ ณ ตอนนี้ บรรดาการ์ดเงาทั้งหมดถูกยี่ เทียนหยุนฆ่าตายลงหมดแล้ว นี่จึงทำให้คฤหาสน์ยอดสวรรค์ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรอีกต่อไป
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเหอ เชียนหานและก็เจ้าคฤหาสน์คนก่อนฟัง พวกเขาก็เกิดอาการช็อคหนักในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่ายี่ เทียนหยุนนั้น สามารถที่จะอัญเชิญมังกรดำได้ แถมยังฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาลงได้อีกต่างหาก นี่จึงทำให้พวกเขาช็อคคูณสองหนักยิ่งขึ้นไปอีก
" ถ้าอย่างงั้น เจ้าคฤหาสน์ยี่ เป็นท่านใช่ไหม ที่ในตอนแรก ได้ช่วยชีวิตของคณะหยาง ซิซูเอาไว้นะ ?? " ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวสอบถาม
" ถูกต้องแล้ว นี่เป็นข้าเองที่ช่วยชีวิตของพวกเธอเอาไว้ " จริงๆแล้วยี่ เทียนหยุนเอง ก็มิได้อยากที่จะตอบคำถามนี้ ซักเท่าใดนัก นั้นก็เพราะว่ามันมิได้เป็นเรื่องที่สลักสำคัญอะไร
" แต่ทำไมหยาง ซิซูถึงไม่รู้จักท่านละ ?? " เหอ เชียนหานคิดแล้วก็ยิ่งแปลกใจเป็นอย่างมาก ยี่ เทียนหยุนนั้นตะลอนๆสั่นสะเทือนตึกหออักษรรูนศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายรอบ แต่ตัวเธอกลับจำเขาไม่ได้ นี่มันจะไม่แปลกเกินไปหน่อยอย่างงั้นเรอะ
" ก็เพราะว่าเธอรู้จักแต่หน้านี้ยังไงละ " ยี่ เทียนหยุนยื่นแขนออกมาเหมือนปัดหน้า ใบหน้าของคนอีกคนหนึ่งก็ปรากฏออกมา ต่อหน้าต่อตาของทุกคนที่ต่างก็พากันช็อคไปอีกรอบ แต่ถ้าลองคิดดูให้ดีแล้วละก็ ไอ้เจ้าสิ่งนี้มันก็สามารถที่จะทำให้คนช็อคได้จริงๆนั่นแหละ
" หน้ากากอะไรจะดีถึงเพียงนี้ หากว่าได้สวมใส่มันออกข้างนอกแล้วละก็ ก็ไม่ต้องกลัวว่า ใครที่จะจำหน้าได้เลย !! " พวกเขาต่างก็พากันอึ้ง ในที่สุดความจริงก็ประจักษ์ชัดออกมาแล้ว
" ในตอนแรกข้าก็รู้สึกแปลกๆ คฤหาสน์ยอดสวรรค์ของพวกเราจะไปมีเพื่อนที่ดีอย่างผู้เชี่ยวชาญในระดับนั้นได้ยังไง ?? " เจ้าคฤหาสน์คนเก่าพูดไปยิ้มไป " ที่แท้ก็เป็นผู้สืบทอดของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ ของพวกเรานี่เอง นี่ช่างเป็นเพื่อนที่ดีของพวกเราซะจริงๆ นี่การที่ข้ายกตำแหน่งเจ้าคฤหาสน์ให้เจ้าเนี่ย นับว่าเป็นความคิดที่ถูกต้องเลยทีเดียว "
" เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างที่จะตึงเครียดเป็นอย่างมาก พวกเราคงจะต้องรอดูสถานการณ์ก่อนเป็นการชั่วคราว พวกเราจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นแล้วกลุ่มของพวกเราทั้งหมด ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะเป็นการชั่วคราว " ยี่ เทียนหยุนกล่าว อย่างเคร่งขรึม " ทั้งหมดจะต้องอยู่แต่ภายในคฤหาสน์ การจัดการทุกอย่างภายใน ยกให้กับท่านเจ้าคฤหาสน์หลี่เป็นการชั่วคราว หากว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลง ก็ขอให้ทุกคนยึดตามนี้ "
" ข้าไม่ใช่เจ้าคฤหาสน์ ฐานพลังของข้าไม่มีแล้ว ไม่สามารถที่จะเป็นได้แม้กระทั่งผู้อาวุโส " หลี่ ซินเหลียงพูดยิ้มแย้ม " เรียกข้าว่าผู้ดูแลหลี่เถอะ ข้าจะได้ช่วยจัดการปัญหาของที่นี่ เพียงเท่านี้ข้าก็พอใจเป็นอย่างมากแล้ว "
นัยน์ตาของเขาไม่มีเลยซึ่งความท้อแท้สิ้นหวัง ถึงแม้ว่าฐานพลังของเขาจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว แต่อย่างน้อย….. เขาก็ยังมีชีวิตที่เหลืออยู่ แถม ณ ตอนนี้ ก็ยังเดินได้แล้วอีกด้วย
" ถ้าอย่างงั้นก็เยี่ยมเลย เพราะยังไงข้าก็วางแผนที่จะมอบที่นี่ให้ท่านนั้นช่วยดูแล " ยี่ เทียนหยุนพยักหน้ารับ
เมื่อพวกเขากำลังอยู่ในความโชคดี จู่ๆ ผู้ดูแลก็ตรงเข้ามา พร้อมกับอาการที่เร่งรีบ แถมยังให้การดูสับสน ลุกลี้ลุกลน " คนของคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ได้เข้ามาหาเรื่องกับพวกเรา และที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังนำคนกลุ่มหนึ่งของเราเข้ามาด้วย !! "
" คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ ?? " ยี่ เทียนหยุนพลันขมวดคิ้ว เขาเพิ่งจะฆ่าหนาน เฟิงหยุนตายไป คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ คงจะยังไม่น่าเอะใจอะไรเป็นการชั่วคราวก่อนนี่นา แต่ไม่คิดเลยว่า เจ้าคฤหาสน์เพิ่งจะถูกฆ่าตายไปแมพๆ บรรดากลุ่มขยะกลับทำตัวตรงกันข้าม วิ่งโร่กันมาที่นี่เองเลย
ภายใต้ความคิด ยี่ เทียนหยุนจึงพูดออกไปว่า " ถ้าอย่างงั้นก็ดี ไหนนำทางข้าไปดูหน่อยซิ !! "
ผู้ดูแลมองยี่ เทียนหยุนด้วยความประหลาดใจ นั่นก็เพราะว่าตัวเขามิได้รู้จักยี่ เทียนหยุน ซึ่ง ณ ตอนนี้ยี่ เทียนหยุนก็กำลังสวมใส่หน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้าอยู่ นั่นเองจึงทำให้เขาไม่รู้
" นำเขาออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเขา " หลี่ ซินเหลียงยกมือขึ้นเป็นการบอกใบ้ผู้ดูแล แต่เขาก็มิได้อธิบายอะไรออกไป
ผู้ดูแลคนนี้ก็พยักหน้าในทันใด จากนั้นเขาก็นำยี่ เทียนหยุนเดินมุ่งหน้าออกสู่ด้านนอก ยังไม่ทันจะถึงที่หมาย ก็ได้ยินเสียงตะโกนของผู้คนที่อยู่ภายนอกดังขึ้นมาว่า " ไอ้เจ้าขยะคฤหาสน์ยอดสวรรค์ ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะกล้าฆ่านายน้อยของพวกเรา คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ หากว่าวันนี้ พวกเจ้าไม่ยอมรับสารภาพออกมาซะดีๆ ก็อาจจะโดนคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ของพวกเรา บดขยี้พวกเจ้าลงนะ !! "
" คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์คิดที่จะบดขยี้คฤหาสน์ยอดสวรรค์ของพวกเราอย่างงั้นเรอะ ?? " หยาง ยู่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรกันที่ตัวเองกลายเป็นยืนอยู่ข้างหน้า แต่ก็มองดูพวกเขาแล้วก็พลันพูดจาเยาะเย้ยออกมาว่า " หากว่าแน่จริงก็เข้ามา ดูซิว่าใครมันจะกลัวใคร !! ไอ้เจ้าพวกกลุ่มกบฏ จริงๆแล้วพวกเจ้าก็คือ ผู้ที่ทรยศคฤหาสน์ ที่ ณ ตอนนี้ยืนอยู่ข้างคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ !! "
" หยาง ยู่ ฝ่ายเรากำลังเดือด ข้าขอเตือนเจ้าให้เชื่อฟังพวกเราซะ จะดีกว่า หากว่าไม่เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็อาจจะตายโดยไม่รู้ตัวได้นะ !! " ฝั่งกลุ่มกบฏก็ได้พูดเยาะเย้ย ถากถางออกมา เขายืนอยู่ฝั่งของคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ด้วยท่าทีที่หยิ่ง ยะโส
" เจ้า !! " สีหน้าของหยาง ยู่ พลันกลายเป็นโกรธแค้น เมื่อเขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกไป พลันฝ่ามือนึง ก็ได้วางลงเป็นหัวไหล่ของเขา นี่จึงทำให้เขาหยุด
" หือ พี่ชายท่านนี้ ท่านคือใคร ท่านดูไม่คุ้นตาเลย ?? " เมื่อหยาง ยู่ได้เห็นใบหน้าของยี่ เทียนหยุน เขาก็มองยี่ เทียนหยุนอย่างแปลกๆ
" ไม่เป็นไร ข้าจะดูแลที่นี่เอง " ยี่ เทียนหยุนยกสายตาของเขาขึ้นมองดู ก็พบเห็นใบหน้าของคนรู้จักที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม คนผู้นั้นก็คือ หลี่ ฮ่วน !! ที่ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ด้วยฝีมือของตัวเขาเอง ณ ตอนนี้ดูเหมือนว่าบริเวณหัวไหล่ของเขา จะยังคงเป็นสีน้ำตาลคล้ำอยู่ ตัวเขานั้นนอนอยู่ในเปล ชัดเจนว่าที่เขาต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็เพราะวาตัวเขาเอง ที่ดันมาซ่าส์กับยี่ เทียนหยุน ก็เลยเจอดีเข้าไปซะ
เพิ่มเติมด้วยบุคคลอื่นที่มาจากหออักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ อาทิเช่น เฟิง ยู่หลงที่อยู่ภายในแถวนี้เช่นกัน !! ที่นี่จึงแลดูเต็มไปด้วยการรวมตัวกันของพวกที่หยิ่งยะโสโอหัง !!
