เท้าคู่กระโดดย่ำไปที่เงาปีศาจจักรพรรดิใต้พิภพจนระเบิด พลังทำลายในครั้งนี้ของยี่ เทียนหยุนนั้น แข็งแกร่งกว่าครั้งที่เขาต้องตกอยู่ในภาวะอันตรายก่อนหน้านี้ ที่ต้องเอาแต่หลบเลี่ยง แต่ครั้งนี้ เขาสามารถที่จะกำราบจักรพรรดิใต้พิภพลงได้ในทันที
แน่นอนว่านี่ยังมิใช่การกำราบผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นมาตรฐานเปลี่ยนกายาได้อย่างง่ายดาย จริงๆแล้วความหลากหลายนั้นยังมีอยู่อีกมากมาย เงาปีศาจตนนี้ยังมิได้มีการติดตั้งอาวุธเข้าไป ยังไม่มีสมองหัวคิดอะไร มีแต่พลังอันบ้าคลั่ง ไม่สามารถที่จะกระตุ้นพลังสายเลือดได้ เป็นต้น ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังมีออฟชั่นเสริมอยู่อีกมากมาย ซึ่งหากจะให้เปรียบเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาระดับสูงสุดแล้วละก็ ช่างแตกต่างกันอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว
จากสถานการณ์ในครั้งนี้ ทำให้หลายๆคนกลายเป็นหวาดผวา นี่พลังของจักรพรรดิใต้พิภพอันยิ่งใหญ่ถูกกำราบลงหรือนี่ ?? แต่ทว่าสิ่งที่ยิ่งกว่าการหวาดผวานั้นก็คือ ความปิติยินดีที่ตัวเองไม่ต้องตาย ลงด้วยฝ่ามือนี้ แน่นอนว่าคนเราก็ย่อมที่จะต้องรักชีวิตของตัวเอง มากกว่าด้วยกันทั้งนั้นอย่างแน่นอน ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นกลับตาลปัตร ศัตรูจะกลายมาเป็นผู้ช่วยชีวิตของตัวเองไปซะนี่
" ทำได้ยังไง ?? " สีหน้าของหลิน เฮ่ากลายเป็นจมลง เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้ว่าเงาปีศาจแห่งจักรพรรดิใต้พิภพจะไม่ได้ถึงกับแข็งแกร่ง เป็นพิเศษอะไร แต่….. ถึงจะดีจะร้ายยังไง ก็ยังเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาระดับสูงสุด ผู้ที่มีพลังทำลายอันยิ่งใหญ่ หลิน เฮ่าไม่คิดเลยว่ายี่ เทียนหยุน สุดท้ายแล้ว จะสามารถทำลายได้แม้กระทั่งเงาปีศาจ
หลังจากที่เขาตกลงสู่พื้นดิน เขาก็หาได้หยุดพักแม้แต่นิดเดียวไม่ เขากระโดดเตะเข้าหาหลิน เฮ่าที่อยู่ตรงหน้าอย่างต่อเนื่องในทันที กะที่จะสังหารหลิน เฮ่าให้ตายในคราเดียว และเท้าที่ยี่ เทียนหยุนส่งออกไปนี้ มันก็เต็มไปด้วยพลังอันป่าเถื่อน !!
สีหน้าของหลิน เฮ่า ก็ถึงกับกลายเป็นเปลี่ยนสี เขารีบคว้านหาสมบัติของตัวเองออกมาอย่างเร่งรีบ จากนั้นเขาก็เขวี้ยงมันออกไปที่ยี่ เทียนหยุน สมบัติชนิดนี้ของหลิน เฮ่า จัดอยู่ในรูปแบบคุมขังศัตรู และดูเหมือนว่าเกรดของมันก็มิใช่ย่อยเลยทีเดียวด้วย หากว่าไม่แล้ว เขาจะปามันออกไปทำสากกระเบืออะไร
" มาให้ข้าทำลายซะดีๆ !! "
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แต่มือขวาของยี่ เทียนหยุนกับปรากฏดาบแห่งอนันต์ออกมา มันเล็งไปที่สมบัติเซ็ตนี้ของหลิน เฮ่า ดาบนั้นสับลงไป เสียงของดาบแห่งอนันต์ก็ดังสะท้อนไปทั่ว " เกร้งงงงง " เมื่อฟันไปซักระยะมันก็เข้าเงื่อนไข ณ เวลานี้ พลังแห่งการสร้างความเสียหายก็ถูกจุดชนวนขึ้นมาเป็น 2 เท่าในทันที
" แปง !! "
ภายใต้รัศมีแห่งแสงของวงแหวนอันนี้ ยี่ เทียนหยุน ก็ใช้ดาบแห่งอนันต์ ฟันออกไปอย่างแรง " รับไปซะ " และแล้วอุปกรณ์สมบัติชุดนี้ ก็ถูกตัดออก เป็น 2 ส่วน รัศมีที่เคยเปล่งประกายอยู่ด้านบน มาบัดนี้กลายเป็นดูทึมๆ ไปในทันที มันดูราวกับกองเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่หล่นเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้นดิน
" ศักดิ์ศรีของจักรวรรดิ เป็นสิ่งที่จะละเมิดไม่ได้ !!" พลันความโกรธของหลิน เฮ่าก็พุ่งทะยาน เขานำเม็ดยาโอสถออกมาเคี้ยวในปาก พละกำลังอันดุดันก็ทะลักออกมาจากร่างของเขา ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้ก็พุ่งสูงขึ้นเป็นเส้นตรง ราวกับพายุเฮอริเคน !!
และภายในมือของหลิน เฮ่าก็ดูเป็นอะไรที่มากไปกว่าดาบใหญ่ นี่คืออุปกรณ์จิตวิญญาณระดับสูงสุด อักขระอักษรรูนที่ระดับปรมาจารย์เป็นผู้แกะสลัก กำลังส่งประกายระยิบระยับ พลังนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันแผ่กระจายปกคลุมไปทั่ว ไม่คิดเลยว่าอักขระอักษรรูนที่อยู่บนดาบ จะมีพลังอำนาจอันแข็งแกร่งที่สามารถยกระดับพลังของดาบใหญ่ ให้สูงขึ้นถึงเพียงนี้ ทักษะในการจารอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนดาบเล่มนี้ ช่างเหมาะเจาะเข้ากันได้ดีกับดาบใหญ่เล่มนี้ซะจริงๆ
มีคำกล่าวที่ว่าอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์นั้น จัดว่าเป็นของหายากที่อยู่ในระดับสูงเป็นอย่างมาก ผู้ที่จะหล่อมันออกมาได้ ก็จะต้องอยู่เหนือกว่าระดับปรมาจารย์ขึ้นไป ถึงจะสามารถหลอมมันออกมาได้ มันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ สถานะของหลิน เฮ่านั้นมิใช่น้อย แต่เขาก็ยังมิใช่ผู้ที่มีคุณสมบัติ ที่จะการครอบครองอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ได้
ถึงแม้ว่าดาบใหญ่ของหลิน เฮ่าจะไม่ใช่อาวุธที่อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่นี่ก็เป็นผสมผสานกันระหว่างอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับสุดยอดกับอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ระดับปรมาจารย์ นี่จึงเป็นการดำรงอยู่ของอาวุธที่มีพลังทำลายอันน่าสะพรึง อย่างแน่นอน อาจจะเปรียบได้กับอาวุธที่อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียวก็เป็นได้ !!
ข้อมูลภายใต้ดวงตาตรวจสอบของยี่ เทียนหยุนก็รายงานถึงต้นตอ แหล่งกำเนิดพลังอาวุธที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ออกมา ชุดเกราะ เม็ดยาโอสถที่เสริมพลังอันแข็งแกร่งให้กับหลิน เฮ่า
ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้พุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง ราวกับพายุเฮอริเคนที่ระเบิดออกมา จากค่าพลังในตอนแรก 2.7 – 2.8 ล้าน พุ่งขึ้นแทบจะในทันที 6 ล้านหน่วย กำราบสิ้นซึ่งระดับพลังมาตรฐานของผู้ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาระดับที่ 7 กระทั่งสูงกว่าระดับผู้เชี่ยวชาญระดับที่ 7 แต่ทว่าอย่างไรก็ตามที นี่ต้องแลกมาด้วยการระเบิดแก่นโลหิตและเสริมด้วยเม็ดยาโอสถ ถึงจะได้พลังอันป่าเถื่อนเช่นนี้มา ก็จะต้องส่งเสริมเพิ่มเติมกันถึงขนาดนี้กันเลยทีเดียว
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามที ผลข้างเคียงก็จัดได้ว่าขีดสุดอย่างชัดเจน เช่นเดียวกัน หากว่าการต่อสู้จบลง หลิน เฮ่าจะอยู่ในสภาะที่อ่อนแออย่างที่สุด แตกต่างจากตอนนี้ ชนิดที่เรียกว่า ราวฟ้ากับเหว เมื่อผนวกเข้ากับเอฟเฟคจากการเผาผลาญแก่นโลหิตของตัวเองเข้าไปอีก ระดับฐานพลังของเขาก็จะร่วงลงมา
แต่ ณ ช่วงเวลานี้ หลิน เฮ่านั้นยอมเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก ก็เพื่อหมายที่จะบดขยี้ยี่ เทียนหยุน ลงให้จงได้ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีแห่งจักรวรรดิแล้ว เขาจึงพร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง
ดวงตาทั้ง 2 ข้างของหลิน เฮ่ายามนี้กลายเป็นสีเลือด ออร่าที่เขาปลดปล่อยออกมานั้น มันแผ่กลิ่นอายออกมาโดยรอบ หากเปรียบเทียบกับเงาปีศาจโลหิตแห่งจักรพรรดิแล้วละก็ ก็ย่อมที่จะแข็งแกร่งกว่า อยู่ 1 ส่วน นี่คือความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 หลิน เฮ่าภายใต้การสวมใส่อาวุธติดตั้งอุปกรณ์และเม็ดยาโอสถ สามารถที่จะระเบิดพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมาได้ !!
ด้วยพละกำลังอันแข็งแกร่งนี้ ก็เปรียบได้กับพละกำลังของยี่ เทียนหยุน โชคดีที่เขาทะลวงขึ้นสู่ขั้นเปลี่ยนกายา หากไม่เช่นนั้นแล้ว การรบในครั้งนี้ มันอาจจะหมายถึงชีวิตของเขาก็เป็นได้
" ข้าจะเอาชีวิตเจ้า !! "
หลิน เฮ่าวินาทีนี้เขามิได้สนใจต่อทักษะเทวะซวน เทียนอีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ การรักษาชีวิต และที่ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขานั้นต่างก็คิดผิดกันอย่างมหันต์ ที่หลงคิดว่าคฤหาสน์ยอดสวรรค์นั้น ไม่สามารถที่จะสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาได้ ณ ตอนนี้ พวกเขามิใช่ว่า ไม่สามารถที่จะสร้างปัญหาได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเขากลับสร้างความสับสนอลหม่าน ชุลมุนวุ่นวายมาตั้งแต่ต้นเลยต่างหาก
หลิน เฮ่านั้นพุ่งตรงเข้าหายี่ เทียนหยุนอย่างรวดเร็ว เขาปลดปล่อยพละกำลังอันดุร้ายออกมาจากภายในร่างกายของเขา เหมือนจะมีเงาวิญญาณแห่งมังกรคลั่งปรากฏออกมา เข้าคู่กับร่างกายของเขา ไม่คิดเลยว่า หลิน เฮ่าผู้นี้จะสามารถกระตุ้นสายเลือดแห่งเผ่าพันธ์ุมังกรออกมาได้ด้วย นี่ไม่รู้ว่าเขาดูดซับแก่นโลหิตของมังกรคลั่งเหล่านี้ ไปเป็นจำนวนมากเท่าไรแล้ว ถึงได้สามารถที่จะปลดปล่อยพละกำลังในระดับนี้ออกมาได้
ทั่วทั้งร่างของหลิน เฮ่า ตอนนี้ก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร เช่นเดียวกับยี่ เทียนหยุน แต่เกล็ดมังกรของหลิน เฮ่านั้นจะเป็นสีเขียวอ่อนซึ่งดูคล้ายกับสีของมรกต หลิน เฮ่ายกดาบใหญ่ฟันเข้าใส่ยี่ เทียนหยุนในทันที เอฟเฟคของอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ช่างน่าทึ่งนัก มันแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาในทันที แสงที่ปกคลุมตัวดาบนั้นสูงถึง 1 จิ้ง (3.33 ม.) มันสามารถที่จะทำลายการป้องกันที่แข็งที่สุดลงได้
" สายเลือดแห่งเผ่ามังกรคลั่ง….. แต่ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ ที่ต้องมาเจอกับข้า !! "
ยี่ เทียนหยุนนั้นมิได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เขายกดาบแห่งอนันต์ที่อยู่ในมือของเขาขึ้นมา เพื่อเข้าต้อนรับการมาเยือนของหลิน เฮ่า ยี่ เทียนหยุนเปิดรัศมีนับโชคในทันที ความโชคดีก็ระเบิดออกมา ยี่ เทียนหยุนนั้นเล็งไปที่ดาบใหญ่ของหลิน เฮ่าที่กำลังฟันเข้ามา นี่เป็นการปะทะกันของทั้ง 2 ดาบ แต่บางที เกรดของดาบแห่งอนันต์นั้น ยังด้อยกว่าดาบใหญ่เล่มนี้ของหลิน เฮ่าอยู่เลย แต่อย่างไรก็ตามที เอฟเฟคของมันก็ยังเป็นของจริง !!
" บัซซซ…. – เสียงของพลังที่ออกมาจากดาบแห่งอนันต์ "
แต่ในครั้งนี้มันมิได้ทำให้ยี่ เทียนหยุนต้องผิดหวัง ในสถานการณ์ที่แต้มแห่งศักดิ์ศรีเพิ่มมากขึ้น ผนวกเข้ากับรัศมีนำโชค จุดชนวนปลดล็อกค่าความเสียหายขั้นวิกฤต (Critical Points) เป็นจำนวน 2 เท่าแทบจะในทันที !!
ดาบที่มีศักยภาพท้าทายสวรรค์อยู่ที่นี่แล้ว มันสามารถที่จะช่วยระเบิดพลังทั้งหมดของ ยี่ เทียนหยุนขึ้นเป็น 2 เท่า นี่เป็นการดำรงอยู่ของพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
ภายใต้การปะทุพลังจากเอฟเฟคแห่งดาบนี้ ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้ของยี่ เทียนหยุนที่เดิมทีอยู่ที่ 7.5 ล้าน ก็พุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วแทบจะในทันที ไปแตะอยู่ที่ตัวเลข 12 ล้านหน่วย !! แทบจะในทันที ดาบแห่งอนันต์เล่มนี้กลายเป็นดูราวกับมีชีวิตชีวา ส่องแสงเป็นประกายแวววับถึงขีดสุด รัศมีของมันดูราวกับเปล่งปลั่งเป็นประกาย !!
" เคร้งงง !! "
พลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัวของทั้ง 2 เข้าชนกัน ดาบใหญ่ของฝั่งตรงข้ามนั้น " …!!… " กลับกลายเป็นหัก แรงสั่นสะเทือนจากการปะทะกันนั้นลามหนักไปถึงหลิน เฮ่า แรงสั่นสะเทือนอันน่าสะพรึงกลัว ได้ทำลายแขนของหลิน เฮ่าลงแทบจะในทันที
" เพล้ง….. "
ณ วินาทีนี้ ดาบแห่งอนันต์ที่อยู่ในมือของยี่ เทียนหยุน ก็หักลงเช่นเดียวกัน มันกลายเป็นเศษดาบที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น ชัดเจนว่ามันไม่สามารถที่จะทานทนต่อพลังอำนาจอันมหาศาลในระดับนี้ได้ นี่จึงทำให้มันต้องพังทะลายลง ดาบแห่งอนันต์นั้นไม่สามารถที่จะยกระดับขึ้นมาได้ ดังนั้นเกรดของมันจึงมิอาจที่จะโปรโมทได้
ก็ในเมื่อเกรดมิอาจที่จะโปรโมทได้ คุณภาพก็มิอาจที่จะพัฒนาได้เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการที่ดาบสามารถทานทนต่อพลังอำนาจของเจ้าของได้ เป็นสิ่งที่ยี่ เทียนหยุนต้องการ แต่นี่ในเมื่อมันทำไม่ได้ ดาบแห่งอนันต์จึงมีความอ่อนแอเป็นอย่างมาก ณ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า มันไม่สามารถที่จะทานทนต่อพลังของยี่ เทียนหยุนได้ มิอาจต้านทานต่อ แรงปะทะของฝั่งตรงข้ามได้ ด้วยเหตุนี้ มันจึงกลายเป็นเศษดาบที่ร่วงหล่น
" ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเกรดของมันจะต่ำจนเกินไป จึงมิอาจทานทนต่อพละกำลังในปัจจุบันได้ " ยี่ เทียนหยุนส่ายหัว ก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้ มีอาวุธที่เหมาะสมอยู่เป็นจำนวนมาก แต่น่าเสียดายที่พวกมันมิอาจจะพัฒนาได้ ว่ากันโดยปกติพื้นฐานแล้ว นอกเหนือไปจากการสวมใส่ชุดเกราะแล้ว ยี่ เทียนหยุน จึงมักที่จะไม่ใช้อาวุธแต่อย่างใด
เนื่องด้วยพละกำลังที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก พวกมันจึงมิอาจที่จะตามติดฐานพลังของเขาได้ เสร็จจากงานนี้แล้ว เขาคงต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่
