สายตาของยี่ เทียนหยุนดูวูบวาบไปมา ตอนนี้เขาดักฟังอยู่นอกห้อง ก็เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ จักรพรรดิใต้พิภพผู้ซึ่งเขาจินตนาการ ต้องการที่จะเสนอการอภัยโทษให้จริงๆ หากว่ามิใช่แล้ว เขาก็คงจะต้องส่งกองทัพออกมาแล้ว คงจะไม่ออกป้ายเชิญเพื่อชักชวนพวกเขาให้มางานเลี้ยงรับรอง ที่จัดขึ้นในตอนเย็นแบบนี้หรอก พวกเขาคงต้องการที่จะพบกับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง แต่หารู้ไม่ว่า ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง แล้วก็คือ ยี่ เทียนหยุนนี่เอง ??
ถึงแม้ว่าฐานพลังของการ์ดเงาจะมิได้สูงมากนัก แต่จะดีจะร้ายก็อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ นี่จำเป็นที่จะต้องลงทุนลงแรงทุ่มเททรัพยากรลงไปเป็นจำนวนมาก กว่าจะฝึกฝนพวกนี้ออกมาได้ ตายไปตั้งมากมาย แล้วเสียน เฝิงผู้นี้จะไม่กลายเป็นน็อตหลุดอย่างงั้นรึ แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ยี่ เทียนหยุนไม่คิดเลยว่าบรรดาการ์ดเงาเหล่านี้ จะเป็นเสียน เฝิงผู้นี้นี่เองที่เป็นคนฝึกฝนพวกมันขึ้นมา นี่มันค่อนข้างที่จะอยู่นอกเหนือไปจากการคาดการณ์ของเขาจริงๆ
" ท่านรัฐมนตรี ทำไมพวกเราไม่ทำลายพวกมันให้สิ้นซากลงไปซะเลยละ ?? " การ์ดเงาผู้นี้พูดอย่างเคร่งขรึม " ประโยชน์ใช้สอยของพวกเขารึก็น้อย หากว่าทำงานให้กับพวกเราไม่ได้ แล้วอย่างงั้นมันจะไปมีประโยชน์อะไร….. สู้ดับพวกเขาไปให้หมดซะเลย จะไม่ดีกว่ารึ แล้วคฤหาสน์ยอดสวรรค์ก็จะได้ถูกยึดมาเป็นของพวกเรา "
" ที่เจ้าพูดมา เจ้าคิดว่าข้าไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้นอย่างงั้นเรอะ !! " เสียน เฝิงตะโกนในลักษณะเชิงดูถูกเหยียดหยามออกมา " ณ ตอนนี้ขุมกำลังของพวกเรายังคงน้อยเกินไป จักรวรรดิมังกรแห่งสวรรค์ก็กำลังกดดันพวกเราอยู่ เผ่าวิญญาณก็ยังมิได้ปราบปรามให้เรียบร้อยอย่างสมบูรณ์ ที่ทำได้ก็คือ จำต้องเสนออภัยโทษให้ !! เบื้องบนยังคงยึดมั่นในหลักการเดิม พวกเขายังคงคาดหวังในตัวของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ เบื้องบนต่างก็คิดว่า หากพวกเราไม่ไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงพวกเขาจนเกินไป ก็จะไม่เป็นการกระตุ้นความโกรธของพวกเขาขึ้นมา คฤหาสน์ยอดสวรรค์ตกต่ำซะขนาดนั้น ตราบใดที่มีผลประโยชน์จำนวนมากให้กับพวกเขา พวกเขาก็คงจะต้องคล้อยตามเราอย่างแน่นอน….. แต่การที่พวกมันฆ่าเหล่าการ์ดเงาของข้า ตายเป็นจำนวนมากนี่สิ อันที่จริงข้าเองก็ไม่อยากที่จะกล้ำกลืนฝืนทนกับไอ้พวกเรื่องพวกนี้หรอก หากไม่ได้ลงมือสั่งสอนพวกมันให้รู้สำนึกซะบ้าง พวกมันก็อาจที่จะคิดว่า จักรพรรดิใต้พิภพของพวกเรานั้นกลัวมัน !! "
เมื่อพูดอย่างงี้แล้ว เสียน เฝิงก็หยิบเก้าอี้ขึ้นมา จากนั้นเขาก็ทุ่มมันลงไปกับพื้น ที่เขาทำลายข้าวของในตอนนี้นั่นก็เพราะว่า เขาต้องการที่จะระบายความโกรธแค้นของตัวเองออกมา
" แต่ถ้าพวกเขาต่อต้านละ ?? " การ์ดเงาผู้นี้สอบถาม
" ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ฆ่าพวกมันทิ้งซะ อย่าให้เหลือ !! หากเวลานั้นมาถึง ข้านี่แหละจะเป็นคนคุยเรื่องนี้กับเบื้องบนเอง คฤหาสน์ยอดสวรรค์ก็เหมือนกับผู้ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านบทประพันธ์การแต่งกลอน ที่แต่งคำคล้องจองขึ้นมาได้ ต่อให้พวกมันดิ้นรนมากซักขนาดไหน ก็หลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้หรอก !! " สายตาของเสียน เฝิง กลายเป็นเย็นชา " หากคิดที่จะปฏิวัติต่อต้านจักรวรรดิใต้พิภพของพวกเราแล้วละก็ จุดจบก็จะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ !! กะอีแค่กลุ่มพวกขยะ หากอุตสาห์เสนออภัยโทษให้แล้ว พวกมันยังไม่ยอมจำนนอีก งั้นก็จงอย่ามาว่าข้าก็แล้วกันว่าโหดเหี้ยมไร้ความปรานีนะ !! "
" ใช่แล้วขอรับ !! " การ์ดเงามิได้ลังเลที่จะสนับสนุนคล้อยตามเลย เขาพยักหน้า จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆจางหายไป จากห้องนี้ การ์ดเงาผู้นี้เตรียมตัวที่จะไปยังคฤหาสน์ยอดสวรรค์ เพื่อที่จะทำภารกิจจับเจ้าคฤหาสน์คนเก่ามา
พวกเขาต้องการที่จะบีบบังคับผู้เชี่ยวชาญที่พิทักษ์คฤหาสน์ยอดสวรรค์ ให้ออกมา เพื่อมอบโอกาสให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้าย !!
การ์ดเงาเพิ่งจะออกไป พลันร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่หลังของเขาอย่างเงียบงัน ราวกับไม่มีปี่มีขลุ่ย คมมีดก็พุ่งวาบ แทงทะลุเข้าสู่หัวใจของการ์ดเงาผู้นี้อย่างง่ายดาย และในขณะเดียวกัน มือของคนๆนี้ก็ปิดปากการ์ดเงาผู้นี้เอาไว้ นั่นทำให้เขาไม่สามารถที่จะส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย
ดวงตายังคงเบิกโพลงกับร่างกายที่ดิ้นเล็กน้อย ไหนเลยที่เขาจะสู้กำลังของยี่ เทียนหยุนได้ และแล้วในที่สุดร่างของเขาก็กลายเป็นอ่อนลง เพราะพิษอัมพาตในร่างกายของเขา ลมหายใจกลายเป็นไม่มีอีกต่อไป
" ตึง !! ประสบความสำเร็จในการฆ่าการ์ดเงา ได้รับค่าประสบการณ์ 250,000 แต้ม แต้มคลั่ง 3,200 แต้ม แต้มบาป 50 แต้ม !! ได้รับทักษะยุทธ์ก้าวย่างแห่งเงา "
แต้มบาปที่ได้มิใช่น้อยเลย 50 แต้ม การ์ดเงาเหล่านี้ได้เข่นฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมาก พูดได้เลยว่าหากเป็นคนของจักรวรรดิใต้พิภพแล้ว มือใครบ้างที่ไม่เคยชุ่มไปด้วยเลือด ผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมากเท่าไรแล้วที่ต้องตกตายไป
ยี่ เทียนหยุนหลังจากที่จัดการกับการ์ดเงาแล้ว เขาก็ดำเนินการลากศพของการ์ดเงาผู้นี้ มาไว้ข้างๆ มองร่างของการ์ดเงาผู้นี้ด้วยสายตาอันเป็นประกายระยิบระยับ เขาทำการเปลื้องเสื้อผ้าของการ์ดเงาผู้นี้ออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สวมเข้ากับตัวเอง ใส่ผ้าคลุมปิดหน้าสีดำ ดูๆไปแล้วก็ช่างคล้ายกับการ์ดเงาผู้นี้ซะจริงๆ ไม่มีความแตกต่างอะไรให้เห็นเลย
" ก้าวย่างแห่งเงา !! "
ยี่ เทียนหยุนแสดงก้าวย่างแห่งเงา นี่เป็นทักษะยุทธ์เฉพาะตัวของเหล่าบรรดาการ์ดเงา เลือนหายไปจากที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็ว เพิ่งจะผ่านประตูเข้าห้องมาไม่ทันไร สายตาของเสียน เฝิงที่นั่งจิบน้ำชาอยู่ก็พลันกลายเป็นเย็นชา เขายกสายตาตรงมาที่ยี่ เทียนหยุน " มีอะไร ?? "
ฐานพลังช่างแตกต่างกันอย่างมหาศาลซะจริงๆ เสียน เฝิงสามารถที่จะตรวจจับเขาได้อย่างง่ายดาย พลังวิญญาณของเขาช่างแหลมคมยิ่งนัก เขาสามารถที่จะจับตำแหน่งของยี่ เทียนหยุนได้อย่างง่ายดายเป็นอย่างมาก บทบาทของเสียน เฝิงย่อมมิใช่คนธรรมดาสามัญโดยทั่วๆไป ซึ่งถ้าหากว่าเขาเป็นคนธรรมดาๆแล้วละก็ ไฉนเลยเขาจะกลายเป็นรัฐมนตรีแห่งจักรวรรดิใต้พิภพไปได้เล่า
แต่จริงๆหากจะว่าไปแล้วเรื่องของสถานะนั้นมิใช่ประเด็น แต่ประเด็นก็คือว่า เขาคือผู้ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายา นี่สามารถที่จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดได้เป็นอย่างดี บุคลิกลักษณะของเขาก็ดูเป็นคนโลภโมโทสัน ก่อนจะมาที่นี่ก็คงจะคิดแผนวันเกิดของตัวเองเอาไว้แล้ว นี่จึงชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง
ยี่ เทียนหยุนยกสายตาของเขาขึ้นมองดู รายละเอียดของข้อมูลในปัจจุบันก็ปรากฏออกมา
-
เฝิง : ฐานบ่มเพาะพลังอยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาระดับที่ 5 ร่างกายมิได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย ตัวเลขสังเคราะห์ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้อยู่ที่ 1,900,000 หน่วย จุดอ่อนก็คือ แขนซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวดั่งใจได้ ทักษะยุทธ์ที่ใช้ก็คือ ฝ่ามือสะท้านภพ ทักษะลับร่างทองคำ สิ่งของที่จะได้รับเมื่อสังหารคนผู้นี้ได้ ก็คือ ฝ่ามือสะท้านภพ (ทักษะยุทธ์ขั้นปฐพีระดับสูง) ทักษะลับร่างทองคำ (ทักษะยุทธ์ขั้นปฐพีระดับสูง) การ์ดประสบการณ์ 20 เท่า กุญแจคุกที่ใช้คุมขังเผ่าวิญญาณ…..
หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูล ยี่ เทียนหยุนก็ถึงกับสั่น ช่างสมกับที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาซะจริงๆ นี่ไม่จำเป็นจะต้องสวมใส่เครื่องป้องกันอะไรเลย หรือว่าติดตั้งอุปกรณ์อาวุธใดๆ ค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้ก็จะแตะถึง 2 ล้านอยู่แล้ว !!
นี่ชวนให้เปรียบเทียบได้กับผู้เฒ่าบรรพบุรุษปีศาจโลหิต ณ ตอนนั้น ที่ระเบิดพลังออกมา 2,000,000 หน่วย แต่นี่ยังมิได้ระเบิดพลังอะไรออกมาเลย ก็แทบจะใกล้เคียงกับบรรพบุรุษเฒ่าปีศาจโลหิตซะแล้ว หากว่าเสียน เฝิงระเบิดพลังออกมา ก็สามารถที่จะจินตนาการได้เลยว่า ระดับพลังของเขาจะน่าสะพรึงกลัวซักขนาดไหน และเมื่อได้เห็นข้อมูลทักษะลับร่างทองคำ ก็ชัดเจนว่า ที่ไม่ต้องใส่เครื่องป้องกันใดๆเลย นั่นก็เพราะว่ามีทักษะลับร่างทองคำอยู่นี่เอง จึงไม่ต้องสวมใส่ชุดเกราะใดๆ
สำหรับจุดอ่อนนั้น จริงๆแล้วนี่เป็นสิ่งที่ยี่ เทียนหยุนเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง และอาการบาดเจ็บของเขาก็ยังมิได้ฟื้นตัว และนั่นก็เลยกลายมาเป็นจุดอ่อน หากว่าตอนนั้น เสียน เฝิง ได้แสดงทักษะลับร่างทองคำของเขาออกมาแล้วละก็ เขาก็คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ ก็เลยไม่มีทางที่จะต้านทานความเสียหายอันเกิดจากอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับสูงไปได้
หากว่าไม่ได้แสดงทักษะยุทธ์ของตัวเองออกมา ก็จะต้องมีสมรรถนะทางกายภาพอันยอดเยี่ยม จึงจะสามารถต้านทานการโจมตีของอาวุธในระดับนี้ได้ แต่ทว่า….. ไอ้เจ้ากุญแจคุกที่คุมขังเผ่าวิญญาณนี่ซิ สิ่งนี้ทำให้ยี่ เทียนหยุน ต้องจ้องดูมัน เล็กน้อย ของสิ่งนี้…..
" ว่ายังไง มีปัญหาอะไร ?? " เสียน เฝิงขมวดคิ้วมองเขา เขาคิดว่ามันน่าแปลกที่ยี่ เทียนหยุนกลับไม่พูดไม่จาอะไร
" นายท่าน ตัวข้ามีเรื่องสำคัญที่ยังไม่ได้รายงานให้ท่านทราบ " ยี่ เทียนหยุนใช้เสียงต่ำ ซึ่งเป็นเสียงที่เมื่อก่อนการ์ดคนนี้ใช้ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดว่าเหมือนกันอย่างยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะเหมือนกันอย่างยอดเยี่ยมแหละน่า
" มีอะไรก็พูดมา " เสียน เฝิงราวกับไม่อยากฟัง นี่หลักๆแล้ว เป็นยี่ เทียนหยุนที่ก่อนหน้านี้ ได้แสดงทักษะก้าวย่างแห่งเงาออกมา ซึ่งมีเพียงแต่ เหล่าบรรดาการ์ดเงาเพียงเท่านั้นที่จะสามารถแสดงทักษะนี้ออกมาได้ ผู้อื่นไม่สามารถที่จะลอกเลียนแบบได้
" ขอรับนายท่าน !! " ยี่ เทียนหยุนหยิบกระดาษออกมาจากบริเวณอก นี่เป็นกระดาษข้อมูลดั้งเดิมของการ์ดเงาคนนี้ ด้านบนนั้นจะระบุถึงเนื้อหาสารบาญที่แจกแจงคำสั่งในการทำภารกิจลับต่างๆที่จำเป็น บุคคลของตระกูลไหน อะไรยังไงบ้าง ที่จะต้องฆ่า
เขาถือกระดาษก้าวไปข้างหน้า แต่ยังมิทันที่จะก้าวไปถึงไหน เสียน เฝิงก็ยื่นมือออกมาห้ามเขาซะแล้ว " ก็ข้าพูดไปก่อนหน้านี้แล้วมิใช่หรือ ไม่ให้เข้าใกล้ตัวข้าภายในรัศมี 1 จิ้ง (3.33 เมตร) นะ!! โยนมันมาให้ข้าจากตรงนั้นนั่นแหละ "
ยี่ เทียนหยุนพลันกลายเป็นชะงัก นี่ยังอยู่ในระยะไกล ความยากนั้นแทบจะเป็น 2 – 4 เท่า ไม่มีทางเลยที่จะลอบโจมตีได้ ไม่คิดเลยว่าเม็ดยาโอสถเทพแห่งความโชคร้ายจะกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางแผนการของเขา ในการลอบโจมตี…..
แต่….. เขาก็คงทำได้แค่เพียงโยนกระดาษนี้ออกไปเท่านั้น มันลอยพะเยิบพะยาบโบยบินจนหล่นลงมาจากด้านบน ตกเข้าสู่มือของเสียน เฝิง
และในทันใดนั้นเอง สายตาของยี่ เทียนหยุนก็จ้องไปที่เสียน เฝิงอย่างเขม็งเกลียว เขาต้องการที่จะเห็นช่วงเวลานี้เป็นที่สุด เวลาที่เสียน เฝิงขาดการเฝ้าระวังป้องกันตัว ยี่ เทียนหยุนระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา เขาเตรียมการที่จะพุ่งเข้าชาร์จ ลอบโจมตี !!
