Crazy Leveling System - ตอนที่ 165 บอกปฏิเสธ
การกระทำของคฤหาสน์ปราณฟ้า กระตุ้นความโกรธของยี่ เทียนหยุน ครั้งแรกที่เขาเห็นบรรพบุรุษเฒ่าปีศาจโลหิต เขาก็รู้ได้เลยว่า มีบางอย่างผิดปกติที่ไม่ชอบมาพากล ดูดซับแก่นโลหิตของผู้อื่นเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต แต่เขาก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่า แก่นโลหิตที่ดูดซับในปัจจุบันจะเป็นของพวกเด็กๆ ช่างต่ำช้าเลวทรามซะจริงๆ ชีวิตของมันยังจะต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไปซะอีก !!
บรรพบุรุษพลังระดับสูงเหล่านี้ เพื่อรักษาการดำรงชีวิต เพื่อความแข็งแกร่งของตัวเอง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถที่จะทำได้ทั้งนั้น นี่เข้าสู่สภาวะผิดปกติ วิกลจริตอย่างแท้จริง
" ตึง!! ประสบความสำเร็จกับภารกิจซ่อนเร้น – ช่วยเหลือเหล่าเด็กๆที่ถูกกักขังจากเงื้อมือปีศาจผู้ชั่งร้าย – ได้รับค่าประสบการณ์ 100,000 แต้ม แต้มแห่งศักดิ์ศรี 100 แต้ม !! "
ณ เวลานี้เสียงของระบบดังก้องในหูของยี่ เทียนหยุน แต้มแห่งศักดิ์ศรีเพิ่มขึ้นอีก 100 แต้ม นี่คือเรื่องที่ชวนให้มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ความสุขในขณะโกรธจัด !!
ถ้าหากว่ายี่ เทียนหยุนมิได้ทำลายคฤหาสน์ปราณฟ้าลงอย่างสมบูรณ์แล้วละก็ ปัญหานี้ก็จะต้องดำเนินต่อไปอย่างแน่นอน โดยที่เด็กของหลายๆครอบครัวในทวีปพรมแดนปฐพีมักจะถูกปล้นชิงลักพาตัวไป แต่ตราบใดที่ใครบางคนยังคงฝึกวิชามารอันชั่วร้ายในลักษณะนี้อยู่ พวกมันก็คงจะทำเช่นนี้อย่างแน่นอน
ครั้งนี้ก็คือ บรรพบุรุษเฒ่าปีศาจโลหิต ครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเฒ่าคนไหนอีก อย่างบรรพบุรุษเฒ่าจิตมังกรดำนั่นก็เช่นเดียวกัน ครอบครองภูเขาตั้งตนเป็นกษัตริย์ ไม่รู้ว่าชีวิตของผู้บริสุทธิ์จะต้องถูกสังเวยเป็นจำนวนมากเท่าไร เพื่อเส้นเลือดมังกรดำที่ชั่วร้ายนั่น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า มือของยี่ เทียนหยุนก็ถูกย้อมไปด้วยเลือดเป็นจำนวนมาก แต่อย่างน้อยเขาก็ยังไม่เคยลงมือกับผู้บริสุทธิ์ !! เขาจะไม่เริ่มต้นที่จะเป็นฝ่ายลงมือกับคนดีก่อน
หากผู้อื่นไม่ยั่วยุเขา เขาก็จะไม่เริ่มลงมือตามอำเภอใจอย่างแน่นอน หากผู้อื่นไม่กระตุ้นต่อมโมโหเขา เขาก็จะไม่กวนประสาทคนอื่นตอบ คนไหนหากคิดที่จะทำลายเขา มันผู้นั้นก็จะต้องโดนเอาคืนเป็น 100 เท่าอย่างแน่นอน !! นี่คือบรรทัดฐานของยี่ เทียนหยุน
" เทียนหยุนไม่จำเป็นที่จะต้องคิดมากไปหรอก บางสิ่งบางอย่างเราก็ไม่สามารถที่จะควบคุมอะไรได้มาก แต่อย่างน้อยบางสิ่งบางอย่าง พวกเราก็ช่วยพวกเขาได้ " ฉี ซู่หยุนฉีกยิ้มให้กับยี่ เทียนหยุน
ยี่ เทียนหยุนหายใจออกลึก เหมือนกับจะขับมลพิษทางจิตใจออกมา เขาพยักหน้าแล้วก็พูดว่า " ข้าไม่เป็นไร ข้าคิดว่าข้ามีวิธีที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้แล้ว ไปกันเถอะ นำเด็กๆกลุ่มนี้กลับกัน !! "
เขาบอกใบ้ให้มังกรดำหมอบลง จากนั้นก็นำพวกเด็กๆปีนขึ้นไปบนหลังของมังกรดำนี้ เด็กๆเหล่านี้ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวในตอนแรก แต่ฉี ซู่หยุนก็คอยปลอบขวัญพวกเขา แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่หายกลัวอยู่ดี
" ไม่เป็นไร กระโดดขึ้นไปเถอะ !! "
ยี่ เทียนหยุนควบคุมมังกรดำนำพวกเขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งตรงสู่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ ทิ้งคฤหาสน์ปราณฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ไว้ข้างหลัง หลังจากที่ไฟมอดลง ที่นี่ก็จะเหลือแต่ซากปรักหักพังอันกว้างใหญ่อย่างแน่นอน เมื่อพวกเขาเพิ่งจะบินจากไปได้ไม่นาน ร่างๆหนึ่งก็เคลื่อนที่ออกไป มองเห็นก็แต่เพียงหลังของเขา
" คฤหาสน์ปราณฟ้าถูกกำจัด แท้จริงแล้วภูมิหลังของเด็กผู้ชายคนนั้นคือใครกันแน่ ?? แม้กระทั่งมังกรดำก็ยังเต็มใจที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา มีคำพูดที่ว่า มันจะต้องถูกทำให้เชื่องตั้งแต่วัยเด็ก มันจึงจะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้….. " ชายวัยกลางคนผู้นี้หรี่ตาเพ่งสมาธิมองดูยี่ เทียนหยุนจากไป เขาพูดด้วยสายตาที่ขุ่นมัวว่า " ดูเหมือนว่านี่จะเป็นปัญหาที่มีผลกระทบตามมา ข้าควรที่จะรายงานให้ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้รับทราบจะดีกว่า ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มอิทธิพลที่ฝ่าฝืนกฏในแผ่นดินใหญ่แห่งนี้….. "
ทันใดนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นโปร่งใส เลือนหายไปอย่างรวดเร็วโดยปราศจากร่องรอย
ยี่ เทียนหยุน พวกเขารีเทริน์กลับคืนสู่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อย่างรวดเร็ว ที่นี่ดูเหมือนว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ดูเหมือนคำสั่งกำลังเคลื่อนไหว ผลลัพธ์จากการดับสูญของคฤหาสน์ปราณฟ้า ทำให้สถานที่ที่ทำกิจกรรมของพวกเขาคึกคักเป็นอย่างมาก จู ยูร์เวยเริ่มที่จะออกไปหาซื้อวัตถุดิบหลากหลายชนิดข้างนอกอย่างต่อเนื่อง
สินสงครามที่พวกเขารวบรวมมาได้มีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นแล้วทรัพยากรทางการเงินของพวกเขาก็ทรงอำนาจขึ้นมาในทันทีเป็นอย่างมาก นี่ทำให้พวกเขามีเงินทุนอย่างเพียงพอ สามารถที่จะขยายตำหนักหยกสวรรค์นี้ขึ้นได้
เมื่อพวกเขากลับมา ก็ได้ยินเสียงร้องวิงวอน
" เจ้าของตึกจือ ได้โปรดกลับไปเป็นเจ้าของตึกของพวกเราเถอะ ตึกสายฝนแห่งสวรรค์ไม่สามารถที่จะดำเนินงานได้หากปราศจากท่าน !! "
" ใช่แล้วละ นั่นคือความผิดที่ผู้อาวุโสยู้ได้ทำลงไป มิได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับพวกเราเลย !! หากว่าเป็นพวกเรา ย่อมที่จะลงมือช่วยเหลือตำหนักหยกสวรรค์โดยปราศจากความลังเลอย่างแน่นอน !! "
" ใช่แล้ว พวกเราและตำหนักหยกสวรรค์มีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ต่อให้เป็นคฤหาสน์ปราณฟ้า พวกเราก็จะยื่นมือเข้ามาช่วย !! "
เมื่อยี่ เทียนหยุนกลับมา เห็นกลุ่มคนนี้มาแต่ไกล พวกเขากำลังขอร้องวิงวอนจู ยูร์เวยอยู่ด้านหน้า แต่เขายังคงเรียกเจ้าของตึกจือ พวกเขายังมิได้รู้แซ่ที่แท้จริงของเธอแต่อย่างใด
จู ยูร์เวยพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า " เจ้าของตึกหวัง ท่านวางอาวุโสยู้ไว้ข้างกายข้า มิใช่ว่าคอยตรวจสอบข้าอย่างงั้นเรอะ ?? รึว่าความเข้าใจผิดของข้ามันไม่ถูกต้อง ?? "
เธอมิใช่คนโง่ รู้ว่าอาวุโสยู้นั้นอยู่ในสถานะไหน ตัวเธอเป็นเจ้าของตึกแท้ๆ แต่คำพูดของอาวุโสยู้ดูจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เปรียบเทียบกับคำพูดของเธอ อาวุโสยู้นั้นติดต่อกับทางสำนักงานใหญ่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าตัวเธอจะทำอะไร พวกเขาล้วนที่จะรู้ดีทั้งหมด
ณ เวลานั้นเธอเลือกที่จะสนับสนุนตำหนักหยกสวรรค์ แน่นอนว่าผู้อาวุโสยู้ไม่ต้องการ เชื่อว่าทางฝั่งของสำนักงานใหญ่คงจะมีแนวคิดเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้ว
ณ ตอนนี้ผู้ชนะก็คือพระราชา คนแพ้ก็คือผู้ร้าย การกระทำของพวกเขาก็ยังล่าช้าเหมือนเดิมตามแบบฉบับของพวกเขา ตอนนี้มาขอร้องเธอให้เปลี่ยนความคิด กลับคืนสู่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์เป็นเจ้าของตึกอีกครั้งหนึ่ง แต่มันมิใช่ความสามารถของจู ยูร์เวยเป็นหลัก แต่เป็นยี่ เทียนหยุน ที่กลายมาเป็นผู้ชนะของสงครามในครั้งนี้ต่างหาก !!
สามารถที่จะปราบปรามทำลายล้างคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้ นั่นก็หมายความว่ายี่ เทียนหยุนนั้นมีพลังที่น่ากลัว นี่จึงเป็นเหตุให้ จะอย่างไรก็แล้วแต่ พวกเขาจะต้องมา มาเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีอย่างแน่นอน
ในหัวของชายวัยกลางคนรู้สึกอึดอัด เขามิใช่ใครอื่น ผู้จัดการทั่วไปตึกสายฝนแห่งสวรรค์ ฐานพลังอยู่ในขั้นมาตรฐานแก่นการควบแน่นระดับ 8 ซึ่งแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่….. ณ ตอนนี้เขาดูไม่ต่างไปจากสุนัขเลย ขอร้องวิงวอนจู ยูร์เวยให้กลับไป
การกระทำในครั้งนี้ของจู ยูร์เวยถือว่ายอดเยี่ยมมาก หากเธอยอมกลับไป แน่นอนว่าจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากยี่ เทียนหยุนอย่างแน่นอน แล้วพวกเขาจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้อย่างไร ต่อให้ต้องก้มหัว ก็จะต้องขอร้องเธอให้จงได้
พวกเรามิได้ที่จะหมายความเช่นนี้ ในใจของพวกเขาเต็มใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีกับตำหนักหยกสวรรค์ มันมิใช่ว่าตัวเจ้าเพิ่งจะก้าวผ่านอุปสรรคใดๆมา พวกเราจะช่วย….. ขอเพียงเจ้าบอกมา ข้าจะทำให้เจ้ากลายมาเป็นรองประธาน เจ้าของตึกสำนักงานใหญ่ !! ให้เจ้าได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดดีไหม….. "
" เจ้าของตึกหวัง ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องพูดขอร้องข้าให้กลับไปหรอก !! บางสิ่งบางอย่างพลาดแล้วก็พลาดเลย ท่านเลือกที่จะไม่ปลดปลอกคอของข้าออก อันนี้ข้าเข้าใจ แต่ ณ ปัจจุบันตัวข้าได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของตำหนักหยกสวรรค์แล้ว ข้าคือผู้อาวุโสของตำหนักหยกสวรรค์ ข้าจะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ ดังนั้นไม่จำเป็นที่เราจะต้องพูดกันให้มากความหรอก !! " จู ยูร์เวยตัดบท บอกใบ้พวกเขาให้จากไป
เธอตอบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล เธอเคยถูกทิ้งไปแล้วถึง 2 ครั้ง แล้วนี่ ยังจะมาพูดจาหว่านล้อมเธอเป็นครั้งที่ 3 อีกยังไงหรือ นี่ตัวเธอจะไม่กลายเป็นคนโง่หรอกรึ
" พูดได้ดี !! " ยี่ เทียนหยุนเดินปรบมือ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ต้องขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่ยกความรักทิ้งไป หากมิฉะนั้นแล้วตัวข้าก็คงจะไม่มีโอกาสช่วยบุคคลที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ มาได้ หากว่าไม่มีอะไรแล้ว พวกเรามีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ ข้าคงต้องขอเชิญท่านออกจากที่นี่ !! "
เมื่อเจ้าของตึกหวังเห็นยี่ เทียนหยุนกลับมา ดวงตาของเขาก็พลันเจิดจรัส เขารีบกล่าวคำประจบในทันทีว่า " ท่านนี้คือผู้อาวุโสยี่อย่างนั้นหรือ ช่างสมกับเป็นคนหนุ่มที่เป็นฮีโร่ซะจริงๆ….. ก่อนหน้านี้พวกเราได้วางแผนที่จะช่วยสนับสนุนท่าน แต่ใครกันเล่าจะคิดว่า ผู้อาวุโสยู้ดันทำเรื่องโง่ๆลงไปซะได้….. ข้ารู้ว่าตัวเองมิอาจเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่ทางเราสามารถที่จะให้การสนับสนุนท่านที่มากยิ่งขึ้นได้ !! วัตถุดิบทั้งหมด พวกเราจะเก็บเงินท่านเพียง 50% เท่านั้น !! "
นี่คือการคายเลือด สูยเสียเงินเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ยี่ เทียนหยุน ไม่มีความชอบเอาซะเลย
" พวกเรางดซื้อวัตถุดิบเป็นการชั่วคราว ท่านทั้งหลายโปรดออกจากที่นี่ " ยี่ เทียนหยุนบอกใบ้พวกเขาให้จากไป
เจ้าของตึกหวังถอนหายใจ รู้สึกเสียใจอยู่ภายใน พวกเขาสูญเสียโอกาสที่จะเข้าใกล้กลุ่มอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่ง หากว่าสามารถที่จะได้รับความชอบจากใครบางคนที่ยิ่งใหญ่ปะดุจขุนเขาขนาดนี้ได้แล้วละก็ ตึกสายฝนแห่งสวรรค์ของพวกเขาก็คงจะสามารถเดินมองพวกเขาจากด้านข้างได้….. แต่ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ ณ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว
" พวกเราขอลาก่อน….. " ภายในใจของพวกเขารู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็คงจะต้องรีบกลับไป นอกจากความรู้สึกอันแสนเศร้าภายในใจแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก