Crazy Leveling System - ตอนที่ 162 การจัดการ
ฉี ซู่หยุนภายใต้การดูดซับหยกเลือด ทำให้เธอฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ เวลาที่ใช้ก็แสนสั้น !! โดยปกติแล้วจากอาการของฉี ซู่หยุน ต่อให้ใช้เม็ดโอสถที่มีสรรพคุณบำรุงแก่นเลือดชั้นเยี่ยม ก็จะต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีจึงจะสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้
คงจะมีแต่เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์แก่นโลหิตระดับสุดยอดที่จะสามารถช่วยรักษาเพียงเท่านั้น แต่ราคาของมันก็ย่อมมหาศาลเช่นเดียวกัน และมันก็ยังมิอาจหาซื้อได้ในทวีปปฐพีแห่งนี้ หากว่าไม่มีสิ่งใดที่มีคุณสมบัติคล้ายกันมาเยียวยาแล้ว ก็อาจที่จะต้องใช้เวลาในการรักษาอีกหลายต่อหลายปี
แก่นโลหิตก็เปรียบเสมือนชีวิตของตนเอง ในวัยหนุ่มก็สามารถที่จะใช้มันได้อย่างอิสระ อย่างบรรพบรุษเฒ่านั่นประลัย แก่นโลหิตสามารถที่จะเป็นสิ่งอเนกประสงค์ที่ราวกับทำให้กลับชาติมาเกิดใหม่ คืนสู่วัยหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง
หยกเลือดนี้ราวกับสมบัติท้าทายสวรรค์ ภายในระยะเวลาอันสั้นก็สามารถที่จะฟื้นฟูกลับสู่สภาวะปกติได้แล้ว มิจำเป็นที่จะใช้เวลาหลายปี หากคิดคำนวณดูก็จะต้องใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง แต่นี่….. กลับใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็สามารถที่จะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ระหว่างนี้ บรรดาศพที่กระจัดกระจายเกลื่อนกลาดก็ถูกทำความสะอาด สีหน้าบนใบหน้าของศิษย์จำนวนมากล้วนเต็มไปด้วยความร่าเริงอิ่มเอมใจ มันเป็นความรู้สึกที่มีต่อผู้กอบกู้ สายตาของพวกเขาต่างก็มองมาที่ยี่ เทียนหยุน มันเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและศรัทธา !!
ยี่ เทียนหยุนยกสายตาขึ้นมองดู ก็สามารถมองเห็นค่าชื่นชอบของตัวเองที่ระเบิดออกมา แต่ละคนล้วนสูงกว่า 100 – 200 แต้ม ไม่จำเป็นที่จะต้อง
สำเร็จภารกิจใดๆเลย ก็สามารถได้ค่าความชื่นชอบของพวกเขามาได้แล้ว
อันที่จริงค่าความชื่นชอบมันก็ขึ้น – ลงตามพฤติกรรมของเขาอยู่แล้ว ตัวเลขค่าความชื่นชอบในภารกิจนั้น ใส่มาเป็นภาคบังคับ
หลังจากที่ได้รับสินสงครามแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับคืนสู่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ สถานการณ์ภาครวม ณ ตอนนี้ก็มิได้มีอะไรแล้ว โชคดีที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ ปัญหาจึงมิได้มีความซับซ้อนมากนัก หากว่าเมื่อก่อน พวกเขามิได้ซ่อนตัวอยู่ภายในซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แล้วละก็ ก็คงได้ถูกจับตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยทั่วไปแล้วก็มีเพียงเหล่าผู้อาวุโสที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่ฐานพลังอ่อนแอล้วนมิได้บาดเจ็บอะไร มันมิใช่ว่าพวกเขานั้นขี้ขลาดตาขาว แต่การออกไปก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ออกไปก็ไม่มีความหมายอะไร รังแต่จะกระเด็นกระดอนราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ซะมากกว่า
ณ เวลานี้จู ยูร์เวยและคนอื่นๆก็ได้กลับมา เมื่อพวกเธอได้ข่าวว่าสถานการณ์ของที่นี่กลับคืนสู่สภาวะปกติ ไม่มีอะไรแล้ว พวกเธอจึงรีบกลับมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอรู้ว่า ยี่ เทียนหยุนได้ทำการล้างบางคฤหาสน์ปราณฟ้าจนสิ้นซากลงแล้ว ต่างก็พากันช็อค ไม่น่าเชื่อว่าคฤหาสน์ปราณฟ้าจะถูกบดขยี้โดยยี่ เทียนหยุน
" ไงแม่นางม่วง ต่อไปท่านจะเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์ของเราไหม ?? " ยี่ เทียนหยุนพูดเชื้อเชิญเธอในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ
" ให้ข้าเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์อย่างงั้นหรือ ?? " จู ยูร์เวยถึงกลับช็อค คนอื่นต่างก็ช็อคไปตามๆกัน
ที่ว่าช็อคนั้นไม่ใช่เพราะว่าคำเชื้อเชิญ แต่ทว่า….. เจ้าของตึกจือ ใยจึงแซ่ จู กันเล่า ??
" ใช่แล้วละ สถานที่ขยะอย่างตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ ท่านมิจำเป็นที่จะต้องกลับไปหรอก " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้มบาง " ข้ารู้สึกว่าตำหนักหยกสวรรค์ในตอนนี้ ยังขาดแคลนผู้อาวุโสในการจัดการงานธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่อยู่ ข้าต้องการที่จะให้ท่านเป็นผู้อาวุโสเลขานุการเอกของตำหนักหยกสวรรค์ ปัญหาที่เหลือคงไม่จำเป็นที่จะต้องให้ข้าพูดออกมา ด้วยความสามารถของท่าน ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถควบคุมสายงานของที่นี่ลงได้อย่างสมบูรณ์ ดูอย่างตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของท่าน ก็สามารถที่จะเจริญก้าวหน้าได้อย่างโตวันโตคืน ข้าเชื่อว่าด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบอันนี้เหมาะสมสำหรับตัวท่านเป็นอย่างมาก ท่านสบายใจได้ พวกเราจะให้อำนาจทางการบริหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับท่าน ท่านสามารถที่จะบริหารงานภายใต้ความคิดของท่านได้เลย "
" ให้ ให้ข้าเป็นผู้อาวุโสของตำหนักหยกสวรรค์….. นี่….. " จู ยูร์เวยรู้สึกกลัว เธอไม่คิดเลยว่ายี่ เทียนหยุนจะพูดอะไรที่มันดูสูงส่งเช่นนี้ออกมา
ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็มองตาค้างไปตามๆกัน นี่จะไม่เลินเล่อเกินไปหน่อยอย่างนั้นหรือ ?? พวกเธอต่างก็มองไปที่ฉี ซู่หยุน จะยังไงก็แล้วแต่ เธอก็ยังเป็นเจ้าตำหนักที่แท้จริง
" ในเมื่อเทียนหยุนพูดเช่นนั้นก็แสดงว่า ท่านคือคนที่น่าไว้วางใจ และยิ่งไปกว่านั้นท่านเลือกที่จะช่วยเหลือพวกเราในวันที่เรายากลำบาก ลำพังแค่ใจของท่านที่แสดงออกมา ตรงจุดนี้ก็เพียงพอแล้ว ท่านคือเจ้าของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ ตัวข้าเชื่อว่าหากให้ท่านจัดการงานทางด้านนี้ มันจะต้องดีแน่ " ฉี ซู่หยุนพูดด้วยรอยยิ้ม " ณ ที่ตรงนี้ ข้าขอเชิญท่านให้กลายมาเป็นผู้อาวุโสของเราอย่างเป็นทางการ ข้าจะไม่รู้ถึงความสามารถของท่านได้อย่างไร ?? "
" ข้าก็ขอสนับสนุนแม่นางม่วงให้กลายมาเป็นผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้เพียงเพื่อตำหนักหยกสวรรค์แล้ว ตัวเธอถึงกลับยอมที่จะเสียสละชีวิต บวกกับสถานะที่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ของเธอ ทุกๆคนก็ทราบดีกันอยู่แล้ว หากจะพูดถึงระดับในการบริหารจัดการของเธอแล้วละก็ ตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเราไม่มีใครที่สามารถจะทำได้เช่นเธออย่างแน่นอน " เสียงพูดของผู้อาวุโสใหญ่ดูกึกก้องและกังวาน เธอรู้สึกชื่นชอบประทับใจในการกระทำของจู ยูร์เวยเป็นอย่างมาก เธอยอมเสียสละชีวิตเพื่อพวกเขา ความจริงใจนี้ก็ยากที่จะหาใดเปรียบได้แล้ว
จู ยูร์เวย ใบหน้าทั้งหมดของเธอกลายเป็นแดงก่ำ เธอได้รับแรงสนับสนุนจากคนเป็นจำนวนมาก รวมกับคำพูดของยี่ เทียนหยุนที่สั่นคลอนจิตใจเธอ อีกทั้งณ ตอนนี้ตัวเธอก็ไม่มีที่ไป
" ตกลง แต่ข้าก็เป็นคนที่เข้มงวดกับตัวเองเป็นอย่างมาก หากว่าภายใน 1 ปี ข้ามิสามารถโปรโมทตำหนักหยกสวรรค์ขึ้นมาได้ ข้าจะลาออกจากตำแหน่งของผู้อาวุโสด้วยความสมัครใจ !! " จู ยูร์เวยพูดพร้อมกับสีหน้าที่ดูจริงจัง ชัดเจนว่านี่ ย่อมมิใช่การพูดจาไร้สาระเลื่อนลอยแต่อย่างใด
ด้วยถ้อยคำเหล่านี้ทำให้คนเป็นจำนวนมากต่างก็เชื่อว่า หากมีความมุมานะมุ่งมั่นซะขนาดนี้แล้ว ผลที่ออกมามันจะอยู่ตรงกลางอย่างงั้นหรือ ??
ยี่ เทียนหยุนพยักหน้าแย้มยิ้ม เขาเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอประกาศอย่างชัดแจ้งที่จะพิสูจน์ตัวเธออย่างชัดเจนในทันที การจัดการงานของเธอนั้นถือได้ว่ามีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตำหนักหยกสวรรค์จะมิใช่ตึกทรงคุณค่าอะไร แต่พวกเขาก็ต้องการวัตถุดิบนาๆชนิดผสมผสานเฉกเช่นเดียวกับนิกายอื่นๆ หรือซื้อหาสมุนไพรวิญญาณ สิ่งต่างๆที่จำเป็นกลับมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เธอเป็นผู้ท้าชิงที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก
" ที่นี้ ข้ามีเรื่องที่อยากจะร้องขอต่อผู้อาวุโส ตัวข้าวางแผนที่จะให้บุคคล 2 คนกลายเป็นผู้อาวุโสผู้ดูแลคลังสินค้า !! " ยี่ เทียนหยุนพูด
บรรดาลูกศิษย์ต่างก็ยังคงอยู่ ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงได้ยินหัวข้อของเนื้อหาที่พวกเขากำลังอภิปรายกัน ว่ามันคือสิ่งใด
" อาวุโสผู้ดูแลคลังสินค้า ทั้งสองที่ว่านั้นคือใคร ?? " ผู้อาวุโสถามออกไปพร้อมกับความสงสัย
" คนแรก พี่สาวเสี่ยวเหลียน คนที่สองก็คือ ศิษย์น้องจิ่ว !! " ยี่ เทียนหยุนบอกใบ้ให้หลิ่ว เมิ่งเหลียนออกมา
หลิ่ว เมิ่งเหลียนและจิ่ว หลิงหยุนเดินออกมาอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จะกลายมาเป็นผู้อาวุโสที่ดูแลคลังสินค้า ตัวเองเนี่ยนะ ??
" อาวุโสผู้ดูแลคลังพัสดุคนแรกก็คือ พี่สาวเสี่ยวเหลียน อาวุโสผู้ดูแลคลังพัสดุคนที่สองก็คือ ศิษย์น้องจิ่ว วิกฤตในครั้งนั้น พี่สาวเสี่ยวเหลียนและศิษย์น้องจิ่วได้แสดงให้เห็นแล้วถึงความโดดเด่น พวกเธอช่วยรักษาและแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนเจ็บเพื่อผลักดันไปสู่แนวหน้า ปลอบประโลมสภาวะทางจิตใจของเหล่าผู้คน บวกกับบ่อยครั้ง ที่พวกเธอต่างก็ออกไปค้นหาอาหาร ด้วยความกล้าและสติปัญญานี้ ด้วยความเป็นผู้นำนี้ พวกเธอจึงมีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นอาวุโสผู้ดูแลคลังพัสดุ ถึงแม้ว่าฐานพลังของเธอจะมิได้สูงที่สุด แต่ด้วยความเป็นผู้นำของพวกเธอ ย่อมที่จะเห็นได้ชัดอย่างแท้จริง !! "
ยี่ เทียนหยุนได้ยินจากปากของศิษย์คนอื่นๆที่รายล้อม จึงเข้าใจได้ถึงสถานการณ์บางอย่าง ฐานพลังของพวกเธอแม้จะไม่ได้สูงที่สุด แต่ความเป็นผู้นำของพวกเธอก็สูงเป็นอย่างมาก นี่ก็เพียงพอแล้ว
นี่มิใช่ว่าเขาเป็นคนที่มีความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้อะไร เขาเพียงแต่มองเห็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของพวกเธอ สมรรถนะการสั่งงานของพวกเขา นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสพึงมี
ศิษย์ทั้งหมดต่างก็พยักหน้า นัยน์ตาเผยให้เห็นถึงการยืนยันว่าเห็นด้วย บางคนหันไปมองกลุ่มศิษย์ที่มีฐานพลังสูง พวกเธอต่างก็มิได้พูดอะไร ต่างก็พยักหน้าเช่นเดียวกัน ช่วงเวลาวิกฤตในครั้งนั้น พวกเธอต่างก็หลงอยู่ในความสับสน คิดแล้วมันก็น่าละอายใจยิ่งนัก
" พูดตามตรง นี่เป็นการยื่นข้อเสนอครั้งแรกของข้า ขอเชิญผู้อาวุโสและเจ้าตำหนักอภิปรายญัตติข้อนี้ได้โดยความสมัครใจ " ยี่ เทียนหยุนพูด
" ไม่จำเป็นที่จะต้องถกเถียงกัน ข้าอนุมัติ " ฉี ซู่หยุนรวบรัดตัดความ " ประสิทธิภาพของพวกเขา ข้าเองก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน พวกท่านไม่ต้องพูด ข้าได้ตัดสินใจแล้ว "
ยี่ เทียนหยุนแย้มยิ้ม มิมีปัญหา มีป้าคอยยืนอยู่ข้างเดียวกับเขา อนุมัติทันใจ
ผู้อาวุโสคนอื่นต่างก็มองหน้ากันไปมา มิได้กล่าวอะไรอีก มีความเห็นก็เหมือนไม่มี ทำได้แต่เห็นด้วยเพียงเท่านั้น สถานะยี่ เทียนหยุนสูงสุด ตัวเขาได้ชนะใจของผู้คนอย่างต่อเนื่อง ใครกันที่จะกล้าไม่สนับสนุนเขา ?? พวกเขาต่างก็รู้กันดีถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงเลือกที่จะเทใจเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเขา
" ยอดเยี่ยมมาก ถ้าอย่างงั้น ปัจจุบันที่นี่มอบให้พวกเจ้าจัดการ….. ส่วนที่เหลือ ข้าวางแผนที่จะกำจัดคฤหาสน์ปราณฟ้าทิ้งซะ !! " สายตาของยี่ เทียนหยุนดูเย็นชา มันเต็มไปด้วยจิตสังหาร
" ไม่พาข้าไปด้วยรึ ?? " ฉี ซู่หยุนยิ้มอย่างสงบ
ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้มว่า " ข้าจะไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอของเจ้าวังได้อย่างไร ?? "
ผู้อาวุโสหลายคนต่างก็อยากที่จะไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยยี่ เทียนหยุน " พวกท่านอยู่ดูแลที่นี่เถอะ ส่วนเกินมอบให้พวกเราจัดการนะดีแล้ว เป็นการทำบางสิ่งบางอย่างให้จบสิ้นลงเท่านั้น….. จากนี้เป็นต้นไป จะไม่มีคฤหาสน์ปราณฟ้าอีกต่อไปแล้ว !! "