Crazy Leveling System - ตอนที่ 152 ปฏิบัติการสังหารหมู่
มาบัดนี้ยี่ เทียนหยุนรู้ตื้นลึก หนาบางของเรื่องนี้โดยคร่าวๆแล้ว เขารู้ว่าทำไมคฤหาสน์ปราณฟ้าถึงได้ลงมือเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ที่แท้ก็มีคนเห็นพวกเขาเข้าไปข้างในนั้นนี่เอง ก็ในเมื่อเป็นเช่นนี้ทุกอย่างก็ไม่มีความหมาย ด้วยเหตุผลนี้เองจึงเป็นสาเหตุให้พวกเขาใช้ระยะเวลาสั้นๆแค่เดือนเดียวก็สามารถรู้ถึงการตายของอาวุโสตนได้แล้ว และที่ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเกณฑ์พลไปชุมนุมกันอยู่ที่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อีก !!
นี่หมายความว่าพวกเขาตั้งใจที่จะไปทำลายซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ แต่ก็นะ….. แล้วจะให้พวกเขากล้ำกลืนฝืนทนอยู่ได้อย่างไรกัน
" ยอดเยี่ยมมาก คำตอบของเจ้ามันทำให้ข้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าสามารถไปได้ " ยี่ เทียนหยุนโยนเขาลงด้านข้าง บอกใบ้เขาให้เดินจากไป
หลังจากที่ศิษย์คนนี้ถูกปล่อยตัว แต่เขาก็ยังก้าวเดินไปพร้อมกับความสั่นกลัว เขามองไปข้างหน้าครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เร่งรีบเร่งฝืเท้าเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คนอื่นๆเมื่อเห็นเช่นนั้นต่างก็พยักหน้ามองหน้ากัน เคลื่อนตัวไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่จะก้าวไปถึงไหน มังกรดำก็ใช้เท้าตบไปที่พื้นด้านข้างของพวกเขา จากนั้นมันก็พ่นเปลวไฟอันร้อนแรงออกมา เผาไหม้พวกเขาจนดำเป็นตอตะโก !! เสียงร้องระงมโหยหวนถ่ายทอดออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่มีลมหายใจอีกเลย
" ศิษย์คนนั้นเหลียวกลับมามองยี่ เทียนหยุน " น….. นี่ " เขาต้องการที่จะหลบหนีแต่เมื่อเห็นบรรดาเพื่อนของตนเองถูกเผาจนไหม้เกรียมเช่นนี้แล้ว นัยน์ตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว
" ไม่เป็นไร เจ้าสามารถไปได้แต่คนอื่นไม่สามารถ " สีหน้าของยี่ เทียนหยุนมิได้แยแส ทันใดนั้นตัวเขาก็หันมาพูดกับบรรดาศิษย์คนที่เหลือของตำหนักหยกสวรรค์ว่า " ทุกๆคนหากพวกเจ้าต้องการที่จะสังหารเขาก็รีบลงมือซะ มิฉะนั้นแล้วเขาอาจจะลื่นไถลหลุดมือพวกเจ้าไปได้ "
ณ เวลานี้พวกเขาราวกับตื่นขึ้นจากความฝัน ถือดาบวิ่งออกไล่ตามอย่างรวดเร็ว ยี่ เทียนหยุนรับปากว่าจะไม่ฆ่าเขาแต่มันก็มิได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถลงมือล่าสังหารตัวเขาได้ !!
" ท่าน ท่านมิได้รักษาคำพูดที่ให้ไว้….. " ศิษย์คนนั้นร้องเสียงดังออกมาอย่างน่าเวทนา เมื่อตัวเขากลับถูกฆ่าด้วยบรรดาศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์
หลังจากที่พวกเธอฆ่าศิษย์คนนี้ทิ้งแล้ว ใบหน้าอันสวยงามก็กลายเป็นสีแดง มิใช่ว่าพวกเธอนั้นตื่นเต้นแต่เป็นอะไรที่ยิ่งกว่านั้น นั่นก็คือ การได้ระบายขับไล่ความโกรธ !! มันมิใช่ว่าพวกเธอไร้หัวใจ แต่บุคคลเหล่านี้สมควรถูกฆ่าอย่างที่สุด ก่อนที่ยี่ เทียนหยุนจะมาพวกมันหมายที่จะเข้าจับกุมตัวพวกเธอไป มองไปที่ตาของพวกมันก็เต็มไปด้วยความชั่วช้าสกปรก ไม่ต้องเสียเวลาคิดก็รู้ว่า หากถูกจับตัวได้ พวกมันจะทำอะไรกับพวกเธอ
" หากจะยึดมั่นในคำสัญญา นั่นคือสิ่งที่คนเขาคุยกันแต่มิใช่สิ่งที่จะพูดกับสัตว์ "
สายตาของยี่ เทียนหยุนดูเฉยชา เขาพุ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ นำเม็ดยาโอสถออกมาแล้วก็ใส่เข้าไปในปากของเธอให้เธอเคี้ยว นี่จะทำให้เธอฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
" ผู้อาวุโสใหญ่ต้องลำบากท่านแล้ว " ยี่ เทียนหยุนพูดจริงจัง " แล้วเจ้าตำหนักพวกเขาละ ?? "
" ในที่สุดเจ้าก็กลับมา….. เจ้าตำหนักพวกเขาทุกคนต่างไม่เป็นอะไร พวกเขาอยู่กันในซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ พวกเรานั้นออกมาเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ ข้าเชื่อว่าที่นั่นก็คงจะคล้ายกับที่ศิษย์คนนั้นพูด ที่นั่นตอนนี้ก็คงจะถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว ขืนปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไปสถานการณ์ก็คงจะเลวร้ายยิ่งขึ้น ข้าเกรงว่าซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์จะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ " ผู้อาวุโสใหญ่พูดไปก็ไอเบาๆไปอยู่หลายรอบ สีหน้าของเธอเริ่มที่จะแดงขึ้นเล็กน้อย
" อืม วางใจเถิด ทางด้านนั้นมอบให้ข้า….. ตราบใดที่ศัตรูไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาแล้วละก็ ข้าก็สามารถที่จะสยบพวกมันลงได้ !! " สายตาของยี่ เทียนหยุนเต็มไปด้วยจิตมุ่งมั่นอันหนาวเหน็บ ขอเพียงมีโหมดคลั่ง 8 เท่าอยู่กับตัว เขาก็สามารถคลั่งได้อย่างเต็มที่แล้ว !!
" นี่เป็นความจริงรึ….. " นัยน์ตาของผู้อาวุโสใหญ่เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ ตราบใดที่มิใช่ฐานบ่มเพาะพลังที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาแล้วละก็ ก็สามารถที่จะสยบฝั่งตรงข้ามลงได้ นี่จะไม่มีปัญหาอย่างนั้นรึ ??
" ไม่มีปัญหา " ยี่ เทียนหยุนแย้มยิ้ม เขาเดินมาด้านหน้าของจู ยูร์เวยแล้วพูดว่า " พี่สาวของท่านฝากคำพูดมาให้ท่าน 2 – 3 ประโยค เธอบอกว่าท่านไม่ต้องกลับไป ไม่เช่นนั้นแล้วตระกูลจูก็อาจจะบีบบังคับตัวท่านได้….. "
พลันน้ำตาของจู ยูร์เวยก็เอ่อท่วมล้นขึ้นมาในทันใด เธอจับแขนของยี่ เทียนหยุนเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า " พี่สาวของข้าพูดอย่างนี้จริงๆเรอะ ?? "
" ใช่แล้วละ….. เธอฝากบอกข้ามาพูด ณ ช่วงเวลานั้น เป็นเธอใช่ไหมที่ทำให้ท่านหลบหนีไป ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ใช่แล้วละ เป็นพี่สาวของข้าที่ทำให้ข้าวิ่งหนีไป….. ณ เวลานั้น ตัวข้ามิได้ต้องการที่จะวิ่งหนี ข้าต้องการที่จะเป็นเหมือนกับพี่สาวของข้าที่เสียสละตัวเอง ช่วยทำให้หอแห่งดวงดาวมีคนหนุนหลัง….. พี่สาวของข้ายังโกหกข้าด้วยว่า ต่อไป ต่อไปจะไม่มีปัญหาอะไร ทำให้ข้าไม่ได้รู้สึกว่าจะทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในความยุ่งยากอันใหญ่หลวงอะไร พอมา ณ ตอนนี้ ณ ตอนนี้ยังไม่ให้ข้ากลับไปอีก….. " น้ำตาของเธอก็ยิ่งมากขึ้นและมากขึ้น เสียงพูดของเธอจึงกลายมาเป็นการร้องไห้คร่ำครวญ
หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนได้ฟัง เขาก็พลันพลอยตกใจ ที่แท้ความจริงก็คือยังงี้นี้เอง….. เขายังพลอยคิดไปด้วยว่าความกล้าหาญของจู ยูร์เวยนั้นช่างยิ่งใหญ่ เธอพร้อมที่จะเสนอตัวเองเพื่อที่จะช่วยขยายครอบครัวตั้งแต่แรก แต่สถานการณ์ในความเป็นจริงก็คือ แดงสด ยวีซวนที่เป็นคนทำให้เธอหนีไป พูดโกหกเธอ มันจะคลี่คลายไปเอง หากมิฉะนั้นแล้วจู ยูร์เวยจริงๆแล้วก็คงจะไม่หลบหนีออกจากบ้านอย่างเป็นแน่
" ไม่เป็นไร เจ้าคอยข้าสะสางปัญหาในครั้งนี้ให้มันผ่านพ้นไปก่อน จากนั้นพวกเราจะกลับไปด้วยกันเพื่อดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งพร้อมกันอีกทีนึง " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างมิได้แยแสว่า " พวกเขาต้องการที่จะให้ท่านแต่งงานกับคฤหาสน์ปราณฟ้า หากทว่าคฤหาสน์ปราณฟ้าจะต้องดับสูญด้วยน้ำมือของข้าแล้ว ท่านยังจะต้องแต่งงานกับใครอีกและข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า พวกเขาจะรู้สึกสะทกสะท้านบ้างหรือไม่เมื่อถูกตัวข้าคนนี้จ้องมองดูพวกเขานะ
ในความรู้สึกข้างในของยี่ เทียนหยุน มันทำให้เขาปฏิบัติกับจู ยูร์เวยเฉกเช่นคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน การกระทำของเธอที่มีความมุ่งมั่นอย่างเด็ดเดี่ยวก่อนหน้านี้ ได้ชนะความไว้เนื้อเชื่อใจของเขา !! คนอย่างจู ยูร์เวยเธอเป็นคนที่ยึดถือในหลักการเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ใครได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ เธอก็ต้องไปช่วยคนๆนั้น
จู ยูร์เวยพยักหน้า ดวงตาคู่สวยเกิดความหวังเป็นประกายระยิบระยับ " พี่สาวข้าเธอต้องลำบากเป็นอย่างมาก ข้าอยากจะไปอยู่เคียงข้างคอยแบ่งเบาภาระของพี่สาว….. "
" ดูจากสิ่งที่ท่านพูดออกมาเมื่อครู่นี้ อันที่จริงตัวเธอแล้วสำหรับท่าน ท่านคงจะเฝ้าถวิลหาเธอเป็นอย่างมากละซินะ " ยี่ เทียนหยุนถอนหายใจลึก ณ เวลานั้นเขายังไม่เข้าใจ แต่ ณ ช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่าจะไม่เข้าใจหนัก ยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก
หลังจากที่ความจริงทั้งหลายได้ถูกเบิกความออกมาแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็พูดว่า " พวกท่านหาสถานที่หลบซ่อนตัวก่อน ข้าจะไปยังซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ ที่เหลือให้ข้าเป็นคนจัดการเอง "
พวกเธอต่างก็รู้ว่าตัวเองมิอาจที่จะช่วยเหลืออะไรได้ ไปก็รังแต่จะเป็นภาระเปล่าๆ คงทำได้เพียงหาสถานที่เพื่อหลบซ่อนตัวเพียงเท่านั้น
" เจ้าจะต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวยิ่งขึ้นนะ….. ก็เพื่อความปลอดภัยของท่านเจ้าตำหนัก ข้าเชื่อว่าหายนะของตำหนักหยกสวรรค์ในครั้งนี้เมื่อมีเจ้าดำรงอยู่ มันก็จะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และจะต้องเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน !! " สายตาของผู้อาวุโสใหญ่เป็นประกาย เธอเชื่อว่า ยี่ เทียนหยุนสามารถที่จะนำตำหนักหยกสวรรค์เคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างงดงาม !! "
มิเพียงแต่เธอเท่านั้น ยังรวมไปถึงศิษย์คนอื่นๆของตำหนักหยกสวรรค์ทั้งหมดที่คิด พวกเธอต่างก็คิดว่า ยี่ เทียนหยุนนั้นสามารถที่จะนำตัวเธอให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างสวยงาม ดังนั้นแล้วพวกเธอจะไม่ยอมจำนนอย่างแน่นอน จะไม่ยินยอมยกเลิกความตั้งใจนี้เป็นอันขาด !!
" ตำหนักหยกสวรรค์จะไม่พบกับความหายนะ ณ เวลานี้และก็ต่อๆไป ตำหนักหยกสวรรค์จะไม่หายนะ !! " ยี่ เทียนหยุนพูดพร้อมกับรอยยิ้มอันสงบ เขาขี่มังกรดำทะยานไป
พวกเธอต่างก็มองดูหลังของเขาหายลับไป ความรู้สึกในใจนั้นเต็มไปด้วยความหวัง ไม่เจอยี่ เทียนหยุนแค่เดี๋ยวเดียว แต่ฐานพลังของเขานั้นกับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไหนจะมีมังกรดำที่ทรงพลังตัวนี้อีก หากอยู่ภายใต้การนำของเขา ตำหนักหยกสวรรค์จะกลายเป็นตกต่ำอย่างนั้นหรือ ??
" นายน้อยยี่ ระวังตัวด้วย….. " จู ยูร์เวยมองดูด้านหลังของเขาที่ลับจากไป เธอกำจี้หยกที่อยู่ในมือแน่น เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่า ยี่ เทียนหยุนจะได้พบกับพี่สาวของเธอ
หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนแยกจากพวกเขามาแล้ว เขาก็บินไปยังซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อย่างรวดเร็ว ระยะทางนั้นอยู่ไม่ไกล ผนวกกับความเร็วของมังกรดำตัวนี้แล้ว สามารถที่จะไปถึงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเข้าใกล้ที่หมาย เขาลดระดับเพดานบินจากทางลาดลงอย่างรวดเร็ว เขาแฝงตัวกลมกลืนกับผืนป่า เขายังไม่ได้รีบร้อนลงมือเข่นฆ่าแต่เนิ่นๆในทันที เขาจะคอยซุ่มสังเกตสถานการณ์จากทางด้านหลัง จากนั้นจึงเลือกที่จะลอบโจมตีแบบลับๆ โดยจะต้องรับมือกับความขัดแย้งทั้งหมดด้วยความระมัดระวัง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามฝั่งตรงข้ามนั้นเกณฑ์คนออกมาทั้งหมด เขามาพร้อมกับพละกำลังที่เต็มอัตราศึก หากเขาคิดที่จะฉายเดี่ยวแล้วละก็ ชัดเจนว่าจิตของเขาคงจะไม่ปกติ
อันดับแรกก็จะต้องรู้ถึงสถานการณ์ภายในที่ชัดเจนซะก่อน จากนั้นก็วางแผนให้สมบูรณ์ และที่ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีที่อีกฝ่ายมิได้คาดคิดมาก่อนนี้ มันจะตัดกำลังขนาดใหญ่ของศัตรูลงไปได้
ดังนั้นเขาจึงร่อนลง เขาเปิดใช้ความสามารถโจรกรรมในทันที ร่างของเขากับผืนป่าแห่งนี้แทบจะผสมผสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ดวงตาทั้ง 2 ข้างของยี่ เทียนหยุนเจิดจรัสเป็นประกาย
การสังหารหมู่จะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ !!