Crazy Leveling System - ตอนที่ 150 หมายความว่า
จือ ยูร์เวยพยายามที่จะช่วยผู้อาวุโสใหญ่ฝ่าด่าน นี่มันทำให้พวกเขาต่างก็พากันช็อค ไม่มีใครที่จะคิดว่าเจ้าของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์เลือกที่จะช่วยพวกเขาทะลุทะลวง นี่หมายความว่าเธอจะต้องต่อต้านคฤหาสน์ปราณฟ้าจากการเริ่มเข้าสู่สนามแห่งความตาย
" เจ้าของตึกจือนี่ท่าน….. " ผู้อาวุโสใหญ่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
" ท่านรีบเร่งมือเถิด นายน้อยยี่ช่วยข้าเอาไว้มาก เมื่อก่อนตัวข้าไม่ได้เลือกที่จะช่วยเขา นั่นเพราะพลังของข้ายังอ่อนไม่เพียงพอ แต่เวลานี้มันต่างกัน ถึงแม้ข้าจะมีข้อผูกมัดอยู่กับองค์กร เวลาที่ทำอะไรลงไปก็ย่อมที่จะส่งผลถึงองค์กรแต่ ณ ตอนนี้ข้าถึงที่สุดแล้ว ข้าจะต้องเชื่อฟังเสียงหัวใจส่วนใหญ่ของข้า !! " นัยน์ตาอันสวยงามของจือ ยูร์เวยเป็นประกายระยิบระยับดูผิดปกติ เธอนั้นช่างเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยความกตัญญู
ส่วนใหญ่ที่อยู่ที่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์นั้น ตัวเธอต้องคอยที่จะต้องทำตัวให้ลื่นไหลไปกับสถานการณ์ เทียบกันแล้วก็ไม่ต่างอะไรไปจากหุ่นเชิด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็มิอาจที่จะทำตามหัวใจตัวเองได้ เธอรู้ว่าตึกกระแสลมแห่งสวรรค์นั้นก็มีความยากลำบากของตัวเอง ดังนั้นแล้วตัวเธอจึงต้องออกไปสู้รบในนามของตัวเอง
" แต่นี่คือคฤหาสน์ปราณฟ้านะ ท่าน….. " ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกสับสนมึนงง
" ก็เพราะว่านายน้อยยี่นั้นเป็นเพื่อนกับข้า และที่ยิ่งไปกว่านั้นตำหนักหยกสวรรค์ก็เป็นคู่ค้ากับพวกเรา ในเมื่อท่านกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก พวกเราจึงต้องยื่นมือเข้าช่วยอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน !! " จือ ยูร์เวยยิ้มอย่างสงบ เธอพร้อมแล้วไม่ว่าจะต้องเสียสละอะไรก็ตามที
ผู้อาวุโสใหญ่รู้ว่าที่จือ ยูร์เวยเข้าช่วยพวกของเธอในครั้งนี้จริงๆแล้วก็เพราะยี่ เทียนหยุน ขนาดที่ว่าเธอยอมที่จะเสียสละตัวเองในการเข้าช่วย แท้ที่จริงแล้วมันคุ้มกันเหรอกับการที่ต้องสละชีวิตตัวเองอย่างนี้ ??
คุ้มซิ หากรู้ความคิดที่อยู่ในใจของจือ ยูร์เวยว่าคิดยังไง หากว่ายี่ เทียนหยุนมองเห็นความชอบของจือ ยูร์เวยที่มีต่อตัวเองที่นี่แล้วละก็ เขาก็จะเห็นว่า มันวิ่งทะลุเกิน 200 ไปอย่างขาดลอย !!
" ดี เวลานี้ตราบใดที่พวกเราสามารถที่จะฝ่าฟันความยากลำบากตรงนี้ไปได้ เจ้าของตึกจือ ตัวท่านคือแขกผู้มีเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเราตำหนักหยกสวรรค์ !! ลุย พวกเราจะสะกดพวกเขา !! " ความโกรธของผู้อาวุโสใหญ่พุ่งทะยาน เธอใช้ดาบพุ่งเข้าหาคัง เฮ่าเถียนที่อยู่ไม่ไกล เธอต้องการที่จะนำฝ่าเส้นทางแห่งสายเลือดนี้ออกไป
ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะใช้ดาบ คัง เฮ่าเถียนก็ยิ้มเยาะเธอซะแล้ว ดาบใหญ่ที่มีใบมีดกว้างกลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้งหนึ่ง พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา คมดาบที่ดูเรืองแสงราวกับว่ามันตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นชั้นๆ แรงกดดันอันหนักหน่วง
ที่กดทับลงมา
ไม่มีสถานที่ใดที่ออร่าแห่งจิตสังหารของมันจะไปไม่ถึง มันเล็งไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ในทันที เธอคิดที่จะหลบหลีกในยามนี้ก็ย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ เธออยู่ตรงกลางในขอบเขตของมันอย่างชัดเจน เมื่อเธอโดนล็อคก็รู้สึกได้เลยว่า เจอเข้ากับรูปแบบนี้แล้วตัวเธอไม่สามารถที่จะหลบหนีไปไหนได้เลย
" จงเปิดให้กับข้า !! "
ผู้อาวุโสใหญ่วาดดาบยาวที่อยู่ในมืออย่างเกรี้ยวกราด เธอหมายที่จะต้านรับอย่างรวดเร็วด้วยดาบบาง แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับดาบใหญ่ใบมีดกว้างก่อนหน้านี้แล้วละก็ มิเพียงแต่อาวุธเท่านั้นที่ไม่มีความได้เปรียบ แต่ฐานบ่มเพาะพลังก็เช่นเดียวกัน
" อ๊าก !! "
ผู้อาวุโสใหญ่ที่ใช้ดาบต้านรับเอาไว้ กลับจำต้องกระเด็นไปด้วยดาบเล่มนี้ ด้วยช่องว่างของดาบทั้งสอง ทำให้ดาบที่อยู่ในมือของเธอต้องพังทะลายลงในทันที เมื่อตกอยู่ภายใต้ความแข็งแกร่งของการโต้ตอบที่สั่นสะท้านนี้ เลือดในกายของเธอก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยแรงสั่นสะเทือนของพละกำลังที่น่าสะพรึงกลัว อวัยวะภายในก็พลอยได้รับบาดเจ็บด้วยแรงสั่นสะเทือนนี้
" ผู้อาวุโสใหญ่ !! "
การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บซะแล้ว นี่พลอยทำให้สภาวะจิตใจของเหล่าบรรดาศิษย์ต่างก็ร่วงระนาว หากขาดผู้อาวุโสใหญ่ไปซักคน แล้วพวกเธอจะฝ่าวงล้อมออกไปได้อย่างนั้นหรือ ??
" ช่างเป็นพลังที่รุนแรงอะไรอย่างนี้….. " ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกว่าพละกำลังของตัวเองกำลังปั่นป่วนไปมา มันแทบจะหยุดมิได้เลย ในใจรู้สึกช็อค หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเธอจะต้องตายกันหมด
" มีพลังเพียงแค่นี้แล้วยังกล้าที่บุกใส่ข้าอีก ไปจับกุมพวกมันมาให้ข้าทั้งหมด จะต้องจำเป็น !! ใครต่อต้านอย่างรุนแรงฆ่าได้ในทันที !! " คัง เฮ่าเถียนยิ้มเยาะ เขานำคนอื่นๆหมายที่จะพุ่งเข้าจู่โจม
บรรดาศิษย์ที่เหลือต่างก็เข้าปกป้องอยู่ด้านหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ ดาบในมือของพวกเธอที่ถืออยู่ มันสั่นอย่างต่อเนื่อง ประกายอาวุธที่มาพร้อมกับจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวยังผลให้เกิดแรงกดดันที่มหาศาลกับพวกเธอ แต่พวกมันจะสะกดได้อย่างงั้นหรือ ??
" จงเปิดทางให้กับข้า !! "
ณ เวลานี้จือ ยูร์เวยลงมืออย่างรวดเร็ว เธอดึงกลุ่มของบางอย่างออกมาจากแหวนเก็บของแล้วเขวี้ยงไปข้างหน้า กลุ่มสิ่งของสีดำปกคลุมบริเวณพื้นที่ด้านหน้า " แปง " เสียงการทำลายก็ดังตามมาราวกับโลกที่ระเบิดออก
" นี่คือ อัสนีกัมปนาท !! "
ในใจของผู้อาวุโสใหญ่ถึงกับสั่น นี่แสดงว่าจือ ยูร์เวยได้ตระเตรียมการเอาไว้แล้ว ถึงได้มีอัสนีกัมปนาทเป็นจำนวนมากขนาดนี้ ปริมาณนั้นแน่นอนว่าเพียงพอสำหรับพวกมันทุกคน
" เดิน !! "
จือ ยูร์เวยขบฟันแน่น หมายที่จะนำพวกเขาฝ่าด่านทะลวงออกไป ศิษย์ของคฤหาสน์ปราณฟ้าที่ล้อมกรอบอยู่ด้านหน้านั้น อาศัยช่องว่างจากแรงระเบิด พวกเขาจึงคิดใช้โอกาสนี้หมายที่จะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
" สัสเอ้ย ไม่คิดเลยมาก่อนว่าจะใช้อัสนีกัมปนาท !! นังผู้หญิงเน่าเหม็น ไปจับนังนั่นมาหาบิดาของเธอซะ ข้านี่แหละที่จะทำให้เธอรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น !! " ความโกรธของคัง เฮ่าเถียนพุ่งทะยาน ตัวเขาจึงสั่งศิษย์ให้ไล่ตามเธอไป " หนิง ฉวนเจ้ายังคงทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบไปจับตัวมันมาให้ข้าอีก !! "
หนิง ฉวนผู้ที่ทำท่าป้องกันอยู่ใกล้ๆ สายตาของเขาดูเย็นชา เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นเช่นเดียวกับคัง เฮ่าเถียน เขามองมาที่คัง เฮ่าเถียนอย่างไม่แยแสแล้วพูดว่า
" คัง เฮ่าเถียน ระดับของเจ้าตกลงไปนะ ถึงมิอาจกำราบกลุ่มอิสตรีเหล่านี้ลงได้ แล้วเจ้ายังจะวางท่าอวดเก่งอยู่อีกเรอะ ดูเหมือนว่ามันช่างน่าผิดหวังซะจริงๆ " หนิง ฉวนพูดด้วยความเย็นชา เขานำดาบยาวของตัวเองออกมา ต่อมาเขาก็เปลี่ยนเป็นประกายแสงสีเงิน โค้งตรงมาที่นี่
จิตสังหารที่ชวนให้หนาวเหน็บ มันดูคล้ายกับรัศมีแห่งแสงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่โดยรอบ ที่เปล่งแสงลงมา ณ ทันใด ฆ่ากลุ่มสตรีที่อยู่ตรงหน้า ตัวเขาหมายที่จะใช้ดาบยาวในการกลืนกินเหยื่อ เขาพุ่งเป้าตรงไปที่คอของผู้อาวุโสใหญ่ เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ดาบยาวในมือของเขาเปลี่ยนเป็นโค้งงอ กลายไปเป็นเคียวเกี่ยวข้าวที่หมายจะเก็บเกี่ยว !!
สายตาของฐานบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดผู้อาวุโสใหญ่กำลังวิเคราะห์ เธอวาดดาบเพื่อต้านรับออกไปอย่างรวดเร็ว
" เคร้ง….. ปุชิ !! "
ประกายแสงสีเงินจำกัดวงเข้ามาโดยมีเป้าหมายอยู่ที่หัวของผู้อาวุโสใหญ่ แต่เมื่อคมเคียวจำกัดวงผ่านเข้ามา มันก็สร้างแผลลึกให้กับหัวไหล่ของเธอ !!
" ผู้อาวุโสใหญ่ !! " พวกเธอต่างก็อุท่านเป็นเสียงเดียวกัน แขนของผู้อาวุโสใหญ่มีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มันไหลออกมาจนแทบจะหมดแขน
" โอ้ย….. " สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่กลายเป็นซีดขาว ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ทำให้ตัวเธอหวนนึกถึงความตายรางๆดั่งครั้งอดีตที่ผ่านมา
หากมิได้มีพละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว พวกเธอก็ไม่สามารถที่จะทะลวงฝ่าออกไปได้
" เอาไปอีก !! "
จือ ยูร์เวยนำอัสนีกัมปนาทออกมาอีกครั้งหนึ่ง เธอเขวี้ยงมันออกไปด้านหน้าที่อยู่ใกล้ๆอย่างรวดเร็ว ภายใต้พลังระเบิดที่รุนแรง ด้านหน้าก็เปิดช่องให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง
" ไป !! "
จือ ยูร์เวยนำทีมพุ่งไปข้างหน้า ณ ช่วงเวลานี้กองหน้าก็จะต้องเป็นเธอเท่านั้น
วิ่งหนียังไม่ทันไร ประกายแสงสีเงินก็พุ่งเข้ามา คมเคียวปรากฏขึ้นที่คอของจือ ยูร์เวย ไอเย็นผาดผ่านคอของเธอไป ถึงแม้ว่ามันจะห่างจากคอของเธออยู่หลายเซ็นติเมตรแต่แรงอัดของมันก็ยังซึมผ่านเข้าไปในคอของเธออยู่ดี นี่ทำให้เธอถึงกับตกอยู่ในอาการสั่น
" ยังพยายามหาช่องที่จะหนีอยู่อีกอย่างงั้นเหรอ ?? " หนิง ฉวนพูดเยาะเย้ย " ถึงแม้ว่าพลานุภาพของอัสนีกัมปนาทจะร้ายแรงเป็นอย่างมาก แต่ข้ากับคิดว่า ณ เวลานี้เจ้าจะขว้างมันออกมายังไงนะ ?? "
ทันใดนั้นหนิง ฉวนก็ใช้หลังมือตบออกไป แต่จือ ยูร์เวยก็รับไว้ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคนอื่นๆนั้นล้วนถูกพัดจนกระเด็นลอยไป บางก็ล้มกลิ้งลงไปกับพื้นอยู่หลายตลบ
" ตอบสนองดีถึงเพียงนี้เชียวหรือ ?? " หนิง ฉวนพิจารณามองดูจือ ยูร์เวยขึ้นๆลงๆพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มขุ่นๆว่า " รูปร่างดีแบบนี้ รอให้ข้าจับตัวเจ้าให้ได้ซะก่อนเถิด ข้าจะโปรดปรานเจ้าเป็นอย่างดีเลยเชียว !! "
ใบหน้าของจือ ยูร์เวยพลันซีดขาว เกิดประกายแว่บนึงขึ้นที่แหวนเก็บของของเธอ ดาบที่ยาวอะไรเช่นนี้ตกอยู่ในมือของเธอ และก็ไม่มีความลังเลใดๆทั้งสิ้นหากจะต้องปลิดชีวิตตัวเอง บรรดาศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ต่างก็ยกดาบยาวของพวกเธอขึ้นมาในลักษณะที่คล้ายกันเพื่อเตรียมตัวที่จะฆ่าตัวตาย
หนิง ฉวนเปลี่ยนเป็นถือหนังสือและก็เปิดมันออกมา เขาปัดอาวุธของพวกเธอกระเด็นทิ้งทั้งหมด
" คิดที่จะฆ่าตัวตายอย่างงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก !! ต่อให้เจ้าฆ่าตัวตาย ข้าก็จะขุดศพของเจ้าขึ้นมา แขวนประจานอยู่บนประตูเมือง ดูซิว่าคราวนี้เจ้ายังจะกล้าที่จะฆ่าตัวตายอยู่อีกไหม !! " หนิง ฉวนพูดประชดประชัน
ใบหน้าของพวกเธอในยามนี้ มันดูซีดจนเกินจะบรรยาย หากว่าเป็นอย่างนี้จริง ต่อให้พวกเธอตายไปก็มิอาจที่จะหาความสงบสุขได้
" นี่เจ้าหมายความว่ายังไง !! " จือ ยูร์เวยร้องถามด้วยใบหน้าอันซีดเซียว
" หมายความว่ายังไง คำพูดแบบนี้ข้าชอบที่จะฟังมันซะจริงๆ " ณ เวลานั้นคัง เฮ่าเถียนก็เดินเข้ามา " ข้าไม่คิดเลยว่าแม้แต่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ก็รวมอยู่ในน้ำขุ่นนี้ด้วย "
" ไม่ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องนี้พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย !! " ณ ตอนนี้ผู้อาวุโสของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ก็เร่งรีบเข้ามาอธิบายว่า " นี่เป็นปัญหาของเธอที่มิได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับพวกเรา ไม่ว่าพวกท่านจะจัดการกับเธอยังไงก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด นั่นก็เพราะว่าตัวเธอกับตึกกระแสลมแห่งลมแห่งสวรรค์มิได้เกี่ยวข้องต่อกัน !! "
" ก่อนหน้านี้ก็เห็นประกาศป่าวๆว่ามีความสัมพันธ์กับตำหนักหยกสวรรค์ไปทั่ว แต่ ณ ตอนนี้เจ้านี่มันทำตัวต่ำช้ายิ่งกว่าสุนัขซะอีก !! " จือ ยูร์เวยในขณะนี้เธอเดือดดาลถึงขีดสุดแล้ว
" เจ้าพูดไร้สาระอันใด นี่คือคฤหาสน์ของท่านฉิ่งเฉิงนะ เจ้าปัญญาอ่อนหรือยังไง เบื้องบนให้เจ้าเป็นเจ้าของตึกนี่ กับเป็นทางเลือกที่ผิด !! " เขาหมายที่จะดำเนินคดีกับจือ ยูร์เวยจึงพูดด้วยความโกรธขึ้นว่า " ข้าจะแทนที่ตำแหน่งเจ้าของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์เอง พร้อมกับลงโทษไอ้เจ้าปัญญาอ่อนนี่ทิ้งซะ !! "
พูดแล้วเขาก็ดึงดาบยาวออกมา เตรียมที่จะฆ่าจือ ยูร์เวยด้วยมือของตนเองเป็นการส่วนตัว
" เลือกผิดอย่างงั้นเหรอ แต่ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น !! " เสียงแห่งปีศาจอันทรงเสน่ห์ก็แว่วผ่านมาจากในป่า ใบหน้าของเขาแลดูมืดมิด
" นายน้อยยี่ !! " สายตาของจือ ยูร์เวยมองไปที่เขาอย่างสุดหัวใจ ดวงตาของเธอเจิดจรัสเป็นประกายระยิบระยับ