มีเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับขั้นปฐพี สปีดที่ใช้ในการปรับแต่งอุปกรณ์ก็เพิ่มขึ้น มันถูกโปรโมทแทบจะในทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราความสำเร็จได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล วัตถุดิบ 15 ชุดเดิมทีแล้วจะต้องใช้ระยะเวลาหลายวันในการปรับแต่งหล่อหลอมวัตถุดิบ ก่อนที่จะนำพวกมันทั้งหมดไปแลกเปลี่ยน แต่มา ณ ตอนนี้มันสั้นกว่าหลายวันที่จะต้องใช้แทบจะในทันที !!
" ขายให้เรียบ !! "
ยี่ เทียนหยุนไม่ลังเล ลมหายใจเดียวเขาขายไปถึง 12 อุปกรณ์จิตวิญญาณ มีอาวุธ 3 ชิ้นที่ล้มเหลวแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ หลังจากขายออกจนเกลี้ยงแล้ว แต้มคลั่งก็พุ่งขึ้นมาแทบจะในทันที มากกว่า 1.01 ล้านแต้ม ยี่ เทียนหยุนถึงกับกระโดดตัวลอยกันเลยทีเดียวงานนี้
" ถึง 1 ล้านแล้ว !! "
เมื่อเขาเห็นแต้ม ความรู้สึกภายในใจก็ตื่นเต้น ในที่สุดแต้มคลั่งก็สะสมครบ 1 ล้านแต้มแล้ว เมื่อก่อน นี่คือแต้มที่ไม่อาจจะจินตนาการได้เลย ณ ตอนนี้เอื้อมถึงแล้วด้วยความยากลำบาก !!
" ยกระดับ !! "
ปราศจากความลังเล เขาเลือกที่จะเลเวลอัพโหมดคลั่งในทันที นี่คือความสามารถระดับพระเจ้าที่เป็นอาวุธหลักของเขา มันมิเพียงแต่จะช่วยเพิ่มค่าความเสียหายเพียงเท่านั้น แต่ยังจะสามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ได้อีกด้วย แล้วตัวมันยังจะส่งผลกระทบอันหลากหลายต่อสิ่งอื่นๆทั้งหมดอีก
" ตึง!! หักแต้มคลั่งออกจำนวน 1 ล้านแต้ม ประสบความสำเร็จในการยกระดับโหมดคลั่งขึ้นสู่ระดับที่ 3 !! "
" โหมดคลั่งระดับ 3 ผลกระทบทั้งหมดจะได้รับการส่งเสริม 8 เท่า สามารถที่จะเลือกกระตุ้นได้ทั้งค่าความเสียหายและค่าประสบการณ์พร้อมกันทั้งสอง….. ผลลัพธ์จากการโปรโมทระดับ 3 ค่าความชำนาญเพิ่มขึ้น 3 เท่า บริโภคแต้มคลั่ง 1,000 แต้มทุกๆนาที !! ระดับถัดไปต้องการ 10,000,000 แต้มคลั่ง "
ในใจของยี่ เทียนหยุนรู้สึกมีความสุข พละกำลังความแข็งแกร่งให้ผลอยู่ที่ 8 เท่า หากคิดคำนวณเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา พละกำลังก็จะต้องพุ่งทะยาน ระดับถัดไปให้ผลถึง 16 เท่า !! ถ้าค่าความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 16 เท่าหรือค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นถึง 16 เท่า นี่มันบ้าไปแล้ว !!
ณ ตอนนี้มันยังเป็นการเพิ่มเอฟเฟคขึ้นอีกด้วย ค่าความชำนาญมันเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า นี่ราวกับทำให้ยี่ เทียนหยุนรู้สึกยินดีอย่างประหลาดใจ เขามีเหตุผลเพียงพอที่จะเชื่อว่า ต่อไปโหมดคลั่งมันอาจจะยกระดับรูปแบบต่างๆที่มีอยู่ให้มีผลที่เพิ่มมากขึ้น หรือเพิ่มแบบแผนอื่นๆขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น รูปแบบของแต้มคลั่งที่อาจจะผกผันหรือเปลี่ยนไป เช่นนั้นแล้วสิ่งเหล่านี้มันก็อาจที่จะเกิดขึ้นได้
" 1 นาที 1,000 แต้ม หากคำนวณเปรียบเทียบกับรัศมีนำโชคแล้วก็นับว่าคุ้มค่า "
เมื่อยี่ เทียนหยุนเห็นปริมาณการบริโภคแต้มคลั่ง เขาก็รู้สึกว่ามันยอมรับได้ 1 นาทีบริโภคไป 1,000 แต้ม หากคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันมันก็มิใช่ปัญหาใหญ่อะไร รัศมีนำโชคนั้นบริโภคเป็นวินาทีแต่โหมดคลั่งบริโภคเป็นนาที ตามธรรมชาติแล้วคุ้มค่ากว่ากันมาก
" ไหนลองหมุนรางวัล (ล็อตเตอรี่) 10 ครั้งดูซิ "
ทันใดนั้นยี่ เทียนหยุนก็เปิดรูเล็ตล็อตเตอรี่ในทันที นั่นก็เพราะว่าเบื้องบนมิได้ส่งรางวัลใดๆมาให้เขาเลย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วยี่ เทียนหยุนจะไม่หมุนรางวัล (ล็อตเตอรี่) และโดยธรรมชาติแล้วเท่าที่ตัวเขาหมุนรางวัลมา เขาก็มักจะประสบแต่ความยินดี
ยี่ เทียนหยุนทำการหมุน 10 รางวัล (ล็อตเตอรี่) อย่างรวดเร็วทันใจ สิ่งของที่เขาได้รับมีมากมาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเม็ดยาโอสถหรืออาวุธบางชนิด ไม่ก็ชุดเกราะ พวกมันล้วนไม่มีความสามารถระดับพระเจ้าเลย หรือไม่ก็ไม่มีความสามารถระดับพระเจ้าที่สอดคล้องกันเลย หรือว่าของทั้ง 2 อย่างไม่มีทางที่จะหมุนพวกมันออกมาได้เลย
" มีแต่สิ่งที่ค่อนข้างจะธรรมดา ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้ที่ครั้งนี้ไม่สามารถดึงพลังชีวิตขึ้นมาได้เลย….. " บรรดาสิ่งของที่เขาหมุนรางวัล (ล็อตเตอรี่) ออกมาได้ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีไอเทมที่มีอิทธิพลเลย
ฐานบ่มเพาะพลังอยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ แล้วนี่ข้าได้อะไรมา ?? โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วสิ่งของเหล่านี้เกณฑ์สมรรถนะเปรียบเทียบค่อนข้างต่ำ อาวุธและชุดเกราะอยู่ในประเภทของเหล็กทั่วไป (ต่ำสุด) ไม่มีอะไรที่มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้เลยจริงๆ
ยี่ เทียนหยุนจู่ๆก็พลันพยักหน้า เขาคิดว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่จะต้องออกไปสืบข่าว เขาใช้เวลาอยู่ภายในห้องนี้ร่วม 1 อาทิตย์แล้ว
เมื่อเขาเดินลงมาจากตึก ยังมิทันจะได้ก้าวเท้าออกด้านนอกเลย เขาก็ได้ยินเสียงคนคุยกันไปมา
" ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรถึงทำให้คฤหาสน์ปราณฟ้าส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปเป็นจำนวนมาก เห็นพญาเหยี่ยวออกไป 7-8 ตัว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปที่ไหนกัน "
" ได้ยินว่าจะส่งไปฆ่าผู้ที่ต่อต้านพวกเขาหรือยังไงนี้แหละ ?? อาจจะเป็นบางนิกายที่สังหารศิษย์ของพวกเขานี่แหละ พวกเขาถึงได้ส่งคนออกไปในเวลานี้เพื่อหมายที่จะฆ่าคนที่ต่อต้านพวกเขา "
" อะไรนะ นิกายไหนกันนะที่ร้ายกาจเช่นนั้น ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าพวกเขาจะกล้าขัดขวางคฤหาสน์ปราณฟ้านะ ?? "
……
ทั่วทั้งโรงแรมตอนนี้ต่างก็กำลังถกเถียงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่ ดูคึกคักมากทีเดียว
ยี่ เทียนหยุนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที เขามาถึงด้านหน้าของพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขานำแก่นทองตบลงไปที่โต๊ะพร้อมกับพูดอย่างเคร่งขรึมว่า " ใครก็ตามที่รู้ข่าวสารข้อมูลสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของคฤหาสน์ปราณฟ้าแล้วมาบอกกับข้า แก่นทองนี้จะเป็นของเขาในทันที !! "
เดิมทีบรรดาแขกเหล่านี้ล้วนมีสีหน้าที่จมลง พวกเขาต่างก็ไม่พอใจที่ตอนแรกยี่ เทียนหยุนตบโต๊ะ พวกเขาต่างก็คิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นเสียมารยาทเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพวกเขาเห็นแก่นทองอันนี้แล้ว นัยน์ตาก็ลุกโชนขึ้นมาในทันที
" ข้ารู้ ข้ารู้ !! " พวกนักสู้ก็ยืนขึ้นในทันทีพร้อมกับพูดว่า " ข้ารู้เรื่องนี้ มีใครบางคนไปยั่วโมโหคฤหาสน์ปราณฟ้าเข้า คงจะเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 นี่แหละ พวกเขาแข็งแกร่งมากดูเหมือนว่าพวกเขาจะลงมือฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้า "
" เจ้าไม่รู้อะไร ไม่รู้แล้วอย่าได้พูดพล่อยๆจะดีกว่า !! ข้าได้ยินว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 ที่ไปยั่วยุคฤหาสน์ปราณฟ้าเข้า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้า พวกเขาถึงได้ส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปเป็นจำนวนมาก !! "
" กลุ่มอิทธิพลเกรด 1 สามารถฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้ เจ้าอย่าได้พูดจาไร้สาระไป !! อย่างน้อยๆมันก็จะต้องเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 จึงจะสามารถฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้ !! "
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างก็ทะเลาะโต้เถียงกัน เมื่ออีกคนนั้นไม่เชื่อว่ากลุ่มอิทธิพลเกรด 1 จะสามารถฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้าได้ อาวุโสผู้เคร่งขรึมน่าเกรงขามของคฤหาสน์ปราณฟ้า อย่างน้อยๆจะว่าไปแล้วฐานพลังของพวกเขาก็อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ กลุ่มอิทธิพลเกรด 1 จะสามารถสังหารเขาลงได้อย่างงั้นเหรอ ?? คงจะมีเพียงแต่ผู้อาวุโสคนนั้นนอนลงกับพื้นเท่านั้นละม้าง พวกเขาถึงฆ่าแกงได้ดั่งใจนะ
" เจ้าออกมา เล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ข้าฟัง " ยี่ เทียนหยุนชี้ไปที่ชายคนที่พูดว่ากลุ่มอิทธิพลเกรด 1 ฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้า
" ข้ารึ ?? " นักสู้คนนั้นพูดออกมาอย่างตื่นเต้น " เอ่อ ข้าได้ยินมาว่ามีกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 ไปยั่วยุคฤหาสน์ปราณฟ้าเข้า เรื่องราวทั้งหมดก็มีแค่นี้ ไม่มีอย่างอื่นอีก "
" เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" หลายวันก่อน มาวันนี้คฤหาสน์ปราณฟ้าจึงเริ่มที่จะส่งคนของตนไปยังทวีปพรมแดนปฐพีคนแล้วคนเล่า ไม่รู้ว่าไปทำอะไร " นักสู้คนนั้นพูดอย่างเร่งรีบ
" เกิดเรื่องขึ้นเมื่อหลายวันก่อน….. " สีหน้าของยี่ เทียนหยุนพลันกลายเป็นจมลง หลงคิดไปว่าจะมีเวลาเตรียมตัวถึง 3 เดือน พอมาตอนนี้ยังไม่ถึง 1 เดือนดีเลย คฤหาสน์ปราณฟ้าก็ทยอยส่งคนออกไปแล้ว นี่มันช่างรวดเร็วอะไรอย่างนี้
เขากลายเป็นนิ่งเงียบ จากนั้นพลันหมุนตัวหันหลังแล้วพูดว่า " แก่นทองนี้กลายเป็นของเจ้าแล้ว "
พูดแล้วก็หายออกด้านนอกทางประตูหน้าในทันที ปล่อยนักสู้คนนั้นให้ยืนงงอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นเขาก็ชูแก่นทองนี้ขึ้นพร้อมกับดีใจอย่างสุดๆว่า " ข้าได้มันมาด้วย ช่างดีอะไรอย่างนี้แก่นทองนี้เป็นของข้า !! "
" มันเป็นไปได้ยังไง ก็เจ้าพูดไร้สาระนี่นา !! มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่กลุ่มอิทธิพลเกรด 1 จะฆ่าผู้อาวุโสของคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้ ?? "
" ข้ามิได้พูดจาไร้สาระ นี่เป็นสิ่งที่ตัวข้าได้ฟังมา แต่มันจะจริงหรือเท็จข้าก็ไม่รู้ แต่ดีร้ายยังไงเขาก็เชื่อข้า !! "
พวกเขาเริ่มที่จะทะเลาะกัน ต่างคนต่างก็ไม่เชื่อคำบอกเล่าของฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันอย่างไรก็ตาม ยังไงยี่ เทียนหยุนก็ไม่ได้ยิน นั่นก็เพราะว่าเขาในตอนนี้กำลังมุ่งหน้าออกสู่นอกเมืองอย่างเร่งรีบ
" ปัญหาเพียงเล็กน้อยกลับสนองได้เร็วถึงเพียงนี้ แต่หากต้องการจะค้นพบซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แล้วละก็….. ยี่ เทียนหยุนคิดว่าพวกเขาจะต้องเสียเวลา " นี่แผนที่วางไว้ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินต่อไปได้แล้วแบบนี้ 3 เดือนกลับถูกบีบให้เลือกแค่เดือนเดียว
หากยี่ เทียนหยุนคิดที่จะออกท่องโลกภายนอกต่อไป อย่างมากก็ทำได้อีกครึ่งเดือน เวลาครึ่งเดือนนี้คฤหาสน์ปราณฟ้าคงสามารถที่จะค้นหาที่ซ่อนของตำหนักหยกสวรรค์ได้อย่างแน่นอน แต่ว่าตัวของยี่ เทียนหยุนเองก็ใช่ว่าจะบินไป-กลับสถานการณ์ที่กำลังโกลาหลภายนอกได้ดั่งใจ จากที่ว่าไม่กลัวไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมา แต่มา ณ ตอนนี้ถ้าหากว่ามีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้นมาจริงๆแล้วละก็ นั่นอาจจะเป็นจุดจบจริงๆก็เป็นได้
เมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ใครบางคนก็เห็นร่างของเขาในทันที จากที่ไล่ตามมาแต่ท้ายที่สุดก็ถอนตัวไป ย้อนคืนสู่หอแห่งดวงดาว
" ผู้อาวุโสหวง คนคนนั้นจากไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะสอบถามข่าวเกี่ยวกับคฤหาสน์ปราณฟ้า จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว "
ทั่วทั้งเมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์ก็คือสายลับของพวกเขา ดังนั้นแล้วทุกๆการกระทำและการเคลื่อนไหวของยี่ เทียนหยุนอยู่ในความรับรู้ของพวกเขาทั้งหมด แม้กระทั่งเขาสอบถามถึงข่าวอะไรพวกเขาก็ยังสามารถที่จะรับรู้ได้
" หลังจากที่รู้ข่าวของคฤหาสน์ปราณฟ้า เขาก็จากไปในทันที….. " ผู้อาวุโสหวงหรี่ตาเพ่งสมาธิ " หากว่าดูท่าทีของเขาจากเมื่อก่อน พวกเราก็คงจะเดาว่าเขาคงจะมีความสัมพันธ์กับคฤหาสน์ปราณฟ้า พอมาตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้ว เขาเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับตำหนักหยกสวรรค์….. หรือเขาจะเป็นคนของตำหนักหยกสวรรค์กัน ?? มันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าใช่ขึ้นมา ตำหนักหยกสวรรค์นั้นเป็นเพียงกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แล้วจะมีศิษย์ผู้ชายที่ดูหนุ่มขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?? "
ข้อมูลของพวกเขามีจำกัด นึกถึงคำพูดของยี่ เทียนหยุนก่อนหน้านี้แล้ว ระบุได้ว่าเขานั้นน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ปราณฟ้า หากว่าเขามีความสัมพันธ์กับคฤหาสน์ปราณฟ้า ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ตัวเขาจะพูดว่าคฤหาสน์ปราณฟ้าจะถึงแก่หายนะ
" คนคนนั้นคิดที่จะทำอะไร ?? " การ์ดที่อยู่ใกล้สอบถาม
" ตรวจสอบเรื่องราวของตำหนักหยกสวรรค์ ข้าต้องการรายละเอียด !! " ผู้อาวุโสหวงพูดอย่างเคร่งขรึม " ข้าต้องการที่จะรู้ว่าจริงๆแล้ว จู ยูร์เวยอยู่ที่ตำหนักหยกสวรรค์หรือไม่ ?? "
ผู้ดูแลหวงยังไม่ถอดใจ ไม่คำนึงว่าคฤหาสน์ปราณฟ้าจะดับสูญหรือไม่ อย่างน้อยๆก็จะต้องรู้ว่าจู ยูร์เวยนั้นอยู่ที่ไหน หากว่าคฤหาสน์ปราณฟ้านั้นพบกับจุดจบเข้าซะแล้ว นั่นก็คงจะเป็นไปมิได้ที่คฤหาสน์ปราณฟ้าจะเป็นผู้ที่คอยเฝ้ามองดูพวกเขาเฉกเช่นให้การสนับสนุน
