Crazy Leveling System - ตอนที่ 145 งานของครอบครัว
" ไม่ทราบว่าน้องสาวของท่านมีชื่อเรียกว่าอะไรอย่างนั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" จู ยูร์เวย !! " แดงสด ยวีซวนรีบบอกอย่างรวดเร็ว
ใช่จริงๆด้วย !!
ยี่ เทียนหยุนยืนยันการคาดเดาของตัวเองในทันที หากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ก็จะต้องปกปิดตัวตน แต่จะยังไงก็แล้วแต่ เธอไม่ยอมที่จะปกปิดชื่อของตัวเอง เธอเลือกที่จะเปลี่ยนแซ่ อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็เป็นได้ที่พวกเขาไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย ผู้คนล้วนคณานับ มันมิใช่เรื่องง่ายที่จะตามหาใครซักคน
ไม่คิดเลยว่าจู ยูร์เวยหนีออกจากบ้านโดยที่มีเพียงสองมือของตัวเองเท่านั้น เธอวิ่งหนีออกไปสู่โลกภายนอกอันกว้างใหญ่ แต่กลับเห็นได้ชัดว่าตัวเธอเองมีประสิทธิภาพทางด้านการจัดการที่ไม่ธรรมดา ถึงแม้ว่าสถานะอาจจะไม่สูง แต่ก็มีหน้าที่จัดการตึกอันทรงคุณค่า แต่เนื่องจากไม่มีภูมิหลังอะไร กลายมาเป็นเจ้าของตึกก็เป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น
ครอบครัวตระกูลจูเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในทวีปพรมแดนสวรรค์ พวกเขาเป็นตระกูลที่ทำหน้าที่บริหารจัดการสาขาหอแห่งดวงดาว หากมิฉะนั้นแล้วแดงสด ยวีซวนก็คงจะมิได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่
" ไม่ทราบว่าน้องสาวของท่าน แท้ที่จริงแล้วเธอมีเหตุผลอะไรที่จะต้องหนีออกจากบ้านไปอย่างงั้นรึ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" อันที่จริงมันก็มิได้มีอะไรหรอก นี่เป็นเพียงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในตระกูลของพวกเรา ขอเพียงท่านบอกพวกเรามา ทำให้เราตามหาน้องสาวของข้าจนพบ พวกเราจะประเคนรางวัลให้กับท่านในทันที ท่านจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน !! " แดงสด ยวีซวนนั้นพูดคล้ายกับว่าไม่มีอะไร เธอไม่ต้องการที่จะพูดเรื่องราวออกมา โครงเรื่องทั้งหมดถือเป็นความลับ แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะพรรณาเนื้อเรื่องที่เฉพาะเจาะจงเช่นนี้ออกไปได้
" ก็ในเมื่อท่านพูดเช่นนั้น ตัวข้าก็มิมีอะไรที่จะพูดเช่นเดียวกัน ตัวข้ากับน้องสาวของท่านนั้นเป็นเพื่อนกัน ก็ในเมื่อเธอเลือกที่จะออกจากบ้าน แน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาที่ตัวเองมิเต็มใจที่จะต้องเผชิญ ดังนั้นแล้วตัวข้าในยามนี้ก็จะไม่พูดอะไรออกไป " ยี่ เทียนหยุนบอกกล่าว
จือ ยูร์เวยก็คือจู ยูร์เวย ยี่ เทียนหยุนถือว่าเธอยังคงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขาอยู่ เธอต้องการที่จะช่วยเหลือเขาเป็นอย่างมากในยามนั้นแต่ติดอยู่ที่ตัวเองนั้นไม่มีกำลัง นี่ทำให้ในใจของยี่ เทียนหยุน ให้การปฏิบัติต่อตัวเธอเฉกเช่นเพื่อนของตนเอง
" นายน้อยท่านนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ยอมพูดจาตกลงเห็นด้วยละซินะ ?? " สีหน้าของแดงสด ยวีซวนกลายเป็นเย็นชา ทันใดนั้นเธอก็พูดโต้ตอบออกมาว่า " ปัญหาบางอย่างพวกเรามิอาจเต็มใจที่จะพูดออกมาได้ก็เพราะว่านั้นมันเป็นปัญหาภายในของพวกเรา ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจอะไรให้มากนักหรอก การกระทำของท่านในครั้งนี้มิเพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อน้องสาวของข้าเองแล้ว ตัวท่านก็จะไม่มีความผิดอะไรอีกด้วย !! "
" แต่ตัวข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น ในเมื่อน้องสาวของท่านเป็นเพื่อนกับข้า เรื่องราวบางอย่างข้าจะต้องฟังจากปากของเธอดูก่อน นั้นถึงจะเป็นคำพูดที่มีความหมาย " ยี่ เทียนหยุนในตอนนี้เลือกที่จะเมินเฉยต่อคำพูดของแดงสด ยวีซวน เขาจะไม่ตัดสินใจโดยที่มิได้ฟังความจากจือ ยูร์เวยซะก่อน
" สหายท่านนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน " ผู้ดูแลหวงยืนกราน เขาพูดด้วยสีหน้าที่ดูหย่อหยิ่งภูมิใจว่า " เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงหอแห่งดวงดาวทั้งหมด ดังนั้นแล้วท่านจะต้องพูด หากมิฉะนั้นแล้วพวกเราคงจะต้องเชิญตัวท่านไปสอบสวน นี่ขอให้ท่านคิดให้ดีๆ ถึงท่านจะปฏิเสธหรือไม่ท่านก็จะต้องพูดมันออกมาอยู่ดี "
เมื่อผู้ดูแลหวงพูดเน้นเสียงอย่างนั้นออกไป ก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวออกมาในทันที นักสู้ผู้ที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นมีอยู่ 3 คน ไม่รู้ว่าวิ่งออกมาจากตึกหรือว่าชั้นล่างกันแน่แต่พวกเขาก็ปรากฏกายออกมาอย่างรวดเร็ว ต่างก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของยี่ เทียนหยุน
" ผู้ดูแลหวง มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ ?? " ชายวัยกลางคนที่มารีบสอบถาม
" เขารู้ข่าวของยูร์เวย แต่ว่าเขาไม่ตกลงที่จะพูด " ผู้ดูแลหวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
" รู้เรื่องของยูร์เวยอย่างงั้นเหรอ ?? " ผู้ชายคนนี้มองยี่ เทียนหยุนอย่างประหลาดใจ ทันใดนั้นเขามองดูยี่ เทียนหยุนแบบจริงจังแล้วพูดว่า " สหายท่านนี้ตราบใดที่ท่านบอกว่ายูร์เวยอยู่ที่ไหน พวกเราจะมอบรางวัลให้กับท่านและจะไม่เอารัดเอาเปรียบท่านอย่างแน่นอน "
" ข้าก็ได้พูดออกไปแล้วว่าข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว จู ยูร์เวยเป็นเพื่อนข้าและข้าก็เคารพการตัดสินใจของตัวเธอ หากว่าพวกท่านต้องการที่จะบีบบังคับปากของข้าให้พูด นี่ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะพูด !! " ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้วแน่น บุคลิกลักษณะท่าทางคำพูดคำจาของพวกเขาทำให้ยี่ เทียนหยุนรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
" ก็ในเมื่อสหายท่านนี้เลือกที่จะล่วงเกินพวกเราเช่นนี้แล้ว ก็ได้ในเมื่อท่านไม่พูด ก็อย่าหวังที่ก้าวออกจากที่นี่ !! " ผู้ดูแลหวงส่งสัญญาณมือ " จับเขาไว้ !! "
เพิ่งจะกลายมาเป็นเพื่อนจากธุรกิจที่ทำร่วมกัน ความสัมพันธ์ต้องมาสะบั้นลงในทันใด อะไรมันจะแปรเปลี่ยนได้กะทันหันปุ๊บปั๊บขนาดนี้
นักสู้คนนึงพลันโถมเข้าหายี่ เทียนหยุนในทันที ฝ่ามือก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็บเหยี่ยวหมายที่จะเข้าจับตัวของยี่ เทียนหยุนเอาไว้ ชายคนนี้ปลดปล่อยพละกำลังของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น ดูราวกับพญาเหยี่ยวที่มุ่งเข้าหาเหยื่อ ต้องการที่จะจับเหยื่อ !!
แต่อย่างไรก็ตาม การลงมือของเขาในครั้งนี้มิได้หมายที่จะทำให้ยี่ เทียนหยุนต้องได้รับบาดเจ็บ ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ต้องการที่จะจับกุมตัวเขาเอาไว้เพียงเท่านั้น
สายตาของยี่ เทียนหยุนดูวูบวาบ เขาจับแขนของฝั่งตรงข้ามด้วยความเร็วที่รวดเร็วยิ่งกว่า แค่ชั่วพริบตาเขาก็จับแขนของฝั่งตรงข้ามทุ่มลงไปที่พื้นแล้ว " แปง " แค่นับดาวแต่ไม่ถึงกับเข้าจุดสำคัญอะไร เขาแค่ทุ่มพอมึนๆ
ก็ในเมื่อฝั่งตรงข้ามมิได้ลงมือรุนแรงอำมหิตอะไร ตัวเขาก็มิได้ลงมือเหี้ยมโหดเช่นกัน
" ข้าขอเตือนว่าอย่าลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าเป็นอันขาด มิฉะนั้นตัวข้าอาจจะไม่รับประกันว่าการลงมือครั้งหน้าจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นกว่านี้ " ยี่ เทียนหยุนมองดูพวกเขาพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสออกไป
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างก็สะดุ้งรู้ตัวกันหมดแล้ว ถึงแม้ว่านักสู้ผู้ที่เข้าไป ฐานบ่มเพาะพลังจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 6 แค่เสี้ยววินาทีก็สามารถที่จะยืนยันได้ว่า ฐานบ่มเพาะพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นสูงกว่า !!
ยี่ เทียนหยุนแค่เพียงลงมือก็สามารถกำราบผู้เชี่ยวชาญลงได้ในทันที ถ้าหากว่าเขามิได้ออมแรงไว้ก็อาจจะถึงตายไปแล้ว เขาลงมือได้อย่างรวดเร็วเป็นอันมากในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจึงพากันสะดุ้ง พละกำลังเพียงเท่านั้นยังมีสปีดที่เร็วถึงเพียงนี้
พวกเขาต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกันทำอะไรไม่ถูก ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างกับตาตัวเองแล้วก็ถึงกับช็อค ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือพละกำลังล้วนน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ทั้งสองล้วนห่างไกลผู้เชี่ยวชาญไปมาก นี่หมายความว่าฐานบ่มเพาะพลังของเด็กหนุ่มคนนี้หากจะให้เปรียบเทียบกับพวกเขาแล้ว ย่อมที่จะแข็งแกร่งกว่าโดยแตกต่างกันหลายระดับอย่างมหาศาล
เพราะว่ายี่ เทียนหยุน ณ ปัจจุบันสวมใส่หน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้า เขาจึงกลายมาเป็นคนหนุ่มที่มีอายุอยู่ที่ราวๆ 24 – 25 ปี ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะมองเห็นอายุที่แท้จริงของตัวยี่ เทียนหยุนได้ หากพวกเขารู้ถึงอายุที่แท้จริงที่อยู่ประมาณ 17 ปีของเขาแล้วละก็ นั้นจะยิ่งทำให้พวกเขายิ่งช็อคหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก
" จะเลือกแบบไหนดีละ เลือกที่จะลงมือหรือว่าเจรจาตกลงกันดีละ ?? " ยี่ เทียนหยุนมองดูสีหน้าที่กำลังช็อคอยู่ของพวกเขาด้วยสีหน้าที่มิได้แยแสอันใด นี่เป็นสิ่งที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ณ ตอนนี้พวกเขาจะต้องทำการพิจารณาด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ในความคิดของพวกเขาแล้ว มีฐานบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ คิดว่าภูมิหลังจะต้องไม่ธรรมดาแน่ แต่ในความเป็นจริงแล้วยี่ เทียนหยุนก็เป็นแค่สมาชิกของกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แต่พวกเขาคิดว่ายี่ เทียนหยุนยังหนุ่มซะขนาดนี้ ฐานพลังก็สูงซะปานนี้ด้วย แล้วจะไม่มีแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่คอยป้อนคอยสนับสนุนในการฝึกฝนได้อย่างไร
หลังจากที่พวกเขาต่างก็มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา ณ ตอนนี้ก็คงจะต้องเลือกการประนีประนอมเพียงเท่านั้น
" สหายท่านนี้เอาละ พวกเราจะไม่รู้สึกกระด้างอาย พวกเราจะบอกกล่าวกับตัวท่านเป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน นั่นก็ด้วยเหตุผลที่ว่าจู ยูร์เวยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อพวกเรา เธอได้หลบหนีออกจากบ้านไปหลายปีแล้ว นี่ได้สร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้กับหอแห่งดวงดาวเป็นอย่างมาก !! " ผู้ดูแลหวงถอนหายใจ
" หากว่าข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ ท่านยืนยันเรื่องนี้กับตัวข้าได้ไหมว่าได้บีบบังคับเธอให้จัดการกับปัญหาอะไร ตัวเธอถึงได้เลือกที่จะหลบหนีออกจากบ้านไปเช่นนั้น ข้ารู้ว่าอารมณ์ของเธอนั้นเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเป็นอย่างมาก เธอจะไม่ก่อปัญหาที่ผิดพลาดขึ้นมาอย่างแน่นอน " ยี่ เทียนหยุนพูดจาอย่างเคร่งขรึม
แดงสด ยวีซวนนิ่งเงียบ เธอก้าวเท้าออกมาด้านหน้าหนึ่งก้าว เธอมิได้กลัวในฐานบ่มเพาะพลังของยี่ เทียนหยุนเลย " นายน้อยท่านนี้ ในเมื่อท่านต้องการที่จะรู้ความจริง ตัวข้าก็จะบอกท่านตามตรง น้องสาวของข้าหลบหนีการแต่งงาน เรื่องราวมันก็ง่ายๆแค่นั้นเอง เรื่องนี้ภายนอกยังไม่มีใครที่รู้เรื่องนี้แน่ชัด ดังนั้นแล้วพวกเราจึงเลือกที่จะปกป้องชื่อเสียงของหอแห่งดวงดาวมิได้พูดแพร่งพรายอะไรออกไป "
" วิ่งหนีการแต่งงาน ?? " ยี่ เทียนหยุนตกใจ นี่คือสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะเป็นคำกล่าวที่อยู่ในกรอบของประเพณีที่ดูโบราณล้าสมัย แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะเห็นได้ชัดในเด็กของตระกูลที่มีความนับถือเลื่อมใสกันโดยที่มิได้รู้ตัวเลยว่า ความสุขของตัวเองนั้นได้ถูกควบคุมโดยหัวหน้าตระกูล จุดๆนี้ย่อมจะนำพามาซึ่งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอันเลวร้ายได้เลยจริงๆ
ไม่คิดเลยว่าจู ยูร์เวยจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ เธอเลือกที่จะไม่เชื่อฟังโดยขัดคำสั่งหอแห่งดวงดาว