Crazy Leveling System - ตอนที่ 142 คำแนะนำ
หลังจากที่พวกเขาออกมาจากด้านในสู่โลกภายนอกได้แล้ว ต่างก็รีบซ่อนตัวอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
" พวกเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ หากเหลย หยุนตระหนักได้ถึงสิ่งผิดปกติขึ้นมา พวกเราอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างเคร่งขรึม
ฮวน ฉินพยักหน้า เธอสังเกตสถานการณ์โดยรอบอยู่พักนึงแล้วจึงพูดว่า " ที่นี่ไม่มีเรือ ดูเหมือนว่าพวกเราคงจะต้องว่ายน้ำกันไปซะแล้ว "
" สำหรับสิ่งนี้เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกน่า ข้าคิดว่ามันควรจะมีพญาเหยี่ยวรอพวกเราอยู่ทางด้านนั้น "
เขานำฮวน ฉินมาถึงชายฝั่ง ก็เห็นพาหนะขนนกจอดอยู่ที่นี่ นี่เป็นพาหนะที่เมื่อก่อนฉิ่ง หลิวหยุน (เมฆที่ล่องลอยอยู่ในนภากาศสีฟ้า) นำมา ณ ตอนนี้มันจอดอยู่ที่ชายฝั่งก็เพราะว่าพวกเขานั้นตายแล้ว ยู่ ฉือเชียนแน่นอนว่ามิได้นำมันกลับไปด้วย มันจึงจอดอยู่ที่นี่
" ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีพาหนะขนนกจอดอยู่ด้วย พวกเราสามารถที่จะขับมันออกไปได้ไหม ?? " ฮวน ฉินพูดอย่างประหลาดใจ
" ได้ซิก็เจ้าของล้วนถูกข้าฆ่าตายหมดแล้ว ข้าเห็นพวกเขาแล้วมันเกะกะลูกกะตา ขวางหูขวางตาข้าซะเหลือเกิน " ยี่ เทียนหยุนยิ้มบาง
" ใครกันนะที่กล้ายั่วยุเจ้าได้ ช่างรนหาที่ซะจริงๆ " ฮวน ฉินนั้นนางย่อมที่จะรู้ว่าฐานพลังของยี่ เทียนหยุนค่อนข้างสูงอีกทั้งเคล็ดวิชาก็ยังมีมาก เขาเป็นตัวตนที่ดำรงอยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ เพียงวัยเยาว์เขาก็ถึงขั้นนี้แล้ว ถือได้ว่าพรสวรรค์ของเขาสูงมากทีเดียว " ถ้ายังงั้นพวกเราออกจากสถานที่บัดซบแห่งนี้กันเถอะ ตัวข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วและข้าก็จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่เป็นหนที่สองอีกครั้งเป็นแน่ "
" อืม แต่ตอนนี้คงถึงเวลาที่เราจะต้องบอกลากันแล้วละ ข้าจะคิดถึงเส้นทางอันยาวนานของพวกเรา ตัวข้าจะไม่กลับไปยังเมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์ " ยี่ เทียนหยุนกล่าว
" แต่เจ้าไม่มีพาหนะขนนกนะ ถ้ายังงั้นเจ้าก็ต้องหาเรือเพื่อนั่งกลับไปนะซิ….. "
พริบตาเดียวมังกรดำก็ถูกเรียกออกมา มันทำให้ฮวน ฉินถึงกับสะดุ้งโหยงตกใจกลัว
" ท่านคิดว่าข้าจำเป็นที่จะต้องมีพาหนะขนนกอย่างงั้นรึ ?? " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม
" ข้าละอยากที่จะรู้จริงๆว่า เจ้ามีภูมิหลังอะไรถึงได้มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เป็นพาหนะเช่นนี้ได้ " ประสบการณ์ในครั้งนี้ของนักบุญหญิงช่างคุ้มค่าซะจริงๆ ฮวน ฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอคืนสติอย่างรวดเร็ว
นี่จะว่าไปก็ไม่มีอะไรพิเศษสำหรับเธอ พวกเธอมีการติดต่อกับกลุ่มอิทธิพลเกรด 4 หรือแม้กระทั่งเผ่าวิญญาณก็มีสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์
" ไม่เลย ตัวข้าเป็นเพียงผู้อาวุโสของกลุ่มอิทธิพลเล็กๆเท่านั้นเอง โชคของข้าค่อนข้างดีก็เท่านั้น " ยี่ เทียนหยุนมิได้ปกปิดความจริง มังกรดำเขาก็ยังมิได้ปกปิดอะไรเลย นี่เปรียบเสมือนไพ่ตายของเขาเพียงใบเดียวเท่านั้น ต่อไปคนอื่นก็จะต้องรู้ถึงตัวตนของมันอย่างแน่นอน
พวกเขาทั้งสองมิได้มีความสัมพันธ์ที่เกลียดชังต่อกัน ดังนั้นแล้วนี่จึงมิได้มีปัญหาอะไร
" อิทธิพลเล็กๆ….. " ฮวน ฉินฉีกยิ้มพูดว่า " ดูเหมือนว่าโชคของท่านคงจะดีมากละซินะ ข้าคิดว่าท่านคงจะได้สืบทอดอะไรบางอย่างมา "
" ท่านจะพูดอย่างงั้นก็ได้ " ยี่ เทียนหยุนคิดว่า นี่จริงๆแล้วก็ไม่มีมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ระบบก็ถือได้ว่าเป็นของสืบทอดอย่างหนึ่ง
" ท่านช่วยชีวิตข้าออกมา ข้ายังมิได้ให้รางวัลอะไรกับตัวท่านเลย….. " ฮวน ฉินเพิ่งจะกล่าวออกมาแต่ยี่ เทียนหยุนกลับส่ายหัวเบรคการพูดของเธอ
" ข้าได้มันมาแล้ว ท่านเคลื่อนย้ายอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ให้กับข้า นี่ถือเป็นรางวัลอันสูงสุดแล้ว อะไรอย่างอื่นล้วนด้อยค่ากว่าสิ่งล้ำค่าสิ่งนี้ " ยี่ เทียนหยุนทาบมือลงกับหน้าอกของเขาพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
" ไม่เป็นไรหรอก ข้าเพียงอยากจะให้ท่านช่วยเก็บรักษามันเอาไว้นะ " ฮวน ฉินยิ้มอย่างสงบ เธอยื่นมือออกไปด้านหน้า ใช้นิ้วเคลื่อนไหวไปมา พลันปรากฏแสงสีทองอ่อนลอยขึ้นมา มันชี้ไปที่ตำแหน่งหน้าอกของยี่ เทียนหยุน พลันความทรงจำก็หลอมรวมเข้ากับอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนหน้าอกของเขา " สิ่งนี้ข้ามอบเป็นของขวัญให้กับท่าน ท่านจงใช้มันให้ดี แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างก็มิอาจที่จะสาธิตให้ใครเห็นได้มิฉะนั้นแล้วมันอาจนำพาหายนะที่ร้ายแรงมาสู่ตัวท่านได้ "
ยี่ เทียนหยุนทำการตรวจสอบความทรงจำที่ได้ ณ เวลานี้ว่ามันคือสิ่งใดกัน แต่หลังจากที่เขารู้ ใจเขาถึงกับสั่นในทันที สิ่งที่ฮวน ฉินให้เขามานั้นมันมิใช่เคล็ดวิชาทักษะยุทธ์เทคนิคใดๆ แต่มันคือวิธีการตัดอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์รวมไปถึงอักษรรูนระดับสูงเป็นจำนวนมากอีกด้วย บางอย่างก็เป็นสิ่งที่มิได้เปิดเผยมิอาจแพร่งพรายของเผ่าวิญญาณได้นั่นก็เพราะว่ามันเป็น ทักษะลับ !!!
ถึงแม้ว่ายี่ เทียนหยุนจะมีความสามารถทางด้านอักษรรูน แต่ก็มิได้หมายความว่าตัวเขาจะเข้าใจในทุกๆตัวอักษรรูน เขาเพียงเข้าใจอักษรรูนทุกๆตัวที่อยู่ในระดับปกติเพียงเท่านั้น เมื่อเขาได้รับอักษรรูนมาแบบนี้ย่อมจะทำให้เขาจารึกตัวอักษรได้มากขึ้น เขามีพื้นฐานความชำนาญของอักษรรูน วันใดที่ระดับของเขาสูงขึ้น เขาจะสามารถจารึกอักษรรูนที่สลับซ้ำซ้อนได้มากขึ้น
มิใช่เพียงแต่ความชำนาญทางด้านของอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น ทีนี้อาวุธชนิดต่างๆมากมาย อุปกรณ์วิญญาณที่หล่อออกมาและสิ่งอื่นๆอีกซึ่งก็คือ แม่แบบที่ใช้ในการหล่ออาวุธทุกๆชนิด อาวุธที่คล้ายคลึงกัน สูตรที่ใช้ในการหล่อหลอมอาวุธบางชนิดก็แตกต่างกัน นี่ก็ย่อมให้ผลที่แตกต่างกัน
ณ ตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะยังขาดแคลนสูตรในการหล่ออาวุธอยู่แต่ก็ไม่เป็นไร เขาสามารถที่จะจารึกอักษรรูนให้ผลกับอาวุธที่ออกมาได้
จุดสำคัญก็คือฮวน ฉินได้ให้คำแนะนำกับเขาว่า
หากเรื่องนี้ถูกล่วงรู้ในภายหลังโดยคนของเผ่าวิญญาณเข้าแล้วละก็ ฮวน ฉินจะต้องถูกไล่ล่าอย่างแน่นอน เผ่าวิญญาณไม่ได้อนุญาตให้แพร่งพรายความลับออกสู่คนนอก การกระทำในลักษณะนี้ของฮวน ฉินจะไม่ถูกไล่ล่าจากเผ่าวิญญาณอย่างนั้นหรือ ?? "
" ท่านสอนข้า ทำไม ?? " นัยน์ตาของยี่ เทียนหยุนเหมือนจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ภายในใจสั่นไหวมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าการช่วยฮวน ฉินจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแต่การที่เธอมอบอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ให้กับเขาแบบนี้ นี่มันเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องกับเผ่าวิญญาณที่ไม่อนุญาตให้สอนอักษรรูนใดๆให้กับคนนอกเฉกเช่นยี่ เทียนหยุน
" มันไม่มีอะไรหรอกตัวท่านมิต้องคิดมากไป ท่านช่วยข้าเอาไว้ นี่ก็เท่ากับว่าท่านก็ได้ช่วยเผ่าวิญญาณเอาไว้ด้วยเหมือนกัน " ฮวน ฉินยกยิ้ม " ยามนี้เมื่อข้ากลับไป ก็ไม่รู้ว่าเผ่าวิญญาณจะเป็นตายร้ายดียังไง หากมิอาจต้านทานกลุ่มอิทธิพลของเหลย หยุนเอาไว้ได้ เผ่าวิญญาณก็คงจะต้องถูกควบคุมโดยจักรวรรดิใต้ดิน หากเป็นเช่นนั้นจริง พูดง่ายๆเลยก็คือว่า หากว่าข้ามิได้ถ่ายทอดทักษะลับนี้มอบให้กับท่านแล้วเกิดเผ่าวิญญาณถูกทำลายขึ้นมา อย่างน้อยๆนี่ก็จะเป็นการเก็บรักษาสิ่งสำคัญของพวกเราเอาไว้ ดีกว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่ได้ถ่ายทอดให้ใครเลย "
ในใจของยี่ เทียนหยุนตอนนี้พลันสั่นไหว การพูดอย่างนี้ก็ย่อมที่จะหมายความว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอย่างแน่นอน แต่เธอทำเพื่อเผ่าวิญญาณ ซ่อนไว้แล้วมันจะดีเรอะ แล้วทำไมถึงไม่มอบให้คนนอกกันละ ??
" นี่คงจะเป็นสิ่งที่เหลย หยุนต้องการที่จะครอบครองละซินะ ท่านเชื่อใจข้าขนาดนั้นเลยเรอะ ?? " สายตาของยี่ เทียนหยุนครานี้ดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก
ว่ากันตามความจริงแล้ว สิ่งนี้ไม่อนุญาตที่จะผ่านให้กับคนนอก ทักษะลับนี้มีไว้ก็เพื่อส่งต่อให้กับนักบุญหญิงคนต่อไปเท่านั้นที่จะได้ถือสิทธิ์ในการครอบครอง เหล่าผู้อาวุโสคนไหนๆก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ครอบครอง ณ ตอนนี้ ฮวน ฉินได้มอบมันให้กับตัวเขาผู้ซึ่งเป็นคนนอก !! หากเหลย หยุนนั้นรู้เข้าละก็ เขาจะไม่ตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอย่างนั้นหรือ
" ทำไมข้าจะไม่รู้ ข้าประเมินได้ถึงความแข็งแกร่งของตัวท่านที่ได้ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ จากสายตาของข้า มันทำให้ข้านั้นเชื่อใจในตัวท่าน….. ฮวน ฉินฉีกยิ้มกว้าง " นัยน์ตาสีเงินทั้ง 2 ข้างล้วนเต็มไปด้วยความซับซ้อน " บางทีท่านอาจจะเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ที่ข้าจะทำอย่างนี้ หากว่าเป็นคนอื่นในเผ่าวิญญาณ ข้าว่าเขาก็คงจะทำอย่างนี้เช่นเดียวกับข้า….. "
จากดวงตาของฮวน ฉิน ราวกับเห็นเรื่องราวก่อนหน้านี้ของเธอ ยี่ เทียนหยุนต้องการจะพูดคำบางคำเพื่อที่จะปลอบประโลมเธอทำให้เธอสบายใจ แต่มันก็ติดอยู่ที่ลำคอ นั่นก็เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรออกไปดี
" เอ่ออันที่จริงแล้ว ที่ข้าช่วยท่าน….. " ยี่ เทียนหยุนไม่สามารถที่จะพูดโพล่งออกมาได้ เขาจึงได้แต่อั้มๆอึ้งๆ เขารู้ถึงวิกฤตที่ฮวน ฉินจะต้องกลับไปเผชิญ มันจะต้องเป็นคนที่หน้าใหญ่เป็นอย่างมากแน่ๆหากคิดที่จะก่อกบฏตรงๆ
" ความตั้งใจดีของท่านข้าขอขอบคุณด้วยใจ แต่ข้ารู้ว่าท่านนั้นมีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปจัดการ ในยามที่ท่านหมดสติไปนั้นท่านยังตะโกนเรียกป้าของท่านอีกทั้งยังพูดถึงหลายสิ่งหลายอย่าง….. และที่ยิ่งไปกว่านั้นฐานบ่มเพาะพลังของท่าน ด้วยความสัตย์จริงมันยังต่ำกว่าศัตรูของข้า " ฮวน ฉินยิ้มในทันที " ท่านรักษาตัวอยู่ที่นี่ให้ดี หากต้องการที่จะช่วยข้าก็จงใช้ความทรงจำที่ข้าได้มอบมันไว้ให้กับท่าน ให้ดี หากท่านกลายเป็นผู้แข็งแกร่งขึ้นมาวันใดแล้ว ท่านสามารถออกตามหาข้าเพื่อช่วยข้าอีกครั้งหนึ่งได้ "
" ฐานการบ่มเพาะของข้าต่ำอย่างนั้นเรอะ ?? " ยี่ เทียนหยุนสะดุ้ง !!
" ใช่แล้วละ ถึงแม้ว่าฐานพลังที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณจะนับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ที่ข้าต้องเผชิญด้วยก็คือผู้ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายา แม้กระทั่งขั้นวิญญาณ ดังนั้นแล้วต่อหน้าฐานพลังเหล่านี้ขั้นแก่นวิญญาณก็ไม่มีอะไรที่จะพูด ตอนแรกฐานพลังของข้าก็อยู่ในขั้นมาตรฐานเปลี่ยนกายาช่วงปลาย ผลจากการปิดผนึกมันก็เลยทำให้ข้าต้องหล่นลงมาอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น ท่านคิดว่าเมื่อตัวเองไปแล้ว จะสามารถช่วยข้าได้อย่างงั้นเรอะ ?? " ฮวน ฉินยิ้มบาง " ท่านยังหนุ่มยังแน่น หากให้เวลากับท่านซักหน่อย ท่านก็คงจะสามารถก้าวหน้าขึ้นมาได้ อาจจะในไม่ช้าหรือต่อไปท่านอาจจะแข็งแกร่งกว่าผู้คนอีกเป็นจำนวนมาก ได้ยืนอยู่เหนือจุดสูงสุด !! "
คำพูดเหล่านี้ มันช่างทำให้เลือดลมของยี่ เทียนหยุนพลันพลุ่งพล่านซะจริงๆ ในใจของยี่ เทียนหยุนจริงๆแล้ว เขาอยากที่จะยืนอยู่เหนือจุดที่สูงที่สุด ก้มมองดูทัศนียภาพของโลกใบนี้ทั้งหมด !!