Crazy Leveling System - ตอนที่ 134 คำพูดเสียดสี
ยี่ เทียนหยุนชำเลืองมองฉิ่ง หลิวหยุน (เมฆที่ล่องลอยอยู่ในนภากาศสีฟ้า) อย่างมีเลสนัย คฤหาสน์ปราณฟ้าช่างสมควรค่าแก่การยกย่องซะจริงๆ ไม่เข้าใจก็เสือกจะอ้างว่าเข้าใจ นี่ไม่ได้คิดจะทำคะแนนต่อหน้าสาวอย่างงั้นเรอะ ?? หากเป็นกลุ่มอิทธิพลอื่นยี่ เทียนหยุนเองจะไม่เสียเวลาต่อรองให้มากความเลย แต่สำหรับคฤหาสน์ปราณฟ้าแล้วย่อมแตกต่าง และพวกมันก็สามหาวมากยิ่งนัก !!
" ถ้าอย่างงั้นช่วยบอกพวกเราได้หรือไม่ว่า ตัวอักษรที่เขียนอยู่ด้านบนนั้นนะมันคืออะไรอย่างงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนเคาะศิลาจารึกหิน เนื้อหาที่แกะสลักอยู่ด้านบนมีไม่มากนักหากนับวรรคทั้งหมดแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ ฉิ่ง หลิวหยุนก็เปรียบเสมือนงูพิษ ไหนเลยจะซื่อสัตย์ ย่อมที่จะหันมาแว้งกัด จะสามารถเข้าใจได้ที่ไหนกันเล่า
" เจ้าโง่หรือยังไง สิ่งที่ตัวเองสามารถรู้เห็นได้จากการทำสมาธิ อธิบายได้อย่างงั้นหรือ ?? มันเป็นความคิดที่ไม่สามารถจะอธิบายได้ ไม่อย่างงั้นจะเรียกว่าเข้าใจอย่างงั้นหรือ ?? " ฉิ่ง หลิวหยุน (เมฆที่ล่องลอยอยู่ในนภากาศสีฟ้า) พูดด้วยความโมโหว่า " หากเจ้ามีทักษะที่สามารถจะรับรู้ทำความเข้าใจได้แล้วละก็ งั้นก็บอกให้พวกเราฟังอีกครั้งหนึ่งซิ !! "
ยู่ ฉือเชียนและเจ้า ยู่ขมวดคิ้ว คำพูดนี้ถูกต้องอย่างงั้นหรือ จริงๆอาจจะคิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นค่อนข้างที่จะหุนหันพลันแล่น ใจร้อนไปหน่อย บางสิ่งบางอย่างก็ได้เพียงความคิดเท่านั้น มันยากที่จะอธิบาย ที่พูดไปเพียงเพราะไม่มีความรู้ หรือรู้อยู่แล้ว แต่ทำไมถึงยังพูดอย่างงั้นออกไปอีก ??
ยี่ เทียนหยุนมองไปที่ฉิ่ง หลิวหยุน สายตาที่จ้องนั้นคล้ายกับคนโง่ปัญญาอ่อน เขายังคงเคาะศิลาจารึกหินแล้วก็พูดพร้อมด้วยรอยยิ้มว่า " ข้าละเกิดคบอกคับใจขึ้นมาซะจริงๆ ก็เพราะว่าข้านั้นรู้ว่าข้อความที่เขียนอยู่ด้านบนนั้นคืออะไร และข้าก็มิเพียงแต่รู้เท่านั้นแต่ยังอยากที่จะพูดให้กับเจ้าได้ฟังอีกด้วย "
นัยน์ตาคู่สวยของยู่ ฉือเชียนและเจ้า ยู่พลันเจิดจรัส ไม่รู้ว่าที่ยี่ เทียนหยุนพูดออกมานั้นจริงหรือว่าเท็จ
นัยน์ตาของฉิ่ง หลิวหยุนครานี้พินิจพิจารณา ซึ่งจริงๆแล้วเขาคาดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นคุยโต จึงพูดเยาะเย้ยว่า " ดี ถ้าเจ้ามีความสามารถงั้นก็พูดออกมาเลย ว่าเนื้อหาสาระที่ว่ามานั้นมันคืออะไร ?? "
" ย่อมได้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน สัญลักษณ์ที่เขียนอยู่ด้านบนนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ภาษาเขียนที่เราใช้กันอยู่ เชื่อว่าทุกคนก็คงจะมองออก จริงๆแล้วภาษาที่ใช้เขียนบนศิลาจารึกหินนี้ มันค่อนข้างที่จะโบราณเป็นอย่างมากเลยทีเดียว นี่คือภาษาที่เผ่าวิญญาณใช้กัน ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นเรื่องธรรมดาเป็นอย่างมากที่เจ้าจะไม่สามารถเข้าใจถึงภาษาเขียนแบบนี้ได้ บอกเจ้าให้ฟังก็ได้ว่า เนื้อหาที่อยู่ด้านบนของศิลานั้นง่ายเป็นอย่างมาก กล่าวอย่างคร่าวๆอีกนัยหนึ่งก็คือว่า " หลุมฝังศพของฮวน ฉิน ส่วนตัวอักษรที่อยู่ด้านล่างนั้นก็คือ ผู้ที่สร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้นมายังไงละ ชื่อของเขานั้นถูกเรียกว่า เหลย หยุน ผู้เชี่ยวชาญที่ยังคงเหลืออยู่ "
ยี่ เทียนหยุนมองดูฉิ่ง หลิวหยุนพร้อมด้วยสีหน้าที่ดูประหลาดใจ พลางส่ายหัวพูดว่า " ข้าพูดได้แต่เพียงว่า ที่เพื่อนท่านนี้พูดว่า ท่านสามารถที่จะรับรู้อะไรบางสิ่งบางอย่างจากการทำสมาธิที่มาจากหลุมฝังศพแถมยังจะได้รับประโยชน์มหาศาลอีกต่างหาก ท่านช่างเป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถจริงๆ !! ไม่ว่าจะกรณีใดๆตัวข้านี้ก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นสิ่งใดๆได้เลย หรือข้าผู้นี้จะเป็นผู้ที่โง่เขลาเบาปัญญาว่าแท้ที่จริงแล้ว ณ ศิลาจารึกหลุมฝังศพแห่งนี้ ยังจะสามารถพบเห็นทักษะยุทธ์ระดับสวรรค์ได้อยู่อีก มันทำให้ตัวข้ารู้สึกต่ำต้อยซะนี่กระไร ?? "
ถึงแม้ว่าคำพูดทั้งหลายเหล่านี้ ยี่ เทียนหยุนจะพล็อตขึ้นมา หาใช่ของจริงไม่ เขาเคยมองดูภาษาเหล่านี้เมื่อครั้งอยู่ในตำหนักหยกสวรรค์ ก่อนนั้นเขาก็เคยคิดว่ามันคลุมเครือยากที่จะเข้าใจ แต่ตัวเองก็ยังอุตสาห์ศึกษามันเป็นพิเศษ ดังนั้นแล้วถึงแม้จะไม่กล้าพูดว่าเข้าใจ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่มีปัญหาในการถอดคำ
" จ….. เจ้า เจ้าพูดไร้สาระ !! " ฉิ่ง หลิวหยุนกลายเป็นหน้าแดง แม้ตายเขาก็จะไม่ยอมรับการอธิบายของยี่ เทียนหยุน หากตีความตามที่ยี่ เทียนหยุนอธิบาย เขาจะไม่กลายเป็นคนโง่จริงๆอย่างนั้นหรือ มองหลุมฝังศพแล้วสามารถที่จะทำสมาธิกำหนดรู้ถึงสิ่งต่างๆได้ เรื่องราวมันจะกลายเป็นแปลกพิกล
" ข้าพูดจาไร้สาระอย่างงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนยิ้มน้อยๆ " ถ้าหากว่าข้าพูดจาไร้สาระเลื่อนลอย เจ้างัดปากข้าได้ตามใจชอบเลย ตัวข้าจะไม่ตอบโต้อย่างแน่นอน ต้องรู้ก่อนเลยว่า หากว่าสิ่งนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมากแล้ว ป่านนี้คงจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปเรียบร้อยแล้วถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นโซนอันตรายก็ตามที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครเข้ามาเพื่อที่จะหวังผลประโยชน์จากที่แห่งนี้ได้ ถึงแม้ว่าภาษาของเผ่าวิญญาณจะเป็นสิ่งแปลก แต่ก็มีคนบางคนที่สามารถจะเข้าใจมันได้ ถ้าเจ้าไม่เชื่อเจ้าก็ลองไปถามเขาดูซิ ?? เจ้าคิดว่ามันจะมีความเป็นไปได้อะไรที่จะสามารถเห็นได้จริงๆนะ ?? จริงๆแล้ว หากสามารถที่จะทำสมาธิแล้วรับรู้ได้ เจ้านี่ย่อมจะต้องมีพรสวรรค์อย่างแน่นอน….. มองดูหลุมฝังศพแล้วสามารถที่จะเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ เจ้านี่มันมีพรสวรรค์ซะจริงๆเลย !! "
ยี่ เทียนหยุนตบมือเบาๆ หลังจากที่พูดเสียดสี
หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนอธิบายซะเป็นเรื่องเป็นราว ยู่ ฉือเชียนและเจ้า ยู่ทั้งสองคนนั้นก็ดูเหมือนจะเชื่อในเรื่องราวที่ยี่ เทียนหยุนเป็นคนเล่าซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าอย่างนั้นฉิ่ง หลิวหยุนคิดที่จะทำคะแนนต่อหน้าพวกเธอจริงๆนะเหรอ ??
" เยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก !! " ฉิ่ง หลิวหยุนเริ่มที่จะโกรธ " เจ้าคิดว่าเล่นตุกติกแล้วจะมีใครบางคนที่เชื่อในคำพูดของเจ้าอย่างงั้นหรือ !! "
" มีคนที่เชื่อหรือเปล่าข้าไม่รู้ แต่เจ้าค่อยๆกำหนดรู้ทำสมาธิอย่างช้าๆไปเถอะ ข้าคงต้องขอตัวก่อนละ " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม " ทำสมาธิทำความเข้าใจต่อหน้าหลุมศพ นี่คงจะไม่ได้หมายความว่าต้องการที่จะให้ตัวเองนั้น ก้าวเข้าสู่โลงศพเร็วขึ้นอีกนิดหนึ่งหรอกนะใช่ไหม ?? "
พูดแล้วยี่ เทียนหยุนก็ไม่อยากที่จะสนใจฉิ่ง หลิวหยุนอีกต่อไป เขายกเท้าก้าวเดินจากมาโดยมุ่งตรงไปยังด้านหน้า
สีหน้าของฉิ่ง หลิวหยุนในตอนนี้กลายเป็นเย็นชา เขาหันหน้ามองไปยังด้านหลังของยี่ เทียนหยุน นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร !!
ฉิ่ง หลิวหยุน ณ เพลานี้ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา เขาหันศีรษะไปทางยู่ ฉือเชียนพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆว่า " ฉือน้อย อย่าไปฟังที่เขาพูดเลย เขาพูดจาไร้สาระนะ ศิลาจารึกหินลูกนี้ไม่ใช่หลุมฝังศพหรอก….. " ฉิ่ง หลิวหยุนนั้นต้องการที่จะพูดกลบเกลื่อน แต่แท้ที่จริงแล้วตัวเขาก็ไม่รู้ว่า ณ เวลานี้ควรที่จะพูดจาอย่างไรดี
" ไม่สำคัญหรอก ต่อไปข้าจะลองค้นหาคนของเผ่าวิญญาณเพื่อมาที่นี่ดู " ยู่ ฉือเชียนพูดกับเจ้า ยู่ว่า " น้องเจ้า พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ ไปลองค้นหาที่อื่นกันดู….. ข้ารู้สึกแปลกๆ ที่นี่ไม่มีสัตว์อสูรอยู่เลย ตามที่ตกลงกันที่นี่นั้นมีสัตว์อสูรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมิใช่เรอะ ?? "
พวกเธอต่างก็มิได้สนใจฉิ่ง หลิวหยุนและเสี่ยว เจียนเหรินในเวลานี้ ต่างก็หันหลังแล้วก็แยกจากไป ไม่เต็มใจที่จะสนใจในตัวของพวกเขาอีกต่อไป
ฉิ่ง หลิวหยุนมองดูหลังของพวกเขา เขาบีบพัดที่อยู่ในมือแน่น จากนั้นก็สบัดมันลงต่ำด้านข้างตัว นัยน์ตานั้นปรากฏประกายระยิบระยับของแสงแห่งไอเย็นอยู่หลายส่วน
" พี่ใหญ่ ข้าชักจะเหลืออดแล้วนะ….. " นัยน์ตาของเสียว เจียนเหรินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ความโกรธของเขาที่มีต่อยี่ เทียนหยุนในขณะนี้นั้นมันทะลุถึงขีดสุดแล้ว !!
" ดูเหมือนว่าใครบางคนจะไม่ชอบการมีอายุยืน กล้าที่จะต่อต้านข้า นั่นก็คือจุดจบของมัน !! " ฉิ่ง หลิวหยุนกลายเป็นโมโห " ให้มันยอมจำนน ทำให้มันรู้ว่าการที่กล้าจะมายั่วยุพวกเรานั้นผลลัพธ์มันจะเป็นเช่นไร !! "
" ศิลาหน้าหลุมฝังศพ มันจะดูเหมือนว่า ณ ดินแดนแห่งนี้จะมีสุสานอยู่ แต่มันอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ?? " ยี่ เทียนหยุนกำลังค้นหาสถานที่ ณ บริเวณป่าของเกาะแห่งนี้ เพื่อที่จะมองหาสถานที่ผิดปกติ
ยังไม่ทันที่จะเดินสำรวจได้หลายก้าวเลย ยี่ เทียนหยุนก็พลันหยุด เขายกสายตาขึ้นมองตรงไปข้างหน้าแล้วก็พูดอย่างไม่แยแสว่า " ไม่จำเป็นที่จะต้องซ่อนตัวอยู่ด้านหน้าหรอก ออกมาเถอะ "
" ดูเหมือนว่าเจ้าค่อนข้างที่จะมีความสามารถนะ " เสี่ยว เจียนเหรินเดินออกมาจากด้านหน้า
และผู้ที่เดินตามมาข้างหลังก็คือ ฉื่ง หลิวหยุน พวกเขาทั้งสองต้องการที่จะปิดฉากจบเส้นทางของยี่ เทียนหยุนลง นัยน์ตาของคนทั้งสองนั้นเต็มไปด้วยความโกรธที่ดูน่ากลัว พวกเขาต้องการที่จะระเบิดความอัดอั้นตันใจนี้มานานละ แต่ก็จำจะต้องเก็บกดมันเอาไว้
" มีปัญหาอะไรอย่างงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนยกสายตาขึ้นมองดูพวกเขา
" ย่อมมีแน่ พวกข้าจะทำให้เจ้านั้นรู้ว่า กล้าที่จะมายั่วยุพวกเราทั้งสอง ผลลัพธ์ของเจ้าจึงมีเพียงสถานเดียวนั่นคือตาย !! "
คำพูดเพิ่งจะจบลง เสี่ยว เจียนเหรินก็นำดาบสั้นของตนออกมา เขาเหยียบไปที่พื้นพร้อมกับพุ่งทะยานตรงไปข้างหน้าเพื่อโจมตียี่ เทียนหยุน ขาทั้งสองข้างของเขาระเบิดพลังอย่างต่อเนื่องแต่พลังที่ดูแข็งแกร่งนั้น ก็มิได้ส่งผลกระทบต่อพื้นดินที่เขาเหยียบอยู่แต่อย่างใด มันทรุดลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
" พยัคฆ์สวรรค์ทำลาย !! "
เสี่ยว เจียนเหรินคล้ายกับว่าจะเปลี่ยนไปเป็นพยัคฆ์สวรรค์ขนาดใหญ่ที่มีปีก เขาพุ่งตรงไปยังยี่ เทียนหยุน ฝีเท้าของเขาบางครั้งก็เบา บางครั้งก็หนัก ทิ้งไว้ก็แต่เพียงความแตกต่างของความลึกจากรอยเท้าที่อยู่บนพื้น การเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดของเขาดูราวกับเสือร้าย เสือร้ายผู้ซึ่งโจมตีเหยื่ออย่างรวดเร็ว !!
" โฮก !! "
พลังวิญญาณปะทุขึ้น พยัคฆ์สวรรค์ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของยี่ เทียนหยุน เขาโถมเข้าใส่ในทันที ไอเย็นที่เป็นประกายระยิบระยับของดาบสั้นที่อยู่ในมือและแสงขาวหม่นพร้อมทำงาน จุดประสงค์ก็คือต้องการที่จะพรากชีวิตไปจากเขาเพียงเท่านั้น !!
ยี่ เทียนหยุนยังไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบโต้ เขายังคงยืนอยู่กับที่ ไม่แม้กระทั่งจะป้องกันตัว ส่วนใหญ่แล้วการโจมตีทั้งหมดของเขาจะเป็นการระเบิดพลังออกมาอย่างฉับพลัน ก็เพื่อจะทำให้แน่ใจว่า ศัตรูของเขานั้นถูกปิดผนึกเอาไว้
" อยากจะให้ข้าตายยังงั้นเรอะ !! "
สีหน้าของเสี่ยว เจียนเหริน ณ วินาทีนี้ดูดุร้าย ดาบสั้นในมือของเขาแทงออกมาอย่างเจตนาร้าย แต่ ณ เสี้ยววินาทีนั้นเอง ด้วยสปีดที่เร็วกว่าของยี่ เทียนหยุนก็จับยึดแขนของเขาเอาไว้ในทันที เร็วอย่างกับสายฟ้า เขาจับเสี่ยว เจียนเหรินเหวี่ยงฟาดลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง !!
" คิดที่จะขจัดข้าอย่างงั้นเรอะ !! "
ยี่ เทียนหยุนยังจะจับไปที่บริเวณหัวไหล่ของเสี่ยว เจียนเหรินอีกด้วย เขาใช้พละกำลังที่แข็งแกร่งฟาดลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วง แม้กระทั่งพยัคฆ์สวรรค์ก็ยังถูกสยบลงด้วยพลังที่ป่าเถื่อน !!
" แปง !! "
จู่ๆเสี่ยว เจียนเหรินก็ถูกจับฟาดลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง ดาบสั้นที่อยู่ในมือของเขาก็หล่นลงไปที่พื้นในทันที ทั่วทั้งร่างต่างก็สั่นสะเทือน สายตาที่เคยดูถูกเหยียดหยามมาตลอด บัดนี้กลับคืนสู่สภาพปกติ พละกำลังที่สามารถจับทุ่มได้หนักหน่วงขนาดนี้ จะต่อต้านเขาไหวเรอะ ?? โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานพลังของยี่ เทียนหยุนในเวลานี้นั้นทะลวงเข้าสู่ระดับที่ 3 ของขั้นแก่นวิญญาณ พลังที่มีนั้นก็น่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นที่จะต้องปะทุพลังแห่งสายเลือดมังกรเทวะ ก็สามารถที่จะบดขยี้พวกเขาลงได้อย่างสบายๆแล้ว !!