Crazy Leveling System - ตอนที่ 122 สถานที่คุ้มภัย
ภายใต้การขี่พญาเหยี่ยว พวกเขาก็มาถึงซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อย่างรวดเร็ว โชคดีที่พญาเหยี่ยวมันไม่ได้จดจำเจ้าของ ใครๆก็สามารถที่จะควบคุมมันได้ สามารถที่จะนำพวกมันขึ้นบินได้ ก็เพราะว่ามีพวกมันพวกเขาจึงมาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว
" มาถึงแล้ว "
ยี่ เทียนหยุนกระโดดลงจากหลังของพญาเหยี่ยว เขายกเท้าก้าวเดินมาถึงด้านหน้าของซากปรักหักพังโบราณสถาน เขาใช้มือของเขาในทันที ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าของซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ก็สว่างโชนขึ้นมา มันเริ่มที่จะเปิดออกมาอย่างช้าๆ เห็นอย่างนี้เข้าไปบรรดาผู้อาวุโสต่างก็พากันช็อค ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเตรียมใจกันมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตามที แต่เมื่อมาเห็นเข้ากับตา ของตัวเองจริงๆว่ายี่ เทียนหยุนนั้นสามารถที่จะควบคุมที่นี่ได้ แต่ละคนต่างก็พากันช็อคไปตามๆกัน
" มัวแต่จ้องอะไรกันอยู่ได้ รีบๆเข้ามาซิ " ยี่ เทียนหยุนเป็นผู้นำ เขาผ่านกำแพงสิ่งกีดขวางจำนวน 1 ชั้นเข้ามา
ฉี ซู่หยุนยิ้มบางๆ เธอยกส้นเท้า เดินผ่านกำแพงสิ่งกีดขวางเข้ามาได้อย่างสบายๆ เข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ ผู้อาวุโสทั้งสามที่เหลืออยู่ก็ผ่านเข้ามาได้โดยที่ไม่ได้มีความยากอะไร ผ่านเข้าสู่ที่นี่ได้อย่างไม่ติดขัด แม้กระทั่งพญาเหยี่ยวก็สามารถที่จะนำพวกมันเข้ามาข้างในได้ด้วย โดยที่ไม่มีอะไรมาขวางขั้นเอาไว้เลย
" เข้ามาได้จริงๆ….. "
หลังจากที่พวกเขาทยอยกันเข้ามาแล้ว ก็พบกับฉากที่คุ้นเคย หลายปีแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่ พวกเขาต่างก็เคยมาที่นี่ครั้งแรกเมื่อครั้งที่พวกเขายังเป็นเด็ก แป๊ปเดียวพวกเขาก็อายุปูนนี้แล้ว ได้เข้ามาที่นี่อีกครั้งหนึ่งพวกเขาต่างก็หวนนึกถึงอดีตแห่งความหลัง
" เทียนหยุน เจ้าทำได้อย่างไร ?? " ฉี ซู่หยุนร้องถาม
" ง่ายมาก เมื่อก่อนที่ข้าอยู่ต่อหน้าของศิลาจารึกแท่นหินทดสอบ เพื่อที่จะทำการเลือกทักษะยุทธ์นั้น ข้าก็ได้ค้นพบถึงความลับบางอย่างของที่นี่เข้า ท้ายที่สุดข้าก็ได้สืบทอดทั่วทั้งซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ ตัวข้าในปัจจุบันจึงเป็นผู้สืบทอดของที่นี่ ที่นี่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของข้า แต่ผู้เฒ่าซวนผู้นี้เป็นผู้ควบคุม " ยี่ เทียนหยุนผายมือแนะนำ ผู้เฒ่าซวนก็ปรากฏตัวขึ้นมา ยิ้มทักทายพวกเขาทุกคน
ทันใดนั้นจู่ๆผู้เฒ่าซวนก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาต่างก็พากันกระโดดด้วยความหวาดกลัว เมื่อค่อยๆเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้เฒ่าซวนในปัจจุบันมิใช่มนุษย์ แต่เป็นภาพมายา
" นายน้อย เวลานี้ท่านได้นำผู้คนมาที่นี่ด้วย ข้าขอยินดีต้อนรับทุกท่านที่มา ณ ที่นี้ " ผู้เฒ่าซวนกล่าวอย่างสุภาพ
พวกเขาต่างคนก็ต่างพยักหน้ารับ ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พวกเขาคิดซะแล้ว กลิ่นอายของผู้เฒ่าซวนนั้นให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะบีบรัดต่อพวกเขา มันชวนให้แน่นหน้าอกเป็นอย่างมาก
" ในซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้นั้นไม่ได้มีสมบัติอะไร มันก็เหมือนกับเมื่อก่อนที่พวกท่านได้เห็นกัน สิ่งของทั้งหลายล้วนถูกขุดเอาไปหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่นั้นเหมาะสมต่อการบ่มเพาะพลัง เป็นสถานที่ลี้ภัยอันสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน ตราบใดที่พวกเราอพยพศิษย์มาไว้ที่นี่ ก็ย่อมที่จะปลอดภัยกว่าตำหนักหยกสวรรค์ และที่ยิ่งไปกว่านั้นหากจะให้มองดูสภาพแวดล้อมของที่นี่แล้วละก็ มันก็ย่อมที่จะเหมาะสมกว่าตำหนักหยกสวรรค์เป็นอย่างมาก " ยี่ เทียนหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม " ตราบใดที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ คฤหาสน์ปราณฟ้าจะไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน "
" ในเมื่อปัญหาตั้งขึ้นมาแล้ว พวกเขาจะต้องกำจัดตำหนักหยกสวรรค์อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่านี่ มันจะทำใจได้ยากอยู่ซักหน่อย แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็คงจะต้องทำใจยอมรับมันเพียงเท่านั้น "
เดิมทีนั้นยี่ เทียนหยุนตั้งใจที่บอกเรื่องนี้ให้ฉี ซู่หยุนได้ยินเพียงคนเดียว แต่เกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมาซะก่อน เขาจึงต้องรีบที่จะบอกเรื่องราวเหล่านี้กับคนทั้งหมดซะตั้งแต่เนิ่นๆ เขาวางแผนที่จะอพยพศิษย์ทุกคนมาอยู่ที่นี่ ที่นี่ไม่เพียงที่จะปลอดภัยเท่านั้น ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การบ่มเพาะพลังอีกด้วย สิ่งสำคัญก็คือมันสามารถที่จะช่วยยกระดับขึ้นได้
จะต้องกำจัดตำหนักหยกสวรรค์ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพวกเขา คำนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าพวกเขาจะต้องสูญสิ้น !!
ในตอนนี้ยี่ เทียนหยุนยังไม่กล้าที่จะพูด ว่าตัวเขาเองนั้นสามารถที่จะทำลายคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้อย่างราบคาบ พลังของฝั่งตรงข้ามเป็นสิ่งที่เขายังไม่รู้ และยิ่งไปกว่านั้นจำนวนคนของฝั่งตรงข้ามก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก ณ ตอนนี้เขายังไม่สามารถที่จะต่อกรได้ คงจะต้องอาศัยหลบซ่อนตัวไปก่อน
ไม่ว่าจะยาวไหนเท่าไรก็ไม่ต้องไปคิดมัน ในตอนนี้ต้องยอมรับมันไปก่อน
" เรื่องนี้ จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจ แต่เราก็ไม่มีทางเลือก….. บรรดาผู้อาวุโสต่างก็ยิ้มอย่างขมขื่นในตอนนี้ " ส่ายหัว พวกเขาเป็นเพียงแค่กลุ่มอิทธิพลเล็กๆและอ่อนแอ มีแต่จะต้องเสื่อมถอยลงกลายเป็นหุ่นเชิด
ก่อนหน้านี้ 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ก็เช่นกันเป็นหุ่นเชิดของคฤหาสน์ปราณฟ้า ที่ต้องการจะอาศัยพละกำลังของพวกเขายึดครองภูมิภาคแถบนี้ เพื่อที่จะเข้าควบคุม เหตุผลที่ทำแบบนั้นรึก็ง่ายมาก นั่นก็เพราะคฤหาสน์ปราณฟ้าต้องการแหล่งทรัพยากร !!
ถ้าพวกเขาโอนอ่อนผ่อนตาม ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คงจะไม่ดีแน่เมื่อเทียบกับต้องกลายมาเป็นหุ่นเชิดแล้ว กลัวว่าตำหนักหยกสวรรค์จะต้องกระจัดกระจายแตกกระสานซ่านเซ็นกันไป เป็นการยากที่จะรักษาฐานอำนาจเดิมเอาไว้ คนเป็นจำนวนมากจะต้องถูกส่งเข้ามาจัดระเบียบที่นี่กันอย่างแข็งขัน หากเวลานั้นมาถึง ตำหนักหยกสวรรค์ก็จะไม่ใช่ตำหนักหยกสวรรค์อีกต่อไป แต่เป็นสาขาของคฤหาสน์ปราณฟ้า
การประนีประนอมก็คือการเสียเกียรติ หากว่าเลือกหนทางนี้จริงๆแล้ว เมื่อหันกลับมามองย้อนดูตัวเอง มันจะมองดูคล้ายกับว่าถูกยึดครองซะมากกว่า คงจะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดการเป็นแน่ พวกเขาก็จะต้องยอมรับตรงจุดๆนี้ด้วย แต่การผูกติดกับกลุ่มอิทธิพลใหญ่ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายมหาศาล
แต่คฤหาสน์ปราณฟ้าก็จะค่อยๆแทรกซึมอย่างสมบูรณ์ หากเวลานั้นมาถึง ผู้หญิงทั้งหมดก็จะต้องถูกบังคับส่งตัวให้กับศิษย์ของคฤหาสน์ปราณฟ้า นี่ย่อมเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่ทว่าอย่างไรก็ตามที คิดที่จะใช้ไม้อ่อนบีบบังคับให้ฉี ซู่หยุนไปเป็นคู่นอนของคฤหาสน์ปราณฟ้า นี่จึงเป็นเรื่องที่ยี่ เทียนหยุนยอมรับไม่ได้เป็นอันขาด
เพื่อสัญญาว่าจะจงรักภักดีไม่ต่อต้าน ฉี ซู่หยุนจะต้องถูกจับ กลายไปเป็นคู่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเตะถูกจุดสำคัญของยี่ เทียนหยุนเข้าอย่างจัง มันจึงชวนให้เดือดดาลยิ่งนัก !!
" ไม่จำเป็นที่จะต้องแคร์ ต้นไม้ถูกโค่นออกไปผู้คนก็ย้ายเข้าอาศัย ข้ายังคงจำได้ ถึงครั้งแรกที่ท่านบรรพบุรุษก่อตั้งตำหนักหยกสวรรค์ขึ้นมา พวกท่านก็มาจากโลกภายนอก เริ่มสร้างทุกสิ่งทุกอย่างจากที่ไม่มีอะไรเลยโดยไม่ได้ยอมแพ้ แต่ ณ ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเรา เลือกสถานที่ดีหนทางก็ย่อมจะดีตาม !! " ฉี ซู่หยุนยังคงพูดอย่างต่อเนื่อง " หลังจากที่พวกเราแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ก็จะไม่มีใครกล้าที่จะขวางทางพวกเรา !! "
ภูมิหลังของพวกเขาไม่ค่อยจะดีนัก หากฐานพลังโดยรวมของพวกเขาแข็งแกร่งกว่านี้ละก็ มันก็คงจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา
บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็พยักหน้า ในปัจจุบันคงจะทำได้เพียงเท่านี้ ผู้ชนะเป็นเจ้าส่วนผู้แพ้ก็จะต้องถูกกำจัดทิ้งไป ถ้อยคำเหล่านี้ล้วนประจักษ์แก่พวกเขา ณ เวลานี้แล้ว เมื่อพละกำลังอ่อนแอก็ย่อมที่จะถูกกลืนกิน หากไม่อยากที่จะถูกกลืนกิน ก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น !!
" เราจะต้องแจ้งเตือนแก่ศิษย์ทุกคน ไม่อนุญาตให้ศิษย์คนใดออกสู่ด้านนอกซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ พวกเราจะต้องเคลื่อนย้ายผู้คนทั้งหมด ข้าหวังว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร " ฉี ซู่หยุนพูด
ผู้อาวุโสต่างก็พยักหน้า พวกเขาจะต้องเรียกบรรดาศิษย์ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด หากคฤหาสน์ปราณฟ้ารู้เรื่อง เกรงว่าถึงตอนนั้นมันก็อาจจะสายเกินไป
เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็เริ่มที่จะตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่าง ณ เวลานี้ยี่ เทียนหยุนก็ได้พูดกับฉี ซู่หยุนว่า " ป้า ข้าคงจะไม่ได้อยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว "
" เจ้าจะไปอย่างงั้นรึ ?? " ฉี ซู่หยุนจ้องเขม็ง เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ณ ขณะนี้ ยี่ เทียนหยุนยังคิดที่จะวิ่งพล่านไปทั่วอยู่อีกเรอะ ด้านนอกล้วนแล้วมีแต่อันตราย
" ข้าจะออกไปหาประสบการณ์ ขืนอยู่ที่นี่ ข้าคงจะเลื่อนระดับไม่ได้แน่ " เขาพูดด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น
ถึงแม้ว่าซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์จะเป็นสถานที่ที่ดี แต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำให้ยี่ เทียนหยุนยกระดับขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะใช้เคล็ดวิชาเทคนิคดูดซับพลังแห่งดวงดาวชั้นยอด ณ ที่แห่งนี้ มันกลับจะเป็นการสูบพลังวิญญาณของที่นี่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ง่ายดายเป็นอย่างมากที่จะทำให้ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้พังทลาย
ครั้งก่อนนั่นประลัยที่ดูดซับพลังงานของที่นี่ไป ยี่ เทียนหยุนนั้นไม่ได้ต้องการค่าประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ เป้าหมายของเขาไม่ได้ต้องการที่จะเพิ่มพละกำลังความแข็งแกร่งเพียงแค่ 1-2 ระดับ แต่เขาจะต้องเพิ่ม 5-6 ระดับขึ้นไป หากพลังของเขาไม่ไปถึงมาตรฐานขั้นแก่นวิญญาณระดับที่ 5 หรือ 6 แล้วละก็ เขาจะไปสู้กับศัตรูได้อย่างไร ??
อาเรย์อันยิ่งใหญ่ของซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ ค่อนข้างที่จะชำรุดทรุดโทรม และถ้าหากมันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป มันจะต้องพังทลายลง อย่างแน่นอน ด้วยความสามารถในปัจจุบันของยี่ เทียนหยุน เขาไม่สามารถที่จะซ่อมแซมฟื้นฟูสภาพของมันได้ อย่างน้อยๆมันก็จะต้องใช้ปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์เกรด 5 เป็นต้นไป มันจึงจะสามารถซ่อมแซมได้
ฉี ซู่หยุนยังคงนิ่งเงียบ ในท้ายที่สุดเธอก็ถอนหายใจออกมา " เทียนหยุน….. "
ต้องการจะพูดอะไรแต่น้ำตามันก็ไหลออกมาก่อน ทำได้แค่เพียงตะโกนเรียกชื่อของเขาเบาๆเท่านั้น
" ป้า ท่านไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นกังวลไปหรอก ข้าจะกลับมาโดยเร็วที่สุด ท่านไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของข้าหรอก " ณ เวลานี้ ยี่ เทียนหยุนนำหน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้าออกมาสวมใส่ลงบนใบหน้าของเขา ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นหน้ารองในทันที " ท่านมองดูซิ ใครที่ยังจะสามารถจำข้าได้อยู่อีก ?? "
" น….. นี่ จำไม่ได้จริงๆ สมบัติชิ้นนี้ของเจ้าทำไมมันถึงดูลึกลับถึงเพียงนี้ ?? " หลังจากที่ฉี ซู่หยุนเห็นใบหน้าของยี่ เทียนหยุนแล้ว พลันดวงตาคู่สวยของเธอก็ส่องประกายเจิดจรัสในทันที นี่ก็คือสิ่งที่ตัวเธอเป็นกังวลอยู่นั่นเอง
" เป็นไง แลัวนี่ท่านยังจะเป็นกังวลว่าตัวข้าจะถูกจดจำได้อยู่อีกหรือเปล่าละ ?? " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้มบางเบา
เมื่อมีหน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้าอันนี้อยู่กับตัว ต่อให้อิทธิพลของศัตรูจะใหญ่โตซักแค่ไหน พวกมันก็ไม่มีทางที่จะหายี่ เทียนหยุนพบ นี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด