Crazy Leveling System - ตอนที่ 121 ความวิตกกังวล
หลังจากที่ผู้อาวุโสเว่ยตกตายลง พวกเขาก็ถูกตัดสินแล้วว่าไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดยังถูกโค่น บรรดาผู้ที่เหลืออยู่ก็ทำได้เพียงแค่รอความตายเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตรวจสอบเก่อนี่ราวกับถูกยิงทะลุด้วยกระสุนปืน เขากลายเป็นถูกฆ่าตายอย่างทารุณในทันที !!
พลังที่รุนแรงเช่นนี้มันทำให้ในใจของพวกเขาพลันหนาวสั่น และถ้าหากว่าพวกเขารู้ว่า นี่ก็ยังมิใช่พลังทั้งหมดของยี่ เทียนหยุน ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีความคิดยังไงอีก
" ข้า….. พวกเรา จะไม่พูด….. " ผู้ตรวจสอบฟางเมื่อเห็นนัยน์ตาของยี่ เทียนหยุน พลันรู้สึกหนาวสั่น มันเหมือนเห็นสายตาที่ชั่วร้าย กว่าพวกเขาจะปีนป่ายประจบประแจงมาถึงตำแหน่งนี้ได้ มันช่างแสนลำบาก ไม่คิดเลยว่าตัวเองกับจะต้องมาตาย ณ ที่แห่งนี้ ภายในใจตอนนี้จะไปยินยอมน้อมรับได้อย่างไร
" มาถึงขั้นนี้แล้ว พูดไปแล้วมันยังจะมีประโยชน์อะไร ?? อย่าทำให้ข้าตองเสียเวลาจะดีกว่า !! "
แน่นอนว่ายี่ เทียนหยุนเมินเฉยต่อการร้องขอชีวิตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ออร่าสีแดงยังคงบุกตะลุย พวกเขาที่หวาดกลัวต่างก็หันหลังวิ่งหนี หมายที่จะวิ่งออกสู่ภายนอก แต่….. ณ เวลานี้ ยี่ เทียนหยุนก็ได้นำมือของเขาออกมา พลันพลังดูดอันน่าสะพรึงกลัวก็เคลื่อนออกเป็นวงเกลียว ราวกับเทอร์นาโนในแนวนอน ควบคุมพวกเขาทั้งสองเอาไว้ มันดูดพวกเขาทั้งสองเข้ามา แปะติดเข้ากับฝ่ามือของยี่ เทียนหยุน
ยี่ เทียนหยุนโคจรเทคนิคดูดซับพลังแห่งดวงดาวชั้นยอด เขาดึงพลังวิญญาณที่อยู่ภายในร่างกายของพวกเขาออกมาอย่างบ้าคลั่ง มันเปลี่ยนไปสู่ค่าประสบการณ์อันมั่งคั่งที่เพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้านี้ยี่ เทียนหยุนมีความคิดที่จะสูบพลังของผู้อาวุโสเว่ย แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะลงมือฆ่าในทันที เพื่อความปลอดภัย
ระหว่างการดูดซับ แน่นอนว่ายี่ เทียนหยุนไม่สามารถที่จะโจมตีใครได้ หากว่าเขาถูกลอบโจมตีขึ้นมา นี่ย่อมจะมิใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ดังนั้นหลังจากที่เขาสังหารผู้อาวุโสเว่ยเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันมาดูดซับพลังวิญญาณ เป้าหมายก็คือพวกเขา
กระบวนการนี้มันก็ไม่ได้กินระยะเวลานานเท่าใดนัก ใช้เวลาจัดการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถที่จะสูบพลังวิญญาณออกจนหมดแล้ว ไม่มีหลงเหลือ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับรวมกันทั้งหมดก็คือ 700,000 แต้ม โดยค่าประสบการณ์เฉลี่ยของคนทั้งสองนั้นเท่ากับ 300,000 แต้ม การแบ่งสันปันส่วนในการฆ่าพวกเขาทำให้ได้รับค่าประสบการณ์เป็นกอบเป็นกำ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากที่สูบพลังวิญญาณของฝั่งตรงข้ามแต่ละครั้งแล้ว ฆ่าพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็จะได้รับเป็นจำนวนมาก
" ยังไงซะคฤหาสน์ปราณฟ้า คฤหาสน์ปราณฟ้า….. ก็จะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไป….. "
พวกเขาต่างก็ตะโกนกันจนหมดแรง รู้ว่าตัวเองยากที่จะวิ่งหนี จะต้องตกตาย ในที่สุดจึงทำได้เพียงตะโกนคำเหล่านี้ออกมา
" ข้าได้พูดเอาไว้แล้วว่าต่อให้คฤหาสน์ปราณฟ้าไม่ได้มาหาเรื่องข้า ข้าก็จะไปถามหาเรื่องกับคฤหาสน์ปราณฟ้าเอง !! " ยี่ เทียนหยุนถอนหายใจอย่างเย็นชา เขาใช้กระบวนท่าหอกความเร็วสูงกับพวกเขาทั้งสองคนพร้อมกับเปิดรัศมีนำโชค
ยี่ เทียนหยุนไม่กล้าที่จะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดกลับไป แน่นอนว่าหากตำหนักหยกสวรรค์ยังอยากที่จะดำรงอยู่
" ตึง!! ประสบความสำเร็จในการฆ่าผู้ตรวจสอบฟาง ได้รับค่าประสบการณ์ 160,000 แต้ม แต้มคลั่ง 3,600 แต้ม ได้รับทักษะยุทธ์ฝ่ามือพลิกสวรรค์ เหยียบย่างดำดิน "
" ตึง!! ประสบความสำเร็จในการฆ่าผู้ตรวจสอบ ได้รับค่าประสบการณ์ 160,000 แต้ม แต้มคลั่ง 3,600 แต้ม ได้รับทักษะยุทธ์ฝ่ามือพลิกสวรรค์ เหยียบย่างดำดิน ได้รับหอกโบราณสวรรค์ รองเท้าบูสท์หยดเมฆ "
ระบบสร้างภาพจำลองทักษะยุทธ์ที่ซ้ำกัน นั่นหมายความว่า ยี่ เทียนหยุนมีทักษะยุทธ์ฝ่ามือพลิกสวรรค์ซึ่งเป็นทักษะที่ซ้ำกันอยู่เป็นจำนวน 3 เล่ม แต่ถ้าเป็นสิ่งเหล่านี้ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี ยี่ เทียนหยุนไม่ได้ใส่ใจตรงจุดนี้ สิ่งของเหล่านี้ก็คือทักษะยุทธ์ขั้นปฐพี ขายก็ได้ราคาดี แน่นอนว่ามีมากเท่าไรก็ย่อมที่จะขายได้มากขึ้นเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามภายใต้รัศมีนำโชค 10 เท่า ดูเหมือนว่าของบางอย่างที่ยี่ เทียนหยุนอยากได้มันจะไม่มี นี่ถึงจะเป็นการเพิ่มอัตราสิ่งของที่จะได้รับ แต่มันก็ยังไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่เขาได้ทักษะยุทธ์ขั้นปฐพีมา
" เทียนหยุน ฐานพลังของเจ้าทะลวงเข้าสู่ขั้นแก่นวิญญาณแล้วยังงั้นเรอะ ?? " ภายในใจของฉี ซู่หยุน ณ เวลานี้รู้สึกประหลาดใจอย่างล้นเหลือจะพรรณา ผู้อาวุโสเว่ยถูกยี่ เทียนหยุนฆ่าตายอย่างหมดสภาพ ความยากไม่มีให้เห็นเลย พวกเขาได้แต่ตกตะลึงจนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
ก่อนหน้านี้เขาได้ฆ่าศัตรูที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น พอมาตอนนี้เขาก็ได้สังหารผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณในทันที นี่เหตุผลที่แท้จริงแล้วการบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าขึ้นอย่างนั้นหรือ ??
บรรดาผู้อาวุโสตำหนักหยกสวรรค์เป็นจำนวนมากต้องการที่จะสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่างๆเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีใครที่จะกล้าถามออกไป ฐานบ่มเพาะพลังของยี่ เทียนหยุนในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าพวกเขาเป็นอย่างมาก ไหนเลยพวกเขาจึงจะกล้าถามเฉกเช่นเดียวกับฉี ซู่หยุน แต่สำหรับตัวเธอแล้ว ขอเพียงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับยี่ เทียนหยุน ตัวเธอก็มีความสุขแล้ว
" ไม่ ตัวข้ายังไม่ได้เลื่อนเข้าสู่ขั้นแก่นวิญญาณแต่อย่างใด " ยี่ เทียนหยุนพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย
" อะไรนะ….. "
สีหน้าของพวกเขาต่างก็พากันช็อคอ้าปากค้าง ฐานพลังยังไม่ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นแก่นวิญญาณ ยังสามารถต่อสู้กับระดับที่สูงกว่า แถมยังฆ่าผู้อาวุโสเว่ยตายในทันที หากสามารถทะลวงเข้าสู่ฐานพลังในชั้นแก่นวิญญาณได้ แล้วยี่ เทียนหยุนจะเป็นยังไง ??
" ถ้าทะลวงเข้าสู่ชั้นแก่นวิญญาณได้ แล้วสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ?? " ผู้อาวุโสใหญ่ต่างก็มองหน้ากันอย่างแปลกๆ พวกเขาต่างก็มองเห็นถึงความตื่นตระหนกจากดวงตาของอีกฝ่าย
เดิมทีพวกเขาต่างก็คิดกันว่าฉี ซู่หยุนจะสามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่ขั้นแก่นวิญญาณได้ในเร็ววัน แต่ ณ ปัจจุบันกลายเป็นยี่ เทียนหยุนที่ใกล้เคียงที่สุด และถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เลื่อนระดับชั้น แต่เขาก็สามารถที่จะฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณลงได้ !! สิ่งนี่มันทำให้พวกเขาช็อคเป็นที่สุด
" ปัจจุบันปัญหาเดียวที่ดูใหญ่โตก็คือ คฤหาสน์ปราณฟ้า หากฝั่งนั้นทราบข่าวของที่นี่เข้าแล้วละก็ จะต้องนำกำลังเข้าโจมตีอย่างแน่นอน….. "
หลังจากสังหารเหล่าผู้มาเยือนทั้งหมดลงแล้ว ในใจของบรรดาผู้อาวุโสตำหนักหยกสวรรค์ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นในทันที ท้ายที่สุดปัญหาก็ถูกจัดการ แต่….. แท้จริงแล้วมันก็แค่เริ่มต้น พวกเขาได้ทำการสังหารผู้ตรวจสอบไป 3 คน ผู้อาวุโสอีก 1 คฤหาสน์ปราณฟ้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องเข้าบดขยี้ตำหนักหยกสวรรค์ มิฉะนั้นแล้ว คงไม่อาจบรรเทาความโกรธความในใจของพวกเขาลงได้เป็นแน่
ในเมื่อสถานการณ์ปัจจุบันเป็นแบบนี้แล้ว จึงเป็นปกติที่เหล่าผู้อาวุโสจะต้องกระวนกระวายวิตกกังวลอยู่ลึกๆเป็นธรรมดา ณ ตอนนี้ ข่าวข้อมูลสถานการณ์ของทางนี้ไม่มีทางเลยที่จะแพร่กระจายไปถึงฝั่งนั้นได้ แต่มันก็แค่ชั่วคราว ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องตระหนกถึงสิ่งที่ผิดปกติ ว่าทำไมตั้งนานแล้วกลุ่มบุคคลที่ส่งไปถึงยังไม่กลับมาซักที เช่นนั้น….. คงจะเกิดอุบัติเหตุกับพวกเขาเป็นแน่
ณ เวลานี้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็พากันเงียบงัน ฐานพลังของยี่ เทียนหยุน ณ เวลานี้ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งขึ้นก็ตามที แต่พลังอำนาจของคฤหาสน์ปราณฟ้านั้นมิใช่สิ่งที่จะต่อกรได้โดยง่าย เพียงผู้อาวุโสเว่ยคนเดียวก็อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งหมดแล้ว
ถึงแม้ยี่ เทียนหยุนจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณระดับ 2 ลงได้ แต่ถ้าเจอเข้ากับระดับ 5 ละ ?? หรือแม้กระทั่งระดับ 7 ?? นี่มิเท่ากับเจอทางตันอย่างแท้จริงกระนั้นหรือ นี่ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้ข้ามระดับที่มากมายขนาดนี้
" คฤหาสน์ปราณฟ้าสำหรับข้าแล้ว การจะบดขยี้พวกเขาย่อมมิใช่เรื่องยากเย็นอันใดเลย " ยี่ เทียนหยุนกล่าวออกอย่างเคร่งขรึม
หากว่านี่เป็นเสียงพูดของผู้อื่นแล้วละก็ แน่นอนว่านี่ย่อมที่จะเป็นคำพูดที่ฟังดูเลื่อนลอยโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงหัวนอนปลายเท้าของตนเองแต่อย่างใดเลย หมายจะทำในสิ่งที่ไม่สามารถจะทำสำเร็จได้ คิดที่จะเผชิญหน้ากับคฤหาสน์ปราณฟ้าอย่างงั้นหรือ ไม่รู้จักตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูพละกำลังของตัวเองเลยหรืออย่างไร ?? แต่อย่างไรก็ตามที สำหรับยี่ เทียนหยุนแล้ว เมื่อก่อนทุกคนก็ยังจำกันได้ดี เขาสามารถที่จะต่อกรกับ 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ได้ ตราบใดที่ให้เวลากับเขา เขาก็คงจะสามารถบดขยี้คฤหาสน์ลงได้โดยไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
แต่….. ในตอนนี้มันมีเวลาให้อย่างเหลือเฟือ ??
" พวกเราเชื่อว่าเจ้าสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ เพียงแต่ในตอนนี้….. " บรรดาผู้อาวุโสต่างก็เชื่อมั่นในบุคลิกลักษณะของยี่ เทียนหยุน ถึงแม้ผู้คนทั้งหมดจะเห็นต่าง แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังเชื่อมั่น ว่าเขาจะต้องทำได้ สร้างปาฏิหารย์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตราบใดที่ให้เวลากับเขา ทุกอย่างย่อมแตกต่างออกไป
" ข้านั้นมีเรื่องราวที่อยากจะบอกกล่าวให้พวกท่านได้ฟังกัน ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อคราวก่อนที่ข้าได้ปิดบังเอาไว้ มาในตอนนี้ก็เลยอยากที่จะบอกกล่าวให้พวกท่านได้รับรู้กัน " ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาของเขาลงแล้วพูดว่า " ทุกท่านโปรดมาด้วยกันกับข้า !! "
บรรดาผู้คนทั้งหลายที่อยู่ ณ ที่นี้ ต่างก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา (ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันดี) ไม่รู้ว่ายี่ เทียนหยุนกำลังจะบอกกล่าวอะไรกับพวกเขา ฉี ซู่หยุนว่าจะถามแต่ก็ไม่ได้ถาม ก่อนหน้านั้นตัวเธอได้ให้หลิว เสี่ยวเหลียนกลับไปก่อนหน้านี้แล้ว
พวกเขาออกจากตำหนักหยกสวรรค์ด้วยการขี่พญาเหยี่ยว มุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์ พญาเหยี่ยวพวกนี้ควบคุมได้ไม่ยาก ของดีๆของคฤหาสน์ปราณฟ้าก็เสร็จพวกเขาทั้งหมด
" เส้นทางนี้มิใช่มุ่งหน้าไปที่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อย่างงั้นหรือ ?? " ผู้อาวุโสต่างมองดูเส้นทางที่มุ่งไป
" ใช่แล้ว มันกำลังมุ่งหน้าไปยังซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์ " ยี่ เทียนหยุนกล่าวเสียงเรียบ
" นี่….. " พวกเขาทั้งหมดต่างก็มองหน้ากันไปมา ในใจต่างก็เริ่มที่จะเดาเรื่องเดาราว ครานั้นเมื่อซากปรักหักพังโบราณสถานปิดลง เหตุผลมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ ยี่ เทียนหยุนสามารถที่จะเปิดมันออกได้ !!
ใบหน้าของฉี ซู่หยุนดูยิ้มแย้ม คงจะไม่ต้องถามเรื่องราวอะไรต่ออีกแล้ว การกระทำของยี่ เทียนหยุนมันอธิบายได้เป็นอย่างดี ณ วินาทีนี้