หากจะให้เอ่ยถึงการรุมล้อมกันเข้าโจมตีของ 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่เมื่อครานั้น แล้วคฤหาสน์ปราณฟ้าเลือกที่จะไม่สนับสนุน เข้าช่วยเหลือ สีหน้าของผู้ตรวจสอบเก่อดูจมลง หากจะให้พูดเกี่ยวกับปัญหานี้ มันก็เป็นปัญหาที่ไม่ได้อึดอัดใจอะไร กลับกันมันค่อนไปในทางตรงกันข้าม ที่แสนจะน่ารังเกียจและชิงชัง ในเวลานั้นที่พวกเขาไม่เลือกที่จะสนับสนุนตำหนักหยกสวรรค์ เหตุก็เพราะว่า 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ได้พูดเอาไว้แล้วว่า ต่อไปพวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับคฤหาสน์ปราณฟ้า นี่จึงเป็นเหตุให้คฤหาสน์ปราณฟ้าเลือกที่จะสนับสนุนพวกเขาแทน
แต่ไม่คิดเลยว่า ผลที่ออกมา 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ให้พวกเขาไปยึดตำหนักหยกสวรรค์ แต่ไม่คิดเลยว่า อิสตรีของตำหนักหยกสวรรค์จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
" เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องพูด ณ เวลานั้นความแข็งแกร่งของพวกเจ้ามันช่างอ่อนแอ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้คฤหาสน์ปราณฟ้าของพวกเรา จะต้องกำจัดพวกเจ้า แต่ ณ ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเจ้าได้บรรลุถึงมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้แล้ว ดังนั้นพวกเจ้าจึงกลายเป็นผู้มีคุณสมบัติที่สามารถจะเข้าร่วมกับพวกเราได้ " ผู้ตรวจสอบเก่อกล่าวออกอย่างเคร่งขรึม " หากจะเข้าร่วมกับพวกเรา แต่พละกำลังอ่อนแอ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม !! แต่ ณ ตอนนี้ ระดับของพวกเจ้าแตะถึงเกณฑ์มาตรฐานแล้ว จึงสามารถที่จะเข้าร่วมกับพวกเราได้ นี่บรรดาพวกเจ้าไม่รู้กฏข้อนี้อย่างงั้นเรอะ ?? หากความแข็งแกร่งอ่อนแอจนเกินไป เจ้าคิดหรือว่า พวกเราจะต้องการเจ้านะ ?? อย่างไร้เดียงสาไปหน่อยเลย ก็โตๆกันแล้วมิใช่เด็กสามขวบ !! "
หนังหน้าของผู้ตรวจสอบเก่อคงจะหนาเป็นอย่างมาก บอกความจริงออกมาทั้งหมด มิได้ปกปิดเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว หากระดับอยู่ในขั้นต่ำจนเกินไป ก็จำจะต้องถูกกำจัด ผู้ที่ใหญ่กว่าก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ และผู้ที่ด้อยกว่าก็จะต้องถูกชะล้างออกไป นี่คือหลักการ
คำพูดของผู้ตรวจสอบเก่อ ไม่ได้ทำให้ยี่ เทียนหยุนรู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด คำตอบของปัญหานี้สามัญชนเป็นอย่างมาก แล้วเขาจะถามเพื่อ
" ความจริงในข้อนี้ ข้าย่อมจะเข้าใจอย่างแน่นอน เมื่อไร้ซึ่งพลัง ก็ย่อมไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม จำต้องถูกกำจัด ไม่ให้ผสมปนเปเข้าด้วยกัน ขอบคุณ " ยี่ เทียนหยุนตอบสนอง " แต่พวกเราต้องการที่จะอาศัยความพยายามของตัวเอง ที่จะทำให้ตัวเองนั้นเฟื่องฟู ไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมกับนิกายหน้าไหนก็ตามที ต้องการที่จะพึ่งพาอาศัยแต่พละกำลังของตนเอง สิ่งนี้มันจะเป็นดั่งคานหนุนที่ค้ำจุนไปทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์ !! "
นิกายจำนวนมากต่างก็มีกฏเป็นของตัวเอง พรสวรรค์ไม่ดีก็ย่อมไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วม พละกำลังไม่ดีก็ย่อมไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วม นับเป็นกฏข้อเดียวกันโดยพื้นฐาน ทว่ามาในตอนแรกคิดที่จะกำจัด พอมา ณ ปัจจุบันนี้เรียกร้องจะให้เข้าร่วม ไร้เหตุผลสิ้นดี !!
คำพูดของยี่ เทียนหยุนมันทำให้ดวงตาของบรรดาผู้อาวุโสต่างก็เป็นประกาย พวกเขาต้องการคำพูดแบบนี้ คิดที่จะกำจัด แน่นอนว่ามันย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไปเข้าร่วมด้วย เชื่อมั่นในความวิริยะอุตสาหะของตัวเอง ก็สามารถที่จะรุ่งเรืองได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเข้าร่วมกับไอ้พวกพวกเกรด 3 ที่คิดจะกำจัดพวกเราทิ้งตั้งแต่ตอนแรก !!
แต่ไหนแต่ไรมาตำหนักหยกสวรรค์ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคฤหาสน์ปราณฟ้า ศิษย์เป็นจำนวนมากของที่นี่ต่างก็ประสบความสำเร็จ แต่งงานแต่งการกับศิษย์ของคฤหาสน์ปราณฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แยแสต่อความสัมพันธ์นี้เลย เลือกที่จะตัดขาด หากตำหนักหยกสวรรค์มีพละกำลังก็คงจะไม่ถูกกำจัด หากพิจารณาให้รอบคอบแล้วจะพบว่าทั้งสองนั้นไม่ได้ติดต่อกันเลยถึงแม้ว่าความสัมพันธ์จะดูไม่เลวก็ตามที ในเมื่อครั้งนั้นเลือกที่จะไม่ช่วยพวกเขา บวกกับคำรับสารภาพอันแท้จริง นี่ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาเลือกที่จะเข้าร่วม
" ….. "
ผู้ตรวจสอบเก่อถึงกับปรบมือให้ เขามองดูอย่างดูถูกพร้อมกับพูดว่า " ดี เยี่ยม ตอบว่าจะยืนขึ้นด้วยลำแข้งของตัวเองเพื่อที่จะก้าวหน้า จะเป็นดั่งคานหนุนที่ค้ำจุนทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์ได้ด้วยตนเอง !! พวกเจ้ากะอีแค่ประสบความสำเร็จในการถอนรากถอนโคน 3 กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 เล็กๆ คิดจริงๆหรือว่าตัวเองนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งนะ ?? ลำพังเพียงแค่กลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ธรรมดาๆก็สามารถที่จะเข่นฆ่าพวกเจ้าลงได้แล้ว !!
บรรดาเหล่าผู้อาวุโสเป็นจำนวนมากที่อยู่ที่นี่ต่างก็มีสีหน้าดูเร่อร่า มองดูผู้ตรวจสอบเก่อด้วยความเย็นชา อย่างนี้เขาไม่เรียกข่มขู่คุกคามอย่างนั้นหรือ ??
" กลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ธรรมดาๆถึงแม้จะสามารถทำลายพวกเราลงได้อย่างราบคาบก็จริง แต่ตราบใดที่พวกเราไม่ไปยั่วยุพวกเขา สถานที่อันแสนห่างไกลเล็กๆนี้ ก็จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน " ฉี ซู่หยุนพูดออกมาอย่างไม่แยแส
" ยอดเยี่ยมมาก !! มันดูเหมือนว่า ข้าอยากจะให้แสดงความยินดี ฉลองร่วมกัน ร่วมกินร่วมดื่มด้วยกันกลับไม่ชอบ ชอบที่จะถูกจ่ายเงินค่าปรับ " ออร่าอันชั่วร้ายออกมาจากนัยน์ตาของผู้ตรวจสอบเก่อ เขาพูดด้วยความหยิ่งยโสว่า " ข้าจะกำจัดขยะเช่นพวกเจ้าทิ้งซะ คฤหาสน์ปราณฟ้าของพวกเราจะต้องควบคุมภูมิภาคแถบนี้ ดังนั้นแล้วพวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับนิกาย ที่พวกเราได้คัดสรรแล้วในภูมิภาคแถบนี้ พวกเจ้าในตอนนี้คือนิกายที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก !! ณ ตอนนี้ ข้าจะมอบทางเลือกให้แก่พวกเจ้า ถ้าเจ้ายินยอมที่จะเชื่อฟังพวกเรา ไม่เพียงแต่จะยังมีชีวิตรอดเพียงเท่านั้น แต่ยังจะสามารถได้รับวัตถุดิบที่หลากหลายเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทางเลือกที่สอง พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องหายไปจากโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์ !! "
ในที่สุดผู้ตรวจสอบเก่อก็พูดความจริงออกมา หลังจากที่เบื้องหน้าพยายามที่จะบังคับตัวเอง ควบคุมอารมณ์อยู่พักใหญ่ แต่เมื่อโดนปฏิเสธ แผนชั่วก็เปิดออกพร้อมๆกับมีดที่เก็บซ่อนเอาไว้ กลิ่นอายของคนทั้ง 3 ถูกปลดปล่อยออกมาในทันที มาตราฐานของผู้ที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับ 7 และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังทั้งหมดที่คฤหาสน์ปราณฟ้ามี ไม่ได้หมายความว่าพวกที่มาที่นี่จะเป็นขุมพลังที่แท้จริงของคฤหาสน์ปราณฟ้า
สีหน้าของบรรดาผู้อาวุโสต่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเจอเข้ากับระดับออร่าของทั้งสามคน พวกเขาต้องถอยร่นไปอยู่ข้างหลังหลายก้าว ออร่านี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ครานั้นเมื่อเผชิญหน้ากับระดับของเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลาย ต่างก็ทำให้รู้ซึ้งได้เลยว่า ถึงแม้ว่าฐานพลังของคนกลุ่มนี้จะด้อยกว่าบรรดาบรรพบุรุษเหล่านั้นก็ตามที แต่ออร่าที่ปะทุออกมา หากเปรียบเทียบกับบรรดาบรรพบุรุษเหล่านั้นแล้วละก็ ย่อมที่จะแข็งแกร่งกว่า
เหตุผลก็แสนที่จะธรรมดาสามัญเป็นอย่างมาก คนกลุ่มนี้ยังหนุ่มยังแน่น สมบัติก็มีเป็นจำนวนมากกว่า เคล็ดวิชารึก็แข็งแกร่งกว่า !!
สีหน้าของยี่ เทียนหยุนมองดูพวกเขาอย่างไม่แยแส ดวงตาตรวจสอบแสดงผลของมันขึ้นมา
ผู้ตรวจสอบเก่อ : ฐานพลังขั้นแก่นการควบแน่นระดับ 7 สวมใส่ชุดเกราะอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอด ตัวเลขสังเคราะห์ค่าพละกำลังการต่อสู้อยู่ที่ 160,000 แต้ม !! จุดอ่อนก็คือ ธาตุไม้ แต่ทำได้เพียงพัวพันเหนี่ยวรั้งถ่วงเวลาเอาไว้ได้แค่นั้น ไอเทมหลังการฆ่าก็คือ ฝ่ามือพลิกสวรรค์ (ทักษะยุทธ์ขั้นปฐพีระดับต่ำ) เหยียบย่างดำดิน (ทักษะเคลื่อนไหวขั้นปฐพีระดับต่ำ)…..
ผู้ตรวจสอบฟาง…..
ข้อมูลปัจจุบันของพวกเขาปรากฏออกมา ยังไม่ได้เปิดใช้ทักษะยุทธ์และนำอาวุธออกมา ก็สามารถที่จะแตะระดับตัวเลขค่าประสิทธิภาพพละกำลังการต่อสู้ที่ 160,000 แต้มได้แล้ว หากดึงอาวุธออกมาก็น่าจะแตะตัวเลขคร่าวๆอยู่ที่ประมาณ 180,000 – 190,000 แต้มอย่างแน่นอน หรือแม้กระทั่ง 200,000 แต้ม
จริงๆแล้วมาตรฐานของกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 หากเปรียบเทียบกับบรรดาบรรพบุรุษเฒ่าเหล่านั้นแล้ว แข็งแกร่งกว่าเป็นอย่างมาก
" ดูเหมือนว่า เจ้าจะคิดแบบนี้มาตั้งแต่ต้นละซินะ !! " ฉี ซู่หยุนพูดอย่างเย็นชา
" ใช่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เจ้าก็จะต้องยอมจำนนแก่พวกเรา !! หรือไม่ก็ยอมตาย ไม่มีทางอื่นให้เลือก ณ ตอนนั้น 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่เตรียมที่จะรวมกลุ่มอิทธิพลต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยพวกเราปกครองภูมิภาคแถบนี้ ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะถูกกำจัดโดยเจ้า ซึ่งอันที่จริงนี่ก็เป็นเรื่องที่เราไม่ได้คาดคิดกันมาก่อน ว่าตำหนักหยกสวรรค์ของเจ้าจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ เลยทำให้มีข้อผิดพลาดตามมาโดยไม่คาดคิด " ผู้ตรวจสอบเก่อพูดจาเยาะเย้ยต่ออีกว่า " คำพูดที่กล่าวปฏิเสธของพวกเจ้า ข้าคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยเป็นอย่างมาก ข้าได้เลือกนิกายอื่นเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป คานหนุนของตำหนักหยกสวรรค์จะต้องถูกทำลาย พวกเจ้าจะไม่ได้ดำรงอยู่อีกต่อไป !! "
" ดูเหมือนว่าการจะกำจัดตำหนักหยกสวรรค์ทิ้งไปเนี่ย เจ้าจะมีความมั่นใจมากเลยยังงั้นละซินะ ?? " สีหน้าของฉี ซู่หยุนดูไม่ได้แยแสใส่ใจต่ออะไร เธอไม่ได้มีความกลัวอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว วันคืนที่ผ่านไป ฐานพลังของเธอนั้นก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอสามารถที่จะทะลวงเลื่อนเข้าสู่ระดับ 8 ของขั้นแก่นการควบแน่นได้แล้ว !!
ผู้ตรวจสอบเก่อพลันหรี่ตา เขาเพ่งมองไปที่ฉี ซู่หยุน พูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า " ข้ารู้ว่าเจ้านั้นมีผู้ช่วยอยู่ ข้าประเมินเอาไว้แล้วว่า ผู้ช่วยของเจ้าจะต้องอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับสูงสุดหรือแม้กระทั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทะลวงเข้าสู่ระดับแก่นวิญญาณ !! พวกเราต่างก็เดากันว่า น่าจะเป็นบรรพบุรุษผู้เฒ่าหรือไม่ก็ผู้ช่วยคนอื่น มิฉะนั้นแล้ว 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ จะถูกพวกเจ้าทำลายได้อย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน ?? ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็รีบตะโกนเรียกผู้ช่วยของเจ้าออกมา ให้พวกเราได้เปิดหูเปิดตากันหน่อย ว่าอันที่จริงแล้ว เขาจะแข็งแกร่งซักแค่ไหน !! "
บรรดาผู้อาวุโสต่างก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด ผู้เชี่ยวชาญที่ทำลาย 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ลงอย่างราบคาบ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกรึ
มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้จักตัวละครที่ชื่อ ยี่ เทียนหยุนจริงๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เข่นฆ่า 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ แต่กลับไปได้ยินว่า มีสุดยอดผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยทำลายกลุ่มอิทธิพลใหญ่ทั้งสาม เรื่องราวที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรอันนี้พวกเขาก็ไม่ได้รู้แน่ชัด แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาต่างก็คิดกันไปว่า คงจะไม่ใช่ยี่ เทียนหยุนอย่างแน่นอน เพราะว่าตัวเขานั้นยังดูเป็นผู้เยาว์อยู่เลย
ฉี ซู่หยุนนั้นมีพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เป็นอย่างมากอยู่แล้ว แล้วมันจะเป็นไปได้เรอะว่ายี่ เทียนหยุนก็มีพรสวรรค์ที่้ท้าทายสวรรค์ด้วยเหมือนกันนะ ??
พวกเขาต่างก็รอคอยกันอยู่ซักพัก ผู้ช่วยก็ยังไม่ปรากฏ
" รึคนๆนี้หลบซ่อนตัวอยู่ ไม่กล้าที่จะออกมาอย่างงั้นเรอะ ?? รึว่าจะออกจากที่นี่ไปแล้ว ?? " ผู้ตรวจสอบเก่อพูดดูถูกเย้ยหยันไปยิ้มไป " เหมือนว่าเขาจะหลบอยู่ในสถานที่ซ่อนละซินะ ดูเหมือนว่าเขาคงจะเป็นเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่แต่ในกระดอง หรือไม่ก็ไม่มีพละกำลัง !! ณ ตอนนี้ ข้าจะพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า หากไม่ยอมจำนนต่อพวกเราหรือเชื่อฟังคำสั่งของพวกเราแต่โดยดี ก็จะต้องถูกกำจัดจนสิ้นซาก !! ส่วนเจ้าตำหนักฉี จะต้องกลับไปกับพวกเรา เจ้าคฤหาสน์ของพวกเรากำหนดมาว่า จะต้องเก็บเจ้าเอาไว้ ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า สมควรที่จะมาเป็นคู่นอนของเจ้าคฤหาสน์ของพวกเรา ที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าแล้ว ลูกหลานที่ออกมา จะต้องกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน !! "
คำพูดเพิ่งจะจบลง ร่างร่างหนึ่งก็ปะทุพลังพุ่งเข้าหาในทันที ผู้พูดก็ถูกกระแสลมที่ออกมาจากฝ่ามือ พัดจนกระเด็นลอยไป รอยบวมปูดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัดบนใบหน้าของเขา ฟันต่างก็ร่วงกระเซ็นหลุดลงที่พื้น เลือดกลบปาก
" เจ้าคฤหาสน์ของเจ้าคงจะไม่ใช่หมูหรอกนะ มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาแต่งงานกับป้าของข้า มิหนำซ้ำยังจะพาไปเป็นคู่นอนอีกนะ ?? ให้มันไปเสพสังวาสกับสุกรตัวเมียตัวอื่นเถอะ !! "
คนที่ลงมือย่อมมิใช่ใครอื่น เป็นยี่ เทียนหยุน !! เขาจะทนฟังคนที่พูดแบบนี้ได้อย่างไร ยี่ เทียนหยุนจึงได้ระเบิดพลังขึ้นมาในทันที ใครกันที่มันกล้าพาตัวฉี ซู่หยุนไป มันจะเป็นชีวิตของใครก็แล้วแต่ มันต้องตาย !!
