ยี่ เทียนหยุนนำหลิว เสี่ยวเหลียนกลับสู่ตำหนักหยกสวรรค์อย่างรวดเร็ว ตลอดการเดินทางก็เป็นไปอย่างราบรื่น ในตอนนี้ขนาดนิกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุ สร้างความรำคาญใจให้กับตำหนักหยกสวรรค์ 3 กลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ถูกทำลายลง อย่างย่อยยับ แม้กระทั่งถอนรากถอนโคน ตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 หน้าไหนเลยที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้
ดังนั้นแล้วจากเหตุการณ์อันสำคัญนี้ ทำให้ตำหนักหยกสวรรค์ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 แต่ก็สามารถที่จะกำราบกลุ่มอิทธิพลหลักของเกรด 2 ลงได้ กลายเป็นตัวตนของกลุ่มอิทธิพลที่ใกล้เคียงกับเกรด 3 ที่ดำรงอยู่ แต่อย่างไรก็ตามที ข่าวสารเกี่ยวกับกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 นั้นมักจะไม่เป็นที่รับรู้กัน ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 นั้น มิใช่ว่ากลุ่มอิทธิพลเกรด 2 จะมาเผยอเทียบเคียงได้ มันห่างกันแสนไกล
ธรรมดาแล้วกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 สามารถที่จะบดขยี้กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ลงได้อย่างสบายๆ ไร้ซึ่งเศษเสียวแห่งความกังวลใจใดๆ
นั่นก็เพราะว่าเงื่อนไขที่จะกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ได้นั้น อย่างน้อยๆก็จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณมากกว่า 3 คน มีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นมากว่า 10 คน จึงจะสามารถผ่านความต้องการกลายมาเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ได้
นี่เป็นเงื่อนไขแค่เพียงเบื้องต้นเท่านั้น สำหรับกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ที่ทรงพลังอย่างยอดเยี่ยมจนยากที่จะหาคู่เปรียบนั้น ย่อมจะต้องมีเหล่าบุคลากรคุณภาพที่มากกว่านี้อย่างแน่นอน หรือแม้กระทั่งรวมไปถึงพละกำลังของผู้ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาก็จะต้องมี !! แล้วการที่จะบรรลุกลุ่มอิทธิพลเกรด 4 ได้นั้น เงื่อนไขที่ต้องการก็จะยิ่งน่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงเหล่าตัวตนของผู้คนระดับนั้นในภูมิภาคแถบนี้ นั่นก็เพราะว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่ข่าวสารมันจะเชื่อมต่อถึงกัน
" เมื่อถึงเวลา ก็คงจะสามารถทำภารกิจหลักให้เสร็จสมบูรณ์ลงได้ ภายใต้เม็ดยาโอสถเป็นจำนวนมาก ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถดันตำหนักหยกสวรรค์เลื่อนขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้ !! "
สายตาของยี่ เทียนหยุนเป็นประกาย กลุ่มอิทธิพลเกรด 3 นั้นยากเกินไป แต่สำหรับกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 แล้วละก็ เขาคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
" นายน้อย ในที่สุดพวกเราก็กลับถึงตำหนักหยกสวรรค์แล้ว " หลิว เสี่ยวเหลียนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า ขณะที่พวกเขายังเดินทางมาไม่ถึง แต่ก็ยังสามารถที่จะมองเห็นยานพาหนะรถขนนกอันหรูหราหลายคันจากที่ระยะไกล มันจอดอยู่ ณ บริเวณประตูปากทางเข้า พญาเหยี่ยวหลายต่อหลายตัวต่างก็พากันเดินเตร็ดเตร่ไปมา พื้นดินนั้นเต็มไปด้วยรอยเท้าของพวกมัน จมเป็นรอยลึกที่ปรากฏอยู่ในเขตพื้นที่หิมะตก
" น….. นี่ นี่มันพญาเหยี่ยวนี่….. " หลิว เสี่ยวเหลียนถึงอุทานเสียงดังออกมา เหล่าพญาเหยี่ยวพวกนี้มันชวนให้เธอรู้สึกหวาดกลัว
ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาชำเลืองมองไปที่รถขนนกอันดูหรูหรา ที่เป็นยานพาหนะทั้งหลายเหล่านี้อย่างพินิจพิเคราะห์ พวกพญาเหยี่ยวเหล่านี้ฐานพลังของพวกมันนั้นอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับ 8 มันเป็นสัตว์อสูรที่มีอยู่อย่างชุกชุม พวกมันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ง่ายจะกำราบ พวกมันจะถูกนำไปใช้ประโยชน์มากที่สุดในเรื่องของการบิน คอยลากจูงบรรดารถขนนกหลายๆคันเมื่อยามบิน และถ้าจะให้เปรียบเทียบความเร็วของพวกมันในการเดินทางกับยานพาหนะชนิดอื่นนั้น มันย่อมที่จะเร็วกว่าหลายเท่า
รถขนนกอันนี้ก็คล้ายดั่งชื่อของมัน ด้านบนของตัวรถจะถูกเติมเต็มไปด้วยขนนก เพิ่มเติมด้วยอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แกะสลัก มันสามารถที่จะทำให้ทั่วทั้งตัวรถดูละมุนละไมปราดเปรียวแต่มั่นคง
" ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มอิทธิพลมาที่นี่….. "
สามารถที่จะนั่งพาหนะขนนกนี่มาได้ ย่อมไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลธรรมดาๆสามัญอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ทำอย่างนี้ไม่ได้แน่ มีพญาเหยี่ยวไว้ในครอบครอง สนนราคาก็สูงเทียมฟ้าเป็นอย่างมาก และก็ไม่สามารถที่จะชั่งด้วยเหรียญทองได้
ยี่ เทียนหยุนรีบนำหลิว เสี่ยวเหลียนกลับตำหนักหยกสวรรค์อย่างรวดเร็ว เพิ่งจะก้าวเข้ามา ด้านในก็อื้ออึงไปด้วยเสียงของการสนทนากัน
" เจ้าตำหนักฉี ขอร้องให้ท่านช่วยพิจารณาอย่างจริงจังด้วย ตราบใดที่ท่านได้เข้าร่วมกับเราคฤหาสน์ปราณฟ้า กลายมาผูกติดมีความสัมพันธ์กับพวกเราแล้วละก็ ผลประโยชน์ที่ตามมานั้น ย่อมจะมากมายอย่างแน่นอน กระทั่งทำให้ท่านซึ่งเป็นสาขาของพวกเรากลายมาเป็นกลุ่มอิทธิพลที่มีความสำคัญ เจ้าจะมีอำนาจเท่ากับกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ที่นี่พวกท่านจะเดินเอียง เดินตะแคงยังไงก็ได้ ล้วนไม่มีปัญหา " เสียงที่ถ่ายทอดออกมาฟังดูหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก น้ำเสียงฟังดูเหินห่าง ถึงแม้ว่าเนื้อหาของการประชุมในครั้งนี้ จะต้องมีเนื้อหาที่โน้มไปในทิศทางของการร่วมอภิปรายกัน ปรึกษาหารือวางแผนกัน แต่ในตอนนี้มันเป็นอะไรที่มากไปกว่านั้นก็คือ มันดูเป็นการเจรจาที่แข็งกระด้าง
" ผู้ตรวจสอบเก่อ ข้าต้องขอประทานโทษด้วย ตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเราไม่ต้องการที่จะผูกติดมีความสัมพันธ์กับท่านเป็นการชั่วคราว สถานการณ์ของตำหนักหยกสวรรค์ในปัจจุบัน พวกเราหวังที่จะรักษาสภาวะดั้งเดิมของพวกเราเอาไว้ ทะนุบำรุงรักษารากฐานของพวกเราที่บรรดาบรรพบุรุษได้ส่งต่อผ่านกันมารุ่นสู่รุ่น " ฉี ซู่หยุนทำการตอบปฏิเสธโดยใช้คำพูดอันชาญฉลาด
ผู้ตรวจสอบเก่อขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าประชากรของทางฝั่งคฤหาสน์ปราณฟ้าที่มาจะมีไม่มากนัก พวกเขามาด้วยกันทั้งหมด 3 คน แต่ฐานพลังของทุกคนก็อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น ผู้ตรวจสอบเก่อมีฐานบ่มเพาะพลังที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับ 7 ฐานพลังนั้นเท่ากับฉี ซู่หยุน แต่ถึงแม้ว่าฐานพลังจะเหมือนกัน ทว่าหากเปรียบเทียบกันแล้ว ผู้ตรวจสอบเก่อนั้นย่อมที่จะแข็งแกร่งกว่า แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ระดับทักษะยุทธ์ของทางฝั่งคฤหาสน์ปราณฟ้าจะด้อยกว่าของตำหนักหยกสวรรค์
ที่นี่สิ่งล้ำค่าในหมู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 รึก็คือทักษะยุทธ์ระดับปฐพี แต่สำหรับกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 แล้วคุณภาพของทักษะยุทธ์ย่อมที่จะเหนือกว่าในหลายๆจุด ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตามที นี่มันจึงไม่มีอะไรให้น่าหวาดกลัวสำหรับพวกเขาเอาซะเลย
" เฮ้อ !! ท่านจะตอบปฏิเสธการเชื้อเชิญของกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 อย่างงั้นเรอะ ?? " ผู้ตรวจสอบเก่อพูดอย่างไม่แยแสยิ่งขึ้นไปอีกว่า " ผู้อื่นแม้นขอร้อง ก็ยังมิอาจที่จะได้รับคำเชื้อเชิญอย่างนี้ได้ พวกเรามาที่นี่พร้อมกับความคาดหวังอันสูงส่งที่มีในตัวของพวกท่าน หากไม่มีเราคอยช่วยเหลือ แม้นท่านต้องการที่จะเลื่อนขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 แล้ว หากว่ากันโดยพื้นฐานย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ !! "
คิ้วของฉี ซู่หยุนพลันยกสูงขึ้น คำกล่าวหานี้ดูค่อนข้างที่จะมั่นใจจนเกินไป ในตอนนี้พวกเขาต่างก็สามารถที่จะมองเห็นอนาคตของตำหนักหยกสวรรค์ ตราบใดที่ยังคงดำเนินการเช่นนี้ต่อไป พวกเขาก็จะสามารถกลายมาเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้อย่างแน่นอน ความยากมันไม่ได้ใหญ่โตจนเกินไปนัก
เมื่อเธอต้องการที่จะพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป เสียงของยี่ เทียนหยุนก็ดังแทรกขึ้นมาว่า " ไม่ทราบว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไร ?? "
ยี่ เทียนหยุนนำหลิว เสี่ยวเหลียนเดินมา เขามองดูไปที่ผู้ตรวจสอบเก่อ เป็นกลุ่มอิทธิพลทรงพลังที่มาจริงๆ พวกที่ชอบทำตัวหยิ่งยโส ชอบที่จะดูถูกกลุ่มอิทธิพลที่มีสถานะต่ำต้อยกว่า แต่อย่างไรก็ตามที ความแตกต่างระหว่างทั้งสองมันก็มากมายมหาศาลจริงๆนั่นแหละ ขั้นแก่นการควบแน่นจะต้องมีมากกว่า 10 คน ลำพังแค่ขั้นปรับแต่งวิญญาณก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงเมื่อไหร่ แล้วอย่างงี้กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 สามารถที่จะตีตัวเสมอได้อย่างงั้นรึ ??
ผู้ตรวจสอบเก่อขมวดคิ้วมองดูยี่ เทียนหยุน การกระทำในลักษณะนี้เป็นการไม่ให้เกียรติเขาเป็นอย่างมาก " เจ้าตำหนักฉี นี่คือคนของท่านอย่างงั้นเรอะ ?? พูดแทรกตามอำเภอใจ นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่สุภาพเลย "
เมื่อฉี ซู่หยุนมองเห็นยี่ เทียนหยุนกลับมา เธอก็พลันแย้มยิ้มในทันที เธอหันมาตอบคำถามของผู้ตรวจสอบเก่อด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังว่า " เขาก็คือผู้อาวุโสของตำหนักหยกสวรรค์ มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการอภิปรายในครั้งนี้ได้ "
" ผู้อาวุโสของตำหนักหยกสวรรค์อย่างงั้นเรอะ ?? " ผู้ตรวจสอบเก่อขมวดคิ้ว คิดแล้วยังไงๆก็ไม่อยากที่จะเชื่อ เยาว์วัยขนาดนี้สามารถที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งของผู้อาวุโสเนี่ยนะ ??
พวกเขาต่างก็ได้ยินกันมาว่าอิทธิพลของตำหนักหยกสวรรค์นั้นไม่เลว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะค้นหาข่าวสารข้อมูลสืบค้นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้วก็ยังมิอาจที่จะหาคำตอบได้ ดังนั้นแล้วพวกเขาถึงมิได้รู้จักกับตัวละครที่ชื่อ ยี่ เทียนหยุนไง
" ใช่แล้ว ข้าก็คือผู้อาวุโสสี่ของตำหนักหยกสวรรค์ ไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงได้กล่าวหาพวกเรา ว่าไม่สามารถที่จะเลื่อนระดับขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้ยังงั้น ?? " ยี่ เทียนหยุนกล่าวออกอย่างไม่แยแส " ข้าเพียงแต่เชื่อว่า อาศัยระยะเวลาอีกซักเล็กน้อย พวกเราก็จะสามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้อย่างไม่ยากเย็น "
ยี่ เทียนหยุนนั้นไม่ได้มีความชื่นชอบประทับใจต่อคฤหาสน์ปราณฟ้า เมื่อครั้งที่ตำหนักหยกสวรรค์ถูก 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่เข้าโจมตี คฤหาสน์ปราณฟ้ากลับทำไขสือ ตีหน้าเซ่อ ไม่ได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด นับจากวันนั้นยี่ เทียนหยุนก็เลยขึ้นบัญชีดำคฤหาสน์ปราณฟ้าเอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว หากว่าไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องด้วย ก็ควรที่จะบอกกล่าวกันให้ชัดเจนตั้งแต่คราแรก พอมาบัดนี้ เมื่ออิทธิพลของตำหนักหยกสวรรค์เริ่มที่จะมีชื่อเสียง ถึงกับวิ่งมาที่นี่ พูดจาหว่านล้อมชักแม่น้ำทั้งห้าอย่างงั้นหรือ คิดดูแล้วมันช่างน่ารังเกียจซะจริงๆ
ผู้ตรวจสอบเก่อมองยี่ เทียนหยุนแล้วรู้สึกขวางหูขวางตาพิกล " พวกเจ้าจะยกระดับขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้อย่างไร ความห่างชั้นนั้นใหญ่หลวงนัก เจ้าจะต้องใช้ทรัพยากรที่หลากหลาย มีเพียงแต่ที่จะต้องเข้าร่วมกับพวกเราเท่านั้น ศิษย์คฤหาสน์ปราณฟ้าของพวกเรามีเป็นจำนวนมาก หากศิษย์ของท่านรวมเข้ากับศิษย์ของพวกเราแล้วละก็ สายเลือดที่ถือกำเนิด จะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน !! และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิษย์ของพวกเราทั้งสองได้แต่งงานกัน แต่ในครั้งนี้พวกข้ามีความตั้งใจที่จะรวมกันอย่างเต็มที่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ต้องแบ่งแยกทรัพย์สินแต่อย่างใด อิทธิพลของเจ้าเมื่อใหญ่ขึ้นก็จะไม่มีกลุ่มอิทธิพลหน้าไหนกล้าที่จะมาหาเรื่องกับพวกท่าน !! "
" ใช่แล้ว เมื่อ 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่รุมเข้าโจมตีพวกเรา เหตุไฉนท่านจึงไม่เข้าช่วยเหลือ พอมาในตอนนี้ ต้องการที่จะให้พวกเราเข้าร่วมอย่างงั้นเรอะ ?? " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา
ปัญหานี้ถูกปัดทิ้งลงอีกครั้งหนึ่ง ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็แสดงสีหน้าโกรธแค้นออกมา ในตอนแรกที่พวกเขาโดดเดี่ยว ปราศจากความช่วยเหลือจากภายนอก คฤหาสน์ปราณฟ้าก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาแต่อย่างใด มาในตอนนี้คิดที่จะโน้มน้าวใจให้เข้าร่วมเพื่อที่จะได้รวมกัน แล้วจะให้ตอบรับเข้าไปได้ยังไง !!
