Crazy Leveling System - ตอนที่ 115 ไว้หน้า
เพราะว่าจือ ยูร์เวยนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับยี่ เทียนหยุน ดังนั้นแล้วทางสำนักงานใหญ่ของตึกสายฝนแห่งสวรรค์ ย่อมที่จะให้จือ ยูร์เวยยังคงดำรงตำแหน่งของเจ้าของตึกต่อไป แม้กระทั่งเลื่อนตำแหน่งให้เธอได้กลายเป็นฝ่ายบริหาร ขยายขอบเขตอำนาจของเธอให้ใหญ่ขึ้น พวกเขามอบหมายให้เธอคอยที่จะช่วยเหลือยี่ เทียนหยุนในด้านต่างๆให้ดี แต่นี่ แล้วมันจะมีความหมายอะไร ฐานพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นกลายเป็นแข็งแกร่ง เขาได้กำราบตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ลง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือใดๆจากตึกสายฝนแห่งสวรรค์
ณ ตอนนี้ต้องการที่จะช่วยเขา เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ให้มันดีขึ้น แต่โอกาสในการช่วยเหลือก็หามีไม่ ความสลักสำคัญก็ย่อมที่จะไม่มีตามไปด้วย
" นายน้อยยี่ ท่านมา….. " จือ ยูร์เวยไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี เธอคิดว่ายี่ เทียนหยุนจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก
" อืม ข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบบางอย่างกลับไป ไม่ทราบว่าข้าจะยังได้รับสิทธิพิเศษอยู่อีกหรือไหม ?? " ยี่ เทียนหยุนพูดแย้มยิ้ม
" มี มีซิ !! สิทธิพิเศษสำหรับท่านย่อมจะต้องมีอย่างแน่นอน กระทั่งมอบให้ฟรีๆก็ยังได้ " จือ ยูร์เวยรีบตอบ
" ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ขายราคาปกติให้กับข้าก็เพียงพอแล้ว " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้มเล็กน้อย ตัวเขาต้องการที่จะซื้อวัตถุดิบในการปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณกับจือ ยูร์เวย หลังจากที่มองดูอยู่พักนึง เขาก็สอบถามขึ้นมาว่า " ที่นี่ไม่มีวัตถุดิบที่ใช้ในการปรับแต่งอุปกรณ์จิตวิญญาณอย่างงั้นหรือ ?? "
" วัตถุดิบอุปกรณ์จิตวิญญาณ….. " ดวงตาคู่สวยของเธอถึงกับมองค้าง ผู้อาวุโสติดตามที่อยู่ด้านหลังก็เช่นเดียวกัน เรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะน่าเหลือเชื่อ
ถามคำถามนี้ออกมา เป็นไปได้ว่ายี่ เทียนหยุนสามารถที่จะปรับแต่งอุปกรณ์จิตวิญญาณออกมาได้เป็นอย่างมาก นี่มันผ่านไปกี่ปีกัน เขามาถึงระดับนี้แล้วหรือนี่ ??
" ใช่แล้ว ไม่ทราบว่าที่นี่มีวัตถุดิบดังกล่าวหรือไม่ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" วัตถุิบเหล่านี้ ที่นี่พวกเราไม่มี….. ตึกสายฝนแห่งสวรรค์ของพวกเราไม่มีวัตถุดิบในระดับนี้ หากว่าท่านต้องการ คงจะต้องซื้อหา ณ โลกภายนอก ซึ่งอาจจะต้องกินระยะเวลานาน " จือ ยูร์เวยค่อยๆฟื้นคืนสติอย่างช้าๆกลับจากอาการช็อค
หากสามารถที่จะปรับแต่งอุปกรณ์จิตวิญญาณได้ อย่างน้อยก็จะต้องอยู่ในขั้นมาตรฐานปรมาจารย์ปรับแต่งเกรด 5 แต่อัตราความสำเร็จยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก ถ้าจะให้ดีควรที่จะอยู่ในขั้นมาตรฐานปรมาจารย์ ตึกสายฝนแห่งสวรรค์ไม่มีผู้ปรับแต่งอุปกรณ์ในขั้นนี้ ด้วยเหตุนี้ถึงจะมีวัตถุดิบที่ใช้ปรับแต่งอุปกรณ์จิตวิญญาณก็เปล่าประโยชน์
สามารถที่จะปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดออกมาได้ นี่ก็ดีมากแล้ว นับประสาอะไรกับขั้นมาตรฐานปรมาจารย์การปรับแต่งอุปกรณ์ จะต้องเป็นกลุ่มอิทธิพลที่เหนือกว่าเกรด 3 จึงจะสามารถมีได้
" งั้นก็ไม่เป็นไร ข้าจะซื้อวัตถุดิบเป็นบางตัวก่อน "
ยี่ เทียนหยุนคงจะต้องล้มเลิกความตั้งใจไปก่อน ณ ดินแดนแห่งนี้ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าหากว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากแล้วละก็ ณ ที่แห่งนั้นก็คงจะเป็นกลุ่มอิทธิพลที่เหนือกว่าเกรด 3 ไปแล้ว กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่พัฒนาแล้ว นิกายใช่ว่าจะก่อตั้งได้ดั่งใจ หากแต่มองดูสิ่งแวดล้อมในการก่อตั้งเป็นหลัก
สถานที่ที่ดี มักจะถูกจับจองโดยกลุ่มอิทธิพลอันแข็งแกร่ง มันไม่ใช่ตาของพวกเขาที่จะไปจับไปจองได้ ยี่ เทียนหยุนใช้เวลาเลือกวัตถุดิบบางอย่างไม่นาน นี่เป็นวัตถุดิบที่สามารถจะปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดได้ มันทำให้บุคคลที่อยู่ที่นี่ต่างก็พากันช็อค
" นำวัตถุดิบเหล่านี้มามอบให้กับข้า มีเท่าไรข้าเหมาหมด " มันดูเป็นคำพูดที่รวยมาก
" ได้ ไม่มีปัญหา "
จือ ยูร์เวยให้บริกรรีบนำเหล่าวัตถุดิบมาส่งให้กับยี่ เทียนหยุนในทันที หลังจากที่เบิกสินค้าออกมาจากในคลัง มันทำให้ยี่ เทียนหยุนค่อนข้างที่จะรู้สึกผิดหวัง ของที่มีอยู่ปริมาณไม่มากนัก สามารถปรับแต่งออกมาเป็นอุปกรณ์ได้เพียง 230 ชิ้นเท่านั้น ทรัพยากรของตึกสายฝนแห่งสวรรค์มีน้อยจนเกินไป แต่เท่าที่มีอยู่มันก็สามารถที่จะปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดออกมาได้ และมันก็ถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก ณ ดินแดนแห่งนี้
" ที่มีนั้นมากแล้วหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ค่ะ เรามีเพียงเท่านี้ วัตถุดิบจำนวนมากนั้นพวกเราไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายพวกมันมาได้….. จือ ยูร์เวยต้องทำการสั่งวัตถุดิบมาจากสำนักงานใหญ่เป็นการด่วน "
อืม….. เอาตามนั้น คงจะต้องตัดใจไปก่อน นำมันมาให้ข้า รวมไปถึงวัตถุดิบทางยาด้วย ข้าต้องการวัตถุดิบเกรดสูง แต่ตัวข้ามีเงินไม่พอ ดังนั้นข้าจึงอยากที่จะปรับแต่งสินค้าล็อตใหญ่ส่งมอบให้กับท่าน พวกท่านจะต้องจัดหาวัตถุดิบทั้งสองประเภทมามอบให้กับข้า ดีลนี้ท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร ?? " ยี่ เทียนหยุนกล่าว " อุปกรณ์วิญญาณเกรดสุดยอดและเม็ดยาโอสถเกรด 4 พวกท่านจะตกลงไหม ?? "
ได้ยินข้อความนี้เข้าไป พวกเขาต่างก็พากันช็อค ความรู้สึกภายในใจราวกับว่าดูการแสดงกายกรรมผาดโผนจนยากที่จะหายใจ ธุรกิจนี้ประสิทธิภาพทางต้นทุนช่างคุ้มค่าซะจริงๆ นี่เท่ากับว่า จากวัตถุดิบเพียงแค่ 2 ชุดเท่านั้น พวกเขาก็จะได้อาวุธระดับสุดยอดกลับมา สำหรับพวกเขาแล้วนี่ถือเป็นเงื่อนไขที่น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก
หากใครบางคนต้องการที่จะปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดออกมาแล้วละก็ พวกเขาก็อาจจะประสบกับความล้มเหลวที่มากกว่า 45 ครั้ง แต่นี่ยี่ เทียนหยุนใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 2 ชุดก็ได้รางวัลออกมาแล้ว สามารถที่จะพูดได้ว่า มันช่างคุ้มค่าซะนี่กระไร เม็ดยาโอสถก็เช่นเดียวกัน คุณภาพของเม็ดยาโอสถเกรด 4 ไม่จำเป็นที่จะต้องโฆษณามาก อย่างน้อยๆก็จำเป็นที่จะต้องใช้นักปรุงโอสถเกรด 4 จึงจะสามารถปรับแต่งเม็ดยาออกมาได้ ผลประโยชน์ที่ได้ในครั้งนี้ คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
" ไม่มี ไม่มีปัญหา !! " จือ ยูร์เวยพยักหน้า
" ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะซื้อวัตถุดิบกองนี้ก่อนเป็นการชั่วคราวก็แล้วกัน ส่วนที่เหลือก็ขอให้ท่านช่วยดำเนินการจัดส่งไปให้ข้าที่ตำหนักหยกสวรรค์ เมื่อใดที่ข้าปรับแต่งวัตถุดิบจนหมดแล้ว ก็ขอให้พวกท่านส่งคนมารับสินค้าด้วย " ยี่ เทียนหยุนกล่าวออกอย่างไม่แยแส " ท่านมีของเท่าไร ข้าเหมาหมด พวกท่านไม่จำเป็นที่จะต้องขายให้กับพวกหน้าใหม่ "
เงินที่ยี่ เทียนหยุนมีในตอนนี้ สามารถที่จะซื้อได้แต่เพียงวัตถุดิบกองนี้ก่อนเป็นการชั่วคราว ครั้งต่อไปเขาก็คงจะสามารถปรับแต่งได้มากกว่านี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า มีเงินไม่พอจ่าย การกระทำของยี่ เทียนหยุนในครั้งนี้ท้ายที่สุดแล้วก็เมือนการกระทำเช่นครั้งก่อน ยี่ เทียนหยุนได้วางแผนที่จะขายอาวุธให้กับระบบ เขาเลือกที่จะเปลี่ยนพวกมันไปเป็นแต้มคลั่ง
" งั้นก็ตามนั้น นี่คือกองวัตถุดิบที่นายน้อยยี่จะได้รับเป็นกองแรก เมื่อวัตถุดิบระลอกใหม่มาถึง พวกเราจะรีบจัดส่งไปให้กับท่านอีกครั้งหนึ่ง " จือ ยูร์เวยออกอาการตื่นเต้น ธุรกิจในครั้งนี้ใหญ่โตมากเลยทีเดียว นี่หมายความว่า นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะมีอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดและเม็ดยาโอสถเกรด 4 สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก แล้วเธอจะเก็บอาการอยู่ได้อย่างไร
" อืม งั้นก็เอาตามนี้ทั้งหมด นี่เป็นเงินส่วนที่ข้าจะต้องจ่าย " ยี่ เทียนหยุนผายมือในขณะที่พูด กองเหรียญทองก็พูนออกมา พวกมันดูสุกใสสว่างพร่างพรายตา
ยี่ เทียนหยุนสงสัยจนหัวแทบจะระเบิด หากยังคงเป็นอย่างงี้ต่อไป มันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เขาวางแผนเอาไว้ว่า ต้องการที่จะเปลี่ยนพวกมันไปเป็นแต้มคลั่ง แต่หลังจากที่มองดูสัดส่วนแล้ว มันไม่ได้คุ้มค่าเอาซะเลย กลายเป็นว่าของสิ่งนี้ไม่มีคุณค่าไปซะอย่างงั้น
หลังจากที่จือ ยูร์เวยยอมรับเงื่อนไขของยี่ เทียนหยุนแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องจากไป จือ ยูร์เวยต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมาในขณะนี้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ยี่ เทียนหยุนนั้นรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ง่ายๆเลยก็คือว่าไม่ได้พักอยู่ที่นี่ อย่างนี้ยังจะเรียกรักษาความสัมพันธ์ได้อยู่อีกอย่างงั้นเรอะ ??
จือ ยูร์เวยก็ไม่ได้พูดอะไรที่เหนี่ยวรั้งยี่ เทียนหยุนเอาไว้ แม้ถ้อยคำเล็กน้อยตัวเธอก็ไม่ได้พูดมันออกมา
" น้อยน้อยยี่ โปรดรอก่อน !! " ณ ขณะนี้อาวุโสผู้ที่อยู่ใกล้อาศัยความใจกล้าหน้าหนาเข้ามาหยุดยี่ เทียนหยุนเอาไว้ ด้วยการร้องเรียกชื่อของเขา
" มีปัญหาอะไรอย่างนั้นรึ ?? " ยี่ เทียนหยุนมองเขา
" นี่….. เอ่อคือ ปัญหาเมื่อคราวก่อนที่ตึกสายฝนแห่งสวรรค์นั้นยืนดูอยู่เฉยๆ แท้ที่จริงแล้วพวกเราก็คิดที่จะลงมือช่วยท่านอยู่เหมือนกัน แต่ภูมิหลังของตึกสายฝนแห่งสวรรค์นั้นค่อนข้างที่จะอ่อนแอ ดังนั้นขอร้องท่านได้โปรดยกโทษให้กับพวกเราด้วยเถอะ " อาวุโสผู้นี้จริงๆแล้วก็คือคนที่เมื่อก่อนเข้าขัดขวางจือ ยูร์เวยและได้ให้คำแนะนำเตือนสติแก่ตัวเธอเอาไว้ ทำให้เธอยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่ได้ลงมือช่วยเหลือแต่อย่างใด
ในที่สุดจือ ยูร์เวยก็พูดออกมา ผู้อาวุโสในตอนนี้ได้แต่จ้องมองเธอด้วยเจตนาร้าย ราวกับว่าตำหนิเธอว่าทำอะไรลงไป แต่….. ในตอนนี้ดูเหมือนว่า คนที่โง่ก็คือตัวเขาเอง
" ปัญหานั้น เรื่องราวที่แท้จริงมันจะเป็นยังไง ข้าก็ไม่ได้สนใจ " ยี่ เทียนหยุนไม่ได้ใส่ใจอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ เขายิ้มแล้วยิ้มอีก " หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน "
" แล้วตำแหน่งของแขกผู้มีเกียรตินั่นละ….. " ผู้อาวุโสรีบกล่าวสอบถามอย่างเร่งรีบ
" แขกผู้มีเกียรติ ข้าได้ตอบคำถามนี้ไปแล้วเมื่อครั้งก่อน ท่านจะให้ข้ากลายมาเป็นแขกผู้มีเกียรติในตอนนี้เลยนะหรือ " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของฝั่งตรงข้ามพลันดูมีความสุข แต่แล้วเขาก็กล่าวเสริมขึ้นมาในทันใดว่า " แต่ตัวข้ามาคิดๆดูแล้วว่า มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรนี่ หากจะให้เปรียบเทียบกับแขกผู้มีเกียรติที่ถูกทอดทิ้ง เรื่องนี้ข้าคงจะต้องขอแสดงความเสียใจด้วย "
ยี่ เทียนหยุนพูดแล้วก็ยิ้มให้กับจือ ยูร์เวย จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วก็เดินจากไป ประเด็นหลักเมื่อครั้งก่อนนั้นมิอาจที่จะยอมความกันได้
อาวุโสตึกถึงกลับหน้าซีด การที่ยี่ เทียนหยุนปฏิเสธการเป็นแขกผู้มีเกียรติ นี่ก็คล้ายกับว่าจะเป็นการพูดอย่างโจ่งแจ้งว่า ต่อไปเขาอาจจะไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว เป็นแขกผู้มีเกียรติแล้วมันจะไปมีความหมายอะไร ??
" เจ้าของตึกจือ รีบไล่ตามเขาไปเร็ว พวกเรายังไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเลย….. " ผู้อาวุโสที่อยู่กับจือ ยูร์เวยในใจตอนนี้ กระวนกระวายเป็นอย่างมาก
" ผู้อาวุโส เขายังกลับมาซื้อของที่นี่อีกครั้งหนึ่ง นี่ก็นับว่าเป็นการให้เกียรติต่อใบหน้าของข้าเรียบร้อยแล้ว….. ท่านคิดว่าโลกออกกว้างใหญ่ จะมีเพียงแค่ตึกสายฝนแห่งสวรรค์ของเราอย่างงั้นหรือ ?? บางครั้งพลาดแล้วก็พลาดเลย ยังไงซะพวกเราก็ไม่สามารถที่จะชดเชยในสิ่งที่เราได้กระทำลงไปได้ "
จือ ยูร์เวยถอนหายใจอยู่ลึกๆ ที่ตัวเธอไม่ได้เหนี่ยวรั้งยี่ เทียนหยุนเอาไว้ก็ด้วยเหตุนี้ เขายังมาที่นี่เพื่อซื้อสิ่งของ นี่ก็ถือว่าเห็นแก่หน้าของเธอมากแล้ว มิฉะนั้นแล้วเขาก็คงจะไม่เหยียบมาที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าวอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสนั้นภายในใจเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยภูมิหลังที่อ่อนแอ ทำให้จะพูดจะจาอะไรก็ต้องยั้งคิด มิอาจที่จะพูดจาไร้สาระส่งเดชออกไปได้ หากเอ่ยปากออกหน้าปกป้องยี่ เทียนหยุนในครานั้น ครานี้พวกเขาก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ไม่ต้องมัวแต่พูด อย่างน้อยหากสามารถที่จะปกป้องเขา แค่เพียงชั่วคราวไม่ให้ได้รับซึ่งความเสียหายอะไร แต่ทันทีที่เกิดเรื่องพวกเขาก็เลือกที่จะเฉยเมยในขณะนั้น ไม่ได้ให้บริการอำนวยการป้องกันเลย แล้วอย่างนี้นะหรือที่เป็นการปฏิบัติต่อแขกผู้มีเกียรตินะ ??
ถึงแม้ว่ายี่ เทียนหยุนจะสามารถเข้าใจตรงจุดๆนี้ได้ แต่ถ้าหากฟังจากถ้อยคำที่เขาได้พูดออกมาแล้ว การจะก่อความสัมพันธ์ระยะยาวและแน่นแฟ้น นี่ย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ หากครานั้นจือ ยูร์เวยไม่ได้ออกความคิดแล้วตะโกนออกไป ยี่ เทียนหยุนก็คงจะไม่มีทางที่จะมาเหยียบที่นี่อีกอย่างแน่นอน การมาในครั้งนี้ จริงๆแล้วก็คล้ายกับว่า เป็นการเห็นแก่หน้าของจือ ยูร์เวย เหตุผลมันก็มีอยู่แค่นั้นเอง