สัปดาห์ต่อมา ยี่ เทียนหยุนก็เดินออกมาจากห้องอย่างโซซัดโซเซ ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงรกรุงรัง เขาคลุกอยู่แต่ในห้อง ปรับแต่งสิ่งต่างๆโน้นนี่นั่นเป็นระยะเวลานาน แล้วคิดว่าภาพลักษณ์ของเขามันจะออกมาดูดีอย่างงั้นหรือ ??
เมื่อเขาเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ บรรดาศิษย์เป็นจำนวนมากต่างก็แอบอมยิ้มกัน นี่ช่างดูราวกับตลกขบขันซะจริงๆ โดยปกติแล้วยี่ เทียนหยุนจะเป็นบุคคลที่มองดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นอย่างมาก แต่มาในวันนี้ดูราวกับคนจร ยิ่งมองก็ยิ่งแปลก
" ป้า ข้ามาแล้ว " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม
" เทียนหยุน….. เปลืองแรงเจ้าแล้ว " ฉี ซู่หยุนมองดูยี่ เทียนหยุนที่เดินมา เธอไม่ได้หัวเราะเยาะเขาเฉกเช่นคนอื่นๆที่ทำกัน กลับกัน รู้สึกได้ถึงความซาบซึ้งใจในประโยคที่เธอพูดออกมาอย่างนิ่มนวล
สำหรับตัวเธอหลายวันมานี้ ฉี ซู่หยุนยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานที่ดูจะเคร่งเครียดเป็นเรื่องเป็นราว มีการเพิ่มการลงทะเบียนศิษย์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากศักดิ์ศรีของตำหนักหยกสวรรค์นั้นได้ขจรขจายไปทั่ว มันส่งผลให้ผู้ฝึกยุทธ์เป็นจำนวนมากต่างก็ต้องการที่จะมาเข้าร่วม หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีพรสวรรค์ที่ดี สามารถที่จะเข้าร่วมกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้ ก็ยังเดินทางมาเข้าร่วมกับตำหนักหยกสวรรค์
แต่อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ ตำหนักหยกสวรรค์ได้มีการตรวจเช็คศิษย์ที่มาสมัคร ทุกระดับชั้น เปรียบเทียบดูแล้วพวกเขามีการเข้มงวดกว่าครั้งก่อนเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนนั้นมีกบฏไส้ศึกเกิดขึ้นมา มันทำให้พวกเขาต้องตระหนักในการคัดเลือกศิษย์ในครั้งนี้ พวกเขาต้องการคนที่มีภูมิหลังสะอาด คนที่มีภูมิหลังสกปรกพวกเขาล้วนไม่ต้องการ
ดังนั้นการคัดเลือกรับศิษย์ในครั้งนี้ พรสวรรค์สามารถที่จะต่ำได้ แต่ภูมิหลังจะต้องสะอาดเพียงพอ นี่คือสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ต่อให้ศิษย์คนนั้นจะมีพรสวรรค์อยู่ในระดับท้าทายสวรรค์ แต่ทว่าหากเขาซ่อนดาบไว้ข้างหลัง แบบนี้มันก็จะทำให้ตำหนักต้องลงทุนอย่างเสียเปล่า
ดังนั้นฉี ซู่หยุนในหลายวันมานี้ โดยตำแหน่งของเธอแล้ว ไม่สามารถที่จะไปหายี่ เทียนหยุนได้ เธอต้องคอยวิ่งรอกอยู่ที่นี่ทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา แต่ภายในใจของเธอนั้นก็นึกเป็นห่วงเป็นใยสถานการณ์ทางฝั่งของยี่ เทียนหยุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้ดวงตาคู่สวยคู่นี้ ที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่และห่วงใย เทียนหยุนในตอนนี้ ตัวเขาคงจะเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากแล้ว
ฉี ซู่หยุนเองก็ดูอิดโรยเช่นเดียวกัน มิฉะนั้นเธอก็คงจะไปหายี่ เทียนหยุนดังเช่นอดีตเรียบร้อยแล้ว
ในใจของยี่ เทียนหยุนนั้นหวั่นไหว มีเพียงป้าของเขาคนเดียวเท่านั้น ที่ตัวเขาจะไม่ทะเลาะ ต่อล้อต่อเถียงด้วยทั้งสิ้น ใยป้าของเขาจะไม่เป็นห่วงเป็นใยเขาในตอนนี้ แต่ตัวเธอนั้นไม่สามารถที่จะละทิ้งงานตรงจุดนี้ได้ สำหรับยี่ เทียนหยุนแค่คำพูดเพียงไม่กี่คำของฉี ซู่หยุน มันก็เพียงพอแล้ว
" ตัวข้ายังไม่เหนื่อยเลย ข้าจะปรับแต่งอุปกรณ์ออกมา 1 ชุดเพื่อพิสูจน์ให้ท่านดูก็ยังได้ หากคำพูดของข้ายังไม่เพียงพอ " ยี่ เทียนหยุนพูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ
" เจ้าอยู่ที่นี่แหละ ผู้อาวุโสทำการคัดเลือกตรวจสอบผู้เข้าสมัครอยู่ด้านข้างของห้องโถงนี้เอง "
ฉี ซู่หยุนนำยี่ เทียนหยุนเดินออกไป ที่นี่นั้นมีศิษย์เป็นจำนวนมาก ที่กำลังจะเข้ารับการตรวจสอบ สีหน้าของทุกคนมองดูจริงจังเป็นอย่างมาก การจะได้เข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลของการตรวจสอบในครั้งนี้
" ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านระงับการตรวจสอบเอาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว " ฉี ซู่หยุนพูด
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่ได้พบกับยี่ เทียนหยุน ตัวเธอถึงกับยืนขึ้นในทันที พวกเธอต่างก็รู้ว่าจะต้องทำยังไง
แต่อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวขึ้นของยี่ เทียนหยุนนั้น ทำให้สุภาพสตรีในวัยเยาว์ทั้งหลายต่างก็มองตรงมาที่นี่ สูงบ้างต่ำบ้าง ต่างก็พากันชะเง้อชะแง้มองดูยี่ เทียนหยุน พวกเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
" ได้ยินมาว่าตำหนักหยกสวรรค์มีผู้อาวุโสที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวอยู่ น่าจะเป็นเขานี่แหละ ?? "
" เขามองดูยุ่งเหยิงนะ เขาไปทำอะไรมานะ ?? "
" ได้ยินมาว่าเขานั้นร้ายกาจมาก ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ?? "
สุภาพสตรีวัยเยาว์เป็นจำนวนมากต่างก็ถกเถียงกันถึงเรื่องของผู้อาวุโสชายเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตจากตำหนักหยกสวรรค์ พวกเธอต่างก็อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก มันสืบเนื่องมาจากสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ด้านนอกนั้นมีข่าวลือที่แพร่กระจายออกไปอย่างระเบ็งเซ็งแซ่ว่า ยี่ เทียนหยุนนั้นร้ายกาจเป็นอย่างมาก กระทั่งร้ายกาจกว่าเจ้าตำหนัก บางข่าวลือก็ว่าเขาเป็นปีศาจ ปีศาจที่ฆ่าคนไม่กระพริบตา
ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไปนั้นมีทุกชนิด แต่งเติมชีวประวัติกันจนเกินจริง
" ข้าจะจัดการให้ " ยี่ เทียนหยุนนำมือออกมา ภายใต้การจ้องมองจากสายตาสาธารณะของบรรดาเหล่าสุภาพสตรีทั้งหลาย ทันใดนั้นอาวุธและเม็ดยาทั้งหมด ต่างก็ไหลกองออกมาท่วมห้องโถงใหญ่อันเป็นสถานที่ตรวจสอบนี้
อุปกรณ์วิญญาณระดับสูงเป็นจำนวนมาก และยังมีอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดเป็นจำนวนหลายชิ้นรวมอยู่ด้วย !! แล้วก็ยังมีกองเม็ดยาปรับแต่งกายาอีกจำนวนมหาศาลที่บรรจุอยู่ในขวดมากกว่า 100 ขวด ซึ่งดูๆไปแล้วเหยือกภาชนะบรรจุใบนี้ ดูมันจะไม่เล็กเลย ไม่รู้ว่าภายในบรรจุเม็ดยาโอสถเป็นจำนวนมากเท่าใด !!
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ยี่ เทียนหยุนใช้วัตถุดิบทั้งหมดที่มี ปรับแต่งมันออกมา อาวุธที่ได้ก็มีเป็นจำนวนมาก เม็ดยาก็มีจำนวนหลายพันเม็ด มองดูช่างน่าทึ่งซะจริงๆ บรรดาเหล่าศิษย์หน้าใหม่ทั้งหลายที่เข้าร่วมการตรวจสอบในครั้งนี้ ต่างก็พากันช็อคโดยถ้วนหน้ากัน
ในเหยือกใบนี้ พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่ามันบรรจุเม็ดยาอะไรเอาไว้ภายใน แต่สำหรับกองอาวุธที่อยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเขารู้ว่ามันคืออาวุธอะไร ต่ำสุดที่เห็นก็จะเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง แต่ที่มีเป็นจำนวนมากและครองตำแหน่งที่สูงกว่านั้นก็คือ อุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอด !! สำหรับอุปกรณ์วิญญาณนี้ ด้วยความสัตย์จริง ยี่ เทียนหยุนมีความเชื่อมั่นในการตีเหล็กเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากว่าวัตถุดิบที่มีนั้น เป็นวัตถุดิบธรรมดาซะเป็นส่วนใหญ่ มันทำให้ตัวเขาไม่สามารถที่จะผลิตอาวุธออกมาได้อย่างเต็มที่ มิฉะนั้นแล้วทุกๆคนจะต้องพากันช็อคอย่างแน่นอน !!
พูดได้ว่าวัตถุดิบนั้นไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถที่จะระเบิดชิ้นงานอันทรงคุณค่าออกมาได้ แต่ยี่ เทียนหยุนก็เหมือนกับไฟท์บังคับที่จะต้องผลิตชิ้นงานอันทรงคุณค่าออกมาให้ผู้คนได้หวาดกลัวกันอย่างสมบูรณ์ให้ได้ จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะทำให้บรรดาศิษย์ใหม่ทั้งหลายเหล่านี้รู้ว่าตำหนักหยกสวรรค์นั้นมีทรัพยากรอย่างเหลือเฟือ ที่จะสามารถมอบให้กับพวกเขาได้
" สิ่งของทั้งหลายเหล่านี้ คือ ทรัพยากรของตำหนักหยกสวรรค์ เม็ดยาเหล่านี้ก็คือ เม็ดยาปรับแต่งกายา เม็ดยาปรับแต่งวิญญาณ ศิษย์คนใดที่แสดงศักยภาพอันโดดเด่นออกมาได้ พวกเราจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันจะเป็นของพวกเจ้า !! " ยี่ เทียนหยุนพูดในขณะที่สายตามองดูพวกเขา
ในช่วงเวลานี้ ฉี ซู่หยุนก็รู้ในทันทีว่ายี่ เทียนหยุนตั้งใจจะทำอะไร เขาต้องการที่จะล่อใจศิษย์ใหม่ตรงๆ โดยปราศจากการอ้อมค้อมใดๆทั้งสิ้น นี่จะเป็นจูงใจพวกเขาได้
" จริงรึ ของทั้งหมดเหล่านี้จะเป็นของพวกเรา !! "
" จริงๆเรอะ มันช่างดีจริงๆเลย เหล่านี้คืออุปกรณ์วิญญาณ และที่ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง และก็ยังมีอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดอีกด้วย!! "
" โอ้ว !! สวรรค์ ข้าเคยผ่านไปยังตึกค้าอาวุธมาก่อน เคยพบเห็นอุปกรณ์วิญญาณ แต่ถ้าหากนำมันมาเปรียบเทียบกับที่นี่แล้ว มันแตกต่างกันเป็นจำนวนมากทีเดียว !! "
พวกเธอต่างก็ยุ่งเหมือนยุ่งตีกันในทันที ด้วยจำนวนของเม็ดยาและอาวุธเหล่านี้ ล้วนทำให้ประหลาดใจจนแทบจะสิ้นสติ ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ประวัติของตำหนักหยกสวรรค์จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มันเกินกว่าที่พวกเธอจินตนาการเอาไว้ซะอีก
บรรดาผู้อาวุโสต่างก็มองหน้ากันด้วยความเศร้าใจ พวกเขาล้วนไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ที่นี่นั้นสะดุดตาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่สายตาของบรรดาเหล่าศิษย์ใหม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ศิษย์เก่าของตำหนักหยกสวรรค์บางคน สายตาของพวกเขา ต่างก็พลันลุกโชน
" เยี่ยม แหล่งวัตถุดิบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนน้อยของเราเท่านั้น ศิษย์ใหม่ที่เข้าร่วมกับเรา ตราบใดที่เจ้าแสดงศักยภาพอันโดดเด่นของตัวเองออกมา ตราบใดที่เจ้ามีความซื่อสัตย์ภักดีต่อตำหนักหยกสวรรค์อย่างเพียงพอ ข้าจะทำการลงทุนส่งเสริมแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่เพื่อที่จะมอบให้เจ้า !! " ฉี ซู่หยุนทำการกล่าวเสริมอยู่ทางด้านข้างของเหล่าศิษย์ เธอต้องการที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา พวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นเมล็ดพันธ์ุที่ดี
มองดูสีหน้าของพวกเธอแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ ศิษย์ใหม่ที่เพิ่งจะเข้าร่วมกับที่นี่ อาจจะยังมีทัศนคติที่ไม่ชัดเจน เขาต้องการที่จะทำให้พวกเธอหวาดกลัวไปกับทรัพยากรที่ตำหนักหยกสวรรค์มี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หลังจากที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจแล้ว ยี่ เทียนหยุนและฉี ซู่หยุนก็เดินออกมา
" ที่นี่ไม่มีวัตถุดิบอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ข้าวางแผนที่จะออกไปซื้อวัตถุดิบ หลังจากนั้นข้าก็จะกลับมา " ยี่ เทียนหยุนพูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ " ป้า ที่นี่มอบให้ท่านดูแล เหล่าเม็ดยาทั้งหลายที่ตระเตรียมเอาไว้ คงจะเพียงพอให้ใช้ไปได้ซักระยะนึงก่อน "
" ไม่จำเป็น ข้าจะมอบหมายงานให้คนออกไปซื้อของแทนจะดีกว่า เจ้าไม่ต้องไปเองหรอก " ฉี ซู่หยุนเอ่ย
" มันไม่ใช่แค่ปัญหานี้ปัญหาเดียว พ่อของพี่สาวเสี่ยวเหลียนป่วยหนักอยู่ที่บ้าน ตัวข้าวางแผนที่จะไปเยี่ยม ครั้นพี่สาวเสี่ยวเหลียนเป็นผู้ที่ดูแลเอาใจใส่ต่อตัวข้า ไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอจะมาล้มป่วยอย่างหนัก เธอไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้ให้ข้าฟัง กลับดูแลข้าอยู่ข้างๆ ข้าประเมินดูสถานการณ์แล้ว ตัวเธอจะไม่ยอมกลับไปเป็นแน่….. " ยี่ เทียนหยุนทอดถอนหายใจ
ฉี ซู่หยุนก็พลันสะดุ้งตกใจ ใบหน้าของเธอทันใดนั้นก็กลายเป็นวิตกกังวลด้วยความเป็นห่วง " ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ก่อนหน้านี้ ข้าถึงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในตัวเธอ ที่แท้มันก็เกิดจากปัญหานี้นี่เอง เธอไม่ยอมที่จะพูดอะไรเลยแม้เพียงครึ่งคำ….. ถ้าเป็นอย่างงั้น ที่นี่ให้พวกเราดูแลเอง "
" เยี่ยม ถ้าอย่างงั้นตัวข้าจะไปหาซื้อวัตถุดิบกลับมา ในครั้งนี้พวกเราจะต้องยกระดับตำหนักหยกสวรรค์ขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 สถานะของตำหนักหยกสวรรค์จะต้องมั่นคง !! " และที่ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของยี่ เทียนหยุนเองต้องการที่จะทำภารกิจหลักให้สมบูรณ์ เขาต้องการที่จะทำให้ตำหนักหยกสวรรค์นั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ที่แห่งนี้คือ ความอุตสาหะเพียรพยายามดูแลเอาใจใส่ของฉี ซู่หยุน ตัวเขาจะต้องตั้งใจ พร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างเต็มที่จนถึงที่สุด
" หนุ่มน้อย เจ้านี่ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนผู้อาวุโสขึ้นไปทุกทีแล้วนะ เมื่อก่อนก็เออออห่อหมกตามข้าไปยังงั้นๆเอง แต่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าเจ้า จะไม่มีปัญหากับปัญหาเหล่านี้แล้วซินะ ใช่ไหม ?? " ฉี ซู่หยุนอมยิ้ม
" เอ่อ….. ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย นี่เป็นเพราะว่าข้ากลัวว่าป้าจะรับงานหนักจนเกินไปต่างหาก ข้าจึงอยากจะช่วยแชร์ยังไงละ ?? " ยี่ เทียนหยุนยิ้มอายๆ
" ถ้ายังงั้น ต่อไปก็จำเอาไว้ให้ดีละว่า เจ้าจะต้องช่วยป้าแชร์มากๆ !! " ฉี ซู่หยุนเหมือนจะฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ตัวเธอนั้น พลันคว้ามือของยี่เทียนหยุนมากุมเอาไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลว่า " เทียนหยุน เจ้าจะต้องใส่ใจในความปลอดภัยของตัวเองให้มากๆนะ ข้ารู้ว่าในตอนนี้เจ้านั้นร้ายกาจมาก แต่ก็มีบุคคลประเภทคนเหนือคน อย่าพยายามสร้างปัญหา หากว่าเจ้าเป็นอะไรไปแล้วตัวข้าจะทำยังไง….. "
ฉี ซู่หยุนพูดแล้ว จากนั้นก็….. นัยน์ตาพลันแดงก่ำ ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาขึ้น ตั้งมากมาย มันทำให้เธอนั้นทุกข์ใจกังวลเป็นอย่างมาก
ยี่ เทียนหยุนมองดูสีหน้ายามนี้ของฉี ซู่หยุน มันดูช่างน่าสงสารยิ่งนัก ลักษณะบุคลิกแม้ครึ่งของเจ้าตำหนักหยกสวรรค์ในตอนนี้ก็หาหลงเหลือไม่ ยี่ เทียนหยุนดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้ ภายในอ้อมอกของเขาอย่างนิ่มนวล พร้อมกับพูดอย่างมั่นคงว่า " สบายใจเถอะ ตัวข้าจะไม่มีปัญหาใดๆอย่างแน่นอน หากข้าตาย ก็จะไม่ได้พบหน้าป้านะซิ ?? ข้าได้ให้คำปฏิญาณเอาไว้แล้วว่า ชั่วชีวิตนี้ข้าจะต้องปกป้องป้าเอาไว้ให้ได้….. "
" เทียนหยุน….. " ฉี ซู่หยุนน้ำตาร่วง เธอในตอนนี้ ไม่เหลือแล้วซึ่งความสง่างามของเจ้าตำหนัก เธอดูราวกับบุตรสาวคนสุดท้องก็มิปาน
