จู่ๆยี่ เทียนหยุนก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ณ ขณะนั้น เขาโบกมืออย่างนิ่มนวล ทักษะยุทธ์ขั้นมนุษย์และปฐพีกองใหญ่ก็ปรากฏวางกองอยู่บนโต๊ะ นี่คือสิ่งที่เขาได้จากซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ เขาจึงไม่ได้นำมันไปฟิวชั่น ไม่ได้นำพวกมันไปขาย เขาวางแผนที่จะมอบทักษะวิชายุทธ์เหล่านี้ให้กับตำหนักหยกสวรรค์
" เหล่านี้คือทักษะยุทธ์ขั้นมนุษย์และก็ทักษะยุทธ์ขั้นปฐพีนี่ !! " เมื่อฉี ซู่หยุนเห็นสิ่งของขนาดใหญ่กองนี้ เธอก็พลันช็อคในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะยุทธ์ขั้นปฐพี มันเป็นของที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก
ฉี ซู่หยุนยกหนังสือขึ้นมาดูจำนวน 12 เล่มด้วยกัน ด้วยความประหลาดใจ เธอพูดขึ้นว่า " เจ้าไปเอาพวกของสิ่งนี้มาจากที่ไหน ?? ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเป็นจำนวนมากอีกด้วย แถมทักษะพวกนี้ยังดูไม่เลวเลย ถึงแม้ว่าพวกเราจะรีบเร่งดำเนินการเข้าเก็บกวาด 3 กลุ่มอิทธิพล แต่เมื่อเราไปถึง เคล็ดวิชาก็ถูกเคลื่อนย้ายนำไปที่อื่นแล้ว ทำให้ทักษะยุทธ์ที่เรายึดมาได้นั้นค่อนข้างที่จะน้อยเป็นอย่างมาก เจ้ารู้ไหมว่าเจ้า ได้ช่วยเติมเต็มช่องว่างขนาดใหญ่ที่สุด !! "
ในตอนแรกที่พวกเราเข้ายึดทรัพย์สินของพวกเขา สิ่งที่ได้มาก็คือ เหล่าวัตถุดิบ อาวุธและเม็ดยาโอสถเป็นบางส่วน บรรพบุรุษเฒ่าของ 3 กลุ่มอิทธิพลต่างก็ถูกฆ่าตาย กลุ่มอิทธิพลอื่นแน่นอนว่าย่อมที่จะต้องได้ยินข่าวลืออันนี้ หรือไม่พวกเขาก็วางศิษย์ของตนไว้ภายใน ได้ยินดังนั้นพวกเขาจึงรีบนำกำลังของตนเข้าโจมตี เก็บกวาดทรัพย์สินบางส่วนเพื่อนำออกไปในทันที
ดังนั้นเมื่อพวกเราไปถึง มันจึงไม่ทันกับพวกเขาที่ลงมือตัดหน้าเราไปก่อนหน้านี้แล้ว หากว่าเราเดินทางระยะใกล้ๆมันก็ดีอยู่หรอก แต่นี่เราต้องเดินทางเป็นระยะทางที่ไกลมาก วัตถุดิบนั้นเป็นสิ่งที่พวกมันชิงไปน้อยที่สุด พวกมันเลือกที่จะเคลื่อนย้ายสิ่งของ ของผู้นำเหล่านิกาย
" นี่พูดแล้วก็ยาว จริงๆแล้วข้าได้รับสิ่งของพวกนี้มาจากซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ ท่านรอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปก่อน ข้าจะเล่าทุกอย่างให้ท่านฟังอีกครั้งหนึ่ง " ยี่ เทียนหยุนพร้อมกับรอยยิ้ม
" ได้มาจากซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์….. ข้าเกือบที่จะลืมถามเจ้าไปซะสนิทเลย สถานที่แห่งนั้นได้ปิดลงแล้วอย่างชัดเจน แล้วเจ้าออกมาได้อย่างไรกัน ?? " ฉี ซู่หยุนนึกสงสัย บรรดาผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็พากันสงสัยเช่่นกัน
" นี่เราเอาไว้ค่อยพูดกันในครั้งหน้าเถอะ อันดับแรกพวกเราควรจะปรับแต่งเม็ดยาดีๆออกมาก่อน เพื่อที่จะเริ่มฝึกฝนศิษย์ นี่คือกุญแจสำคัญในปัจจุบัน " ที่ยี่ เทียนหยุนไม่ได้พูด นั่นก็เพราะว่าเขาวางแผนที่จะนำฉี ซู่หยุนเพียงคนเดียวไปที่นั่น เรื่องนี้รู้น้อยคนย่อมจะเป็นการดีกว่า
ฉี ซู่หยุนพยักหน้า เธอไม่ได้ถามอะไรต่อ ส่วนผู้อาวุโสคนอื่นๆนั้นแน่นอนว่า ไม่กล้าที่จะซักถามอะไรกับยี่ เทียนหยุนอยู่แล้ว
หลังจากบรรลุถึงแผนการข้อตกลงกันแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็เริ่มที่จะปรับแต่งอาวุธและเม็ดยาในทันที ในตอนนี้ความชำนาญความสามารถด้านช่างตีเหล็กของยี่ เทียนหยุนอยู่ในระดับกลาง ในไม่ช้าเขาก็จะเข้าสู่ระดับสูงของช่างตีเหล็ก ระดับของการปรุงยาที่อยู่ในขั้นพื้นฐานก็เช่นเดียวกัน หากปรับแต่งเม็ดยาอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถเข้าสู่ความชำนาญความสามารถด้านปรุงยาในระดับกลางได้อย่างแน่นอน !!
หลังจากได้รับวัตถุดิบในการปรับแต่งทั้งหมดมาเรียบร้อยแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็เริ่มที่จะปรับแต่งอย่างบ้าคลั่ง อันดับแรกคือการกลั่นเม็ดยาโอสถปรับแต่งกายา ซึ่งเขาก็ปรับแต่งมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์ เขาคงจะสามารถทำภารกิจหลักนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ง่ายดายเป็นอย่างมาก หากเขาเสริมความแข็งแกร่งของศิษย์ที่อยู่ในขั้นปรับแต่งกายาให้เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงต้องการเม็ดยาปรับแต่งกายาเป็นจำนวนมาก เพียงให้เม็ดยาจำพวกนี้กับพวกเขาเพียงเท่านั้น ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของพวกเขาก็จะพุ่งสูงขึ้น
พวกเขาไม่ได้มีระบบคลั่งยกระดับอย่างยี่ เทียนหยุน ดังนั้นการจะยกระดับฐานพลัง จึงไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกินยาปรับแต่งกายาเข้าไป คงจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานซักระยะในการบรรลุเป้าหมายนี้ โดยธรรมชาติแล้วจะต้องอาศัยระยะเวลาที่นานเป็นอย่างมาก แต่อย่างน้อยภายใต้เม็ดยาปรับแต่งกายาจำนวนมหาศาลนี้ ระยะเวลาที่ใช้ก็อาจจะลดหลั่นกันลงไป
ยี่ เทียนหยุนไม่รู้ว่าตัวเองปรับแต่งเป็นระยะเวลานานแค่ไหนแล้ว เขาปรับแต่งครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ในแต่ละครั้งยี่ เทียนหยุนสามารถปรับแต่งเม็ดยาได้เป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาปรับแต่งไปกี่ครั้งแล้ว
" ตึง!! ประสบความสำเร็จในการปรับแต่งเม็ดยาปรับแต่งกายา ได้รับค่าประสบการณ์ 3,000 แต้ม ค่าความชำนาญความสามารถด้านการปรุงยาเพิ่มขึ้น 50 ดาว "
" ตึง!! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นยี่ เทียนหยุน ที่ประสบความสำเร็จในการเลื่อนระดับขึ้นสู่ระดับกลางของความสามารถด้านเทคนิคการปรุงยา !! "
" ในที่สุดก็สำเร็จ !! " ในหัวใจของยี่ เทียนหยุนนั้นมีความสุข ปรับแต่งมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการยกระดับ
จากบันทึกที่มีเกี่ยวกับระดับนี้ ยี่ เทียนหยุนในตอนนี้เท่ากับนักปรุงยาเกรด 4 ระดับสูง แต่อย่างน้อย ด้วยวัยเพียงเท่านี้ของเขา อาจจะมีคนรุ่นราวคราวเดียวเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะเขาได้
แต่อย่างไรก็ตาม ยี่ เทียนหยุนก็ยังไม่ได้หยุดการปรับแต่ง เขากลับที่จะเพิ่มพลังแห่งเปลวไฟให้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อที่จะปรับแต่งเม็ดยาปรับแต่งกายาอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากการยกระดับ มันทำให้เวลานี้ปริมาณเม็ดยาที่ออกมาในแต่ละครั้งของการปรับแต่งนั้น มากกว่า 100 เม็ด !! ผลจากการยกระดับ มันทำให้ความเร็วของการปรับแต่ง อัตราการประสบผลสำเร็จ ล้วนแล้วแต่ยกระดับกันขนานใหญ่
หากจำลองกระบวนการของยี่ เทียนหยุนแล้วละก็ สิ่งที่น่าเบื่ออย่างชัดเจนก็คือ มันค่อนข้างที่จะจืดชืด
หลังจากที่ปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง เขาก็ปรับแต่งเม็ดยาเป็นกลุ่มๆไป โดยใช้วัตถุดิบทั้งหมดไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นยี่ เทียนหยุนก็เริ่มที่จะปรับแต่งอาวุธ นั่นก็คืออุปกรณ์วิญญาณระดับสูง !!
" ตึง!! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นยี่ เทียนหยุน เลื่อนระดับความสามารถด้านช่างตีเหล็กขึ้นสู่ระดับสูง !! "
" เยี่ยม !! "
ยี่ เทียนหยุนตบเข่าอย่างรุนแรงดังฉาดใหญ่ ในที่สุดเขาก็ยกระดับมาถึงจุดนี้แล้ว บรรลุระดับขั้นสูงของช่างตีเหล็ก นี่หมายความว่าเขาสามารถที่จะปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณระดับสุดยอดออกมาได้ ชนิดที่ว่าเลือกจิ้มกันได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว เมื่อผสานเข้ากับแต้มแห่งศักดิ์ศรีของเขาแล้ว มันสามารถปรับแต่งในแต่ละครั้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ
" เริ่มปรับแต่ง !! "
ยี่ เทียนหยุนราวกับคนที่บ้าระห่ำ เขาทำการปรับแต่งทั้งวันทั้งคืน
" นายน้อย หากท่านไม่หยุดพักผ่อน ท่านก็จะไม่สามารถที่จะทานข้าวได้….. " เหลี่ยนน้อยนำข้าวมาส่งให้กับยี่ เทียนหยุน เธอมองดูเขาปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเธอดูพลันเป็นกังวล
หลายวันมานี้เป็นเธอที่คอยดูแลเอาใจใส่ยี่ เทียนหยุน พูดได้ว่าเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นมิเคยที่จะเปลี่ยนแปลงเลย แต่ไหนแต่ไรมาเป็นเสี่ยว เหลียนนี่แหละที่คอยเอาใจใส่ดูแลยี่ เทียนหยุนอยู่เสมอ
" พี่สาวเสี่ยว เหลียนท่านมาอย่างนั้นรึ " ยี่ เทียนหยุนหันศีรษะมาถาม " เอานี่ ข้าให้เม็ดยากับท่าน ยังมีอาวุธอีกด้วยนะ อ้อ เหรียญเงินอีกจำนวนหนึ่ง สิ่งของเหล่านี้ข้าขอมอบให้กับท่าน "
เหลียนน้อยมองดูแหวนเก็บของที่ยี่ เทียนหยุนส่งให้กับเธอ เธอก็เกิดอาการช็อคในทันที กลายเป็นทำตัวไม่ถูกในขณะนี้
" นายน้อย ของเหล่านี้ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก ข้าไม่คิดที่จะร่ำรวย ข้าไม่ต้องการของเหล่านี้ " ฐานพลังของเหลียนน้อยไม่ค่อยสูงมากนัก เธออยู่ในขั้นปรับแต่งกายาระดับที่ 7 หากเธอได้รับเม็ดยาโอสถที่ช่วยสนับสนุนเธอ ตัวเธอก็จะสามารถที่เลื่อนระดับได้
" หลายวันนี่ได้ท่านที่คอยดูแลข้า นี่ถือเป็นบุญที่ดีที่สุดของข้าที่มีท่านคอยช่วยดูแล " ยี่ เทียนหยุนยัดแหวนเก็บของใส่เข้าไปในมือเธอ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆว่า " ในหลายวันมานี้ ข้าคิดว่าท่านดูเลื่อนลอย ท่านคงจะคิดถึงบ้าน ท่านกำลังคิดถึงพ่อแม่ที่อาศัยอยู่ ณ ถิ่นฐานบ้านเกิดของท่านอยู่ใช่ไหม ?? "
เหลียนน้อยมิใช่เด็กกำพร้า เธอมีพ่อแม่ ที่นั้นไม่มีอะไร มันอยู่ในพื้นที่ชนบทอันห่างไกล หลายวันมานี้ อันที่จริงแล้วเธอก็ดูเหมือนคนเลื่อนลอย ดูเหมือนคนที่จมอยู่ในความคิด ดูใกล้ๆราวกับคนที่ไม่มีสติ ก็ไม่รู้ว่าเธอนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
" นายน้อย….. " เหลียนน้อยนัยน์ตาดูแดงก่ำ เธอพลันส่ายหัวในทันที
" พูดได้ว่า พวกเรามิใช่คนนอก คนอื่น คนไกล พวกเราต่างก็โตมาด้วยกัน ข้านั้นคิดว่าท่านก็เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ๆคนหนึ่งของข้า " ยี่ เทียนหยุนมองดูเสี่ยว เหลียนอย่างจริงจัง เขารู้ว่าปัญหาครั้งนี้ของเธอย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
" ข้า พ่อของข้าในตอนนี้ป่วยหนักอยู่ที่บ้าน ครอบครัวของเราก็ไม่ได้มีเงินมีทองด้วย ข….. ข้า " เหลียนน้อยคิดแล้วก็ร้องไห้
" พี่สาวเสี่ยวเหลียน ทำไมท่านถึงไม่บอกข้า !! " ยี่ เทียนหยุนจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ " ท่านกลับไปพร้อมกับสิ่งของเหล่านี้เถอะ ข้าจะปรับแต่งเม็ดยาฟื้นฟูให้กับท่านนำมันกลับไปด้วย พ่อของท่านจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ข้าจะมอบเงินให้ท่านอีกจำนวนหลายร้อยเหรียญทอง ท่านคิดว่าเงินจำนวนนี้มันเพียงพอรึไม่ ?? "
" ต….. แต่ เอ่อ….. คือว่า….. คือ ครั้งก่อนที่ผู้บุกรุกนำกำลังบุกเข้ามา ตัวข้าก็ไม่ได้ช่วยต่อสู้อะไรมากนัก คอยแต่จะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในซะมากกว่า ข้ามิอาจที่จะทำใจยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้หรอก " เหลียนน้อยส่ายหัว เธอกำลังตอบปฏิเสธ
" ถ้าท่านปฏิบัติต่อตัวข้าประดุจดังนายน้อยของท่าน ท่านจงกลับไปพร้อมกับสิ่งเหล่านี้ !! หากคิดที่จะชดใช้ ตัวท่านจะต้องขยัน หมั่นฝึกฝนเพื่อยกระดับฐานพลัง ท่านจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของตำหนักหยกสวรรค์ นี่ถึงจะเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุด !! " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม " และที่ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากสถานการณ์พ่อของท่านในตอนนี้ นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ ใยท่านถึงไม่บอกให้พวกเราได้รับรู้ ?? "
ถึงแม้ว่าเหลี่ยนน้อยจะได้เข้าร่วมเป็นศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ แต่ตัวเธอก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เธอเป็นคนที่คอยเอาใจใส่ดูแลเขาอย่างดี แม้กระทั่งไม่มีเวลาให้กับตัวเธอเองเลย ในตอนนี้ตำหนักหยกสวรรค์นั้นยุ่งวุ่นวายเป็นอย่างมาก หากแยกออกไปโดยพลการ มันดูไม่สมเหตุสมผลอย่างชัดเจน ดังนั้นถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะป่วยหนัก แต่เหลียนน้อยก็ยังไม่กล้าที่จะจากไปเพื่อกลับไปหาพ่อของเธอเลย
เหลียนน้อยพลันสะดุ้ง เธอพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก " ข้าขอขอบคุณนายน้อยท่านเป็นอย่างมาก ที่ท่านมอบยาดีๆให้กับข้า ข้าจะกลับไปเยียวยาอาการบาดเจ็บของท่านพ่อ หากอาการของท่านดีขึ้นแล้ว ตัวข้าจะรีบกลับมาในทันที "
" พี่สาวเสี่ยวเหลียน ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องรีบกลับมาหรอก สถานการณ์ของที่นี่ในขณะนี้ ข้าไม่ต้องการที่จะให้ใครมาช่วยเหลือข้า ท่านกลับไปดูแลพ่อของท่านอย่างสบายใจเถอะ หลังจากช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไป แล้วข้าเสร็จงานของข้าเมื่อไหร่ ข้าก็จะไปหาท่าน !! " ยี่ เทียนหยุนกล่าวแย้มยิ้ม
เขาปฏิบัติต่อเธอประดุจดังพี่สาวของเขาด้วยความจริงใจ ถึงแม้ว่าผู้อื่นจะดูถูกเหยียดหยามเขา คงมีก็แต่เหลียนน้อยและฉี ซู่หยุนเพียงเท่านั้นที่ดีต่อตัวเขา ในใจของยี่ เทียนหยุนมีเพียงคนทั้งสองนี้เท่านั้น แล้วเขาจะไม่ใส่ใจถึงปัญหาของเหลียนน้อยได้อย่างไร ??
" นายน้อย….. " เหลียนน้อยขบริมฝีปากแน่น ในที่สุดเธอก็พยักหน้าตกลง " บุญคุณของนายน้อย เหลียนน้อยไม่มีอะไรจะตอบแทน แต่ตัวข้าจะขอจดจำไว้ไม่มีวันลืม !! "
พูดแล้วเธอก็โน้มตัวคุกเข่าลง แต่ก็ถูกจับเอาไว้ซะก่อนโดยยี่ เทียนหยุน…..
" พี่สาวเสี่ยวเหลียนทำไมท่านถึงได้ทำแบบนี้ !! " ยี่ เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง " ท่านคิดว่าข้าเมื่อกลายเป็นคนแข็งแกร่งแล้ว ตัวข้าจะทำตัวห่างเหินกับท่านอย่างนั้นหรือ ?? "
" สิ่งนี้….. " เธอไม่กล้าจะมองหน้ายี่ เทียนหยุน
ไม่ต้องบอกก็รู้ สีหน้าของเธอมันตอบมาหมดแล้ว ฐานพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นแกร่งขึ้นและก็แกร่งขึ้น เขากลายมาเป็นบุคคลที่มิอาจจะเอื้อมถึง ยี่ เทียนหยุนนั้นต้องการที่จะดูว่า เสี่ยวเหลียนจะตอบคำถามเขาเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ท่าทีของเธอที่ปฏิบัติต่อยี่ เทียนหยุนในตอนนี้ มันเต็มไปความเคารพและไม่กล้าที่จะพูดจาถือวิสาสะกับตัวเขา
" เมื่อก่อนข้าเป็นอย่างไร ปัจจุบันข้าก็ยังเป็นข้า !! ไม่เปลี่ยนแปลง พี่สาวเสี่ยวเหลียน ท่านจะยังคงเป็นพี่สาวของข้า ไปตลอดกาล !! " ยี่ เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า " ท่านไม่ต้องบังคับฝืนใจตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า ให้ท่านปฏิบัติต่อตัวข้าดังเช่นนายน้อยยี่คนก่อน ดั่งที่ท่านเคยแสดงมันออกมา "
" นายน้อย….. " เหลียนน้อยมองดูนัยน์ตาของยี่ เทียนหยุนที่แดงก่ำเหมือนกับตัวเธอในตอนนี้ น้ำตาก็พลันไหลรินออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูราวกับหยดน้ำค้างที่ตกลงสู่พื้นดินอย่างต่อเนื่อง
ยี่ เทียนหยุนถอนหายใจยาว มันดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ทอดทิ้งบุคคลในครอบครัวไปซะแล้ว
หลังจากที่จัดแจงข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลี่ยนน้อยก็มุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านเกิดของตัวเธอ ส่วนยี่ เทียนหยุนนั้นก็กลับมาเดินหน้าปรับแต่งอาวุธให้กับตำหนักอย่างต่อเนื่องต่อไป เขาวางแผนเอาไว้ว่า หลังจากที่เสร็จงานนี้แล้ว เขาจะไปหาเหลียนน้อยด้วยตัวของเขาเอง เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรที่เขาสามารถที่จะให้ความช่วยเหลือเธอได้ไหม
