มองดูกองซากศพในปัจจุบัน สำหรับใครบางคนที่ยังไม่เคยพบเจอประสบการณ์การฆ่าสังหารหมู่แนวๆนี้ ก็คงไม่กล้า พอที่จะมองภาพที่อยู่ตรงหน้า หรือไม่ก็คงจะอาเจียนออกมาอย่างต่อเนื่อง เลือดที่ไหลนองท่วมบริเวณนี้นั้นหนาเป็นอย่างมาก สีเลือดสดไหลออกมาจากศพ มันเข้ามาแทนที่แผ่นหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมอยู่รอบๆบริเวณนี้
หากผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้ เส้นผมจะไม่ลุกตั้ง นี่จะเป็นเรื่องปกติ มันเป็นกฏของป่า หากว่าเราไม่ฆ่า เราก็จะถูกฆ่า !!
" ในที่สุดก็จบลงซะที….. "
ยี่ เทียนหยุนมองดูกองซากศพเหล่านี้ด้วยสายตาอันเย็นชา เขาไม่รู้สึกมีความสงสารต่อภาพที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว หากว่าพวกเขาละเว้นชีวิตของพวกมันแม้เพียงนิด เกรงว่ามันจะนำความตายมาสู่พวกเขา เมตตาต่อศัตรูก็เท่ากับทารุณกรรมกับตัวเอง
ช่วงเวลาต่อมาศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ก็เริ่มที่จะล้างบางทำความสะอาดกองศพเหล่านี้ พวกเขาต่างรวบรวมศพมากองไว้ด้วยกัน
แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก็คือ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับศิษย์ที่เลือกยอมจำนนเข้ากับฝั่งของศัตรู แต่อย่างน้อยพวกนี้ก็คงจะรู้สึกเสียใจในตอนนี้แล้ว และคงจะไม่คิดว่าตำหนักหยกสวรรค์จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรดี จริงๆบุคคลจำพวกนี้ก็ควรที่จะไร้ซึ่งความปรานีกับพวกเขา หรือจะกำจัดพวกเขาทั้งหมดทิ้งซะดี ??
แต่อย่างน้อยบรรดาเหล่ากบฏหลายๆคนก็ได้ถูกฆ่าตายโดยที่ไม่มีการยกโทษให้แม้แต่น้อย ยามที่เขาคิดกบฏ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ล้วนถึงแก่ความตายแล้ว หรือไม่ชะตาชีวิตของพวกเขาก็ต้องถูกทำลาย
" เจ้าตำหนัก พวกเราจะดำเนินการอย่างไรดี….. " ผู้อาวุโสยู้มองไปที่ฉี ซู่หยุนเพื่อทำการสอบถาม
" บอกพวกเขาให้ออกไป ไม่ต้องอยู่ที่นี่ บอกพวกเขาว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกที่พวกเขาเลือกวิธีการที่จะมีชีวิตอยู่ " ฉี ซู่หยุนโบกมือ บอกใบ้ให้พวกเขานั้นเดินจากไป
" ขอบคุณ ขอบคุณมาก ท่านเจ้าตำหนัก !! "
หลังจากที่พวกเขาได้รับการให้อภัยแล้ว ต่างก็พากันคุกเข่าลงแล้วเอาหน้าผากแตะพื้น จากนั้นก็พากันวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ จากนี้เป็นต้นไปตำหนักหยกสวรรค์จะไม่ใช่สถานที่ ที่ให้ที่พักพิงกับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
ฉี ซู่หยุนไม่ได้ตำหนิพวกเขา ในตอนนี้พวกเขาให้กลุ่มศิษย์ที่ไม่ซื่อสัตย์ออกไป คงเหลือแต่เพียงศิษย์เบื้องหลังอันมีค่าแก่การฝึกฝน
" เทียนหยุนเจ้าออกมาเมื่อไหร่ เวลานี้เจ้า….. " ฉี ซู่หยุนต้องการที่จะแสดงความขอบคุณในการกระทำของยี่ เทียนหยุน แต่เขาก็นำมือออกมาปิดปากของเธอเอาไว้
" ด้วยความสัตย์ นี่มันเป็นปัญหาของตัวข้าก่อนหน้านี้ ส่วนที่ข้าทำไปทั้งหมดนั้นก็เพื่อป้า จริงๆแล้วตำหนักหยกสวรรค์จะเป็นยังไงก็ช่าง ล้วนไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวข้า แต่ในตอนนี้ข้าเป็นถึงผู้อาวุโสแห่งตำหนักหยกสวรรค์ ข้าจึงเป็นส่วนหนึ่งของตำหนักหยกสวรรค์ การปกป้องตำหนักหยกสวรรค์นี่ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของข้า !! " ยี่ เทียนหยุนพูดด้วยสำนึกอันเข้มแข็งแห่งความชอบธรรม การกระทำของยี่ เทียนหยุนนั้นมันทำให้ศิษย์เป็นจำนวนมากนั้นไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาตรงๆได้แต่ชำเลืองมองดูเขา ความรู้สึกภายในใจของพวกเขาต่างก็พากันหวั่นไหวในตอนนี้
" ผู้อาวุโสยี่ ท่านช่างสง่างามยิ่งนัก ต่อไปพวกเราจะเชื่อฟังท่าน !! "
" ถูกต้องแล้วผู้อาวุโสยี่ ตัวท่านก่อนหน้านี้ร้ายกาจยิ่งนัก การที่มีท่านเป็นผู้อาวุโสของพวกเรา มันช่างยอดเยี่ยมซะจริงๆ !! "
" ต่อไปไม่ว่าผู้อาวุโสยี่จะบอกให้พวกเราทำอะไร พวกเราจะทำทุกอย่างตามที่ท่านบอก !! "
พวกเธอต่างก็รุมล้อมรอบๆตัวของยี่ เทียนหยุน แก้มของพวกเธอเปรียบได้ดั่งกับดอกไม้ นัยน์ตานั้นเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและศรัทธา
" ตึง!! * บรรลุเป้าหมายการป้องกัน * อย่างสมบูรณ์ ได้รับสมญานามถาวรว่า * ผู้พิทักษ์ * หากทำการติดตั้ง ค่าพลังในการป้องกันจะเพิ่มขึ้น 2 เท่า!! "
ยี่ เทียนหยุนพลันสะดุ้ง จู่ๆข้อมูลก็ถูกส่งออกมา มันทำให้เขาตกใจ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีภารกิจบรรลุเป้าหมายในระบบด้วย หลังจากปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ที่มีผู้คนเป็นจำนวนมากแล้ว ก็ประสบความสำเร็จในการได้รับสมญานามว่า " ผู้พิทักษ์ " กุญแจเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังป้องกันเป็น 2 เท่า !!
สิ่งนี้ช่างน่าทึ่ง ผลที่ได้ช่างท้าทายสวรรค์ซะนี่กระไร ความแข็งแกร่งของพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 2 เท่า นั่นหมายความว่าอะไร ??
ยี่ เทียนหยุนตรวจสอบใต้ชื่อของ " ผู้พิทักษ์ " นี้ รายละเอียดของข้อมูลก็ขึ้นมาในทันที ความแข็งแกร่งของพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 2 เท่า ได้มาจากการปกป้องมิตรสหายจำนวน 500 คนในช่วงเวลาวิกฤต และค่าความชอบของเหล่าผู้คนในขณะนั้นจะต้องมากกว่า 100 แต้ม
เงื่อนไขในลักษณะนี้ ยี่ เทียนหยุนรู้ได้ในทันทีเลยว่ามันมีปัญหาอะไร ก่อนหน้านี้ตัวเขาก็ได้ปกป้องตำหนักหยกสวรรค์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ค่าแห่งความชอบก็ไม่เกิน 100 แต้ม ดังนั้นการจะบรรลุเป้าหมายให้สมบูรณ์ได้นั้นย่อมมิใช่เรื่องง่าย
เหตุการณ์ในตอนนี้นั้นแตกต่างออกไป ค่าความชอบทะลุ 100 ได้ช่วยชีวิตพวกเขาในช่วงเวลาอันวิกฤต มันจึงสามารถทำให้เขาสำเร็จเป้าหมายแห่งภารกิจนี้ลงได้อย่างสมบูรณ์
" ที่นี่คงจะไม่สามารถที่จะค้นพบภารกิจแห่งเป้าหมายได้ แต่ก็เชื่อได้ว่าเงื่อนไขที่ตั้งนั้นจะต้องโหดหินอย่างแน่นอน….. "
ยี่ เทียนหยุนต้องการที่จะมองหาภารกิจแห่งเป้าหมายอื่นดูบ้าง แต่ที่นี่เขาก็ไม่ได้พบอะไรเพิ่มเติม หลังจากที่เขาเห็นผลกระทบที่ได้จากสมญานามผู้พิทักษ์อันน่าทึ่งเป็นอย่างมากนี้ มันก็สามารถที่จะจินตนาการต่อไปได้ว่า หากได้รับสมญานามที่ดีๆ มันก็จะนำผลลัพธ์อันน่าทึ่งที่ยิ่งกว่ามาให้อย่างแน่นอน
ยี่ เทียนหยุนนั้นดูต้อนรับขับสู้ แต่บรรดาเหล่าบรรพบุรุษต่างก็ดูอึดอัด ในตอนนี้ฐานพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นสูงกว่าพวกเขาไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ในตอนแรกนั้น พวกเขาต่างก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ต้องการที่จะขับไล่ไสสงยี่ เทียนหยุนออกไป
บรรพบุรุษทั้งสามคนต่างก็มองตาซึ่งกันและกัน ในที่สุดบรรพบุรุษบิง ซินก็เดินมาพร้อมกับพูดอย่างอายๆว่า " ผู้อาวุโสยี่ ในครั้งนั้นพวกเราต้องแสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ในตอนแรกพวกเราไม่ควรที่จะกระทำเช่นนั้นกับตัวเจ้า หวังว่าเจ้าจะยอมอภัยให้กับพวกเราในความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้….. "
พวกเธอทั้งสามยินดีเต็มใจที่ก้มหัวให้ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษต่อการ กระทำในตอนแรกของพวกเธอทั้งสาม ซึ่งจริงๆแล้วการจะมาขอโทษมันก็ไม่ได้จะง่ายดายเท่าใดนัก
" ข้าไม่สนใจถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา จากนี้และต่อไปก็เช่นเดียวกัน ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องมาขอโทษข้าหรอก ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านป้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้อื่นไม่มีความหมายอะไรสำหรับตัวข้า " คำของยี่ เทียนหยุนนั้นตรงไปตรงมา ปัญหาในอดีตนั้นยากที่จะลืมเลือน มันย่อมเป็นไปไม่ได้
เขายังคงจำได้อย่างชัดเจนถึงวันวาน ตอนแรกที่เขาและฉี ซู่หยุนต่างก็ผูกผันสนิทสนมกันด้วยโชคชะตา ในขณะที่ผู้คนรอบข้างต่างก็พากันดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามในตัวเขาเป็นอย่างมาก ครั้นฉี ซู่หยุนร้องขอเขาจึงยอมตกลงที่จะเป็นผู้อาวุโส เขาจึงต้องทำหน้าที่แสดงความรับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงโดยการปกป้องตำหนักหยกสวรค์นี้
แน่นอนว่าหลักใหญ่ก็คือปกป้องฉี ซู่หยุนและก็จิ่ว หลิงหยุนเหล่านี้ หากไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงจะออกคำสั่งให้หมาป่าหิมะปกป้องทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์ มิใช่ปกป้องเพียงแค่ฉี ซู่หยุนและจิ่ว หลิงหยุนเท่านั้น
เขามันคนประหลาด มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะยอมทนความขับข้องหมองใจพวกนี้เอาไว้ ผู้ชายก็เช่นเดียวกัน !!" ในยามนี้ฐานพลังของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นพวกเธอก็คงจะไม่ยอมก้มหัวให้เขาเป็นแน่ คงจะดูหมิ่นเหยียดหยามเขาเข้าด้วยกัน
บรรดาบรรพบุรุษต่างก็รู้สึกอึดอัด แต่อย่างน้อยยี่ เทียนหยุนก็ไม่ถึงขนาดกับเดินหนีพวกเธอไป
" ทำไมเจ้าถึงได้พูดกับผู้อาวุโสเยี่ยงนี้ !!" ฉี ซู่หยุนเคาะไปที่หัวของยี่ เทียนหยุนเบาๆ เธอพูดผ่ากลางด้วยรอยยิ้มว่า " ข้าชอบ "
บรรดาเหล่าบรรพบุรุษต่างก็คิดว่าฉี ซู่หยุนจะช่วยพูดสนับสนุนคำพูดของพวกเธอ แต่เปล่าเลยดูเหมือนว่าพวกเธอจะเข้าใจผิด ในตอนแรกฉี ซู่หยุนนั้นถึงกับยอมที่จะออกจากตำหนักหยกสวรรค์ เพื่อที่จะปกป้องยี่ เทียนหยุนเอาไว้ ดังนั้นตัวเธอจึงจะต้องเคารพในความคิดทุกๆอย่างของผู้อาวุโส แต่ที่ไหนได้จริงๆแล้ว….. เธอก็คือคนทรยศตั้งแต่เกิด แต่ที่เธอทำลงไป ก็เพื่อคนในครอบครัวของเธอเอง
บรรพบุรุษทั้งสามต่างก็เปิดเผยรอยยิ้มอย่างขมขื่นอยู่หลายส่วน แต่พวกเธอก็ไม่ได้พูดอะไร ในตอนนี้ยี่ เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งทรงพลังเป็นอย่างมาก พวกเธอควรจะเรียกเขาว่าผู้อาวุโสซะด้วยซ้ำไป !!
ถึงแม้ว่าอายุนั้นจะห่างกันหลายรอบ แต่ฐานพลังนั้นมีมากกว่าพวกเธอ จะเรียกว่าสูงถึงขั้นปรมาจารย์ก็ยังได้ ฐานพลังที่ทรงพลังขนาดนี้จะต้องเรียกว่าผู้อาวุโส บรรพบุรุษทั้งสามก็ไม่มีข้อยกเว้น
" ดีมาก กระจายกันออกไป ทำความสะอาดที่นี่ให้สะอาด….. หลังจากที่ผ่านช่วงเวลานี้ไป พวกเราจะต้องไปเยี่ยมเยือนพวกมันเป็นการส่วนตัว กลุ่มอิทธิพลทั้งสามจะต้องถูกกำจัด !!" สายตาของฉี ซู่หยุนนั้นดูเย็นชา จิตสังหารกำลังแผ่ออกมา!!
3 กลุ่มอิทธิพลไม่หลงเหลือซึ่งพลังใดๆแล้วในตอนนี้ พวกเขาจะต้องกำจัดพวกมันทิ้งซะ และนี่จะเป็นการประกาศให้กลุ่มอิทธิพลต่างๆทราบว่า พวกเขาจะมีจุดจบเช่นไรหากคิดจะมาข่มเหงตำหนักหยกสวรรค์ !!
