Crazy Leveling System - ตอนที่ 92 การ์ดผู้พิทักษ์ !!
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของยี่ เทียนหยุนนั้นไม่มีใครรู้ แต่สามารถที่จะฆ่าผู้เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดาย ฐานพลังของเขาจะต้องมิใช่น้อยๆอย่างแน่นอน พวกเขาต่างก็เดากันว่ายี่ เทียนหยุนนั้นจะต้องบรรลุระดับสูงของขั้นแก่นการควบแน่นและเหนือกว่าระดับมาตรฐาน ฐานพลังที่เขามีนั้นอาจจะเท่าเทียมกันกับพวกเขา
หากฐานพลังเท่ากัน แต่ด้านร่างกายแน่นอนว่าก็ต้องยกให้ยี่ เทียนหยุน ยี่ เทียนหยุนยังหนุ่มยังแน่นได้เปรียบพวกเขามาก พลังงานทางสายเลือดของพวกเขาไม่เพียงพอ อาจจะยุ่งยากในการจัดการ ค่าพลังชีวิตต้องลดลงไปหลายปี แน่นอนว่านี่ย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อยากที่จะพบเจอ
จึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนอยู่เป็นระยะเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับข่าวดีเป็นอย่างมาก นั่นก็คือยี่ เทียนหยุนนั้นถูกขังอยู่ในซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์
ในตอนนี้ก็ปล่อยให้ไส้ศึกกลับเข้าสู่ภายในของตำหนักหยกสวรรค์ รอเวลาที่จะโจมตีพวกเขา เมื่อถึงเวลาที่จะต้องต่อสู้กัน พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บลงได้
" ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้ เมื่อพรสวรรค์ของมารร้ายกลับติดอยู่ในซากโบราณสถาน ข้าไม่รู้ว่าเขาผ่านเข้าไปได้อย่างไร แต่ถ้าติดอยู่ด้านใน ต่อให้ไม่ตาย แต่หลังจาก 3 ปีผ่านไปเขาได้กลับออกมา ตำหนักหยกสวรรค์ก็จะไม่มีอีกต่อไป แล้ว !! " บรรพบุรุษเหวิน เถียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า " คนอื่นๆต่างก็คิดกันว่าตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเจ้ามีการ์ดอันน่ากลัวอยู่ในมือ มีรึที่ข้าจะไม่รู้ ?? นอกเหนือไปจากเหล่าหญิงชราทั้งหลายเหล่านี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก แล้วจะเอาอะไรมาขับเคี่ยวกับพวกเรา ?? "
บรรพบุรุษเหวิน เถียนเข้าโจมตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง มันค่อยๆทำให้ความรู้สึกภายในใจของเขาเกิดอาการลังเลสองจิตสองใจ มันค่อยๆคิดอยู่ภายในใจ หากไม่ยอมจำนนก็คือตายสถานเดียว
" ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงเลือกที่จะยอมจำนนซะ ข้าจะดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างดี….. หากต่อสู้ ตายสถานเดียว !! " บรรพบุรุษเหวิน เถียนสายตาเย็นชา เขาชำเลืองมองไปรอบๆ พวกเขาไม่ได้นับฉี ซู่หยุน พวกเขาเลือกที่จะโน้มน้าวใจเหล่าบรรดาศิษย์ที่มีฐานพลังอ่อนแอจำพวกนี้ หากศิษย์คนไหนที่กลัวตายก็จงเลือกที่จะยอมจำนนซะ
เหล่าศิษย์ต่างก็มองหน้ากันด้วยความเศร้า จริงๆผ่านไปกี่นาทีเท่าไรไม่รู้ที่พวกเขาลังเล เกิดอาการสองจิตสองใจ เผชิญหน้ากับบรรพบุรุษของบรรดากลุ่มอิทธิพลในครั้งนี้ ไม่มียี่ เทียนหยุนเหมือนครั้งก่อน แล้วพวกเขาจะต้านทานเอาไว้ได้อย่างนั้นหรือ ??
ฉี ซู่หยุนปิดตาของเธอลงอย่างนิ่มนวล เธอตะโกนอย่างสุดเสียงกระจายไปในอากาศว่า " ใครคิดที่จะยอมจำนน ก็จงยอมจำนนซะ ข้าจะไม่ตำหนิพวกเจ้า "
เมื่อคำพูดของเธอจบลง บรรดาศิษย์จำนวนมากต่างก็อยู่ในอาการเศร้าสลดหดหู่ใจ แต่ศิษย์ภายนอกนั้นปราศจากความลังเลใดๆ พวกเขาต่างก็ก้าวถอยหลังตามหลักพื้นฐาน พวกเขาคือศิษย์ภายนอก ไม่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งใดๆต่อตำหนักหยกสวรรค์ ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องสละชีวิตเพื่อตำหนักหยกสวรรค์
ส่วนศิษย์หลักเป็นจำนวนมากนั้นตกอยู่ในอาการลังเล พวกเขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วหากพวกเขาเลือกที่จะปกป้องที่นี่มันจะดีหรือไม่ ?? หากเลือกที่จะอยู่ที่นี่แล้วจะไม่พบกับจุดจบคือความตายอย่างนั้นหรือ ต่อต้านไปก็เท่านั้นไม่มีความหมายอะไร
หากตาไม่ได้บอดในตอนนี้ ก็สามารถที่จะมองเห็นสถานการณ์โดยรวมได้ ที่นี่ถูกโอบล้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนมาก ลำพังเพียงแค่บรรพบุรุษทั้ง 6 ก็เพียงพอแล้วที่จะสั่นสะเทือนที่นี่ได้ กลุ่มพลังที่รุมล้อมตำหนักหยกสวรรค์ในตอนนี้นั้นแข็งแกร่งกว่าคราวก่อนอยู่หลายเท่า
ศิษย์หลักบางคนยังคงลังเล แต่แล้วในที่สุดพวกเขาก็เลือกที่จะละทิ้งตำหนักหยกสวรรค์ เข้าไปสู่แคมป์ตรงข้าม
ผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนต่างก็พากันส่ายหัว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวอะไรต่อพวกเขา ชีวิตเป็นของพวกเขา ผู้อาวุโสไม่สามารถที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้
" พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ พวกเจ้าไม่เชื่อใจในตัวของเจ้าตำหนักอย่างงั้นหรือ !! " เวลานี้ มีเสียงตะโกนหนึ่ง ตะโกนใส่บรรดาศิษย์เป็นจำนวนมากที่กำลังจะเดินไปอยู่ฝั่งตรงกันข้าม และเจ้าของเสียงนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือจิ่ว หลิงหยุนผู้ที่ยี่ เทียนหยุนนำมานั่นเอง !! "
เมื่อจิ่ว หลิงหยุนแสดงจุดยืนของตัวเองด้วยการตะโกนพูดเช่นนั้นต่อหน้าศิษย์เป็นจำนวนมาก ใบหน้าของพวกเขาพลันแดงก่ำไปทั่วทั้งใบหน้า ยัยนี่เป็นบ้าไปหรืออย่างไร ที่แสดงความคิดเห็นเช่นนั้นออกมา หลังจากที่เข้าร่วมกับตำหนักหยกสวรรค์แล้วจะให้อยู่โยงไปจนตายเลยหรือยังไง
ใจของผู้อาวุโสหลายคนรู้สึกสั่นไหว พวกเขาต่างก็ไม่คิดเลยว่า ผู้ที่ยืนหยัดเป็นคนแรกจะเป็นเพียงสาวน้อยธรรมดาๆ ที่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของพวกเขาและศักดิ์ศรีของตำหนักหยกสวรรค์ ที่สำคัญยังเป็นบุคคลที่ยี่ เทียนหยุนเป็นผู้นำมาอีกด้วย ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ เธอเลือกที่จะยืนหยัดต่อสู้โดยปราศจากความกลัว
ทางด้านของฝั่งตรงข้าม บรรพบุรุษผู้เฒ่าเปิดเผยสีหน้าดูแคลนออกมา นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาสนทนาเจรจากันได้ หากยังคงอยู่ข้างเดิมต่อไป นี่ย่อมจะเป็นการรนหาที่ตาย ใครบ้างที่อยากจะตายกัน ??
ณ ช่วงเวลานี้ ใครบางคนก็เข้ามากระซิบบอกกล่าวประโยคอะไรบางอย่างกับบรรพบุรุษเหวิน เถียน จากนั้นบรรพบุรุษเหวิน เถียนก็พูดจาเย้ยหยันว่า " นี่นะรึศิษย์ภายในตัวน้อยที่เจ้าเด็กคนนั้นนำกลับมา ไม่สงสัยเลยว่าช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ยังเต็มใจที่จะช่วยตำหนักหยกสวรรค์พูดอยู่อีก….. แต่เจ้าคงอาจจะหลงลืมความจริงที่ว่า หากคนเราไม่มีชีวิตอยู่ แล้วความสลักสำคัญอะไรที่จะพึงมีได้อีก ?? "
" ก็เปรียบเทียบกับตัวข้ายังไงละ ข้าต้องการที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของตำหนักหยกสวรรค์ ปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ที่นายน้อยยี่ ต้องการจะปกป้อง !! ต่อให้ข้าจะต้องตาย ข้าก็จะต้องปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ให้จงได้ !! " นัยน์ตาของจิ่ว หลิงหยุนเต็มไปด้วยความมั่นคง ถึงแม้ฐานพลังของเธอจะไม่ได้สูงแต่คำพูดที่กล่าวก็เต็มไปด้วยพลัง
" เยี่ยม บุญคุณของตำหนักหยกสวรรค์มิใช่เล็กน้อย สู้ตายในสนามรบย่อมที่จะดีกว่า พวกเราจะต้องปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ !! "
" ตัวข้าไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ได้ตำหนักหยกสวรรค์ที่อุ้มชูตัวข้าขึ้นมา ข้าขอปฏิญาณที่จะสู้จนตัวตายเพื่อที่จะปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ !! "
พวกเขาต่างก็ถูกนำมา ต่างก็จดจำได้ถึงบุญคุณของตำหนักหยกสวรรค์ที่มีต่อพวกเขาว่ามันมิใช่เล็กน้อย ในเมื่อตำหนักหยกสวรรค์ไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนสวามิภักดิ์ พวกเขาก็จะไม่เต็มใจเช่นเดียวกัน
ใครบางคนในตอนนี้ที่กำลังลังเลสองจิตสองใจ ก็ได้แรงบันดาลใจกลายเป็นมั่นคงขึ้นมาในทันทีด้วยการนำของจิ่ว หลิงหยุน
นัยน์ตาที่สวยงามของฉี ซู่หยุนเป็นประกายแสงระยิบระยับ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าจิ่ว หลิงหยุนจะมีความสามารถทางด้านนี้ด้วย ความสามารถในการเป็นผู้นำ
" ฮ่าๆฮ่าๆ กะอีแค่กลุ่มคนปัญญาอ่อน รอก่อนเถอะ ข้าจะทำให้พวกเจ้านั้นรู้ว่าอะไรที่มันเรียกว่า นรกนะ !! ปฏิญาณตนว่าจะสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องตำหนักหยกสวรรค์อย่างงั้นเรอะ ?? ได้ !! " บรรพบุรุษเหวิน เถียนหัวเราะแล้วก็พูดว่า " ไปจับพวกมันมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนังเด็กผู้หญิงคนนั้น ข้าละอยากที่จะรู้จริงๆว่า เจ้าจะมีความกล้าซักแค่ไหนที่ไม่กลัวความตายนะ !! "
เมื่อได้รับคำสั่ง พวกเขาต่างก็แยกย้ายกันออกไป พวกมันทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมตัวมาฆ่าที่นี่ ต่อหน้าของท่านบรรพบุรุษ ที่จิตสังหารในตอนนี้นั้นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและเอ่อล้นท่วมที่นี่เต็มไปหมด
มือสังหารที่บรรพบุรุษผู้เฒ่าทั้ง 6 ส่งออกไปนั้น ถูกฉี ซู่หยุนปราบปรามแทบจะในทันที เธอชักดาบออกมา เคลื่อนตัวตรงไปด้านหน้า แต่ก็ต้องปะทะเข้ากับใครบางคนประเภทที่ว่าตัวเธอนั้นไม่กล้าที่จะหลุดออกจากสมาธิได้แม้แต่วินาทีเดียว
บรรพบุรุษเฒ่าทั้ง 3 ปะทะกับฉี ซู่หยุนที่เป็นกองหน้า ตัวเธอสามารถที่จะต้านทานได้มากที่สุดจำนวน 4 คน บรรพบุรุษเฒ่าอีก 2 คนที่เหลือก็จะต้องพึ่งพาอาศัยอาวุโสคนอื่นที่เหลืออยู่เข้าต้านทาน แต่ช่องว่างความห่างชั้นของพลังนั้นมันมีมากจนเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะต้านเอาไว้ได้นาน
" แปง !! "
บรรดาเหล่าศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ต่างก็ถูกโจมตีจนกระเด็น บ้างก็บาดเจ็บสาหัส บ้างก็ปางตาย เหล่าบรรดาศิษย์ที่ถูกฆ่าในครั้งนี้ ไม่มีทางที่จะถูกลืมเลือนเป็นอันขาด เหล่าศิษย์ที่ทรยศต่างก็ยืนมองดูบรรดาศิษย์ที่ถูกฆ่าตายจากระยะไกล พวกเขาต่างก็คิดกันว่าทางเลือกของตัวเองนั้นเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแล้ว หากพวกเขายังคงอยู่ฝั่งโน้น พวกเขาคงจะพบกับจุดจบแห่งความตาย ไม่ก็ถูกจับกุมตัว พวกเขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้เลยว่า จริงๆแล้วเมื่อเวลานั้นมาถึงแล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไร
-
เฮ้ ท่านบรรพบุรุษมอบหมายงานให้พวกเรามาจับกุมตัวเจ้า หญิงสาวตัวน้อย ช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าโต้เถียงอย่างดื้อรั้นเป็นอย่างมากต่อหน้าท่านบรรพบุรุษ ยามที่เจ้าถูกจับกุมตัว ข้าก็หวังว่าศิษย์ที่มีรอยยิ้มที่ดูจริงใจเช่นเจ้าจะสามารถพูดจาโต้เถียงหัวชนฝาได้อีกครั้งหนึ่ง….. " สีหน้าผู้ที่มาเยือนนั้นดูดุร้าย แถมยังดูชั่วร้ายเป็นอย่างมากอีกด้วย
จิ่ว หลิงหยุนนั้นไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว เธอกุมดาบยาวเอาไว้ในมือเตรียมตัวที่จะต่อต้าน
" ข้ายอมตาย ดีกว่าที่จะถูกจับโดยเจ้า !! " ในขณะที่พูดจิ่ว หลิงหยุนก็นำดาบออกมาจ่อเข้าที่คอของตัวเอง เธอเตรียมตัวที่จะฆ่าตัวตาย เพียงแต่เธอนั้นคิดว่า คงจะไม่สามารถที่จะได้พบหน้าของยี่ เทียนหยุนได้อีกครั้งหนึ่ง ไม่มีทางที่จะดูแลน้องชายของตัวเองให้ดีได้อีกครั้งหนึ่ง เธอมิอาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ แต่เธอก็จะไม่เสียใจ ไม่เสียใจที่กระทำอย่างนั้นลงไป
" คิดจะฆ่าตัวตายอย่างงั้นเรอะ ฝันไปเถอะ !! "
ฐานพลังขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับที่ 4 เร่งความเร็วขึ้นมาในทันที สปีดนั้นเร็วกว่าจิ่ว หลิงหยุน เขายื่นมือออกไปปัดดาบยาวในมือของเธอทิ้งไป แล้วก็จับแขนของเธอเอาไว้ในทันที จิ่ว หลิงหยุนในตอนนี้จึงไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้
ฐานพลังของคนทั้งสองนั้นห่างชั้นกันไกลลิบ เธอไม่มีทางที่จะต้านทานคนๆนี้เอาไว้ได้
" ข้าจะมองดูหญิงสาวตัวน้อยๆ เช่นเจ้าฆ่าตัวตายได้อย่างไร….. เฮ้ ถึงรูปร่างหน้าตาเจ้าจะดูธรรมดา แต่ทรวดทรงองเอวของเจ้าก็ดูไม่เลว " ศิษย์คนนี้มองดูไปยิ้มแย้มไป เขามองดูหุ่นของเธอไปด้วยเลียลิ้นไปด้วย
พลันสีหน้าของจิ่ว หลิงหยุนก็ดูซีดเซียว เธอเตรียมตัวที่จะกัดลิ้นของตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายภายในทันที
ในขณะนั้นเอง ประกายแสงสีเงินก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ศิษย์คนนั้นก็ถูกโจมตีจนกระเด็นลอยไป " ธัมพ " เขากลิ้งอยู่หลายตลบจึงหยุดลง เขามองดูไม่มีเสียงอีกเลยแม้แต่นิดเดียว
เวลานี้ก็ปรากฏรูปร่างลักษณะขึ้นมาท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้คน นี่คือ หมาป่าหิมะ หมาป่าหิมะที่ยี่ เทียนหยุนนั้นจัดแจงให้ป้องกันที่นี่เอาไว้ คำสั่งที่เขาได้ให้ไว้กับมันก็แสนจะเรียบง่ายเป็นอย่างมาก ปกป้องฉี ซู่หยุนและก็จิ่ว หลิงหยุนเป็นพิเศษ หากพวกเธอต้องพบกับอันตรายใดๆในปัจจุบัน ตัวเจ้าจะต้องรีบเข้าปกป้องในทันที !!
หมาป่าหิมะปรากฏกาย มันทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากถึงกับช็อค สัตว์อสูรจะมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และที่ยิ่งไปกว่านั้น ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าฐานพลังของมันนั้นจะสูงจนถึงขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 7 !!
" ฮะวู้ !! "
หมาป่าหิมะแหงนหน้าขึ้นหอน มันต้อนรับหมาป่าหิมะเป็นจำนวนมากอันหนาแน่น พวกมันต่างก็เข้ามาล้อมรอบบริเวณแห่งนี้เอาไว้ ถึงแม้ว่าฐานพลังของพวกมันจะไม่ได้สูง แต่พวกมันก็สามารถที่จะรับมือกับฐานพลังที่อยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณบางคนได้ หรือถ้าจะให้พอเหมาะพอเจาะก็ต้องอยู่ในขั้นปรับแต่งกายา
ในขณะเดียวกันนั้น ยี่ เทียนหยุนถึงแม้จะอยู่ในที่ที่ห่างไกล แต่เขาก็ได้ยินเสียงของระบบ
" ตึง!! ประสบความสำเร็จในการฆ่าศิษย์นิกายหลอมโลหะเทวะ ได้รับค่าประสบการณ์ 2,800 แต้ม แต้มคลั่ง 600 แต้ม ค่าความชำนาญความสามารถของช่างตีเหล็ก 50 แต้ม "
ยี่ เทียนหยุนจ้องมองในทันที ถึงแม้ว่าหมาป่าหิมะจะอยู่ห่างจากตัวเขาเป็นระยะทางอันไกลลิบ แต่ไม่ว่ามันจะฆ่าสัตว์อสูรตนใดหรือบุคคลใด ตัวเขาก็จะได้รับค่าประสบการณ์ในลักษณะที่คล้ายกัน ดังนั้นหากหมาป่าหิมะทำการฆ่าสัตว์อสูร ยี่ เทียนหยุนก็จะสามารถยกระดับได้อย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้มิใช่ค่าประสบการณ์ แต่เขาสามารถที่จะรับรู้ถึงจุดที่ว่า มีใครบางคนถูกฆ่า !!
" เจ้าพวกเฒ่าประหลาดทั้งหลาย อุตสาห์มาเยี่ยมเยียนถึงที่….. ช่างยอดเยี่ยมอะไรอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นในครั้งนี้ ข้าจะได้ฆ่าล้างบางพวกมันทั้งหมดอย่างยิ่งใหญ่ไปเลย !! " ยี่ เทียนหยุนยกสายตาของเขาขึ้นมองดู ไม่ไกลเท่าใดนักปรากฏประกายแสงสีขาวนวลอยู่ ณ บริเวณของตำหนักหยกสวรรค์
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความล่าช้าและปัญหาใดๆเป็นจำนวนมาก ยี่ เทียนหยุนจึงทำการเปิดโหมดคลั่งในทันที เขาเร่งความเร็วจนถึงขีดสุด สปีดรวดเร็วเป็นพิเศษ เหมือนกับได้ขี่หมาป่าหิมะ !!