Crazy Leveling System - ตอนที่ 89 กับดัก
เมื่อยี่ เทียนหยุนเดินออกมา เขาก็มองเห็นแหวนเก็บของตกอยู่ที่พื้น เขาหยิบมันขึ้นมาพลิกดูพินิจพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง จากนั้นเขาก็พูดด้วยความฉงนสนเท่ห์ว่า " นี่มันไม่ใช่แหวนของผู้อาวุโสใหญ่….. "
เขาเข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที พวกเขาคงจะต่างพากัน
คิดว่าตัวเขานั้นติดอยู่ด้านใน ดังนั้นจึงทิ้งแหวนเก็บของเอาไว้ให้ เพื่อที่เขาจะได้มีอาหารเอาไว้กิน หากติดอยู่ที่นี่ซัก 3 ปีแล้วไม่มีอาหารกิน ย่อมที่จะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามต่อให้มีอาหาร มันก็จะต้องตายเหมือนกัน นั่นก็เพราะว่าผู้เฒ่าซวนจะต้องออกมากำจัดคนผู้นั้นเป็นการส่วนตัว ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หากไม่สามารถที่จะ-ทำลายเขาวงกตและผ่านการทดสอบได้แล้วละก็ ผลลัพธ์ที่ได้นั่นก็คือความตายดีดีนี้เอง
อยู่ที่นี่รังแต่จะเปลืองพลังวิญญาณเท่านั้น ถึงจะตระเตรียมอาหารมาเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อทำการบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี่ ก็คงจะได้ตายอยู่ที่นี่นั่นแหละ
ยี่ เทียนหยุนกำแหวนเก็บของนี้เอาไว้ในมือ นี่ย่อมที่จะมีผล กระทบทางใจที่บังเกิดขึ้นกับตัวเขา อย่างน้อยๆพวกเขาก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในตัวเขา พวกเขาถึงได้ทำเช่นนี้
" ข้าควรจะกลับไปได้แล้ว….. "
ประตูใบไม้ซึ่งเป็นประตูหน้าเมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของ ยี่ เทียนหยุนก็ค่อยๆเปิดออก " รัมเบิล – ดั่งฟ้าร้อง " มันค่อยๆเปิดออกสู่ด้านข้างทั้งสองอย่างช้าๆ
ไม่มีความยากในการควบคุมเลย แค่คิดเพียงเท่านั้น เขาก็สามารถที่จะควบคุมสิ่งแวดล้อมทั้งหมดของที่นี่เอาไว้ได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่ารวมถึงประตูใบไม้ที่อยู่ด้านหน้านี้ด้วย หลังจากที่เปิดจนเป็นช่องโหว่แล้ว ยี่ เทียนหยุนก็พุ่งทะลุผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พุ่งตัวออกมา ภายนอกก็ไม่มีเงาของผู้คนแม้เพียงครึ่งเงาหลงเหลืออยู่เลย พวกเขาต่างก็จากไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ทว่าหากยังมีใครบางคนที่หลงเหลืออยู่ภายนอก แล้วเกิดพบเห็นว่ายี่ เทียนหยุนออกมาจากด้านใน นั่นย่อมที่จะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
" แปง !! "
หลังจากนั้นเสียงปิดลงของประตูดั่งฟ้าร้องก็เงียบลงโดย สมบูรณ์พร้อมๆประตูที่ปิดลง ยี่ เทียนหยุนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็เปลี่ยน เป็นเย็นชา เขามองไปยังบริเวณที่อยู่ใกล้แล้วก็พูดขึ้นว่า " นั่นใครอะ !! "
ทิศทางที่เขามองไปนั้นนั่นก็คือป่า ระยะทางก็ราวๆ 100 เมตร หากมองจากจุดที่เขายืนอยู่จะไม่สามารถที่จะมองเห็นร่างของใครได้เลยแม้เพียงครึ่งร่าง จะเห็นก็แต่เพียงผืนป่าเพียง – เท่านั้น สายตาของยี่ เทียนหยุนกลายเป็นเย็นชา
แค่ชั่วพริบตาจิตสังหารก็ปกคลุมรอบตัวเขา ยี่ เทียนหยุนพลันรู้สึกตกใจ ใจของเขานั้นเริ่มจมลง เขาไม่คิดว่าซ่อนตัวอยู่ด้านในหลายวันจะยังมีใครบางคนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ -ภายนอก และที่ยิ่งไปกว่านั้นฐานพลังของเขาก็มิใช่ว่าอ่อนแอ
" ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของข้านั้นจะถูกต้อง ข้าอุตสาห์ย้อนกลับมาเป็นพิเศษ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถเปิดประตูใบไม้ด้านหน้านี่ได้ งั้นก็แปลว่าเจ้าสามารถที่จะผ่านเข้า-ออกซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ได้ดั่งใจซินะ !! ข้าคิดอยู่แล้วว่าเรื่องมันแปลกอยู่นิดๆ โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีใครที่ใช้เวลาในการเลือกทักษะยุทธ์จากด่านทดสอบแห่งแผ่นศิลาจารึกหินเป็นระยะเวลานาน แต่เจ้ากลับอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาถึง 1 สัปดาห์ ข้าจึงสงสัยว่าเจ้าจะต้องพบเจอเข้ากับสถานการณ์พิเศษอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเจ้าอยู่เป็นแน่ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้า จะสามารถควบคุมซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ได้ " ในเวลานี้ ร่างที่คุ้นเคยก็ออกมาจากป่า เขายิ้มเยาะมองดูยี่ เทียนหยุน
" ประมุขนิกายฮัว คุน " เมื่อยี่ เทียนหยุนได้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจนว่าคนผู้นั้นคือใคร เขาก็ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเป็นประมุขนิกายสวรรค์ผู้สูงศักดิ์ฮัว คุน ความคิดของเขาช่างล้ำลึกจริงๆ คนอื่นต่างก็พากันคิดว่าเขานั้นคือคนโง่ ที่ติดอยู่ด้านใน ณ สถานที่แห่งนี้
ไม่คิดเลยว่านั่งขัดสมาธิอยู่ 2 วัน กำลังวางแผนที่จะออกจากที่นี่อยู่แล้วเชียว แต่กลับได้พบเห็นตัวเจ้าออกมาจาก – ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ ด้วยตาของข้าเอง นี่ก็หมายความว่าเจ้านั้นสามารถที่จะควบคุมซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งนี้ได้ดั่งใจของเจ้าซินะ หากว่าข้าสามารถ ที่จะปกครองที่แห่งนี้ได้ งั้นซากปรักหักพังโบราณสถาน-สวรรค์แห่งนี้ก็จะตกเป็นของข้า ด้านในนั้นไม่ว่ามันจะมีสมบัติอะไร ล้วนจะต้องตกเป็นของข้า !!
" เป็นอะไรไป ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอข้าที่นี่ใช่ไหม ?? ข้าสังเกตว่าเจ้าออกมาจากด้านใน นี่ล้วนเกิดจากการคาดคะเนของข้าแทบทั้งสิ้น….. แต่อย่างไรก็ตาม นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก !! " ประมุขฮัว คุนพูดจาแย้มยิ้มอย่างมีความสุข " ผู้อื่นล้วนคิดว่าเจ้านั้นติดอยู่ด้านใน แต่ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะโง่ถึงเพียงนั้น เลือกทักษะวิชาอะไรมันจะนานถึงเพียงนี้ นอกเหนือไปจากนั้น เจ้าเป็นคนสังหารศิษย์นิกายสวรรค์ของข้า ซึ่งแน่นอนว่าฐานพลังของเจ้านั้นก็จะต้องอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับสูงสุดอยู่เป็นแน่ แล้วฐานพลังปรับแต่ง -วิญญาณระดับสูงสุดจะเลือกทักษะวิชาเป็นเวลานานอย่างงั้นหรือ ?? ข้าก็เลยรู้สึกว่า มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างั้นไปได้ ความจริงที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าข้านั้นไม่ได้คิดผิด เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าต้องรอเจ้าอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเลย "
" ในตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้เลือก ถ่ายโอนการปกครองซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์มาให้ข้าซะดีๆ ข้าจะทำให้เจ้าได้จากไปพร้อมกับร่างที่ยังสมบูรณ์ !! "
ฮัว คุนนั้นพูดอยู่ด้านหลังของยี่ เทียนหยุน น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยออร่าแห่งการฆ่าที่กำลังแผ่กลิ่นอายออกมา ยังจะพิจารณาเอาใจใส่สภาพศพของยี่ เทียนหยุน ไม่เพียงที่เขาอยากจะครอบครองซากปรักหักพังโบราณสวรรค์แห่งนี้เพียงเท่านั้น เขายังจะต้องทำให้ยี่ เทียนหยุนนั้นกลัวจนลนลาน ก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่รู้จบในอนาคต !!
" ส่งมอบการปกครองซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ให้กับท่าน แล้วข้าจะได้ตายในสภาพศพที่สมบูรณ์ ประมุขฮัว คุนดูเหมือนว่าท่านจะยังไม่เข้าใจในการทำธุรกิจอยู่นะ !!" สีหน้าของยี่ เทียนหยุนนั้นแสดงความไม่แยแสทุกข์ร้อนใจอะไร เขาไม่ได้รู้สึกจริงจังไปกับออร่าสังหารที่แผ่ออกมาในตอนนี้เลย
" ข้าจะไม่ทำธุรกิจ นั่นก็เพราะธุรกิจนี้มันไกลเกินกว่าที่ตัวเจ้าจะต่อรองได้ ต่อให้เจ้าไม่ตกลง ข้าก็จะฆ่าเจ้าแล้วค้นหาเอาจากแหวนเก็บของของเจ้าอีกครั้งหนึ่ง " ประมุขฮัว คุนเหมือนจะจำได้ว่าแหวนเก็บของของยี่ เทียนหยุนนั้นเป็นอุปกรณ์ควบคุมซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้
ฮัว คุนนั้นไม่รู้ว่าหากว่าฆ่ายี่ เทียนหยุนแล้วตัวเขาก็จะไม่มีอะไรให้ใช้อีก แท้จริงแล้วผู้ที่ควบคุมซากโบราณสถานแห่งนี้ ก็คือ ผู้เฒ่าซวน ต่อให้ยี่ เทียนหยุนตาย เขาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งนี้ได้
" ดูเหมือนว่าเวลานี้จะเป็นวาระสุดท้ายของข้า " ยี่ เทียนหยุนยิ้มบางเบา
" มันดูเหมือนว่าเจ้าก็ไม่ได้โง่ซะทีเดียว เจ้าจะต้องเลือกโดยไม่มีการต่อรอง ข้าจะให้เจ้าได้ตายโดยที่ไม่ต้องเจ็บปวดอะไรมากนัก ฆ่าลูกศิษย์ของข้าแล้วการที่ตัวข้าให้เจ้าได้ตายอย่างสบาย นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากแล้วสำหรับตัวเจ้า ด้วยความสัตย์จริง ถึงแม้ว่ามองดูภายนอกพรสวรรค์ของเจ้าจะยอดเยี่ยม วัยเพียงเท่านี้ก็อยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับสูงสุดแล้ว แต่น่าเสียดายที่เจ้าจะต้องมาตายด้วยหมัดต่อหน้าข้า !!" ประมุขฮัว คุนค่อยๆเดินเข้าหายี่ เทียนหยุน ทุกย่าง-ก้าวที่เขาเดินแรงกดดันค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิดทีละนิด เขาต้องการที่จะทำให้ยี่ เทียนหยุนรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวนี้
ฮัว คุนนั้นคิดว่าฐานพลังของ ยี่ เทียนหยุนอยู่ในขั้นปรับแต่ง-วิญญาณระดับสูงสุดเพียงเท่านั้น นี่ย่อมเป็นความคิดที่ตายตัว นั่นก็เพราะเพียงฐานพลังนี้เท่านั้นที่สามารถจะเข้าสู่ด้านในได้ หากฐานพลังสูงกว่านี้ย่อมไม่สามารถที่จะเข้่สู่ด้านในได้
" งั้นก็มาลองดูกัน….. "
ข้อมูลจำเพาะในปัจจุบันของประมุขนิกายฮัว คุนปรากฏอยู่ในตาของยี่ เทียนหยุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฮัว คุน : ฐานพลังขั้นแก่นการควบแน่น ระดับที่ 6 สวมใส่เกราะอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง ตัวเลขสังเคราะห์ค่าพละ-กำลังการต่อสู้อยู่ที่ 40,000 แต้ม ทักษะยุทธ์ที่ใช้ คือ ฝ่ามือ-มังกรสวรรค์และเทคนิคการเคลื่อนไหวพิรุณโปรยปราย….. จุดอ่อน : ต้องโจมตีไปที่ไหล่ของเขาเพียงเท่านั้นจึงจะ -สามารถทำให้เขาเสียการทรงตัวได้ ไอเทมที่ได้หลังการฆ่า ก็คือ ฝ่ามือมังกรสวรรค์ เทคนิคการเคลื่อนไหวพิรุณ -โปรยปราย เม็ดยาเพิ่มประสบการณ์ 5 เท่าและเม็ดยาเพิ่มประสบการณ์ 100,000 ทอง 52,000
รายละเอียดของข้อมูลถูกนำเสนอในปัจจุบัน มุมปากของ ยี่ เทียนหยุนวาดออกด้านข้างทั้งสองแสดงการเยาะยิ้ม กล้าที่จะพูดจาเล่นลิ้นกับตัวเขาแถมยังยื่นข้อเสนอให้ตัวเขาเลือกอีกด้วย
" ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนโง่นะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าได้ตำหนิข้าก็แล้วกัน….. "
ฝ่ามือของฮัว คุนมองดูวูบวาบ เขาปลดปล่อยพละกำลังขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 6 พื้นดินระเบิดออก 1 ชั้นกลายเป็นเป็นพายุฝุ่น ปรากฏฝ่ามืออันคล่องแคล่วประหนึ่งฝ่ามือแฝดขึ้นในบัดดล
เมื่อฮัว คุนเตรียมตัวจะโจมตี ทันใดนั้นร่างที่ไวกว่าที่วูบผ่านเข้ามา เขาปล่อยหมัดพุ่งโจมตี " แปง !!" ร่างของฮัว คุนก็กระเด็นไปในทันที เขาตีลังกาล้มลุกคลุกฝุ่นไปหลายตลบ ฟันก็แตกหักไปหลายซี่
ตัวของเขาในตอนนี้ งงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วจู่ๆมันเกิดอะไรขึ้น เขาโดนหมัดเข้าไปได้อย่างไร
เมื่อเขากำลังคลาน ร่างๆหนึ่งก็พุ่งเข้ามา เท้านั้นเหยียบไปที่หัวของฮัว คุนพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสว่า " ในตอนนี้ใครมันจะโทษใคร ?? "
ฮัว คุนชำเลืองมองยี่ เทียนหยุน ในใจพลันสะดุ้งตื่นตกใจกลัว หมัดที่สั่นสะเทือนแผ่นดินเมื่อครู่นี้นั้น อุปมานได้ว่า ทั้งพลังและก็ความเร็วล้วนเหนือกว่าเขาแทบทั้งสิ้น !!
นี่หมายความว่า ฐานพลังของยี่ เทียนหยุน….. สูงอย่างนั้นหรือ ??