จากกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 เลื่อนขึ้นสู่กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย อันดับแรกต้องการผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นการควบแน่นที่มากอย่างเพียงพอ แต่ความแตกต่างอันใหญ่หลวงของตำหนักหยกสวรรค์นั้นวางอยู่กับศิษย์ !! "
ศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์มักจะอยู่ในขั้นปรับแต่งกายา ส่วนขั้นปรับแต่งวิญญาณปริมาณโดยทั่วไปนั้นจัดว่าน้อยเป็นอย่างยิ่ง ศิษย์หญิงที่มีก็ยังถือว่าน้อยนิดอยู่ กุญแจนั้นอยู่ที่ว่า จะต้องมีศิษย์ที่อยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณให้ได้มากกว่า 50 คนจึงจะสามารถกลายมาเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ได้
แล้วก็จะต้องผลิตขั้นแก่นการควบแน่นออกมา พลังซึ่งถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของนิกาย จะต้องมีปริมาณตัวเลขที่แน่นอน
ศิษย์ตำหนักหยกสวรรค์ที่อยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณนั้นมีอยู่ 10 คนซึ่งก็ห่างจาก 50 อยู่ 40 คน และก็ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานในการผลิต แหล่งทรัพยากรทางการเงินก็ต้องการเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าจะสามารถเลื่อนระดับโดยการทำไปเรื่อยๆไม่ใส่ใจได้ เช่นนั้นแล้วตำหนักหยกสวรรค์ก็คงจะกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ไปเรียบร้อยแล้ว
" หากข้าจะทำให้ตำหนักเลื่อนระดับ ก็คงจะต้องแก้ไขด้วยการพึ่งพาอาศัยการปรับแต่งเม็ดยาโอสถเพียงเท่านั้น " ยี่ เทียนหยุนจับคาง รางวัลแห่งภารกิจนั้นมันช่างดึงดูดใจทีเดียว ค่าประสบการณ์ 1,000,000 แต้มและก็ยังมีรางวัลรูเล็ต (ล็อตเตอรี่) เวอร์ชั่นปรับปรุง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ??
" ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ไป ข้าคงจะยุ่งน่าดู….. " ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า รางวัลที่ได้จากภารกิจหลักในครั้งนี้มันช่างน่าพึงพอใจ
ทันใดนั้นเขาก็มองดูไปที่ผู้เฒ่าซวนแล้วพูดสอบถามว่า " ทักษะยุทธ์อะไร ที่ ที่นี่มี ท่านมอบให้กับข้าได้หรือไม่ ?? "
" ได้ ท่านคือนายน้อยของที่นี่ สิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ก็คือของๆท่าน ซึ่งก็หมายความถึงทักษะยุทธ์เหล่านี้ด้วย " ผู้เฒ่าซวนพูด
" ถ้ายังงั้น รบกวนท่านรีบนำทางข้าไปดูเถอะ !! " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างตื่นเต้น
" เชิญนายน้อยตามข้าเอง "
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสองก็ออกจากแดนมายาแห่งนี้ ยี่ เทียนหยุนนั้นเดินตามผู้เฒ่าซวน แดนมายานั้นไม่มีอะไรที่มีตัวตน มันเป็นภาพจำลองเสมือนจริงที่อาศัยอาเรย์อันยิ่งใหญ่
" แปง !! "
ณ ขณะนี้ด้านนอกนั้นก็มีเสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมา ยี่ เทียนหยุนหันศีรษะมองดูก็พบว่าประตูหน้าของที่นี่นั้นเริ่มที่จะปิดตัวลงอย่างช้าๆ
" ประตูหน้ากำลังจะปิด แล้วตัวข้าสามารถที่จะเปิดมันได้หรือไม่ ?? "ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ย่อมได้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาแต่ประการใด ท่านมากับใคร มันย่อมที่จะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน " ผูเฒ่าซวนพูด
" อืม ยอดเยี่ยมมาก !! " พลังที่ควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดล้วนถูกควบคุมโดยยี่ เทียนหยุน " ถ้ายังงั้น ท่านก็นำทางข้าไปได้เลย "
ผู้เฒ่าซวนพยักหน้า เขาโบกมือพลันพวกเขาก็หายตัวไปในทันที ด้วยการเคลื่อนย้ายสสารไปยังพื้นที่พิเศษ
เมื่อเข้าสู่พื้นที่พิเศษนี้ ยี่ เทียนหยุนก็มองเห็นกองทักษะยุทธ์เป็นจำนวนมาก ณ ที่แห่งนี้ เขากวาดตามองดูก็พบว่า มันเต็มไปด้วยทักษะขั้นมนุษย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ทักษะขั้นปฐพีนั้นมีเพียงแค่ 2 เล่มเท่านั้น
" นี่ทักษะขั้นปฐพีเหลืออยู่เพียงแค่ 2 เล่มอย่างงั้นเหรอ ?? " ยี่ เทียนหยุนพูด
" ใช่แล้วเหตุก็เพราะว่าก่อนหน้านี้มันได้ถูกนำออกไป ที่นี่คงเหลือก็แต่เพียงทักษะขั้นมนุษย์เสียเป็นส่วนใหญ่ " ผู้เฒ่าซวนตอบตามความเป็นจริง " มันถูกเลือกจากผู้ที่เข้ามาไปหนึ่งเล่ม ที่นี่นั้นจะไม่มีการถูแท่งหินหรือว่าการถูข้อความจารึกโลหะใดๆทั้งสิ้น "
" ดี….. " ยี่ เทียนหยุนรู้สึกสิ้นหวัง ทักษะขั้นมนุษย์นั้นเป็นทักษะที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรมากนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทักษะระดับปฐพี
คิดว่าจะได้กองทักษะขั้นปฐพีซะอีก ความปรารถนาของข้าคงจะต้องเป็นหมันซะแล้ว
ด้านนอกของซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์
" ผู้อาวุโสใหญ่ ในตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี ?? ประตูหน้าได้ปิดลงแล้ว รอจะพบกับผู้อาวุโสยี่แต่เขาก็ยังไม่ออกมา !! " พวกของฉิน เสี่ยต่างก็เป็นกังวล แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไร นั่นก็เพราะว่ายี่ เทียนหยุนนั้นไม่ได้ออกมาจากด้านใน
ในใจของผู้อาวุโสใหญ่นั้นกระวนกระวายเป็นอย่างมาก ม่านแสงอันนี้ ตัวเธอไม่สามารถที่จะฝ่าเข้าไปได้ นี่ข้าทำได้แค่เพียงมองดูประตูใบไม้นี้ปิดลงอย่างนั้นเรอะ ??
บรรดาศิษย์ต่างนิกายต่างก็แสดงความชื่นชมยินดีในความโชคร้ายของตำหนักหยกสวรรค์ที่กำลังจะขาดศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ไปอีกหนึ่งคน พวกเขาต่างก็ได้ยินได้ฟังข่าวอันอึกทึกครึกโครมของตำหนักหยกสวรรค์เมื่อเร็วๆมานี้ บุคคลคนนี้ต้องถูกขังอยู่ที่นี่ นี่ย่อมจะเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของตำหนักหยกสวรรค์
" ดูเหมือนว่าข้าคงจะทำได้เพียงเท่านี้ !! " ผู้อาวุโสใหญ่ถอดแหวนเก็บของของเธอในทันที ในขณะที่ประตูหน้ากำลังจะปิดลงนั้น เธอก็ทำการเขวี้ยงแหวนตรงไปที่ประตู ในแหวนวงนี้มีอาหารอยู่ภายใน ถึงแม้ว่ามันจะมีไม่มากนักก็ตามที มีเม็ดยาอยู่เล็กน้อย ตราบใดที่ยังติดอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ มันก็คงจะสามารถที่จะช่วยได้บ้าง
วันคืนที่ผ่านไป พวกเขาต่างก็พยายามคิดหาทางออก ว่าจะช่วยชีวิตของยี่ เทียนหยุนได้อย่างไร
ผู้คนต่างก็พากันส่ายหัวพลางแยกย้ายกันออกไป ต่างก็คิดว่าการกระทำของผู้อาวุโสหม้อ ยู้นั้นเป็นการดิ้นรนที่ไม่มีความหมาย 3 ปีช่างยาวนาน แหวนที่บรรจุอาหารวงนั้นจะสามารถกินได้ถึง 3 ปีเลยเหรอ ?? ใครมันจะไปทำได้ที่จะตระ-เตรียมอาหารได้ถึง 3 ปี ??
จริงแล้วผู้คนเป็นจำนวนมากต่างก็ไม่เคยพบเคยเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ที่หลังจาก 3 ปีแล้วจะมีใครบางคนสามารถที่จะรอดชีวิตออกมาได้จากด้านในของสถานที่แห่งนี้ ต่อให้ตระเตรียมอาหารไว้ก็ตาม ผู้คนต่างก็คิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นคงจะไม่รอด นี่เป็นเคสที่แปลกประหลาดอย่างที่สุด
" แปง !! "
ประตูหน้าค่อยๆปิดลง นั่นก็หมายความว่าการหาประสบการณ์จากซากปรักหักพังโบราณสวรรค์แห่งนี้นั้นได้ปิดฉากลงแล้ว นั้นก็หมายความว่ายี่ เทียนหยุนจะไม่ได้ออกมาจากที่แห่งนี้
" ไม่น่าเลย ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ ที่สุดแล้วตัวเขาก็ไม่ได้ออกมา….. ประมุข ฮัว คุนพูดประโยคปลอบประโลมใจกับผู้อาวุโสยู้ " แต่นัยน์ตานั้นกลับลอบแสดงความชื่นชมยินดีอยู่
ในเมื่อคนผู้นี้เป็นผู้ฆ่าศิษย์ของตัวเองตาย เวลานี้ท้ายที่สุดแล้ว คนเลวก็จะต้องชดใช้ด้วยความเลวของตัวเอง !!
" ไม่เป็นไร พวกเราจะยังคงยืนหยัดต่อไป " ถึงแม้ว่าใบหน้าของผู้อาวุโสยู้นั้นจะไม่ได้จมลงแต่ในความเป็นจริงก็คือเธอนั้นเศร้าสลดเสียใจ นี่คือผู้เชี่ยวชาญในขั้นแก่นการควบแน่นระดับปลาย แล้วตัวเธอจะไม่เศร้าเสียใจได้อย่างนั้นหรือ ??
คนอื่นๆต่างก็แย้มยิ้ม ต่างก็พากันกลับบ้านภายในพริบตา ไม่มีใครเลยที่จะสนใจศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์
บรรดาศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ไม่มีใครที่อยากจะจากไป แต่ทุกคนก็ได้แต่นิ่งเงียบ สีหน้านั้นมีแต่ความเศร้า เขานั้นเป็นผู้กอบกู้ช่วยชีวิตของตำหนัก เหตุไฉนใยเขาถึงไม่ออกมา
" ผู้อาวุโสใหญ่ พวกเราไม่มีหนทางที่จะเปิดประตูนี้ได้เลยยังงั้นหรือ ?? " ฉินเสี่ยร้องถาม
" ไม่มีทาง ถ้าหากสามารถที่จะใช้กำลังเปิดได้แล้วละก็ พวกเราก็คงจะเปิดออกไปนานแล้วละ….. " ผู้อาวุโสยู้ถอนหายใจลึก เธอมองดูไปที่ประตูใบไม้พลันพูดว่า " ข้าคงทำได้เพียงกลับตำหนักเพื่อหารือกับท่านเจ้าตำหนัก ตัวข้าก็รู้สึกว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรอถึง 3 ปีต่อมา "
ก็คงจะทำได้เพียงเท่านี้ พวกเขาไม่มีพลังที่จะฝืนบังคับหักด่านซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ลงได้ หากสามารถหักได้ ก็คงจะยึดครองที่นี่ไปนานแล้ว ทำไมจะต้องรอจนประทั่งถึงวันนี้ ??
" พวกเรากลับกันก่อนเถอะ กลับไปค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง " ผู้อาวุโสหม้อ ยู้บอกใบ้เป็นนัยกับพวกเธอทั้งหมดให้กลับกันก่อน หากอยู่ที่นี่ต่อไปเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
และแล้วพวกเขาก็จากไปในทันใดอย่างเร่งรีบ ส่วนทางด้านของยี่ เทียนหยุนที่อยู่ในซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์นั้นไม่ได้มีความกังวลทุกข์ร้อนใจอันใดเลย
ในเมื่อเขาสามารถที่จะควบคุมซากโบราณสถานแห่งนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเข้าหรือออกเขาก็ทำได้ดั่งใจประสงค์ นี่ทำให้เขาไม่ต้องเป็นกังวล สิ่งสำคัญก็คือหากตัวเขาเองถูกค้นพบโดยผู้อื่นว่าตัวเขาสามารถที่จะควบคุมซากโบราณสถานแห่งนี้ได้แล้วละก็ นั่นย่อมจะไม่เป็นการดีอย่างแน่นอน
ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้เปรียบเสมือนไพ่ตายของเขา หากว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำหนักหยกสวรรค์แล้วละก็ ยี่ เทียนหยุนสามารถที่จะนำบรรดาศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์อพยพซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้อาจจะดูโบราณล้าสมัยคร่ำครึไปซักหน่อยแต่….. สถานที่แห่งนี้ก็สามารถที่จะต้านทานการโจมตีจากบรรดากลุ่มอิทธิพลได้โดยที่ไม่มีแรงกดดันใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว
" นอกจากทักษะยุทธ์เหล่านี้แล้ว ที่นี่ยังจะมีสิ่งอื่นอยู่อีกไหม ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" มี ที่แห่งนี้ยังมีห้องบ่มเพาะพลัง คลังสินค้า ข้าจะนำนายน้อยไปเยี่ยมชมในตอนนี้ " ผู้เฒ่าซวนนำยี่ เทียนหยุนไปยังสถานที่อื่น แต่ ณ เวลานี้ไม่สามารถที่จะทำการเคลื่อนย้ายได้ มีเพียงศิลาจารึกหินเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ถึงแม้ว่าฐานพลังของสปิริตคิง ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) นั้นจะน่าทึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ถือว่ามากมายอะไรนัก พลังงานแห่งสปิริตคิงที่หลงเหลือไว้จะถูกใช้ ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมด หากนำไปใช้กับอาเรย์การเคลื่อนย้ายที่บริโภคพลังงานอย่างมหาศาลแล้วละก็ เกรงว่ามันจะเป็นการสิ้นเปลืองจนเกินไป
" เยี่ยม นำข้าไปดูซิว่ามีทรัพย์สมบัติอะไรที่หลงเหลืออยู่บ้าง !! " ยี่ เทียนหยุนในปัจจุบันตาเป็นประกาย แน่นอนว่าสิ่งของมีมากกว่าก็ย่อมที่จะดีกว่า หากมีกองทรัพยากรอันนี้ก็สามารถที่จะขยายอิทธิพลของตำหนักหยกสวรรค์ได้ !!
