Crazy Leveling System - ตอนที่ 85 1 สัปดาห์
เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบจะ 1 สัปดาห์ ณ สถานที่ด้านนอกของศิลาจารึกหินด่านทดสอบ
บรรดาผู้คนนั้นต่างก็พึงพอใจไปกับการนั่งบ่มเพาะพลัง ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆเพียง 1 สัปดาห์แต่ถ้าเปรียบเทียบกับการบ่มเพาะของโลกภายนอกที่เป็นระยะเวลาถึง 2 เดือนแล้ว ที่นี่ย่อมจะดีกว่า ผู้คนที่มายังสถานที่แห่งนี้นั้นต่างก็มีวัตถุประสงค์อยู่ 2 ข้อ หนึ่งคือการได้รับทักษะวิชายุทธ์ อีกข้อก็คือ โอกาสในการบ่มเพาะพลังนั่นเอง
สถานที่ที่ร่ำรวยพลังวิญญาณเช่นนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป บางคนก็เลื่อนระดับ ณ ที่แห่งนี้ นั่นก็เพราะว่าพลังวิญญาณอันหนาแน่นของที่นี่นั้นเป็นข้อได้เปรียบที่เพียงพอเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้นั้นบรรดาผู้คนต่างก็เริ่มที่จะทยอยกันออกมา แต่บุคคลที่สำคัญที่สุดจริงๆแล้ว ยังไม่เดินออกมาซึ่งนั่นก็คือ ยี่ เทียนหยุนนั่นเอง !!
นี่มันทำให้พวกเขาต่างก็พากันช็อคเป็นอย่างมาก ยี่ เทียนหยุนยังไม่ออกมาจากการทำความเข้าใจในเคล็ดวิชา รังสียังคงปกคลุมตัวของเขาอยู่ นี่เป็นการเรียนรู้ทำความเข้าใจที่นานมาก จนเกือบจะ 1 สัปดาห์ บรรดาผู้คนที่เข้าไปด้านในนั้นต่างก็ทยอยกันออกมาเกือบ 3 ใน 4 ส่วนแล้ว
ณ สถานที่แห่งนี้นั้นไม่มีสมบัติอะไร มีเพียงแท่งศิลาจารึกขนาดใหญ่ ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับโชควาสนาที่จะได้อะไรออกมา และนี่ก็ถือว่าเป็นกระบวนการที่รวดเร็วเป็นอย่างมากอีกด้วย
ตอนนี้นั้นยี่ เทียนหยุนอยู่ด้านในเป็นระยะเวลาเกือบจะ 1 สัปดาห์แล้ว นั่นมันทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกหวาดกลัว มันมีสิ่งของล้ำค่าและดอกไม้อันงดงามอย่างนั้นหรือ !!
" ตอนที่ข้าตื่นขึ้นมา ตัวเขายังคงนั่งทำความเข้าใจอยู่เลย….. เขายังคงเลือกทักษะยุทธ์อยู่ด้านในอยู่อีกรึ รึว่าเขาลังเล ?? "
" นี่อาจจะจริงก็ได้นะ แต่นี่มันช่างไม่คุ้มค่าเอาซะเลย มันยากนักหรือยังไงที่จะเลือกทักษะวิชานะ ?? "
" มันช่างตลกสิ้นดี เขาช่างไม่รู้จักประเมินเวลาเอาซะเลย ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป หากประตูหน้าปิดลงเมื่อไหร่ เขาก็อาจจะกลายเป็นคนโง่งมที่ติดอยู่ด้านในไม่ได้ออกมาก็เป็นได้ !! "
บรรดาคนอื่นๆต่างก็พากันแย้มยิ้ม สรวลเซเฮฮา เพราะต่างก็คิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นไม่ต่างไปจากคนโง่ ดันเลือกอยู่ได้เป็นนานสองนาน เขาพลาดโอกาสที่จะบ่มเพาะพลังในขณะที่สภาพแวดล้อมแห่งนี้นั้นเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการบ่มเพาะพลังแต่ตัวเขาก็ยังไม่ได้ออกมา ยังคงเลือกทักษะยุทธ์อยู่ด้านใน นี่มันไม่ใช่การกระทำของคนโง่หรอกหรือ ??
สิ่งนี้เป็นความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ซึ่งรวมไปถึงฉิน เสี่ย พวกเธอก็ยังคิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นเลือกทักษะยุทธ์อยู่ด้านใน ผู้คนเป็นจำนวนมากนั้นคิดว่าด้านในด่านทดสอบนั้นมีแต่การเลือกทักษะวิชายุทธ์ โดยแท้จริงแล้วพวกเขาไม่ทราบว่าหากพวกเขาสามารถที่จะทำลายเขาวงกตอันนี้ออกไปได้ ก็สามารถที่จะเข้าสู่ด่านการทดสอบได้
แต่ทว่าหากพวกเขาล้มเหลว ก็จะต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อนหรือว่าต้องจบชีวิตลง คำที่ว่าประสบความสำเร็จนั้นพวกเขาไม่มีคุณสมบัติในการทดสอบหรอก สถานที่แห่งนี้นั้นได้ถูกปกครองโดยบุคคลอื่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
" สถานที่แห่งนี้เตรียมที่จะปิดลง ด้านในล้วนไม่มีผู้คนหลงเหลืออยู่ พวกเขาต่างก็รอคอยอยู่ที่ประตูหน้าที่กำลังจะปิดตัวลง !! " ด้านนอกของประตูนั้นเต็มไปด้วยเสียงตะโกนที่ต่างก็ตะโกนบอกต่อกันไป
สถานการณ์ของยี่ เทียนหยุนนั้นแปลกเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่มีใครอยากที่จะอยู่ที่นี่ เมื่อได้เวลาที่สถานที่แห่งนี้จะปิดตัวลง หากคิดที่จะออกไปจากที่นี่จะต้องรอต่อไปอีก 3 ปีจึงจะสามารถออกจากที่แห่งนี้ไปได้ ด้วยความสามารถของพวกเขาไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้จนกระทั่งถึง 3 ปี แค่ปีเดียวพวกเขาก็ตายแล้ว
พวกเขาทั้งหลายไม่สามารถที่จะอดข้าวอดน้ำอยู่ได้ ลำพังเพียงแค่พึ่งพาอาศัยการดูดซับพลังวิญญาณ ณ สถานที่แห่งนี้แล้วจะมีชีวิตรอดดำรงอยู่นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีฐานพลังอยู่ในขั้นที่สูงกว่านี้ จึงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ณ ที่แห่งนี้ได้
" ท่านพี่ ในที่สุดพวกเราก็ออกมา ใยผู้อาวุโสยี่จึงยังไม่เดินออกมา หรือตัวเขาจะได้รับอุบัติเหตุทางจิตวิญญาณอย่างงั้นหรือ ?? " ในหัวใจของอาหลิงนั้นมีความกังวลเป็นอย่างมาก
ฉินเสี่ยขมวดคิ้วพูดว่า " ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้มองดูจากสถานการณ์ของผู้อาวุโสยี่แล้ว บางทีอาจจะเข้าสู่ภาวะที่ผิดปกติบางอย่างด้านใน ยังไงพวกเราก็ไม่สามารถที่จะฝ่ารังสีนี้เข้าไปได้….. ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงแค่แจ้งเรื่องนี้ให้กับผู้อาวุโสใหญ่ได้รับทราบ พวกเราอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร "
รังสีอันส่องสว่างที่ฉายออกมาจากแท่งศิลาจารึกหินแห่งด่านทดสอบนั้น พวกเธอไม่สามารถที่จะทำลายมันลงได้
พวกเธอจึงเลือกที่จะจากมา มิฉะนั้นแล้วขืนยังรออยู่ที่นี่ ตำหนักหยกสวรรค์จะได้สูญเสียครั้งใหญ่เป็นแน่ ที่นี่ประกอบไปด้วยศิษย์ทั้งหมด 7 คนของตำหนักโดยที่พรสวรรค์ของพวกเขาแต่ละคนนั้นก็ถือว่าไม่เลว ไม่ใช่ว่าพวกเธอนั้นจะไม่มีความรู้สึก แต่หากให้รออยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเธอต่างก็มองดูยี่ เทียนหยุนเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างที่เดินทางกลับ พวกเธอต่างก็ระมัดระวังตัวด้วยเหตุที่กลัวว่าศิษย์จากนิกายอื่นนั้นอาจจะเล็งกลุ่มของพวกเธอเป็นเป้าหมายอยู่ก็เป็นได้
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น ในเวลานี้ไม่มีใครที่จะกล้ามองข้ามตำหนักหยกสวรรค์ ข่าวลือนั้นอื้ออึงไปทั่ว พูดได้ว่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของตำหนักหยกสวรรค์ในตอนนี้นั้นใครมันที่จะกล้ายั่วยุอำนาจของตำหนักในตอนนี้ และที่ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอก็ได้รับทักษะเพียงแค่ขั้นมนุษย์ ไอ้เรื่องที่จะเข้ามาปล้นเพื่อช่วงชิงนั้นย่อมจะเป็นเรื่องไร้สาระ
เมื่อพวกเธอเพิ่งจะผ่านพ้นประตูออกมา ศิษย์ของนิกายสวรรค์ก็รายงานต่อฮัว คุนประมุขนิกายของพวกเขาในทันที " ท่านประมุข เหลียง เฝิงนั้นตายแล้ว นี่เป็นฝีมือของยี่ เทียนหยุน !! "
" อะไรน่ะ ?? " ประมุขฮัว คุนนั้นพลันตกใจ ทันใดนั้นจิตสังหารก็ระเบิดออกมาจากนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขา " มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น !! "
ผู้อาวุโสใหญ่รีบเร่งเดินมา ในใจนั้นจมลง ยี่ เทียนหยุนนี่เป็นตัวปัญหาจริงๆ
" ประมุขฮัว ท่านมิอาจสงสัยคนของพวกเราได้นะ ศิษย์นิกายสวรรค์ของท่านได้กล่าวออกมาว่าต้องการที่จะดวลเป็น-ตายกับศิษย์น้องของพวกเรา ศิษย์น้องของพวกเราจึงตอบตกลงไป และมันจึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น " ฉินเสี่ยพูดออกมา " ปัญหานี้ บรรดาศิษย์ของนิกายอื่นต่างก็เห็นกันทั้งนั้น การประลองเป็น-ตายที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับนิกาย !! "
คิ้วของประมุขฮัว คุนขมวดแน่นเข้าหากัน เหลียง เฝิงนั้นเป็นศิษย์คนสำคัญของพวกเขา กลับต้องมาตายลงเช่นนี้ นี่เท่ากับว่าทรัพยากรที่ลงทุนไปนั้นต้องเสียเปล่า
" จริงรึ ?? " ประมุขฮัว คุนมองไปที่ศิษย์ของตนอย่างเคร่งเครียด
" เอ่อคือ….. "
" พูดดังๆ !! " ประมุขฮัว คุนพูดกับศิษย์ของตนเองด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
" ใช่ขอรับ !! " ศิษย์คนนี้จึงตะโกนเฉลยออกมาในที่สุด
" เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ !! งั้นถ้าประลองเป็น-ตายแล้วเหลียง เฝิงตาย แสดงว่าเขาไม่มีฝีมือ " ประมุขฮัว คุนหุบพัดด้ามยาวในมือ จากนั้นเขาก็ตบศิษย์คนนี้กระเด็นปลิวไปพร้อมกับในเวลาเดียวกันตัวเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า " ไม่มีอะไร ตัวข้านั้นต้องขอโทษต่อผู้อาวุโสใหญ่และตำหนักหยกสวรรค์ด้วย !! "
" ใช่แล้ว ข้านั้นผิดไปแล้วท่านประมุข….. " ศิษย์คนนั้นรีบคลานมาอย่างรีบเร่ง เขาเอามือปิดบังใบหน้าที่กำลังบวมเป่งอยู่ เขาพูดกับผู้อาวุโสใหญ่ว่า " ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ที่ศิษย์พี่ของพวกเรานั้นสร้างปัญหาขึ้นมา นี่ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับศิษย์ของท่านแต่อย่างใด….. "
" ห้ามกระทำการอันไม่เหมาะสมต่อหน้าของผู้อาวุโสหม้อ ยู้ " ประมุขนิกายสวรรค์ฮัว คุนกล่าวแสดงการขอโทษ
" ไม่เป็นไร เรื่องแล้วไปแล้ว " ผู้อาวุโสใหญ่พูดเบาๆ เธอนั้นรู้ว่าประมุขฮัว คุนแห่งนิกายสวรรค์ไม่ต้องการที่จะยั่วยุตำหนักหยกสวรรค์ ตำหนักหยกสวรรค์นั้นเมื่อเร็วๆนี้ได้ปราบปราม 3 กลุ่มอิทธิพลใหญ่ เป็นที่แน่นอนว่าฮัว คุนแห่งนิกายสวรรค์ย่อมที่ไม่กล้าที่จะวางตัวไม่เหมาะสมต่อหน้าของผู้อาวุโสใหญ่เป็นแน่
ต่อมาประมุขฮัว คุนก็หันหลังเดินจากมาและเขาก็กลับเข้าสู่อารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง เขาโคจรทักษะยุทธ์ นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขากำลังอดทนต่อความโกรธของตัวเอง ไม่สำคัญว่าใครมันจะผิดใครมันจะถูกในตอนแรก ศิษย์ของตัวเองที่เสียแรงฝึกฝนกลับต้องมาถูกฆ่าตาย แล้วตัวเขาเองจะไม่โกรธได้อย่างไร
" เกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสยี่ ?? " ผู้อาวุโสใหญ่แหงนหน้ามองดู เธอค้นพบว่าผู้ที่มักจะสร้างปัญหาอยู่เป็นประจำนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่
" ผู้อาวุโสยี่….. เขายังคงนั่งสัมผัสรู้ถึงการทำความเข้าใจบ่มเพาะพลังอยู่ด้านในด่านทดสอบ นี่ก็ผ่านมาเกือบจะ 1 สัปดาห์แล้ว เขาก็ยังไม่ออกจากการทำความเข้าใจเลย " ฉินเสี่ยกล่าวอย่างเป็นกังวล " หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ประตูหน้าจะต้องปิดลงเป็นแน่ "
" อะไรนะ นี่เจ้าพูดว่าอะไรนะ ?? " ผู้อาวุโสใหญ่อึ้งไป
" ผู้อาวุโสยี่ในตอนนี้ยังคงสัมผัสรู้ทำความเข้าใจในการบ่มเพาะพลังอยู่ ยังไม่ได้ตื่นขึ้นมา ศิษย์คาดว่าเขาอาจจะติดอยู่ด้านใน….. " ฉินเสี่ยพูดอีกครั้งหนึ่ง
" นี่ ผลลัพธ์นี้ มันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกันแน่ มันไม่มีเหตุผลเลย จะบอกว่ายังคงเลือกทักษะยุทธ์อยู่อย่างนั้นรึ ?? " ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วพูดว่า " มันไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าทักษะยุทธ์เหล่านี้จะดี แต่ก็ไม่ได้มีคุณค่าถึงกับขนาดที่ว่าต้องเสียเวลาเลือกกันนานถึงขนาดนี้ เขาติดอยู่ด้านในนั้นจริงๆรึ ??
หากว่าติดอยู่ด้านในนั้นจริงๆ นั่นจะกลายเป็นปัญหาอย่างมาก เวลาในตอนนี้นั้นเหลือน้อยกว่า 1 วันแล้ว หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ประตูหน้าจะต้องปิดลงเป็นแน่ หากจะรอครั้งต่อไป ก็จะต้องรอไปอีก 3 ปี
ถึงแม้ว่าฐานพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นจะไม่ใช่น้อย แต่เขาก็อาจจะอยู่ไม่ถึง 3 ปี