Crazy Leveling System - ตอนที่ 84 ทักษะสวรรค์ซวน เทียน (ความลับสวรรค์)
หลังจากที่ผู้เฒ่าซวนได้ยินดังนั้น ก็อยากจะพ่นออกมาเป็นเลือด นี่ยังจะดูดซับต่อไปอีกเรอะ ?? แล้วเมื่อไรเขาถึงจะเลิกละเนี่ย ??
" มันจะเป็นการดีอย่างที่สุดกับตัวเจ้าเองนะ ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าบ่มเพาะทักษะยุทธ์อะไร แต่การดูดซับพลังวิญญาณเป็นจำนวนมาก มันอาจจะทำให้พลังวิญญาณภายในร่างกายของเจ้าเกิดอาการไม่เข้ากัน ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการไม่เสถียรเป็นอย่างมากตามมาได้นะ " ผู้เฒ่าซวนเริ่มที่จะพูดในภูมิความรู้ของตัวเองที่สั่งสมมา เพื่อที่จะโน้มน้าวใจของยี่ เทียนหยุน
" ผู้เฒ่าซวนพูดฟังดูดีมีเหตุผล ดังนั้นข้าจะขอดูดซับอีกซักหน่อยก็แล้วกัน " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม ตามปกติแล้วเขาก็รู้ถึงความจริงข้อนี้ดีแต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับตัวเขา !!
เขาคิดว่าเจอเข้ากับแกะอ้วนนั้นแสนยากลำบาก ที่ไหนก็ใช่ว่าจะมีพลังให้ดูดซับเป็นจำนวนมาก นี่มันจะเป็นการเสียของ ถึงแม้ว่าชัยชนะจะทำให้สามารถกลายมาเป็นผู้ปกครองที่นี่ได้ แต่ซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์มิใช่สถานที่ที่จะสามารถเคลื่อนย้ายได้ ดังนั้นรีบๆดูดซับค่าประสบการณ์เพื่อโปรโมทฐานพลังของตัวเองคือวิธีการของผู้เป็นเจ้า
" ดี ถ้ายังงั้นก็หวังว่าเจ้าจะเร่งมือขึ้นอีกนิดนะ….. " ผู้เฒ่าซวนลอบปาดเหงื่อเย็น
ในที่สุดหลังจากที่ยี่ เทียนหยุนดูดซับได้ค่าประสบการณ์มาทั้งหมด 500,000 แต้มแล้ว เขาก็วางแผนที่จะยกเลิก เขานั้นต้องการที่จะบรรลุขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 9 หรือระดับสูงสุด แต่อย่างไรก็ตามหากตัวเขายังคงดูดซับในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆเห็นทีว่าซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งนี้คงจะพังทลายลงอย่างแน่นอน
ถึงว่าที่นี่สิ่งปลูกสร้างจะถือกำเนิดมาจากขั้นสปิริตคิง แต่มันก็เป็นระยะเวลาที่นานมากแล้ว ถ้าหากเป็นยุคสมัยขีดสุดของความเจริญรุ่งเรือง แน่นอนว่าการดูดซับอย่างบ้าคลั่งของยี่ เทียนหยุนจะไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน มันประมาณได้ว่าอาเรย์ของที่นี่ที่ทำหน้าที่รวบรวมพลังวิญญาณให้สมบูรณ์นั้น ทำหน้าที่ได้ช้ากว่าการดูดซับของตัวเขา ซึ่งมันอาจจะเก่าแล้วก็เป็นได้ มันอยู่มาถึงตอนนี้ได้ก็ดีมากแล้ว
หากเขายังคงดูดซับต่อ อาเรย์ ณ ที่แห่งนี้ก็คงจะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์
เมื่อถึงที่สุดแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็ปล่อยซวน เทียนลง เพิ่งจะหยุดการดูดซับพลังวิญญาณ จิตวิญญาณของซวน เทียนก็เข้าโจมตียี่ เทียนหยุน หากยี่ เทียนหยุนไม่ได้สังหารซวน เทียน จิตวิญญาณของเขาก็จะยังคงไม่หายไป
" ให้ข้าจัดการเจ้าซะเถอะ !! "
ยี่ เทียนหยุนหรี่นัยน์ตาทั้งสองข้างลง เขาต่อยหมัดออกไปอย่างรุนแรง ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) สปิริตคิงถูกต่อยจนกระเด็นลอยไป ขนานไปกับพื้นดิน ยี่ เทียนหยุนไล่ตามอย่างเร่าร้อน เขารวมสองมือเข้าด้วยกัน ทุบไปที่ซวน เทียนที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ
" แปง !! "
หลังจากที่ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) สปิริตคิงถูกกระแทกลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง ร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส มีรอยแตกปรากฏให้เห็นแต่ไม่ชัดเจนนัก ยี่ เทียนหยุนไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เขาระดมหมัดใส่ไปที่ร่างกายของซวน เทียนหมัดแล้วหมัดเล่า หมัดแล้วหมัดเล่าโดยปราศจากเวลาที่เขาจะตอบโต้หมัดของยี่ เทียนหยุนได้ มันทำให้ซวน เทียนนั้นต้องทนทุกข์ทรมานกับหมัดของยี่ เทียนหยุน
" แปง !! "
ในที่สุดซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ก็เปลี่ยนเป็นแสงดาวขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก แสงดาวนั้นค่อยๆลดน้อยลงจนหายไปในอากาศ นี่หมายความว่ายี่ เทียนหยุนนั้นสามารถที่จะเอาชนะซวน เทียนได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
" ตึง!! ประสบความสำเร็จในการฆ่าซวน เทียนในวัยหนุ่ม (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ ได้รับค่าประสบการณ์ 100,000 แต้ม แต้มคลั่ง 3,400 แต้ม "
ยี่ เทียนหยุนนัยน์ตาเป็นประกาย เขาไม่คิดว่าจะได้ค่าประสบการณ์ ณ แดนมายาแห่งนี้ด้วย แต่มันก็ไม่ได้ระเบิดของอะไรออกมา แต่ถ้าหากคิดให้รอบคอบแล้วที่นี่ก็คือแดนมายา ได้ค่าประสบการณ์มาก็ดีถมไปแล้วใยจะต้องได้สิ่งของอันใดเพิ่มมาอีก
" ในที่สุดก็จบลงซะที " ยี่ เทียนหยุนถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหันไปพูดกับผู้เฒ่าซวนว่า " ผู้เฒ่าซวน ตัวข้าสำเร็จการทดสอบแล้วหรือยัง ?? "
" สมบูรณ์….. ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เจ้าแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเมื่อปรียบเทียบกับนายท่านในวัยหนุ่มแล้ว " ผู้เฒ่าซวนส่ายหัว เขาเห็นว่ายี่ เทียนหยุนนั้นยกเลิกการดูดซับในช่วงสุดท้าย มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาในทันที " ขอแสดงความยินดีกับตัวเจ้าที่ผ่านการทดสอบได้อย่างสมบูรณ์ สามารถที่จะได้รับการสืบทอดต่อจากนายท่าน !! "
" รวมถึงการปกครองซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้ด้วยหรือไม่ ?? " ยี่ เทียนหยุนร้องถามอย่างเร่งรีบ
" ได้ ตราบใดที่เจ้ากลายมาเป็นผู้สืบทอดของนายท่าน เมื่อนั้นแล้วการปกครองซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้แน่นอนว่าจะต้องมอบให้กับเจ้าเป็นผู้ปกครอง " ผู้เฒ่าซวนยกยิ้มเล็กน้อย
" ยอดเยี่ยม ที่ข้าต้องการก็คือสิ่งนี้ !! " ยี่ เทียนหยุนยกยิ้ม เป็นผู้ปกครอง นี่เท่ากับยึดซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้เอาไว้ได้ ภารกิจหลักจะต้องสมบูรณ์ลงอย่างแน่นอน
" ตามข้ามาสิ "
ถึงแม้ว่ายี่ เทียนหยุนจะดูดซับพลังวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ณ ที่แห่งนี้จนทำให้พลังวิญญาณของที่นี่นั้นบางเบา แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ร้ายแรงอะไร สามารถที่จะพูดได้ว่าระดับพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นสูงเป็นอย่างมาก เขาไม่ใช่ผู้กระทำผิดแต่คือเมล็ดพันธ์ุที่ดี
ผู้สำเร็จตามปกติแล้วแข็งแกร่งกว่าก็ย่อมดีกว่า การสืบทอดในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ชอบธรรมแล้ว
ทันใดนั้นผู้เฒ่าซวนก็โบกมือ รูปร่างของสิ่งต่างๆที่สัมพันธ์กันก็ปรากฏขึ้นในอากาศ พื้นที่ที่อยู่ไกลสุดก็คือด่านทดสอบแผ่นศิลาจารึกหินก็ปรากฏให้เห็นขึ้นมา ทุกอย่างนั้นเหมือนกันอย่างถูกต้องแม่นยำ แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเห็นว่าแตกต่างหากมองดูผิวเผิน เมื่อก่อนนั้นพวกเขาต่างก็ยกสายตามองดูไปที่แผ่นศิลาจารึกหินนี้ ต่างก็ไม่พบเห็นข้อความอะไรที่อยู่ยอดด้านบนของแท่งศิลาเลย
แต่ในตอนนี้นั้นยี่ เทียนหยุนสามารถที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีข้อความอะไรที่ปรากฏอยู่ด้านบนของแท่งศิลานี้
" ทักษะลับศักดิ์สิทธิ์ความลับสวรรค์ "
ยี่ เทียนหยุนเมื่อพบเห็นข้อความ ตัวเขาก็คิดว่านี่ย่อมที่จะไม่ใช่ทักษะยุทธ์ที่ธรรมดาสามัญอยู่เป็นแน่ เพราะว่าเจ้านายของที่นี่นั้นถูกเรียกขานว่า ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ !! นี่หมายความว่าหากอาศัยทักษะศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็สามารถที่จะบ่มเพาะพลังของขั้นกษัตริย์ได้ยังงั้นเรอะ ??
" ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะมองออก ทักษะอันนี้เป็นสิ่งที่นายท่านได้ทำการศึกษาและปรับปรุงเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์อันมากมายเหลือคณานับ ตราบใดที่พรสวรรค์ไม่ได้ต่ำจนเกินไปนัก เมื่อนั้นก็สามารถที่จะเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ให้เข้าใจได้ สามารถที่จะบรรลุไปถึงขั้นกษัตริย์ !! " ผู้เฒ่าซวนกล่าวอย่างเน้นย้ำในส่วนที่เป็นสาระสำคัญอีกว่า " นี่เป็นทักษะระดับสวรรค์ระดับกลาง แต่ช่างน่าสงสารที่ความตายของคนเราโชคชะตาล้วนเป็นผู้กำหนด นายท่านจึงไม่มีโอกาสที่จะปรับปรุงทักษะยุทธ์อันนี้ให้เป็นทักษะยุทธ์ในระดับสูงได้….. "
ผู้เฒ่าซวนทอดถอนหายใจอย่างหนัก ทักษะสวรรค์ระดับสูงสามารถที่จะนำพาความสำเร็จมาได้อย่างยิ่งใหญ่ มันสามารถที่จะพาไปถึงขั้นนักบุญได้ !!
" สามารถที่จะคิดค้นทักษะยุทธ์ขึ้นมาเองได้จนสามารถที่จะบ่มเพาะพลังไปถึงขั้นกษัตริย์ นี่มันช่างเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ "
ยี่ เทียนหยุนนั้นตระหนักได้ถึงความยากอันแสนสาหัส หลังจากที่ซวน เทียนทำการปรับปรุงอยู่หลายครั้งมันก็กลายมาเป็นทักษะยุทธ์ที่สมบรณ์แบบเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสมแก่การบ่มเพาะพลัง หากไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดการเบี่ยงเบนในการฝึกได้ กลัวว่าอาจจะกลายเป็นผู้ไร้ซึ่งวรยุทธ์ แต่อย่างไรก็ตามทักษะขั้นสวรรค์นี้ช่างน่าทึ่งนัก กลุ่มอทธิพลเกรด 3 ก็ยังไม่มีทักษะในขั้นนี้เอาไว้ในครอบครอง จะมีก็แต่กลุ่มอิทธิพลเกรด 4 เพียงเท่านั้นที่มีอยู่และมันก็เป็นทักษะที่ต่างก็ทำให้เหล่าผู้คนนั้นพากันหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก
" ใช่แล้วละ ความยากนั้นมิใช่น้อยเลย ดังนั้นแล้วเจ้าจะต้องรับช่วงมรดกต่อจากนายท่าน ทำการฝึกฝนทักษะวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดนี้ เมื่อเวลานั้นมาถึงเจ้าอาจที่จะปรับปรุงทักษะวิชายุทธ์นี้ก็เป็นได้ นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของนายท่าน " ผู้เฒ่าซวนกล่าว
ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า " ตัวข้าจะฝึกฝนทักษะยุทธ์นี้ให้ดี "
" หากต้องการที่จะบ่มเพาะทักษะวิชานี้ พรสวรรค์จะต้องไม่ต่ำจนเกินไป อีกทั้งยังจะต้องผ่านสภาวะวิกฤตให้ได้อีกด้วย " ผู้เฒ่าซวนกล่าวจริงจัง
" ภาวะวิกฤตอะไร ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" พลังงานสายเลือดจะต้องเพียงพอ อีกทั้งประสิทธิภาพทางกายจะต้องแข็งแรงทรหดอดทนอีกด้วย !! " ผู้เฒ่าซวนอธิบายต่อว่า " คืองี้ หลักการทักษะศักดิ์สิทธิ์ของนายท่านซวน เทียน (ความลับสวรรค์) นั้นสามารถที่จะแสดงพลังป้องกันของตัวเองขึ้นมาได้ ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่ต้องการพลังงานสายเลือดเป็นจำนวนมหาศาลในการสนับสนุนตรงจุดนี้ พลังป้องกันอันแข็งแกร่ง ความสามารถอยู่ยงคงกระพันทำลายไม่ได้ ไม่มีอะไรที่จะสามารถเจาะผ่านการป้องกันนี้ไปได้ตั้งแต่ต้น "
ในพริบตา ยี่ เทียนหยุนก็แสดงสายเลือดแห่งพลังมังกรเทวะออกมา ปราณเลือดและร่างกายอันทรงพลังก็ปรากฏโฉมออกมา มันทำให้ผู้เฒ่าซวนนั้นถึงกับตัวสั่นพูดอะไรไม่ออก
" เช่นนี้นะเหรอ ?? " ยี่ เทียนหยุนกล่าวออกอย่างไม่แยแส
" ….. " ผู้เฒ่าซวนเงียบงัน เขาพูดด้วยโทนเสียงต่ำว่า " มารร้าย….. "
เมื่อก้าวผ่านจุดที่วิกฤตในการบ่มเพาะที่จะต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งไปได้ ในตอนนี้ยี่ เทียนหยุนก็ไปถึงมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้โดยสมบูรณ์แล้ว ไกลเกินกว่าความคาดหมายของผู้เฒ่าซวนไปมาก
" งั้นปัจจุบันเราก็มาเริ่มกันเลย เจ้าจงเริ่มที่จะสัมผัสรู้ทำความเข้าใจถึงทักษะศักดิ์สิทธิ์ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) นี้ซะเลย ข้าต้องการที่จะทดสอบการรับรู้ทำความเข้าใจของเจ้า เมื่อเวลาใช้ทักษะวิชายุทธ์ออกมา หากเจ้าสามารถที่จะเรียนรู้ทำความเข้าใจจนบรรลุได้อย่างชำนาญ แต่หากตัวเจ้าไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจในเคล็ดวิชาขั้นสูงได้ ข้าก็คงจะสามารถพูดได้อย่างเดียวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากด้วย โดยธรรมชาติแล้วเจ้าจำเป็นจะต้องบรรลุระดับที่ 2 ของทักษะ " ผู้เฒ่าซวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ทักษะวิชายุทธ์แต่ละเคล็ดวิชาต่างก็มีธรรมชาติของตัวมันเอง ถ้าหากว่าโดยธรรมชาติแล้วหากเข้ากับทักษะวิชายุทธ์นั้นไม่ได้ การจะก้าวหน้าในเคล็ดวิชายุทธ์นั้นๆก็ย่อมที่จะเป็นไปได้ยาก
ยกตัวอย่างเช่น ร่างกายของผู้ฝึกเดิมทีเป็นธาตุไฟ แต่ดันไปฝึกฝนวิชายุทธ์แห่งธาตุน้ำเข้า ซึ่งก็คือน้ำแข็ง นี่มิเป็นการรนหาที่ตายหรอกรึ ?? ฝึกฝนไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็จะค้นพบว่าไม่มีความสอดคล้องซึ่งกันและกัน นั้นมิเท่ากับว่าเป็นการฝึกฝนโดยสูญเปล่าหรอกหรือ