Crazy Leveling System - ตอนที่ 76 เริ่มแล้ว
ด้วยประสิทธิภาพของจิ่ว หลิงหยุนจึงทำให้ผู้คนทั้งหมดต่างก็พากันตกอยู่ในอาการช็อคจริงๆ พวกเขาต่างก็ไม่คิดว่าบุคคลที่ยี่ เทียนหยุนนำมาจะมีความสามารถอันน่าทึ่งถึงเพียงนี้ มันทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากรู้สึกอับอายขายขี้หน้าในความด้อยกว่าของตัวเอง เธอกลายมาเป็นศิษย์ภายในในทันที ก่อนหน้านั้นเป็นพวกเขาที่พูดกล่าวหาตัวเธอว่าจะสามารถทนได้มากที่สุดก็แค่ 2-3 รอบ มันทำให้ใบหน้าในปัจจุบันของพวกเขานั้นประมาณว่าโป่งพอง ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหน
นี่ยังจะเรียกว่าเป็นพวกเล่นเส้นเล่นสายอยู่อีกหรือ ?? เธอเข้าร่วมได้ก็เพราะความแข็งแกร่งของตัวเธอเองไม่ได้สอบเข้าได้ด้วยเส้นด้วยสาย
แต่อย่างไรก็ตามแม้แต่ตัวของยี่ เทียนหยุนเองก็ยังจะเซอร์ไพรส์ ผลการทดสอบในครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาคาดหมายเอาไว้มาก ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจิ่ว หลิงหยุนจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นมันยังโดดเด่นอีกด้วย
" ตึง!! ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นที่ทำภารกิจแอบแฝงเสร็จสมบูรณ์ – ฝึกฝนนักบุญหญิงเบื้องต้น – ได้รับค่าประสบการณ์ 50,000 แต้ม จิ่ว หลิงหยุนความชอบเพิ่มขึ้น 50 แต้มแห่งศักดิ์ศรี 30 แต้ม!! "
เสียงของระบบถูกถ่ายทอดในทันใด มันทำให้ยี่ เทียนหยุนกลัวจนแทบจะกระโดด ภารกิจฝึกฝนนักบุญหญิงในขั้นต้นอย่างงั้นเรอะ ?? มันคืออะไรกัน !!
" หรือว่าจิ่ว หลิงหยุนคือนักบุญหญิง ?? "
ยี่ เทียนหยุนมองไปที่จิ่ว หลิงหยุน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความช็อค " หลิงหยุนเจ้าคือนักบุญหญิงอย่างงั้นหรือ ?? "
" อือ ?? นักบุญหญิงอะไร ?? " ใบหน้าของจิ่ว หลิงหยุนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ไม่รู้ว่ายี่ เทียนหยุน พูดเรื่องอะไร
" ….. หลิงหยุนเจ้ารู้เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของตัวเจ้าไหม ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ข้าไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ จิ่วหลิงหยุนพูดพลางส่ายศีรษะ….. ข้าเติบโตขึ้นมาในเขตสลัมพร้อมๆกับน้องชายของข้า " เกี่ยวกับปัญหาต้นกำเนิดของเธอนี้ เธอกล่าวมันออกมาโดยที่ไม่ได้มีความเศร้าเสียใจและความรู้สึกอะไร
" น้องชายของเจ้าล่ะ….. คือน้องชายแท้ๆของเจ้าหรือเปล่า ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" น้องชายของข้าไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ตัวข้าเก็บเขามาเลี้ยง….. นายน้อยยี่ ท่านทราบได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่น้องชายแท้ๆของข้า ?? " จิ่ว หลิงหยุนถามด้วยความสงสัย
" นี่ ข้าก็ถามไปยังงั้นๆเอง ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เจ้าจะต้องใส่ใจหรอก….. " ยี่ เทียนหยุนกลบเกลื่อน เขาไม่ได้ถามคำถามจริงจังที่มันลงลึกในรายละเอียดต่อ แต่ความรู้สึกข้างในภายในจิตใจของตัวเขานั้นจริงๆแล้วผุดความคิดอย่างอื่นขึ้นมา
ถ้าเป็นอย่างนั้น จิ่ว หลิงหยุนก็อาจจะเป็นนักบุญหญิง แต่ทำไมเธอถึงถูกทอดทิ้งเอาไว้ที่นี่กันน่ะ ?? นี่มันมีความเป็นไปได้เป็นอย่างมาก หากมองดูจากพรสวรรค์ของเธอที่เริ่มจะผลิดอกออกผลออกมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถึงกับสร้างบันทึกแห่งประวัติศาสตร์ แต่ถ้ามองดูจากพื้นฐานบ่มเพาะพลังของเธอแล้วนั้น นั่นแหละที่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์
สถิติที่ได้รับบันทึกแรกเริ่มนั้น ฐานบ่มเพาะพลังของคนผู้นั้นอยู่ในขั้นปรับแต่งกายาระดับที่ 8 มันเหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานในการทดสอบขั้นพื้นฐานซะอีก จิ่ว หลิงหยุนประสบความสำเร็จว่ายข้ามถึงฝั่งฝันในช่วงระยะเวลาอันสั้น หากนำทั้งสองมาเปรียบเทียบกันแล้ว จิ่ว หลิงหยุนทำได้ถึงขนาดนี้ก็ยิ่งใหญ่มากๆแล้ว
" ฐานบ่มเพาะของเจ้าค่อนข้างต่ำ ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะอนุญาตให้เจ้าเข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ " ยี่ เทียนหยุนคิดว่ามันน่าสนใจเป็นอย่างมาก หากฝึกฝนตัวเธออย่างต่อเนื่อง จิ่ว หลิงหยุน อาจจะกลายมาเป็นนักบุญหญิงจริงๆก็ได้ รางวัลที่ได้รับก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรบ้าง
นี่จะเป็นภารกิจอุปถัมภ์ค้ำชูที่พิเศษ !!
" ข้าสามารถที่จะเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์ได้ก็มีความสุขมากๆแล้ว เพิ่งจะเข้าร่วมก็สามารถที่จะเข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ได้แล้ว นี่แน่นอนว่าย่อมที่จะถูกติฉินนินทาว่าร้าย " จิ่ว หลิงหยุนส่ายหัว เธอคิดว่าตัวเองนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์นี้ แม้กระทั่งฐานบ่มเพาะพลังก็ยังไม่เพียงพอ นี่จะทำให้ยี่ เทียนหยุนตกอยู่ในความลำบากได้
" อย่าพึงดูถูกตัวเองอย่างไม่ถูกต้องอย่างงั้น พรสวรรค์ของเจ้านั้นดีเป็นอย่างมาก เจ้าได้พิสูจน์ตัวเองเมื่อช่วงเวลาก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะขาดก็แต่เพียงฐานบ่มเพาะพลังที่ยังไม่ดีอยู่….. วางใจเถอะ ตัวเจ้ายังมีโอกาสในอนาคต หมั่นขยันฝึกฝน มีปัญหาอะไรก็มาหาข้า ตัวเจ้าจะต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน " ยี่ เทียน หยุนแย้มยิ้มให้กับเธอ ตัวเขาจะต้องเทรนจิ่ว หลิงหยุนให้ดี ก็เพราะว่านี่คือ นักบุญหญิง !!
ระบบจะไม่มีทางโกหกตัวเขาอย่างแน่นอน นี่คือภารกิจแอบแฝง !!
แต่ในทันใดนั้น ยี่ เทียนหยุนก็รู้สึกผิดในบางสิ่งบางอย่างที่ตัวเองได้กระทำลงไป เขาพาจิ่ว หลิงหยุน มาที่นี่นั้นเป็นการทำให้ตัวเธอต้องตกอยู่ในความยุ่งยากของปัญหา เพิ่งจะเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์ มันยังมีสิ่งต่างๆเป็นจำนวนมากที่รอให้เธอต้องกระทำ
และแล้วเวลาที่จะต้องไปยังซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ก็มาถึง ตำหนักหยกสวรรค์นั้นได้ทำการเลือกศิษย์ที่โดดเด่นทั้ง 8 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งก่อนหน้านี้นั้นก็มีฉินเสี่ยและก็อาหลิง
" ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์เตรียมที่จะเปิดออกอย่างนั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนสอบถาม
" ใช่แล้วล่ะ เวลานี้ให้เจ้าเป็นคนนำคณะไป ผู้อาวุโสใหญ่จะคอยให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ส่วนตัวข้าจะคอยปกป้องตำหนักหยกสวรรค์อยู่ที่นี่ " ฉี ซู่หยุนกล่าว อย่างมีแรงกระตุ้น
หากว่าส่งผู้อาวุโสออกไปทั้งหมด ที่นี่ก็จะกลายเป็นว่างเปล่า นิกายหลอมโลหะเทวะอาจบุกเข้ามาสร้างปัญหาให้กับที่นี่ได้ มันก็จะเป็นปัญหาให้กับเรา ตัวข้าจึงไม่สามารถที่จะไปยังสถานที่แห่งนั้นได้ ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ถือเป็น การเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันหาได้ยากที่ตัวข้าอาจจะต้องพลาดโอกาสไปในครั้งนี้
" นี่มันไม่เกี่ยวกันซักหน่อย ถ้าหากว่าบรรดาพวกเฒ่าหัวโบราณของนิกายหลอมโลหะเทวะบุกเข้ามาล่ะ….. " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างเป็นกังวล
" เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก พวกเราได้ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดตื่นขึ้นมาจากการเก็บตัวฝึกวิชาแล้ว ทำให้พวกเราไม่ต้องกลัวพวกมันอีกต่อไป !! ตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกมันเล่นกับเราเหมือนเช่นพวกเราเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือของพวกมันอีกต่อไป !! " ฉี ซู่หยุนกล่าวด้วยสายตาที่เย็นชา
ยี่ เทียนหยุนครุ่นคิดอย่างเงียบๆ แท้ที่จริงแล้วตัวเขาเองนั้นต้องการที่จะไปเยี่ยมเยียนบรรดานิกายเหล่านี้เป็นการส่วนตัวเป็นอย่างมาก ยี่ เทียนหยุนยังไม่เคยได้แก้แค้นพวกเขาเลย ที่ตั้งของนิกายเหล่านี้มีระยะทางที่ไกลเป็นอย่างมากและที่ยิ่งไปกว่านั้นหากรุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตของพวกเขา มันคงจะไม่เป็นการดีซักเท่าไรนัก
ถึงแม้ว่าฐานบ่มเพาะพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นจะดี แต่มันก็ยังไม่ถึงขนาดที่ว่าจะไป-มาได้ดั่งใจกับอิทธิพลที่ก่อตั้งขึ้นมาเหล่านี้ได้ คอยจนกระทั่งฐานพลังยกระดับขึ้นอีกครั้งหนึ่งค่อยว่ากันอีกที แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่บริเวณละแวกรอบๆใกล้เคียงบริเวณนี้อาจจะไม่มีสถานที่ไหนที่ดี ที่จะสามารถโปรโมทฐานบ่มเพาะพลังขึ้นมาได้ สัตว์อสูรธรรมดาๆ ฆ่าไปก็ไม่ได้ประสบการณ์อะไรขึ้นมา
" ยังงั้นก็ได้ ถ้าหากว่าทางท่านมีปัญหาอะไรท่านต้องรีบติดต่อสื่อสารให้พวกเราได้รับทราบในทันทีน่ะ !! " ยี่ เทียนหยุนพูดเสียงต่ำ " ข้าต้องการที่จะปกป้องพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ !! "
" ไม่เป็นไรหรอกน่า หากเจ้าคิดว่าบรรดากลุ่มเฒ่าประหลาดเหล่านี้คิดจะออกมา เราก็จะให้พวกเขาออกมา เวลาแห่งความตายได้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว จะกลัวก็แต่ว่าพวกเขานั้นจะเป็นพวกผู้เฒ่าที่เป็นเต่าหดหัวไม่กล้าที่จะออกมาก็เท่านั้นเอง " ฉี ซู่หยุนพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า " ยังพอมีเวลาให้เตรียมตัว ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์มันยังไม่ได้เริ่มขึ้นหรอก "
" ยังงั้นก็ดีเหมือนกัน แต่มันช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ที่ตัวข้าไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ โอ้ว….. " ยี่ เทียนหยุนส่ายหัว
" ฐานพลังของเจ้าก็สูง แล้วเจ้าจะเข้าไปเพื่ออะไร ?? " ฉี ซู่หยุนดีดไปที่กลางหน้าผากของยี่ เทียนหยุน เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า " เจ้าจะขมขื่นไปทำไม ข้างในนั้นไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษหรอก !! "
ฉี ซู่หยุนนั้นไม่รู้ถึงความกังวลที่แท้จริงของยี่ เทียนหยุนว่าแท้ที่จริงแล้วที่แห่งนั้นก็คือ ภารกิจหลักของยี่ เทียนหยุน
" ตัวเจ้าในปัจจุบันก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว "
เมื่อพวกเขามาถึงยังสถานที่ด้านนอก ผู้อาวุโสต่างก็เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว นั้นก็เพราะว่าโควต้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากของตำหนัก ในที่สุดผู้อาวุโสสองก็ทำความปรารถนาของตัวเองที่ให้ศิษย์ของตัวเองได้เข้าร่วมในครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ เธอได้มอบโควต้าให้กับลูกศิษย์ที่โปรดปรานของเธอ
ไม่ต้องพูดอะไร พวกเขาต่างก็ขึ้นรถม้าของแต่ละคน พวกเขาต่างก็เริ่มที่จะมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่ตั้งของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์
หลายวันผ่านไป ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยังตำแหน่งที่ตั้งของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ ยี่ เทียนหยุนมองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันมาแต่ระยะไกล เมื่อนานมาแล้วมีรถม้าเป็นจำนวนมากพลัดตกลงไปข้างใต้หุบเขานี้ ในการเดินทางมาครั้งนี้พวกเขาต่างก็แบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆที่ดูราวกับว่า ต่างคนต่างก็พูดคุยสัพเพเหระกันในทุกๆสิ่งมาตลอดทาง
การเดินทางต่างก็ขยับเข้าใกล้เป้าหมายขึ้นและใกล้ขึ้น ในที่สุดยี่ เทียนหยุนก็ได้เห็นซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ที่แท้จริง โบราณสถานแห่งนี้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ภายในเทือกเขาแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ดูราวกับมีประตูหน้าของเทือกเขาซึ่งข้างในก็คือซากโบราณสถานขนาดมหึมาอันสมบูรณ์ ถึงแม้ตัวเขาจะยังไม่ได้เข้าใกล้โดยสมบูรณ์แต่ยี่ เทียนหยุนก็สัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้นั้น มีแรงกดทับอันมหาศาลอยู่ภายนอก มันเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสง่างามและภูมิฐานเป็นอย่างมาก !!
สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ที่แห่งนี้ทันใดก็ล่วงผ่านมาแล้วถึง 10,000 ปี ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์นี้ช่างเป็นสถานที่ที่มีระยะเวลาอันยาว นานซะนี่กระไร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็กลายมาเป็นสถานที่แห่งการทดสอบ กลุ่มอิทธิพลแต่ละกลุ่มต่างก็มีโควต้าที่แน่นอนเป็นของตนเอง การจะผ่านที่นี่เข้าไปได้นั้นจะต้องมีป้ายสัญลักษณ์
หากปราศจากป้ายสัญลักษณ์ต่อให้ฐานพลังขั้นสูงก็ยังไม่สามารถที่จะผ่านเข้าไปได้
" นี่คือซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ ไม่รู้ว่าข้าจะสามารถผ่านที่นี่เข้าไปได้อย่างไร ?? " ยี่ เทียนหยุนยังไม่ยอมที่จะล้มเลิกความคิดของเขา เพราะว่านี่มันคือภารกิจหลักของเขา !!