Crazy Leveling System - ตอนที่ 71 สมบัติผู้พิทักษ์ตำหนัก
ปัญหาที่ 3 นิกายใหญ่รุมล้อมเข้าโจมตีตำหนักหยกสวรรค์ ในที่สุดก็กลายเป็นข่าว ข่าวใหม่นี้ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มันทำให้กลุ่มอิทธิพลทั้งหมดในดินแดนนี้ต่างก็พากันช็อค !! เป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แท้ๆกลับดับทำลายเหล่าผู้คนของ 3 นิกายใหญ่ นอกจากนั้น แม้แต่ 3 ประมุขผู้ยิ่งใหญ่แห่งนิกายใหญ่ก็ไม่มีข้อยกเว้น !!
ผู้นำแห่ง 3 นิกายได้เสียชีวิตลง นิกายเหล่านี้จะยังคงเหลืออะไรอีก ?? ที่เหลืออยู่ก็เป็นแค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่นนี้แล้วยังจะมีอำนาจอะไรหลงเหลืออยู่อีก แต่ยังไงก็แล้วแต่ไม่มีใครรู้ความจริงถึงเรื่องราวภายในเบื้องหน้าเบื้องลึกของ 3 นิกายใหญ่เหล่านี้ มันไม่สามารถจินตนาการโดยใช้ตรรกะที่เรียบง่ายได้อย่างแน่นอนเป็นอันขาด
ณ ห้องโถงที่ประชุมของตำหนักหยกสวรรค์
" ข้าจะให้เทียนหยุนดำรงตำแหน่งเป็นผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าใครมีความคิดเห็นอะไรไหม ?? "
ฉี ซู่หยุนชำเลืองมองเหล่าผู้ร่วมประชุม ในปัจจุบันก็มีผู้อาวุโสและ Deacon (ผู้ดูแล) พวกเขาต่างก็นั่งกันอยู่ที่นี่ สีหน้าท่าทางมองดูทรงเกียรติและสง่างาม
" ไม่มีความคิดเห็น "
ทุกๆคนต่างก็พยักหน้า บ่งชี้ว่าตัวเองนั้นไม่มีความคิดเห็นอะไร ยี่ เทียนหยุนในเวลานี้นั้นเป็นผู้ช่วยชีวิตทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์ ฐานบ่มเพาะพลังก็ช่างท้าทายสวรรค์รวมไปถึงฉี ซู่หยุน ต่อให้ต้องฝ่าฝืนกฏมณเทียรบาลก็ต้องให้ยี่ เทียนหยุนนั้นนั่งอยู่ในตำแหน่งของผู้อาวุโส
" ข้ามีความคิดเห็น "
เหล่าผู้ร่วมประชุมต่างก็พากันมองดูเสียงของผู้พูดในปัจจุบัน โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าบุคคลคนนั้นจะเป็นตัวของยี่ เทียนหยุนเอง !!
" เจ้าตำหนัก ข้าคิดว่าการดำรงตำแหน่งสถานะศิษย์นอกก็เป็นเกียรติมากพอแล้ว ขนบธรรมเนียมประเพณีจะได้ไม่พลอยด่างพร้อย ข้าคิดว่าศิษย์นอกมันก็ดีอยู่แล้วและที่ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ค่อยดีเท่าไรที่ข้าจะต้องมาจัดการแก้ไขปัญหาภายในตำหนัก " ยี่ เทียนหยุนนั้นอุตสาห์คิดว่า พวกเขามารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อที่จะประชุมกันเรื่องอะไร ไม่คิดว่าปัญหาแรกที่หยิบยกนำขึ้นมาพูด จะเป็นเรื่องการกลายมาเป็นผู้อาวุโสของตัวเขาเอง
ตำแหน่งของผู้อาวุโสนั้นไม่ดีที่จะดำรง ปัญหาต่างๆที่ยุ่งวุ่นวายนั้นล้วนมากมายเป็นพิเศษ ตัวเขาเองนั้นไม่ต้องการที่จะนำตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับปัญหา
" เจ้าจะต้องรับ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ประเพณีต้องเสื่อมเสีย หากฝ่าฝืนประเพณีแล้วทำให้ผู้คนยังดำรงชีวิตอยู่ได้ อย่างงั้นมันก็สมควรเปลี่ยน เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องจัดการกับสิ่งใด พวกเราเพียงต้องการที่จะแสดงว่า เจ้าเป็นคนของตำหนักหยกสวรรค์ เป็นตัวแทนของพวกเราตำหนักหยกสวรรค์ !! ทักษะความสามารถของเจ้ามีรึที่ข้าจะไม่รู้ ?? ขืนให้เจ้าจัดการปัญหา ตำหนักก็พังกันพอดีน่ะซี !! " ฉี ซู่หยุนพูดจาหยิกแกมหยอกมองดูเขา แน่นอนว่าเธอจะไม่ให้ยี่ เทียนหยุนนั้นต้องจัดการกับปัญหาอะไรเลย
ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็พากันพยักหน้าเป็นการตอบรับ หากมอบหมายให้ยี่ เทียนหยุนเป็นผู้จัดการปัญหาต่างๆภายในตำหนัก แน่นอนว่าพวกเขาต่างก็ไม่ไว้วางใจ !!
" แต่….. เอ่อ " ยี่ เทียนหยุนพอเห็นฉี ซู่หยุนจ้องมองมาทางตัวเขา เขาก็ไม่กล้าในทันทีได้แต่พูดว่า " ถ้าอย่างงั้นก็ดี ข้าจะรับตำแหน่งผู้อาวุโสนี้ไว้ "
เหล่าศิษย์ที่รายล้อมต่างก็พากันยิ้มแย้ม คนอื่นๆนั้นต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะดำรงตำแหน่งของผู้อาวุโส แต่ยี่ เทียนหยุนนั้นตรงกันข้าม เขากลับไม่ต้องการ
" อย่างงั้นก็ดี ต่อไปปัญหาที่สอง ในเวลานี้พวกเราได้กำจัดบรรดาเหล่าผู้นำของ 3 นิกายใหญ่ พวกเหล่าบรรดาผู้เฒ่าหัวโบราณจะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตึกกระแสลมแห่งสวรรค์จะไม่ใช่นิกายใหญ่ แต่ประวัติของพวกเขาก็มิใช่ย่อย ได้ยินข่าวมาว่าร่วมมือกับนิกายหลอมโลหะเทวะเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ข้าคิดว่าพวกเขายังคงมีความหวัง ไม่ล้มเลิกที่จะล้างแค้นพวกเราอย่างแน่นอน " ฉี ซู่หยุนพูดจาอย่างเคร่งขรึมว่า " ดังนั้นพวกเราจะต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ กล้าที่จะจ้องมายังสมบัติของพวกเรา พวกมันจะต้องหาข้ออ้างสารพัดในการบุกมาโจมตีพวกเราโดยหมายที่จะครอบครองสมบัติผู้พิทักษ์ของพวกเราในท้ายที่สุด !! "
สมบัติผู้พิทักษ์ ??
ยี่ เทียนหยุนรู้สึกให้ความสนใจ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์แบบไหน แต่ตัวเขาก็ไม่ได้พูดถามอะไรออกไปเพราะไม่ว่ายังไงๆมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขาในทุกกรณี
" ปัญหาที่สาม นี่เกี่ยวข้องกับสมบัติผู้พิทักษ์อันนั้น ข้าวางแผนที่จะมอบให้เทียนหยุนเป็นผู้ใช้มัน ไม่ทราบว่าทุกๆคนจะมีความคิดเห็นยังไงกันบ้าง?? " ฉี ซู่หยุนกล่าว ขึ้นในทันใด
ยี่ เทียนหยุนรู้สึกช็อคในทันที จู่ๆจะนำมาให้เขาใช้ได้ยังไง ??
" ท่านเจ้าตำหนัก ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้น่ะ แต่ไหนแต่ไรมาสมบัติผู้พิทักษ์นั้นเป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับเจ้าตำหนักเท่านั้นที่จะใช้มันได้ นี่จะเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับประเพณีของพวกเราอย่างชัดเจน " ผู้อาวุโสใหญ่ยืนขึ้นในทันที ปัญหาอื่นนั้นตัวเธอจะไม่คัดค้าน แต่ปัญหานี้มันแตกต่าง
ถึงแม้ว่ายี่ เทียนหยุนจะกลายมาเป็นผู้อาวุโส แต่ตามทฤษฏีแล้วเขาก็ยังเป็นคนนอก เจ้าตำหนักเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในการใช้มัน
" เทียนหยุนเมื่อเปรียบเทียบกับข้าแล้ว เขาย่อมแข็งแกร่งกว่า พูดได้ว่าหากให้เขาใช้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมจะปราศจากข้อกังขา " ฉี ซู่หยุนกล่าว " ถ้า 3 นิกายใหญ่นำกำลังบุกเข้าโจมตีพวกเราอีกครั้งหนึ่ง หากมอบสมบัติให้เทียนหยุนเป็นผู้ใช้ มันจะต้องแสดงผลออกมาอย่างแน่นอน !! "
บรรดาผู้อาวุโสต่างก็พากันเงียบ กล่าวได้ว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดที่ถูกต้อง พวกเขาต่างก็มีประสบการณ์กับพลังที่ยี่ เทียนหยุนแสดง ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่ได้กล่าวคำที่ตรงกันข้ามออกมา
" เดี๋ยวก่อน ไม่ทราบว่าสมบัติที่พวกท่านพูดถึงกันอยู่นี้มันคือสมบัติอะไร ?? " ยี่ เทียนหยุนยกมือขึ้นถาม เขานั้นไม่รู้ว่าสมบัติผู้พิทักษ์นั้นแท้จริงแล้วมันคือสิ่งของอะไรกันแน่
" มันคือสิ่งนี้ " ฉี ซู่หยุนนำจี้หยกออกมา แสงแห่งไอเย็นแพร่กระจายออกมาจากข้างในของจี้หยก เพิ่งจะนำออกมาก็นำพาความหนาวเย็นมาสู่ผู้คนซะแล้ว มวลอากาศที่หนาวเหน็บขนาดนี้ สิ่งนี้ย่อมจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
" สิ่งนี้คือ….. "
ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาของเขาเพื่อมองดูของสิ่งนี้ ข้อมูลจำเพาะในปัจจุบันก็ถูกนำเสนอออกมาในทันที
หยกเย็นจิตวิญญาณน้ำแข็ง : ส่งผลต่อวิญญาณของผู้ที่ครอบครองทำให้จิตใจสงบเย็น ช่วยให้การบ่มเพาะพลังก้าวหน้าได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างเขตแดนแช่แข็งได้อีกด้วย บริเวณรอบนอกจะต้องถูกแช่แข็งทั้งหมด เกรดของมันก็คือุปกรณ์จิตวิญญาณระดับกลาง
" อุปกรณ์จิตวิญญาณระดับกลาง ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเรียกว่าสมบัติผู้พิทักษ์ ช่างสมกับที่ขนานนามจริงๆ "
ยี่ เทียนหยุนพลันพยักหน้า แต่เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกสนใจอะไร ฉี ซู่หยุนกล่าวว่าของชิ้นนี้มอบให้เขาเป็นผู้ใช้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพราะเขตแดนแช่แข็งจึงทำให้เธอคิดว่า หากให้เขาเป็นคนแสดงพลังของสิ่งนี้ ผลที่ได้มันจะให้ผลที่น่าทึ่งมากยิ่งขึ้น
" สิ่งนี้คือหยกเย็นจิตวิญญาณน้ำแข็ง ไม่เพียงแต่จะช่วยเจ้าในด้านการบ่มเพาะพลังแล้วแต่ยังจะสามารถแสดงผลกระทบการแช่แข็งได้อีกด้วย หากมันผนวกเข้ากับทักษะการแช่แข็งของเจ้าแล้วล่ะก็ แน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลอย่างแน่นอน " ฉี ซู่หยุนพูดจาแย้มยิ้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ของสิ่งนี้ถ้าเธอพูดว่ามอบให้ ฉี ซู่หยุนจะไม่มีคำว่ากั๊ก มันสามารถที่จะช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะพลังให้ก้าวหน้า แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน
" เจ้าตำหนัก ข้าไม่ต้องการ ด้วยความสัตย์จริง สิ่งนี้เปล่าประโยชน์สำหรับตัวข้า ท่านรับเอาไว้เถอะ " ยี่ เทียนหยุนกล่าวออกอย่างเคร่งขรึม " ยิ่งไปกว่านั้นหากมองในมุมของทฤษฏีทางกายภาพแล้ว เจ้าตำหนักตัวท่านนั้นเป็นคนธาตุน้ำซึ่งก็คือน้ำแข็ง จึงมีความเหมาะสมยิ่งกว่าตัวข้า ข้าไม่ใช่บุคคลที่มีกายภาพทางธาตุน้ำ ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมสำหรับตัวข้า !! "
" เอาไป !! " ฉี ซู่หยุนนั้นเผด็จการ
" ไม่เอา !! " ยี่ เทียนหยุนก็เผด็จการคล้ายๆกัน
อุปนิสัยของฉี ซู่หยุนค่อนข้างที่จะหุนหันพลันแล่น ยี่ เทียนหยุนเองก็มีลักษณะที่คล้ายกัน ฉี ซู่หยุนมองดูยี่ เทียนหยุนด้วยสายตาที่มั่นคง แต่….. ในที่สุดตัวเธอก็ต้องถอนหายใจ " ถ้ายังงั้นก็ได้ ข้าจะเก็บมันเอาไว้เอง "
บรรดาผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนต่างก็พากันโล่งใจ ที่ของชิ้นนี้ช่างโชคดีที่ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือของยี่ เทียนหยุน
เหล่าผู้อาวุโสนั้นต่างก็เทิดทูนสมบัติชิ้นนี้ แต่สมบัติชิ้นนี้ในสายตาของยี่ เทียนหยุนนั้นปฏิบัติกับมันราวกับว่ามันมันไม่ใช่สมบัติที่เป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับกลางเลยด้วยซ้ำ อุปกรณ์จิตวิญญาณทั้งสามชิ้นของเขาถึงแม้เกรดของมันจะไม่ใช่ระดับกลาง แต่….. อย่างน้อยมันก็คืออุปกรณ์จิตวิญญาณ !!
" ในตอนนี้เราก็มาเริ่มถกปัญหาที่สี่กันเลย นั่นก็คือปัญหาของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ ราวกับสวรรค์มีตา เวลานี้พวกเราเข่นฆ่าผู้คนของ 2 นิกายใหญ่ได้รับมาทั้งหมด 7 โควต้า หมายความว่าพวกเราจะได้โควต้าในด่านทดสอบเพิ่มขึ้นมาอีก 7 โควต้า ขณะนี้เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ในตอนนี้พวกเราจะต้องทำการเลือกศิษย์ที่โดดเด่นเพื่อเป็นตัวแทนอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าสู่ด่านทดสอบซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ !! " ฉี ซู่หยุนแสดงรอยยิ้มบนใบหน้า ด่านทดสอบซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์คือสิ่งที่ดี พวกเขาจะต้องพากันยกระดับอย่างแน่นอน
" เลือกอีก 8 ?? " ยี่ เทียนหยุนจ้องมองพร้อมกล่าวว่า " แล้วข้าละ ?? "
บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็พากันมองยี่ เทียนหยุนด้วยสีหน้าที่แปลกไป ทันใดฉี ซู่หยุนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า " เจ้านะ ไม่ต้องไปแล้ว ฐานพลังที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นนั้นไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์จะต้อนรับเฉพาะขั้นปรับแต่งวิญญาณจึงจะสามารถเข้าสู่ด่านทดสอบได้ ฐานพลังของเจ้าสูงถึงระดับนี้แล้วแน่นอนว่าไม่สามารถที่เจ้าจะผ่านเข้าไปได้ "
" ไม่สามารถที่จะไปได้ แล้วข้าจะภารกิจหลักให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร !! "
ยี่ เทียนหยุนรู้สึกลุกลี้ลุกลนขึ้นมาในทันที เขาไม่คิดมาก่อนว่ามันจะมีการจำกัดฐานบ่มเพาะพลังด้วย ตัวเองมาอยู่ในระดับนี้แล้วจึงไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ แล้วตัวข้าเองจะเข้าไปไม่ได้หรือนี่ ??