Crazy Leveling System - ตอนที่ 62 เทียนหยุนรีเทริน์ !!
ในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้ สองนิกายหลอมโลหะเทวะและวิญญาณสวรรค์เหล่าอาคันตุกะผู้มาเยือน ว่ากันตามพื้นฐานแล้วคงจะไม่ได้มาดีเป็นแน่
ฉี ซู่หยุนพร้อมด้วยเหล่าบรรดาผู้อาวุโสได้พากันออกมาจากตำหนักไปยังด้านนอก ด้านนอกของตำหนักนั้นนิกายหลอมโลหะเทวะและนิกายวิญญาณสวรรค์ ยืนปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทั้งข่มขู่และคุกคามของขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 6 รออยู่ก่อนแล้ว อายุนั้นดูราวๆกับว่า 30 ปีซึ่งแตกต่างจากฉี ซู่หยุนเป็นอย่างมาก
ฉี ซู่หยุนอายุอยู่ที่ราวๆ 20 ปีกว่าๆ ฐานบ่มเพาะพลังหากเปรียบเทียบกันแล้วจะพบว่าแข็งแกร่งกว่า ความแข็งแกร่งของเธอนั้นประมาณขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 7 มันคาดคะเนได้ว่าเธออาจจะทะลวงเข้าสู่ขั้นแก่นวิญญาณในอีกหลายปีข้างหน้า นี่คือพรสวรรค์ !! และจะต้องเป็นพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เท่านั้นที่ทำให้เธอสามารถที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งของเจ้าตำหนัก ณ ที่แห่งนี้ได้อย่างสงบ
ทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์ไม่มีผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นการควบแน่นอยู่เลย ตัวของฉี ซู่หยุนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ แล้วจะไม่ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งของเจ้าตำหนักได้อย่างไร ?? ฐานบ่มเพาะพลังและพรสวรรค์ในโลกใบนี้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
" ผู้นำนิกายทั้งสองให้เกียรติมาเยือน ไม่ทราบว่ามีธุระอันใดอย่างนั้นรึ ?? " กลิ่นอายของฉี ซู่หยุนนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกเขา " หากข้าจำไม่ผิด ยังเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ที่การสำรวจซากปรักหักพังโบราณจะเปิดออก ถึงแม้ว่ามันจะถึงเวลาตามข้อตกลงที่กำหนด พวกท่านทั้งสองก็จะต้องไปที่ซากปรักหักพังโบราณโดยตรงไม่ใช่มุ่งหน้ามาที่นี่ "
ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของฉี ซู่หยุนและอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันก็คือชิง หยุนเฉิงประมุขของนิกายหลอมโลหะเทวะและผู้นำของนิกายวิญญาณสวรรค์ เจีย จื้อหยุน 2 นิกายขนาดใหญ่ ข้างๆพวกเขาก็คือบรรดาเหล่าอาวุโสผู้ติดตาม กลิ่นอายประดุจดาบสั้นที่ชักออกจากฝัก รู้สึกราวกับว่าจิตสังหารแห่งการฆ่าฟันเหล่านี้นั้นกำลังชักดาบเตรียมที่จะฟันใส่พวกเขา
" เจ้าตำหนักฉี เวลานี้พวกเรามาที่นี่ด้วยเหตุผลที่ธรรมดาสามัญเป็นอย่างมาก มาเพื่อโควต้า !! โควต้าของศิษย์นอกยี่ เทียนหยุนของท่านที่ได้ฆ่าศิษย์ของพวกเรา แล้วก็ยังจะฆ่าเจ้าของตึกสาขาแห่งตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ลงอีกด้วย ไม่ทราบว่าบัญชีนี้พวกเราจะวิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างไรดี ?? "
หลังจากเกิดปัญหาซึ่งมันก็กินระยะเวลาหลายวันในที่สุดพวกเขาก็มา ก่อนหน้านี้ก็ทำทีมาเยี่ยมเยียนโดยตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเรื่องส่วนตัว พวกเขามาก็เพื่อที่จะต้องการตำแหน่งโควต้า ช่างเป็นผู้มาเยือนที่เลวทรามต่ำช้าซะจริงๆ
" ก่อนหน้านี้ เมื่อไม่นานมานี่ยี่ เทียนหยุนก็ได้กล่าวเอาไว้แล้วว่าตัวเขานั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องใดๆกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นตัวของเขาก็เป็นเพียงแค่ศิษย์นอกเท่านั้น ซึ่งก็ยังห่างไกลจากศิษย์หลักของเรา ปัญหาที่เหล่าพวกท่านต้องจัดการนั้นจึงล้วนไม่มีอะไรที่จะต้องมาเกี่ยวข้องกันกับพวกเรา !! " ผู้อาวุโสสองยืนกรานปฏิเสธในทันควัน เธอนั้นไม่เต็มใจที่จะแบกรับภาระปัญหานี้
" ผู้คนมักจะชอบเล่นตลก พวกเราได้ทำการส่งคนไปฆ่าศิษย์ของท่านแล้ว หากข้าพูดบ้างว่าบรรดาศิษย์ของพวกเราที่อยู่ภายนอกไม่ใช่ศิษย์ของข้า เพียงเหตุผลที่ว่าพวกเขาอยู่ข้างนอกอย่างนั้นรึ ?? " ชิง หยุนเฉิงพูดเยาะเย้ย
คำพูดนี้จะว่าไปก็ไม่มีทางที่จะตอบปฏิเสธได้จริงๆ ถ้าหากทุกๆนิกายทำอย่างนี้มันก็จะเป็นเหตุผลที่ชิง หยุนเฉิงได้กล่าวอ้าง
" ตลกน่ะ ที่มันเป็นอย่างนี้ก็เป็นเพราะว่าท่านก่อปัญหาขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าบีบบังคับให้เทียนหยุนต้องทำเช่นนั้น !! ศิษย์ของท่านหม่า เหลียนเปิ่งมันช่างกำเริบเสิบสานนัก กล้าที่จะใส่ร้ายป้ายสีอาวุธที่เทียนหยุนหล่อออกมาว่าเป็นของปลอมแถมยังกล้าที่จะลอบโจมตีเทียนหยุนอีกในการต่อสู้ ข้าสามารถที่จะพูดได้แต่เพียงว่ามันสมควรที่จะต้องตายห่าแล้ว !! สีหน้าของฉี ซู่หยุนนั้นเย็นชา เธอมองพวกเขาด้วยสายตาอันเฉยชาแล้วพูดว่า " ถ้าเป็นข้า ข้าก็จะทำเช่นนั้นเหมือนกัน !! ใส่ร้ายป้ายสีแล้วยังจะมาลอบกัดอีก ตาย 100 ครั้งยังไม่เพียงพอ!! "
จริงๆแล้วเพียงแค่ปากของฉี ซู่หยุนก็เราะร้ายเพียงพออยู่แล้ว เธอนั้นไม่ได้เกรงกลัวต่อผู้นำที่ก่อปัญหานี้ขึ้นมา เผชิญหน้ากับสองนิกายใหญ่ เธอนั้นไม่ได้ใส่ใจต่อแรงกดดันของนิกายทั้งสองเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่านิกายวิญญาณสวรรค์นั้นมาทำอะไรที่นี่แต่ครั้นมาแล้ว มันจะต้องไม่เป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
บรรดาผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนนั้นต่างก็พากันสะดุ้ง ต่อมาก็พากันส่ายหัว ความก้าวร้าวของฉี ซู่หยุ่นนั้นช่างปลดปล่อยออกมาเต็มที่ซะจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะทำให้ตำหนักหยกสวรรค์นั้นแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม แต่กำลังอำนาจที่มีนั้นราวกับว่ามันจะทำลายตัวมันเอง
" ใครจะสามารถเป็นพยานให้การยืนยันได้ ?? " ชิง หยุน เฉิงพูดเยาะเย้ยว่า " เท่าที่ข้ารู้ คนของท่านเป็นคนลงมือก่อน ทางฝ่ายเรานั้นต้องการที่จะรอมชอมประนีประนอมยอมความแต่กลับต้องประสบกับการถูกฆ่าในทันที !! ข้าไม่คิดเลยว่าตำหนักหยกสวรรค์ของท่านจะไร้ซึ่งเหตุผลเช่นนี้ "
คำพูดของชิง หยุนเฉิงเพียงไม่กี่คำก็สามารถที่จะกลับดำเป็นขาวได้ในทันที
" รอมชอมประนีประนอมยอมความ เมื่อไรกันที่ท่านเห็นว่าพวกเรานั้นเป็นเด็ก 3 ขวบ?? " ฉี ซู่หยุนพูดอย่างเย็นชาว่า " อย่าได้คิดถึงเรื่องโควต้าแต่ขอเชิญพวกท่านออกไปจากที่นี่โดยอัตโนมัติ เตรียมตัวที่จะเข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ !! "
ท่าทางของฉี ซู่หยุนนั้นแข็งกร้าว เธอไม่ต้องการที่จะใส่ใจพวกเขาอีกต่อไป ถึงแม้ว่าอิทธิพลของฝั่งตรงข้ามจะไม่ได้อ่อนแอแต่เธอก็เตรียมพร้อมที่จะฆ่าคนในทันที
แม้ว่าตัวเธอเองนั้นจะอายุเพียงแค่ 20 ปีกว่าๆ แต่ประสบการณ์ที่เธอได้ประสบพบเจอนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ ความโหดเหี้ยมอำมหิตนั้นเป็นสิ่งแรกที่เธอได้เผชิญ มันทำให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้นในปัจจุบัน การฆาตกรรมคือสิ่งใดกัน เพียงแต่ฉี ซู่หยุน โดยปกติแล้วเธอจะไม่ได้เป็นคนที่เริ่มก่อน หากเริ่มก็จะไม่มีใครที่สามารถจะป้องกันเธอได้
สีหน้าของชิง หยุนเฉิงนั้นดูซีด เขาไม่คิดเลยว่าฉี ซู่หยุนผู้นี้จะเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอเช่นนี้ ผู้นำนิกายใหญ่ทั้งสองพยายามที่จะรักษาสีหน้าท่าทางของพวกเขาเอาไว้ให้เป็นปกติ ทั้งที่จริงๆแล้วมันช่างน่าอับอายซะจริงๆในตอนนี้
" เจ้าตำหนักฉี ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ไว้หน้าแก่พวกเราทั้งสองคนเลย ดังนั้นท่านก็อย่าได้ตำหนิพวกเราทั้งสองที่จะต้องหยาบคายกับท่าน !! " ชิง หยุนเฉิงส่งสัญญาณให้กับเหล่าผู้อาวุโสผู้ติดตามให้ทำการปิดล้อมประตูทางเข้าเอาไว้ให้รัดกุมอย่าให้มีใครที่หนีเล็ดลอดออกไปได้
เมื่อคนของสองนิกายใหญ่ร่วมมือกัน บรรดาเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างก็พากันรุมกดดันตำหนักหยกสวรรค์ในทันที !!
ฉากนี้ทำให้สีหน้าของเหล่าศิษย์ตำหนักหยกสวรรค์ต่างพากันถอดสีในทันที ภายใต้การกระทำของสองนิกายพวกเขาเหล่าศิษย์จะต้องประสบกับวิธีการที่โหดร้ายทารุณจริงๆหรือนี่ ??
" ผู้นำชิง ท่านต้องการที่จะทำอะไร !! " ผู้อาวุโสใหญ่ถามออกไปด้วยความโกรธ " พวกท่านนำกำลังมาบีบบังคับพวกเราเช่นนี้ ถึงแม้ว่าตำหนักหยกสวรรค์ความแข็งแกร่งโดยรวมจะด้อยกว่าท่าน แต่ถ้าท่านทำให้พวกเราโกรธขึ้นมาอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจก็แล้วกัน !! "
" ทำให้โกรธอย่างนั้นรึ ?? " ชิง หยุนเฉิงราวกับได้ยินได้ฟังเรื่องตลก พูดเยาะเย้ยว่า " ตัวท่านจะมีการ์ดอะไร ?? ศิษย์ของท่านแต่งงานกับศิษย์ของคฤหาสน์ปราณฟ้าแล้วท่านจะให้เธอช่วยเชิญคนของคฤหัสน์ปราณฟ้าออกมาช่วยอย่างงั้นรึ ?? ทำให้เฒ่าประหลาดออกมาจากการปิดประตูฝึกตนอย่างงั้นหรือ ?? "
ชิง หยุนเฉิงพอได้ฟังคำของผู้อาวุโสใหญ่ก็รู้สึกเย้ยหยันราวกับไม่ได้เห็นปัญหานี้อยู่ในสายตา
ได้ยินดังนี้สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที เธอกลายเป็นเงียบลงในทันที
" เป็นอะไรไปไม่พูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมาแล้วเหรอ ?? บรรดากลุ่มเฒ่าประหลาดของเจ้าต่างก็พากันเก็บตัวบ่มเพาะพลัง แล้วจะออกมาได้อย่างไร หรือจะเรียกศิษย์ของคฤหาสน์ปราณฟ้าผู้ที่มีฐานพลังอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 3 ที่ศิษย์เจ้าแต่งงานด้วยออกมา เฮ้!! มันช่างหน้าแตกหมอไม่รับเย็บซะจริงๆ ทางด้านของคฤหาสน์ปราณฟ้าได้บอกกับพวกเราแล้วว่า จะไม่เข้าไปทำการยุ่งเกี่ยวแทรกแซงปัญหานี้อย่างแน่นอน !! " ชิง หยุนเฉิงพูดออกมาอย่างแย้มยิ้ม
" ใช่แล้ว คฤหาสน์ปราณฟ้าได้บอกกับพวกเราแล้วว่าจะไม่แทรกแซงปัญหานี้ " ในเวลานี้ก็มีบุคคลเดินออกมาจากภายนอก ซึ่งนั่นก็คือผู้จัดการทั่วไปของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์เสียง เทียนย่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น นี่เท่ากับว่าเป็นการรวมตัวกันของ 3 กลุ่มอิทธิพลในสถานที่เดียวกัน
เสียง เทียนย่านั้นนำผู้อาวุโสติดตามมาด้วยหลายคน ฐานบ่มเพาะพลังนั้นก็คล้ายกับว่าจะไม่ใช่พวกกระจอกๆ อยู่ในขั้นมาตรฐานแก่นการควบแน่นระดับที่ 1 ยามใดที่จะต้องต่อสู้กับมาตรฐานระดับขั้นแก่นการควบแน่นแล้วล่ะก็ จะไม่สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้แม้แต่ก้าวเดียว มันไม่ง่ายเลยหากคิดที่จะทะลวงฝ่าด่านขั้นแก่นการควบแน่นออกไป
" ผู้จัดการทั่วไปตึกสาขากระแสลมแห่งสวรรค์….. " ผู้อาวุโสสองมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที " ท่านมาได้ยังไง ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะไม่ก้าวก่ายต่อปัญหาใดๆของเหล่านิกาย !! "
" โดยปกติแล้วไม่ถือว่าเป็นการก้าวก่าย ศิษย์ของท่านฆ่าคนของพวกเราไป นี่จึงถือเป็นข้อยกเว้น….. " นัยน์ตาของเสียง เทียนย่านั้นส่งประกายเย็นชา อะไรที่จะทำให้สีหน้าของเขานั้นมีความสุขยิ่งขึ้น
3 กลุ่มอิทธิพลมากองอยู่รวมกันตรงปากประตูทางเข้า แล้วตำหนักหยกสวรรค์จะต้านไหวอย่างงั้นหรือ ??
ฉี ซู่หยุนสีหน้ายังคงเย็นชาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ
" ในตอนนี้ข้าจะให้ทางเลือกแก่พวกท่านอยู่ 2 ทาง ทางแรก ส่งมอบโควต้าทั้งหมดออกมา สอง นั้นก็คือเจ้าตำหนักฉีจะต้องแต่งงานกับข้ามิฉะนั้นแล้วตำหนักหยกสวรรค์จะต้องมอดม้วยภายในวันนี้อย่างแน่นอน !! " ชิง หยุนเฉิงพูดอะไรออกมา เขามองไปที่ฉี ซู่หยุนพร้อมกับประกายตาที่เป็นมัน หากได้แต่งงานกับผู้หญิงที่มีพรสวรรค์สูงขนาดนี้ ลูกหลานในรุ่นต่อไปจะต้องไม่อ่อนแออย่างแน่นอน
ข้อเสนอดังกล่าวทำให้ศิษย์ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด หากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆยังไงๆก็ไม่มีทางที่นำโควต้าทั้งหมดออกมา ข้อเสนอช่างสูงซะนี่กระไร !!
" แต่งงานกับหัวหมูอย่างเจ้าเนี่ยน่ะ นี่เจ้าไม่ได้ดูหัวของตัวเองเลยหรือยังไงว่ามันโตเกินกว่าจะใส่เสื้อผ้าได้แล้ว !! อย่างเจ้ามันคู่ควรอย่างงั้นหรือ?? " เสียงที่คุ้นเคยถูกถ่ายทอดออกมาจากด้านนอกของประตู ผู้คนต่างก็มองไปยังร่างที่ปรากฏอันคุ้นเคย ณ ประตูทางเข้าซึ่งนั้นก็คือ ยี่ เทียนหยุน !!
ยี่ เทียนหยุนไม่ได้ใช้หน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้า เขามาเพื่อสะสางปัญหาในวันนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทนอยู่อย่างเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระดอง !! เขาจะปกป้องตำหนักหยกสวรรค์ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา ปกป้องป้าของตัวเอง นางฟ้าในดวงใจ!!