ยี่ เทียนหยุนมองดูรูปภาพที่แสดงใบหน้าของตัวเอง รูปที่อยู่ในใบประกาศมันช่างคล้ายคลึงกันกับตัวเขาอย่างยอดเยี่ยม แต่เขาในตอนนี้มีหน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้า ยกเว้นแปลงเป็นผู้หญิงแล้วอย่างอื่นก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จะว่าไปก็น่าสงสารที่ไม่สามารถเปลี่ยนหน้าเป็นบุคคลอื่นได้ ไม่อย่างนั้นหน้ากากนี้ก็จะมีลูกเล่นที่สมบูรณ์แบบ
" ไม่ทราบว่าคู่หูท่านนี้ ท่านต้องการที่จะจับกุมตัวเด็กหนุ่มผู้นี้หรือไม่ ?? ข้าจะร่วมมือกับท่าน หากเวลานั้นทำสำเร็จเราก็จัดสรรปันส่วนเงินรางวัลกันเป็นอย่างไร ?? " ในเวลานี้ก็มีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาตบเบาๆไปที่ไหล่ของยี่ เทียนหยุน แต่ยี่ เทียนหยุนนั้นโยกหลบ ทำให้เขานั้นตบอากาศแต่ชายผู้นี้ก็หาได้แคร์ไม่ เขายังคงมองไปยังแผ่นป้ายประกาศจับฉบับนี้ด้วย 2 ลูกกะตาอันลุกวาว รางวัลที่ตั้งเอาไว้ มันทำให้ทุกๆคนพากันตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด
ยี่ เทียนหยุนหรี่ตามองชายผู้นี้ ฐานพลังอยู่เพียงแค่ระดับ1 ของขั้นปรับแต่งวิญญาณเท่านั้น อีกทั้งเป็นที่ชัดเจนว่าเพิ่งจะเลื่อนระดับขึ้นมาในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้เอง เขายังกล้าที่จะออกล่าเงินรางวัลประกาศจับของตัวเขาเองอยู่อีกหรือ ??
" ข้าไม่สนใจ " ยี่ เทียนหยุนไม่สนใจผู้ชายคนนี้ เขาหันหลังแล้วก็เดินจากไป ตัวเองจะไปจับตัวเอง ?? มันจะเป็นความจริงไปได้อย่างไร
ชายผู้นั้นมองดูยี่ เทียนหยุนพลันยักไหล่ เขายิงคำถามเป็นการส่วนตัวกับคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆในทันทีว่า " นี่คู่หู ท่านสนใจที่จะไปจับกุมตัวเด็กผู้ชายคนนี้ด้วยกันหรือไม่ ?? หากถึงเวลาทำสำเร็จเราค่อยมาจัดสรรปันส่วนแบ่งปันเงินรางวัลกัน นี่มันทองตั้ง 12,000 เหรียญทองเชียวน่ะ ธรรมดาแล้วหาทองขนาดนี้ได้ที่ไหน !! "
" อยากจะไปท่านก็ไปคนเดียวเถอะ ข้าได้ยินมาว่ายี่ เทียนหยุนผู้นี้ฆ่าคนไม่กระพริบตา ข้ายังไม่อยากที่จะรนหาที่ตาย "
" ใช่ใช่ ได้ยินว่าเขาสังหารหมู่ผู้คนทั่วทั้งตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ ในเวลานั้นเลือดไหลยังกับแม่น้ำแถมยังคว้าเอาสมบัติทั้งหมดไปอีกด้วย !! "
" ข่าวลือที่เกินจริงเช่นนี้ ไม่แน่ว่ายี่ เทียนหยุนอาจจะเป็นคนปล่อยข่าวซะเองก็เป็นได้ ?? หากจับเขาได้ สมบัติทั้งหมดจะไม่ตกเป็นของพวกเรางั้นรึ ?? "
" อยากจะได้สมบัติหากไม่มีพลังระดับขั้นแก่นการควบแน่น จะไปจับเขาได้อย่างไร ?? ข้ายังไม่อยากที่จะรนหาที่ตาย….. "
เหล่าผู้คนที่ต่างรายล้อมรอบๆบริเวณแห่งนี้นั้น " ฮูพ " ต่างก็ตะโกนร้องกันด้วยความสนุกสนาน เสียงของผู้คนที่สนทนาถกเถียงกันถึงตัวเขานั้น ยี่ เทียนหยุนได้ยินแล้วถึงกับพูดไม่ออก สังหารหมู่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ เขาเพียงแต่ฆ่า Deacon (ผู้ดูแล) ไปหลายต่อหลายคนก็เท่านั้นเอง นี่เป็นการพูดจาจากปากต่อปากที่เลยเถิด แถมยังฉกเอาสมบัติทั้งหมดหนีไปด้วย ซึ่งอันที่จริงก็คือตัวเขาเองได้ฉกสมบัติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดไปทั้งหมดก็เท่านั้นเอง !!
ถ้อยคำที่พูดเกินจริงเหล่านี้ทำให้อัติชีวประวัติของเขานั้นกลายเป็นเลยเถิดไปกันใหญ่ ใบหน้าของยี่ เทียนหยุนนั้นบิดเบี้ยว ชักกระตุกอยู่ข้างหลังพวกเขา เขารู้สึกหมดหนทางอย่างช่วยไม่ได้โดยเฉียบพลัน
แต่เรื่องราวมันจะเป็นอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก ข่าวลือเหล่านี้ได้ถูกบอกต่อกันไปเรื่อยๆ มันกระจายไปทั่วทุกบริเวณ เล่ากันได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
หลังจากนั้นยี่ เทียนหยุนก็เดินทางผ่านตึกกระแสลมแห่งสวรรค์และตึกสายฝนแห่งสวรรค์ ทั้งสองก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ถึงแม้ว่าตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ Deacon (ผู้ดูแล) จะตายไปหลายคนหรือแม้กระทั่งเจ้าของตึก แต่ทางสำนักงานใหญ่ก็สามารถที่จะส่งคนมาแทนที่เพื่อที่จะสานต่อและดำเนินการ ในกิจวัตรประจำวันต่อไปได้
ถึงแม้ว่าตึกสายฝนแห่งสวรรค์จะด้อยกว่าตึกกระแสลมแห่งสวรรค์แต่มันก็ไม่ดีแน่หากตึกกระแสลมแห่งสวรรค์จะลงมือระรานตึกสายฝนแห่งสวรรค์ พวกเขาจึงผลักความโกรธแค้นทั้งหมดไปที่ยี่ เทียนหยุน
ยูร์เวยในชุดม่วงบัดนี้ได้เดินออกมาจากด้านในโดยบังเอิญ ใบหน้าของเธอนั้นดูราวกับเป็นกังวลคิดถึงใครคนหนึ่ง เธอทอดสายตามองไปยังสถานที่อันห่างไกลในทิศทางที่ยี่ เทียนหยุนได้จากไป จากนั้นเธอก็ละสายตามองไปที่ตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ด้วยความจงเกลียดจงชัง หลังจากนั้นก็หันหลังกลับเดินเข้าตึกของตัวเองไป
" มันดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีอะไร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ควรที่จะกลับได้แล้ว "
เมื่อยี่ เทียนหยุนเตรียมตัวที่จะจากไป ใบหน้าที่ดูคุ้นเคยก็เดินออกมาจากถนน นำมาด้วยชายชราที่เดินนำหน้า อีกทั้งยังมุ่งตรงมาที่นี่ พวกเขาต่างก็มองเห็นซึ่งกันและกัน ต่างก็พลันสะดุ้งไม่คิดว่าจะมาเจอคนรู้จักกันที่นี่
" นายน้อยยี่ นี่ท่านรึ ?? " ผู้ที่เดินเข้ามาก็คือ เหยียน หลิงซุย
" นายน้อยยี่ ยังงั้นรึ ?? " ชายชรายกศีรษะขึ้นในทันใด เมื่อเขาเห็นใบหน้าของยี่ เทียนหยุนอย่างชัดเจน เขาก็คลายท่าทีลงในทันใด สีหน้าที่เคร่งขรึมก็เริ่มที่จะผ่อนคลายขึ้น เขาก็คิดว่าเป็นยี่ เทียนหยุนเหมือนกันแต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะพบกันในสถานที่เช่นนี้
ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วเขาก็คือ ยี่ เทียนหยุนนั่นก็เพราะเขาสวมหน้ากากแปลงเปลี่ยน 100 หน้า ไม่มีใครที่จะจำเขาได้อย่างแน่นอน
" มิสเหยียน ยังฉลาดว่องไวเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าหญ้าหางมังกรในครั้งก่อนสามารถที่จะช่วยคนในครอบครัวของท่านได้รึไม่ ?? " ความรู้สึกของยี่ เทียนหยุนที่มีต่อเหยียน หลิงซุยนั้นเป็นความรู้สึกที่ดี อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้มีแผนการอะไรที่จะมาเล่นกับเขา กริยามารยาทก็ไม่เลว
" ผลที่ได้นั้นค่อนข้างน้อยจึงไม่สามารถที่จะขจัดได้อย่างสมบูรณ์….. ปรมาจารย์โอสถได้พูดว่าโดยพื้นฐานนั้นหมดหวังแล้ว และเขาก็ยังกล่าวอีกว่าผลที่ได้จากหญ้าหางมังกรนั้นให้ผลเพียงเล็กน้อย หญ้าหางมังกรนั้นไม่สามารถที่จะแก้ไขโรคนี้ได้อย่างสมบูรณ์ " เหยียน หลิงซุยยิ้มอย่างขมขื่น ชัดเจนว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ " พอดีพอร้ายแค่เพียงระงับไว้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าต้องการที่จะรักษาให้หายขาด จะต้องตามหาสมุนไพรวิญญาณแต่พวกเราไม่คิดว่าจะมาพบกับนายน้อยยี่ในสถานที่แบบนี้ซะก่อน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ข้าอยากจะขอเชิญนายน้อยยี่ไปที่บ้านของข้านั่งจิบชาด้วยกัน เรื่องในครั้งก่อนข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย !! "
" แก้ไม่ได้ด้วยหญ้าหางมังกรยังงั้นรึ ?? ไม่ทราบว่าสมุนไพรวิญญาณอะไรที่สามารถขจัดโรคนี้ได้ ?? " ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้ว หรือจะได้รับพิษ ไม่เช่นนั้นลำพังแค่โรคอาการทางประสาทหลอนเพียงแค่หญ้าหางมังกรก็ให้ผลที่ชะงัดเป็นอย่างมากแล้ว
" ฟังจากปรมาจารย์ข่ง หลิง ท่านกล่าวว่า ขาดเพียงแค่หญ้าหวนคืนจิต หากว่าได้ทานทั้งสองอย่างพร้อมกันแล้วละก็ จะสามารถบรรลุผลที่สมบูรณ์แบบที่สุด " เหยียน หลิงซุยพูด
" หญ้าหวนคืนจิตยังงั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนพลันเพ่งสมาธิ กล่าวออกอย่างเคร่งขรึมโดยพูดว่า " หญ้าหวนคืนจิตหากนำมันมาผสมกับหญ้าหางมังกร ผลทางยาที่ได้รับนั้นแม้ว่าจะให้คุณที่มหาศาลแต่ก็แฝงโทษอนันต์อยู่ ข้าเกรงว่ามันจะก่อให้เกิดความเสียหายกับจิตวิญญาณ แทนที่จะรักษากลับกลายเป็นว่าต้องมาได้รับบาดเจ็บ สภาพจิตวิญญาณของคนผู้นั้นจะไม่กลายเป็นดั่งภาชนะที่ว่างเปล่าหรอกหรือ ไม่สามารถที่จะรับรู้อะไรได้ ?? "
แต่เขาผู้นั้น คือ นักปรุงโอสถเกรด 3 ที่มีความสามารถด้านโอสถบำบัดน่ะ เขานั้นไม่ได้กล่าวถึงปัญหาหรือผลกระทบข้างเคียงใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว
" จริงๆแล้วคนที่เป็นโรคชนิดนี้ก็คือพ่อของข้าเอง เมื่อไม่นานมานี้ ท่านพ่อฝึกฝนวรยุทธ์อย่างหักโหมมากจนเกินไป จึงเป็นสาเหตุให้เกิดความเบี่ยงเบนที่ผิดปกติ จึงทำให้ท่านต้องตกอยู่ในสภาพอาการที่ไม่รู้สึกตัว ไม่ได้สติเป็นระยะเวลานานจวบจนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ แต่บางครั้งท่านก็ตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่รู้สึกตัว " เหยียน หลิงซุยบอกเล่าให้กับยี่ เทียนหยุนฟัง
" แท้ที่จริงแล้วก็คือท่านพ่อของท่านนี่เอง ฟังจากคำบอกเล่า ข้าว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หญ้าหวนคืนจิต สำหรับเคสนี้เหมาะสมแล้วที่จะใช้หญ้าหางมังกร ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หญ้าหวนคืนจิตอย่างแน่นอน หากประมาทเพียงนิดเพียงหญ้าหวนคืนจิตก็อาจที่จะทำให้ผู้ป่วยตกอยู่ในสภาพแห่งเจ้าชายนิทราได้ไปตลอดกาล ไม่สามารถที่จะตื่นฟื้นคืนสติขึ้นมาได้อีกต่อไป !!" คำกล่าวของยี่ เทียนหยุนนี้ไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย นี่คือการวินิจฉัยโรคจากความรู้ที่มีอยู่ในบันทึกแห่งตำรายา
" การตัดสินโรคของชายชราผู้นี้ มันคลาดเคลื่อนไม่ดีพออย่างนั้นหรือ ไม่ทราบว่าเจ้านั้นเป็นศิษย์มาจากนิกายไหนและโรงเรียนอะไรยังงั้นรึ ?? " ข่ง หลิงขมวดคิ้ว ยี่ เทียนหยุนเป็นใคร ช่างกล้าที่จะมาตัดสินว่าวิธีการสั่งจ่ายยาในการรักษาโรคของตัวเองนั้นคลาดเคลื่อน นี่เป็นคำพูดที่มักง่ายสิ้นดี
" ภายใต้การวินิจฉัยเพียงเล็กน้อยของข้า ท่านมีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ ?? " ยี่ เทียนหยุนรู้สึกไม่ค่อยพอใจในตัวของข่ง หลิงผู้นี้เป็นอย่างมาก เพียงได้ยินแซ่นามว่าข่ง เขาก็หวนนึกถึงข่ง เซิ่งเฟิงในทันทีและยังพ่วงไปถึงตึกกระแสลมแห่งสวรรค์อีกด้วย รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่โดนขับไล่ไสส่งในตอนนั้น
" มีปัญหาอย่างแน่นอน ปัจจุบันตัวเจ้าเข้าใจไหมว่า ความรู้ความเข้าใจในการวินิจฉัยโรคของชายชราผู้นี้ผู้ซึ่งเป็นถึงปรมาจารย์โอสถเกรด 3เป็นยังไง ?? เจ้ากล้าที่จะตั้งคำถามกับชายชราผู้นี้ ชายชราผู้นี้กล้าที่จะยืนกรานว่านอกจากวิธีนี้แล้วไม่มีวิธีไหนที่จะรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้ ผลที่ได้เพียงน้อยนิดจากหญ้าหางมังกรนั้นไม่เพียงพอ ไม่สามารถที่จะกำจัดโรคอาการทางประสาทหลอนของหัวหน้าครอบครัวเหยียนได้ !! " ข่ง หลิงยังกล่าวตอกย้ำอย่างหนักแน่นอีกว่าสถานะของตัวเองนั้นเป็นถึงปรมาจารย์โอสถเกรด 3 หรือที่ผู้คนทั่วๆไปเรียกขานกันว่า ปรมาจารย์โอสถ
ความโกรธในใจของยี่ เทียนหยุนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว " ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของหัวหน้าแห่งตระกูลเหยียน ข้าก็จะขอกล่าวกับมิสเหยียนว่า จะนำหญ้าหวนคืนจิตมาใช้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด !! "
" ช่างตลกซะนี่กระไร ในตอนนี้เจ้าเป็นปรมาจารย์โอสถหรือข้ากันแน่ที่เป็นปรมาจารย์โอสถ ?? " ข่ง หลิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม ดูราวกับไม่มีความสุข เขาไม่มีทางที่จะเชื่อว่ายี่ เทียนหยุนจะเป็นปรมาจารย์โอสถ
" ข้าก็เป็นปรมาจารย์โอสถ !! " ยี่ เทียนหยุนกล่าวตอบเคร่งขรึม " มิสเหยียน รบกวนท่านโปรดนำทางข้าไปดูสถานการณ์อาการป่วยพ่อของท่าน ตราบใดที่อาการป่วยพ่อของท่านตรงกับที่ท่านได้บอกเล่าไว้กับตัวข้า เมื่อนั้นเพียงแค่สมุนไพรหญ้าหางมังกรก็เพียงพอแล้วที่จะแก้ไขโรคแห่งบิดาท่าน ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หญ้าหวนคืนจิตแต่อย่างใด !! "
เหยียน หลิงซุยรู้สึกช็อค เธอมองดูยี่ เทียนหยุนอยู่อย่างเงียบๆ " เอาอย่างนั้นก็ได้ ท่านได้โปรดตามข้ามา "
" ตึง !! ตอบรับหรือ (ไม่รับ) รักษาอาการบาดเจ็บของหัวหน้าตระกูลเหยียนให้สำเร็จ ภารกิจสมบูรณ์ได้รับรางวัล ค่าประสบการณ์ 10,000 แต้ม ความชอบของหัวหน้าตระกูลเหยียน 100 แต้ม ความชอบของเหยียน หลิงซุยเพิ่มขึ้น 30 แต้ม แต้มแห่งศักดิ์ศรีเพิ่มขึ้น 20 แต้ม "
" รับ !! "
ณ เวลานี้ ตอนนี้ รางวัลมันจะเป็นอะไรก็ช่าง จะมีก็แต่เพียงข่ง หลิงเท่านั้นที่ทำให้ความเร่าร้อนในตัวของยี่ เทียนหยุนนั้นลุกเป็นไฟ !!
