ทะลุผ่านช่องแคบนี้ ก็ปรากฏพระราชวังที่ราวกับกว้างใหญ่ไพศาลขึ้นมาในสายตา ณ สถานที่แห่งนี้มีรูปปั้นอยู่ทั้งหมดด้วยกัน 4 รูป ภาพลักษณ์ของรูปปั้นนั้น ที่มองดูเข้มก็คือ ส่วนหัวเป็นมังกรส่วนร่างนั้นเป็นมนุษย์ ต่างก็จับอาวุธที่แตกต่างกันทั้งสองฝั่ง อยู่ในลักษณะท่ายืน ศักดิ์ศรีของมังกรนั้นแผ่กลิ่นอายออกมาจากพวกเขา งานแกะสลักระดับนี้มันเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและให้ความรู้สึกที่เสมือนจริงเป็นอย่างมาก ยี่ เทียนหยุนมองดูความเสมือนจริงอยู่ประมาณชั่วระยะเวลาหนึ่ง และแล้วพวกมันที่ต่างก็ถืออาวุธในมือ ก็ต่างพุ่งตรงเข้ามาหายี่ เทียนหยุน
เผ่าพันธุ์มังกรดำรงอยู่ในระดับของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าของเผ่าพันธุ์ที่มีพละกำลังที่น่าเกรงขาม ที่นี่ช่วงเวลานี้ไม่มีการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มังกร อย่างไรก็ตามหากมองดูไปที่พระราชวังมังกรที่ปรากฏอยู่นี่ แรกเริ่มเผ่าพันธุ์มังกรจะต้องอาศัยและรักษาตัวอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นแน่ นั้นก็เพราะว่าบรรดาผู้บ่มเพาะพลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นได้ทำการแผ่ขยายอาณาเขตอย่างบ้าคลั่ง นี่จึงเป็นการบีบบังคับพวกเขา
ถ้าจะพูดในแง่ของจำนวนประชากร เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นเหนือกว่าทุกเผ่าอย่างแน่นอน การดำรงอยู่ของเผ่าที่เหลือจะต้องถูกบดขยี้โดยสมบูรณ์ ดังนั้นการที่จะอยู่ร่วมกันได้นั้นจะต้องสร้างความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน อย่างน้อยที่สุด ตรงจุดจุดนี้จะช่วยลดความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ลงได้ ในปัจจุบันเหล่ามังกรก็จะมีพวกลูกครึ่ง ซึ่งก็คือ ครึ่งคนครึ่งมังกรแต่ที่มากกว่านั้นก็คือ แสดงเกล็ดมังกรออกมาให้เห็นเป็นบางส่วนแต่จะไม่มีเหล่ามังกรอย่างเช่นรูปปั้นที่หัวเป็นมังกรและร่างเป็นมนุษย์อยู่เลย
" ที่นี่จะมีการทดสอบอะไร ?? " ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้วพินิจพิจารณาภายใต้ขอบเขต ณ สถานที่แห่งนี้ เขาก็ไม่พบสิ่งใดอันผิดปกติ เมื่อเขาจะดำเนินการเปิดรัศมีนำโชค ทันใดนั้นรูปปั้นหินก็มีอาการสั่น เปลือกภายนอกที่เป็นหินก็กระเทาะออก มันหยิบหอกยาวเล็งตรงมาที่ยี่ เทียนหยุน
" หากต้องการที่จะผ่านที่นี่ เจ้าต้องล้มข้าให้ได้เป็นลำดับแรก….. "
พูดยังไม่ทันจะจบ ฝ่ามือของยี่ เทียนหยุนก็แปะเข้าให้โดยที่ไม่ต้องรอให้รูปปั้นพูดจบ ยี่ เทียนหยุนก็แสดงทักษะดูดซับพลังแห่งดวงดาวชั้นยอด ในจังหวะกระโดดลอยตัวข้ามหัวของเขา พลังแห่งการดูดที่น่าสะพรึงกลัว เคลื่อนที่เป็นวงเกลียว
รูปปั้นนี้จึงถูกดูดให้เข้ามาใกล้ในทันที ไม่สามารถที่จะสลัดหลุดไปได้ อย่างไรก็ตามรูปปั้นนี้ก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ยังคงควงหอกหมายที่จะเจาะทะลวงยี่ เทียนหยุน เขาก็หมุนตัวหลบเลี่ยงตามสไตล์ อีกทั้งยังยื่นมือออกมาจับไปที่หอกยาวด้ามนี้ ดึงหอกยาวเข้ามาหาตัวเขา
ฝ่ามือของยี่ เทียนหยุนแปะเข้าที่ร่างกายของรูปปั้น พลังดูดที่แข็งแกร่งทำให้พลังวิญญาณภายในตัวของรูปปั้นนั้นถูกดึงออกมา ทันใดนั้นมันก็ถูกดูดจนสะอาดหมดเกลี้ยง !!
" แบง !! "
ในเวลานี้แผงวงจรที่อยู่บริเวณหน้าอกของรูปปั้นก็ระเบิดออก ไม่มีการไหลเวียนของพลังวิญญาณ นี่จึงทำให้รูปปั้นพังทะลายสิ้นในทันที เพราะแผงวงจรบริเวณหน้าอกระเบิด
" ตึง !! ประสบความสำเร็จในการฆ่ารูปปั้นหินผู้พิทักษ์ ได้รับค่าประสบการณ์ 3,000 แต้มแต้มคลั่ง 300 แต้ม "
ยี่ เทียนหยุนปล่อยหอกยาวในมือทันที มันก็พลันตกไปอยู่ด้านข้างพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสว่า " ล้มเจ้า ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดมาก กล้าที่จะถือหอกชี้มาที่ข้า "
" รัมเบิล….. "
หรือรูปปั้นนี้จะ " มีชีวิต " แท้ที่จริงแล้วรูปปั้นนี้ก็คือรูปปั้นหุ่นเชิดที่รักษาชีวิตเอาไว้ได้ด้วยแผงวงจร แต่ตราบใดที่พลังวิญญาณภายในร่างกายถูกดูดจนหมด เจ้าหุ่นเชิดตัวนี้ก็จะต้องถูกโละทิ้งโดยสมบูรณ์
ยี่ เทียนหยุนยกสายตาของเขามองดู ข้อมูลจำเพาะของรูปปั้นตัวนี้ภายใต้ดวงตาตรวจสอบ เพียงแค่แวบมองก็รู้ข้อมูลของทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เจ้ารูปปั้นตัวนี้ฐานพลังอยู่ที่ระดับ 5 ของขั้นปรับแต่งจิตวิญญาณ พลังชีวิต ( HP ) เท่ากับ 5,000 หอกยาวในมือนั้นเป็นเหล็กทั่วไปเกรดสูง ร่างกายมีความหนาแน่นของพลังป้องกันเท่ากับเหล็กทั่วไปเกรดสูง ค่าตัวเลขสังเคราะห์พละกำลัง ก็คือ 4,700 แต้ม
ตัวเลขค่าพละกำลังนี้แตกต่างจากยี่ เทียนหยุนในตอนนี้อยู่จำนวน 20,000 แต้ม ช่างกากจริงๆ ดังนั้นไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเตรียมตัวอะไรเลย จึงบุกตะลุยในทันที
หลังจากหลบหลีกการโจมตีของรูปปั้นได้อย่างง่ายดาย เขาก็แปะฝ่ามือไว้ด้านบนของรูปปั้น ดูดพลังวิญญาณภายในอย่างบ้าคลั่งมันจึงถูกล้มได้อย่างง่ายดายแถมยังได้รับค่าประสบการณ์กลับมาอีก นำไปเก็บสะสมค่าความชำนาญของทักษะนี้ที่ต้องการค่าความชำนาญถึง 100,000 ดาว มันช่างเยอะจริงๆ
หากระดับของทักษะยุทธ์นี้ยกระดับขึ้นมาอีกครั้ง มันคงจะมีประสิทธิภาพในการดูดอันน่าสะพรึงกลัวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น หากต่อจากระดับปฐพีก็จะเป็นระดับสวรรค์ !! ปลดล็อคความสามารถ – กลืนกิน – ประมาณได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะต้องมากกว่า 10 เท่าอย่างแน่นอน ขั้นต่ำมันสามารถที่จะดูดกลืนค่าประสบการณ์จำนวน 10,000 ต่อ 1 ครั้ง หากถูกความสามารถระดับนี้เข้าไปคงจะแห้งตายเป็นมัมมี่ในทันที
" รัมเบิล….. "
หลังจากที่เอาชนะรูปปั้นหินได้แล้ว มันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก
" หือ ฐานพลังเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 6 ของขั้นปรับแต่งวิญญาณ มันได้รับพลังเพิ่มขึ้น 1 ระดับจริงๆ "
ยี่ เทียนหยุนมองดูรายละเอียดของข้อมูล รูปปั้นที่มาใหม่นี้เปรียบเทียบกับตัวเก่าแล้วแข็งแกร่งกว่า 1 ระดับแต่สำหรับยี่ เทียนหยุนแล้วมันก็แค่ค่าประสบการณ์สำหรับเขา
ในช่วงเวลานี้ยี่ เทียนหยุนบุกตะลุยเข้าหารูปปั้น รูปปั้นก็พังทลายอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์และแต้มคลั่งให้กับยี่ เทียนหยุน
หลังจากที่ล้มรูปปั้นตัวที่สอง ตัวที่สามก็ตามมา ฐานพลังนั้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 7 ของขั้นปรับแต่งวิญญาณแต่ก็ถูกยี่ เทียนหยุนจัดการได้อย่างง่ายดาย
" ช่างจนซะเหลือเกิน ขนาดเปิดรัศมีนำโชคของที่ได้ก็ยังน้อยอีก " ยี่ เทียนหยุน ส่ายหัว กัดฟันพูดอย่างฝืนใจ คิดว่าจะระเบิดสิ่งของอะไรออกมาที่มันแปลกประหลาด อย่างน้อยๆก็น่าจะระเบิดสมบัติที่คล้ายๆกันออกมา
มีความเป็นไปได้ว่าโชคของเขาคงจะต่ำเกินไปหน่อยเลยไม่สามารถที่จะระเบิดสิ่งที่ดีกว่านี้ได้
" ดวงตาตรวจสอบสามารถที่จะยกระดับได้ ไม่รู้ว่าหลังจากที่เลเวลอัพแล้วมันจะมีผลอะไรบ้าง….. " ยี่ เทียนหยุนมองดูไปที่ดวงตาตรวจสอบ หากต้องการยกระดับต้องใช้แต้มคลั่ง 50,000 แต้ม เขาส่ายหัวในทันที ในปัจจุบันหมดสิทธิ์ที่จะยกระดับ การบริโภคมันช่างมากจริงๆ
อย่างไรก็ตามหากฐานพลังของเขาเลื่อนระดับ แต้มคลั่งก็จะได้รับเป็นจำนวนมาก หากเวลานั้นมาถึงแน่นอนว่ามันย่อมคุ้มค่า
" รัมเบิล….. "
เมื่อเขาเอาชนะรูปปั้นเหล่านี้ได้ ประตูด้านหน้าที่อยู่ระยะไกลก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าหากไม่เอาชนะรูปปั้นเหล่านี้ก็คงไม่สามารถที่จะผ่านที่นี่ไปได้ นี่เป็นการทดสอบรูปแบบหนึ่งหากชนะไม่ได้ก็ผ่านไปไม่ได้
ยี่ เทียนหยุนตัดสินใจเดินอย่างต่อเนื่องตรงเข้าไปข้างใน เขาระมัดระวังตัวตลอดทาง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอันตรายเพียงน้อยนิด เพราะหากเขาล้มเหลวนั่นถึงจะเป็นหนี้ก้อนโต
เมื่อเขาเดินเข้าไปในช่องแคบนี้ กลับไม่มีกับดักเลยแม้แต่นิดเดียวตลอดทาง
" ดูราวกับว่าข้าคงจะอ่อนไหวเกินไป ข้างหน้าไม่มีกับดักระดับต่ำแบบครั้งที่แล้วอยู่เลย " ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า เขาผ่านช่องแคบนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ออกจากช่องแคบนี้ก็ปรากฏแสงขึ้นมาในทันใด
แสงช่างจ้าซะเหลือเกิน ร่างโครงกระดูกสีทองนั่งอยู่ด้านบน ราวกับมันมองมาที่ยี่ เทียนหยุน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่โครงกระดูกแค่กองเดียวแต่ศักดิ์ศรีของมังกรที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกแผ่ออกมา กระจายอยู่ในห้องโถงหลักแห่งนี้ กลิ่นอายที่ทรงพลังนี้กดให้บรรดาผู้คนหายใจลำบาก
" อำนาจของความกดดันในชั้นบรรยากาศช่างทรงพลังอย่างมหาศาลจริงๆ….. "
กำลังใจของยี่ เทียนหยุนนั้นจมลง นี่คือมังกรเทวะในตำนานอย่างนั้นรึ ?? สามารถที่จะถูกเรียกว่ามังกรเทวะได้ ฐานพลังจะต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน ต้องเป็นระดับสูงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโครงกระดูก แบบนี้ได้เป็นแน่ ดวงตาตรวจสอบของเขาทำการสแกนโครงกระดูกสีทองนี้แต่ก็ไม่สามารถค้นพบสิ่งอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ข้อมูลที่ได้นั้นมีแต่ข้อความที่ขึ้นคำว่า ไม่รู้
" ลูกหลานของข้า เข้ามาซิ….. ในที่สุดดวงตาทั้ง 2 ข้างของโครงกระดูกผู้นี้ " ทันใดนั้นก็ปลดปล่อยเปลวไฟสีทองออกมา กลิ่นอายนั้นรุนแรงเพิ่มขึ้นแทบจะในทันที
" ลูกหลานของข้า นี่มันสถานการณ์อะไร ข้ากลายเป็นสมาชิกในเผ่าของเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน ?? " ยี่ เทียนหยุน สะดุ้ง เมื่อตัวเขาเองกลายมาเป็นลูกหลานของเขา ตัวข้าเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ !!
โครงกระดูกมังกรนั้นเข้าใจผิดคิดว่ายี่ เทียนหยุนนั้นคือเผ่าพันธุ์มังกรยังงั้นรึ ?? นี่จึงเป็นสาเหตุให้โครงกระดูกมังกรเข้าใจผิด นี่ช่างเป็นโชคของเขาจริงๆ อย่างไรก็ตามเขาจะต้องระมัดระวังตัว หากผู้สืบทอดมังกรเทวะไม่ได้ส่งผ่านไปยังเผ่าพันธุ์มังกรหากแต่ส่งผ่านให้กับมนุษย์ ยี่ เทียนหยุนถึงจะมีกี่ชีวิตก็ไม่เพียงพอ ??
