Crazy Leveling System - ตอนที่ 21 นิกายหลอมโลหะเทวะ
หลังจากผ่านไปหลายวันก็ได้เวลาเดินทาง ฉี ซู่หยุนจัดแจงทั้งหมดและให้อาหลิงและฉินเสี่ยร่วมเดินทางไปกับฉี่ เทียนหยุนลงจากภูเขาเพื่อที่จะไปซื้อวัตถุดิบ
เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ของตำหนักหยกสวรรค์ฉี ซู่หยุนได้คอยอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว เธอได้ถกปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างกับหญิงสาวทั้งสองคน เมื่อยี่ เทียนหยุนมาถึง ฉี ซู่หยุนก็หันศีรษะไปทางเขาพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า " มา นี่คืออาหลิงและฉินเสี่ย เวลานี้พวกเขาจะไปซื้อวัตถุดิบด้วยกันกับเจ้าในการเดินทางมีสิ่งใดไม่เข้าใจก็สามารถสอบถามพวกเขาได้ "
" อุตสาห์เชิญพี่สาวอาวุโสอาหลิงและพี่สาวอาวุโสฉินเสี่ยไปด้วย สองพี่สาวอาวุโสคงจะช่วยดูแลข้าได้เป็นอย่างมาก ข้าไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำมาจากที่ใด แต่ข้าก็อยากจะเกี่ยวข้องกับพวกท่านทั้งสอง !! "
ยี่ เทียนหยุนพินิจพิเคราะห์พวกเธอทั้งสอง พวกเขาทั้งสองดูไม่เลวสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว ในความคิดเห็นผู้คนโดยเฉลี่ยจะไม่กินอาหารสามัญของเทพธิดาในร่างมนุษย์ พื้นฐานพลังของพวกเขาทั้งสองบรรลุขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับ 5 โดยธรรมชาติแล้วนับว่าไม่เลวเลย
ยี่ เทียนหยุนมีลักษณะท่าทางที่ดี คำพูดคำจาก็สุภาพเป็นอย่างมากทำให้ง่ายต่อการสร้างความประทับใจที่น่าชื่นชม
ยี่ เทียนหยุนใช้สายตาตรวจสอบค่าความชอบของพวกเขาที่มีต่อตัวเองโดยทันที ค่าที่ได้ก็คือ 35 และ 32 ระดับคะแนนของค่าตัวเลขความชอบนี้ดีกว่าประเภทแรกพบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คิดว่าเวลานี้พวกเขาคงจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตัวเขาใหม่แม้ว่าความชอบจะเพิ่มขึ้น 10 แต่มันก็ไม่ได้มากแต่อย่างใด
มันสามารถจินตนาการถึงก่อนหน้านี้ได้ว่า ความชื่นชอบของพวกเขาที่มีต่อตัวเขาเองนั้นแน่นอนว่าต่ำเป็นอย่างมาก เมื่อดูความเป็นไปได้จากตัวเลขเชิงลบ หลังจากมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอนว่าความชอบของพวกเขามีการปรับตัวขึ้น ไม่ต้องทำเควสก็เลื่อนระดับค่าความชอบได้ การพูดคุยปกติก็เพียงพอแล้วที่จะมีอิทธิพลในค่าความชอบ
" น้องชายเวลานี้เจ้าลงแข่งขันชิงโควต้าเพื่อตำหนักหยกสวรรค์ได้รับชื่อเสียงจำนวนมากแล้วยังสามารถปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณได้อีก เวลานี้พวกเราทั้งสองหนึ่งประมาณว่ารับบทเป็นผู้คุ้มกันให้กับเจ้า " อาหลิงส่งสัญญาณด้วยสายตากับฉินเสี่ย ดวงตาที่สวยงามหรี่ลงเล็กน้อย
" สามารถทำให้พี่สาวที่มีเสน่ห์ทั้งสองเป็นผู้คุ้มครองได้นับเป็นเกียรติของข้าอย่างยิ่ง !! " ยี่ เทียนหยุนแย้มยิ้มพูดด้วยรอยยิ้ม
สองพี่สาวผู้อาวุโสปิดปากด้วยรอยยิ้ม คิดแล้วมีความสุขเป็นอย่างมาก พี่สาวอาวุโสที่มีเสน่ห์นี่ทำให้ในใจของพวกเธอที่เปรียบเสมือนกิ่งก้านของต้นไม้ที่ผลิดอกออกผลบานสะพรั่งสั่นไหวไปทั่ว ไม่เคยได้คบค้าสมาคมกับผู้ชายไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะเกลียดผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายอย่างยี่ เทียนหยุนในตอนนี้ที่เป็นคนของประชาชน ทั่วทั้งตำหนักหยกสวรรค์มีเพียงปรมาจารย์แห่งการหล่อเท่านั้นที่จะปรับแต่งอุปกรณ์ได้ นั่นก็คือยี่ เทียนหยุน !!
" ดี ดี ขืนยังพูดจากันอยู่อย่างนี้ก็มืดค่ำกันพอดี " ฉี ซูหยุนทำตาโตใส่ยี่ เทียนหยุน บุคลิกภายนอกของยี่ เทียนหยุนในตอนนี้ช่างดูไม่ได้เอาซะเลย พูดจากะล่อนกระกะลิ้มกะเหลี่ยฉีกยิ้มกว้างจนเห็นไรฟัน เยินยอพี่สาวอาวุโสทั้งสองคนจนตัวลอย
ยี่ เทียนหยุนยิ้มอย่างเจื่อนๆ เดินไปพร้อมกันกับฉี ซู่หยุน
มาถึงข้างนอกประตูหน้าของตำหนักหยกสวรรค์ ปรากฏรถม้าที่ได้เตรียมไว้ คนรับใช้เป็นคนเฉลี่ยโดยทั่วไปที่ต้องนำพวกเขาไปยังเมืองกระแสลมแห่งสวรรค์
" แหวนเก็บของนี่เจ้ารับไปมีทองอยู่ข้างในจำนวนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เจ้าหล่อดาบวิญญาณ ให้ขายดาบวิญญาณที่ไม่จำเป็นออกบางส่วน พวกเราจะได้มีทุนเพื่อซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ทำภารกิจเสร็จก็รีบกลับมาจะได้กลับมาปรับแต่งอุปกรณ์อีก " ฉี ซู่หยุนมอบแหวนให้กับยี่ เทียนหยุน
ยี่ เทียนหยุนพอได้รับแหวนมาก็พลันดูมีชีวิตชีวาถือเอาไว้ด้วยความชื่นชอบ เขาสวมแหวนเข้าไปในนิ้วมือของเขาแล้วส่งพลังวิญญาณเข้าไปในแหวนทำให้สามารถมองเห็นสิ่งของที่อยู่ภายในแหวน ขนาดของพื้นที่ว่างประมาณ 1 เมตรคูณ 1 เมตรสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก ของที่อยู่ภายในเต็มไปด้วยเหรียญทองเป็นจำนวนมากและดาบวิญญาณ
สิ่งประดิษฐ์อันเล็กๆนี้ดีจริงๆ สามารถที่จะเก็บสำรองสิ่งของได้หลายสิ่งหลายอย่าง หากเราแบกสัมภาระสิ่งของไปมากเกินไปก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว
" เมื่อพวกเรากลับบ้านจะต้องบรรทุกของมาเต็มจำนวนอย่างแน่นอน !! " ยี่ เทียนหยุนแย้มยิ้ม
" ตึง!! ได้รับภารกิจ : ซื้อวัตถุดิบกลับสู่ตำหนักหยกสวรรค์ รางวัลภารกิจสมบูรณ์ก็คือ ค่าประสบการณ์ 10,000 แต้ม ทอง 1,200 ได้รับโอกาสหมุนรางวัลล็อตเตอรี่ ยกระดับค่าความชอบทุกประเภท 20 แต้ม "
ได้รับเควสนี้ไม่มีอะไรผิดปกติแต่….. อย่างไรก็ตามนี่เป็นภารกิจที่ฉี ซู่หยุนสั่งการแต่รางวัลค่อนข้างรวยทีเดียวเดินทาง 1,000 ลี้ ( 500 กิโลเมตร ) ไม่นึกว่าจะได้มีโอกาสหมุนรางวัลล็อตเตอรี่ ค่าความชอบทุกประเภทเพิ่มขึ้น 20 แต้ม รางวัลนี้ค่อนข้างสูงทีเดียว
หลังจากที่พวกเขานั่งอยู่ในรถม้า ยี่ เทียนหยุนก็เอ่ยปากสอบถาม " พี่สาวอาวุโสอาหลิงพวกเราต้องไปซื้อวัตถุดิบที่เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์รึ ?? "
" ใช่แล้ว พวกเราต้องไปที่เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์ " อาหลิงกล่าวพลางพยักหน้า
" เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์….. " ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาเพ่งความคิด เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์นี้เขายังไม่เคยไป แต่มีคนหนึ่งที่เขารู้จักนั่นก็คือปรมาจารย์ข่ง
ก่อนที่ปรมาจารย์ข่งจะกุลีกุจอกลับไป ปรมาจารย์ข่งราวกับว่าอยู่ที่เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์ เมืองที่เขามีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับบรรดาครอบครัวผู้เชี่ยวชาญ คำที่เขากล่าวทิ้งท้ายไว้นั้นทำให้เกิดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจไม่รู้ว่าการมาครั้งนี้จะชนเข้ากับพวกเขาหรือไม่
" หวังว่าจะไม่ชนเข้ากับ….. " ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาเพ่งสมาธิไปที่ความคิดอีกครั้ง " เกี่ยวกับปัญหาก่อนหน้านี้ความโกรธภายในใจของเขาไม่ได้ลดน้อยลงกลัวว่าเมื่อถูกยั่วยุถึงปัญหาของตำหนักหยกสวรรค์ เขาจะอดใจไว้ไม่อยู่จนกระทั่งลงมือ
ผ่านไป 2 วันของการรีบเดินทางพวกเขาก็มาถึงที่เมืองกระแสลมแห่งสวรรค์ในที่สุด ตลอดทางพวกเขาก็ได้อาศัยอยู่ด้วยกันด้วยความสมานฉันท์ปรองดอง
" นี่คือเมืองกระแสลมแห่งสวรรค์ ?? "
ยี่ เทียนหยุนมองไปที่ประตูเมืองที่มโหฬารที่ดูเหมือนผู้สูงศักดิ์ที่เดียว มองเห็นฝูงชนแต่ระยะไกล ถนนก็ครึกครื้นไปด้วยผู้คน การ์ดประตูทางเข้าอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งวิญญาณ สีหน้านั้นดูจริงจัง ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุพวกเขา
เมื่อคณะของยี่ เทียนหยุนที่เพิ่งจะมาถึงกำลังจะเข้าไปในตัวเมือง ด้านหลังของพวกเขาก็มีคนส่งเสียงร้อง " หลีกทางให้กับข้า อย่ามาขวางทาง !! "
หัวของยี่ เทียนหยุนจากข้างในรถม้า หันไปก็พบเห็นเพียงรถม้าคันที่ควบตะบึ่งอย่างเร่งรีบ โดยที่ไม่สนใจผู้สัญจรไปมาคนไหนเลย เพียงแต่จะฝ่าเข้าไปในเมืองเท่านั้น ผู้คนธรรมดาจำนวนมากไม่ทันจะตั้งตัวหาที่หลบซ่อนเลยถูกโถมเข้าใส่ชนกระเด็นลอยไปด้วยม้าลากรถที่ทั้งกำยำและแข็งแรง มันลากรถโดยการหวดแส้ของคนรับใช้ที่นั่งอยู่บนรถม้า มองดูแล้วมันช่างโหดร้ายป่าเถื่อนและทารุณ !!
การ์ดประตูทางเข้าต้องการที่จะบล็อครถม้าคันนี้เอาไว้แต่….. เมื่อพวกเขาเห็นเครื่องประดับที่อยู่บนรถม้าคันนี้ เขาก็สับหลีกออกด้านข้างอย่างรวดเร็วในทันทีพร้อมตะโกนว่า " พวกเจ้ายืนอยู่ด้านข้างให้หมดถ้ายังไม่อยากตายอย่าไปอยู่ในเส้นทางของมัน !! "
พวกการ์ดต่างช่วยพากันตะโกนบอกบุคคลที่กำลังเดือดดาล เพิ่งจะมากลัวเอาตอนนี้แม้ว่าในใจจะไม่รู้สึกดีเป็นอย่างมากแต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองดูรถม้าคันนี้พุ่งตรงมาที่นี่ฝ่าเข้าไปในประตูเมืองด้านในในคราวเดียว
ผู้คนที่อยู่รอบๆบริเวณต่างเดากันไปต่างๆนาๆว่าใครกันคือผู้ที่นั่งอยู่ในด้านในรถม้าคันนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ที่หยิ่งยะโสขนาดนี้
" ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงได้ป่าเถื่อนขนาดนี้ นี่คือรถม้าของนิกายหลอมโลหะเทวะแม้ว่าจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอิทธิพลที่มีอิทธิพลไม่น้อยแต่การกระทำแบบนี้มันช่างรุนแรงจริงๆ ?? " ฉินเสี่ยพูดพลางส่ายหัว
" มันไม่มีความหมายหรอก พวกเขามีคุณสมบัติที่จะเกะกะระรานใครก็ได้ นิกายหลอมโลหะเทวะต้องชนะในการวางแผนเมื่อเปรียบเทียบกับตำหนักหยกสวรรค์ เวลานี้ใกล้เข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณสวรรค์ ด้วยอิทธิพลของพวกเขาทำให้ครอบครองถึง 4 โควต้า!! " อาหลิงถอนหายใจ ด้วยอิทธิพลระดับนี้พวกเราไม่ควรไปยั่วยุพวกเขา
" นิกายหลอมโลหะเทวะยังงั้นรึ ?? "
" ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาใช้สมาธิเพ่งความคิด แต่เดิมก็คือนิกายปรมาจารย์แห่งการหลอมโลหะ นิกายหลอมโลหะเทวะมีปริมาณของปรมาจารย์แห่งการหล่อเป็นจำนวนมาก ที่นี่เป็นสถานที่ที่ฝึกฝนปรมาจารย์แห่งการหล่อโดยพิเศษ ชั่วครู่ที่ผ่านมารถม้าคันนั่นก็คือรถม้าส่วนตัวของช่างตีเหล็ก ถ้าไม่ใช่คำสั่งของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแล้วล่ะก็โดยมูลฐานแล้วรถม้าคันนี้ใครก็ทำลายไม่ได้
มันสามารถพูดได้ว่าบุคคลที่นั่งอยู่ข้างในนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าปลอดภัยเป็นอย่างมาก รถม้าคันนี้โดยทั่วไปแล้วสามารถมองเห็นได้อย่างทันทีเลยว่าระดับของนิกายหลอมโลหะเทวะนี้เป็นอย่างไร เกรดของรถม้าคันนี้เทียบเท่ากับอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง นิกายนี้มันช่างร่ำรวยมหาศาลซะจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะร่ำรวยมหาศาลขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอาละวาดทำร้ายผู้คนไปทั่วโดยไม่สนใจใครอย่างนี้ก็ได้